เห็นคลิปนี้แล้วอยากร้องไห้ค่ะ พลเมืองดีด่าทอทอมดี้กอดจูบกันบนรถไฟฟ้า

กำลังจะเข้านอนก็พลันไปเห็นเพื่อนๆแชร์คลิปกำลังเด็ดดวงมาจากเพจหนึ่งค่ะ
ทีนี้เลยขอรวบรวมลิ้งค์คลิปจากที่ต่างๆดังนี้ค่ะ

เรื่องคลิปกำลังเป็นคดีความกันกระมังคะ ก็เลยลบออก
คิดว่าใครอยากรู้น่าจะหาดูได้ไม่อยากนะคะ


ดิฉันดูจนจบกระทู้แล้วก็น้ำตาปริ่ม ความสำนึกในวัฒนธรรมอันดีงามของไทยเราก็ทำให้น้ำตาดิฉันเอ่อคลอ
อยากจะมอบโล่ผู้อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยดีเด่นให้แก่พลเมืองดี(?)ท่านนี้ที่ด่าทอมผู้ไม่รู้กาลเทศะคนนี้จังเลยค่ะ
แถมพอเลื่อนลงมาอ่านคอมเม้นท์ของผู้คนที่เกี้ยวกราดในเพจต่างๆแล้ว...ดิฉันร้องไห้เลยค่ะ
ดูสิคะ มีแต่คนดีเต็มไปหมดเลย สมกับสยามเมืองยิ้ม เมืองพุทธ ผู้คนโอบอ้อมอารี ถ้อยทีถ้อยอาศัย
จริงๆค่ะ บุญแท้แล้วที่อิชั้นเกิดมาร่วมบุญกับคนเหล่านี้

แบบนี้ล่ะค่ะ อยู่เมืองดัดจริตชีวิตต้องป๊อป

เข้าเรื่องเลยนะคะ หลังจากดิฉันประชดจากความรู้สึกแย่ๆไปแล้ว
ก็อยากจะบอกค่ะว่าทำไมถึงประชด

ในคลิปข้างต้นได้บันทึกเหตุการณ์ไม่ครบ แต่คาดว่ามาจากการที่ "ทอมดี้" คู่หนึ่งยืนกอดจูบกันบนรถไฟฟ้า
แล้วผู้หญิงในคลิปอาจอดรนทนไม่ได้ เลยด่าทอขึ้นมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าเป็นอย่างไรค่ะ
ถ้าใครเพิ่มเติมได้รบกวนทีค่ะ

ทีนี้ดิฉันหนักใจที่จะต้องถามคำถามซ้ำซากว่า สังคมไทยเป็นอะไรมากกับเรื่องพวกนี้หรือเปล่า?
ช่วงหลังๆมีข่าวออกมาบ่อยว่าคนนั้นกอดกัน คนนี้จูบกัน นักเรียนหอมแก้กันกลางที่สาธารณะ
แล้วก็มีเหล่าคนดีออกมาสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรม ด้วยการถ่มน้ำลายใส่คนในข่าวในคลิป
อย่างกับพวกเขาทำผิดมหันต์ ดูถูกดูแคลน โดยละเลยที่จะใช้ความคิดเข้ามาพูดคุยกัน

เป็นสังคมแห่งอารมณ์กันมากไปไหมคะ

ในทัศนคติของดิฉันการแสดงออกซึ่งความรักกันในที่สาธารณะ เช่น
การจูงมือ กอดกัน จูบกัน โดยที่ไม่ได้ถึงกับโป๊เปลือยมีเพศสัมพันธ์
ยังเป็นสิ่งที่สีเทาๆ เมื่อเทียบกับความเคยชินของคนในสังคมนี้
ซึ่งก็คือมันไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร ที่บุคคลเมื่อกระทำการดังกล่าว
แล้วต้องมาถูกถ่มถรุยจากสังคมขนาดนี้

ดิฉันจึงสนับสนุนให้มีการแสดงออกซึ่งความรักในลักษณะดังกล่าว
บนพื้นที่สาธารณะได้ค่ะ เพราะมันไม่ได้กระทบกับสิทธิของใคร
และไม่ได้ทำให้สังคมวุ่นวายค่ะ


บางคนก็อาจแย้งว่า อีกหน่อยถ้ามันเอากันบนรถล่ะไม่เดือดร้อนหรอ
อ้อค่ะเดือดร้อนค่ะแบบนั้น แต่ถามว่าแล้วที่เขาทำมันใช่การเอากันไหมล่ะคะ
คือ สังคมเราจะวุ่นวายเพราะคนจูบกันหรือคะ?

ทีนี้หลายคนก็มีฐานความคิดแบบผู้หญิงในคลิปที่ยืนด่าคนอื่นแบบนั้น
ว่ามันขัดกับวัฒนธรรมไทย ที่นี่เมืองไทยไม่ควรทำ...
ดิฉันไม่เข้าใจว่า
พวกคุณจะผูกขาดความเป็นไทยไว้แบบเดียวทำไมคะ?
แล้วพวกคุณจะแช่แข็งตัวเองไว้กับวัฒนธรรมเหล่านี้อีกนานเท่าไหร่?

วัฒนธรรมเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับเปลี่ยนเติบโตและล้มตายได้ไปตามยุคสมัย
การรักนวลสงวนตัวผัวเดียวเมียเดียว ก็เป็นวัฒนธรรมฝรั่งที่เรารับเข้ามา
เมื่อร้อยกว่าปีนี้เอง จนประเทศต้นตำรับเขาเปิดกว้างเรื่องเพศกันไปขนาดไหนแล้ว
แต่เรายังมัวแช่แข็งตัวเองและนั่งท่องอยู่ทุกวันนี้ว่า นี่คือวัฒนธรรมไทย นี่คือความดีงาม
โดยปราศจากการตั้งคำถาม การคิด การวิพากษ์วิจารณ์ มีแต่อารมณ์ห้ำหั่นกันเท่านั้น

อย่างที่บอกล่ะค่ะว่า ถ้าการจูบกัน กอดกัน มันไม่ได้ทำให้สังคมวุ่นวาย
แล้วเราจะอ้างวัฒนธรรมแบบนี้ขึ้นมาในปี 2014 ทำไมกัน?
เรากำลังอยู่บนโลกที่พูดถึงความหลากหลายและเคารพสิทธิส่วนตัวแล้วนะคะ
แต่ทุกวันนี้เราทำอะไร...เรากำลังเอานึกคิดตัวเองไปปิดกั้นทางเลือกคนอื่นอย่างนั้นหรือ?

สังคมไทยเป็นสังคมที่ดัดจริตและกดดันเรื่องเพศมากๆเลยนะ
สังคมก็ชอบด่าคนเรื่องเพศ แต่ก็ไม่เคยคิดจะสอนเรื่องเพศให้ถูกต้อง
ไม่สนใจที่จะหยิบยกเรื่องเพศมาพูดคุย ห้ามนู่นห้ามนี่ไปหมดทุกอย่าง
พอเขาจะแสดงออกกันซึ่งความรักก็ห้ามทำอีก พวกคุณจะกดดันกันไปถึงไหน?

กลับมาที่คลิปค่ะ ถ้าสิ่งที่คู่รักทำจริงมีแค่การกอดจูบ ดิฉันว่าพลเมืองดีท่านนั้น
ที่อุตส่าเป็นปากเสียงให้คนอื่นบนรถไฟฟ้า นี่สมควรถูกตำหนิกว่าคู่ทอมดี้อีกนะคะ
คุณด่าเขาด้วยเสียงอันดังมีเจตนาที่กะประจานและพยายามหาพวกหรือเปล่า?
คือดิฉันก็ไม่ทราบว่าพวกคุณได้คุยกันดีๆก่อนหน้านั้นไหมนะคะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคู่รักในคลิปนั้นทำเกินไปจริงๆ ก็พอยังพอเข้าใจถึงการด่าได้ค่ะ

ส่วนการที่ทอมคนนั้นพยายามจะเข้าไปต่อยหรือแสดงทีท่าก้าวร้าว ก็เป็นเรื่องผิดค่ะ
เช่นเดียวกันดิฉันก็พอเข้าใจได้ว่าเขาถูกกระตุ้นอารมณ์ซะขนาดนั้น
ซึ่งดิฉันมองว่าในช่วงที่ด่ากัน เขาก็พยายามพูดดีแล้วนะคะ
แต่ผู้ที่ด่ากลับให้คำตอบที่...เอ่อ ไทยแท้อ่ะค่ะ แถมยังส่งเสียงดังอีกด้วย

แต่ที่น่าใจหายยิ่งกว่าสิ่งใดคือคอมเม้นท์ในเพจต่างๆ ที่โคตรเหยียดเพศเป็นที่สุด
และมักเป็นพวกผู้ชายที่คิดว่าเจ้าโลกของตัวเองยิ่งใหญ่นักหนา
ต่ำทรามมากๆ อย่างเช่น
"น่าเอา***(อวัยะเพศชาย)ยัดอีทอมนี่"

ซึ่งดิฉันคิดว่าคนที่พูดแบบข้างต้นนี่โลกทัศน์คับแคบค่ะ
คิดว่าความเป็นชายมันเหนือทุกอย่าง กำหนดบทบาทคนอื่นได้หมด
มองคนอื่นเป็นอะไรอ่ะคะ? คิดว่าจู๋ของคุณจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอ?
ที่จริงคนเหล่านี้สมควรถูกประนามและแจ้งความด้วยซ้ำค่ะ

ส่วนด้านล่างคือรูปจากคอมเม้นบางส่วนค่ะ ที่ดิฉันคิดว่าพวกเขา
หลงประเด็นอย่างยิ่ง พวกเขาเอาแต่ด่าเรื่องเพศสภาพ ท่าทีเก๊ก
ซึ่งเอาจริงแล้วผู้ชายหลายคนก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือคะ?

นี่เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะว่าสังคมนี้ยังขาดความเข้าใจกับเพศหลากหลายอีกมากค่ะ
และดิฉันคิดว่า

คนคอมเม้นท์ด่าพวกนี้ต่างหาก คือกลุ่มคนที่สมควรถูกประนาม
พวกคุณแสดงความคิดที่นอกจากจะเหยียดเพศแล้วยังลืมไปอีกว่า
คนในคลิปก็ยังมีความเป็นมนุษย์ไม่ต่างอะไรกับพวกคุณ
ที่มีแต่คำดูถูกดูแคลน ลดทอนศักดิ์ศรี์ความเป็นมนุษย์
บางคนถึงขั้นอาฆาต ขู่ทำร้าย คุกคามทางเพศคนอื่น
แต่ตลกสิ้นดีที่สังคมนี้กลับละเลยมองข้าม
แล้วไปให้ค่ากับการจูบที่ไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายต่อสังคมนี้เลย!


อยากอ่านเพิ่มเข้าไปที่ลิงค์ข้างต้นค่ะ (นี่เอามาแต่ที่เบาเบาค่ะ)


สุดท้ายนะคะ ดิฉันขอยืนยันให้สังคมเราหันมาพิจารณาคำว่าความเป็นไทยและวัฒนธรรมไทยกันเสียใหม่ค่ะ
ว่ามันมีอะไรบ้างที่เหมาะสมไม่เหมาะสมกับสังคมยุคใหม่
อะไรบ้างที่ยังมีความสมเหตุสมผลที่ยังคงอยู่
แล้วการมีอยู่ มีเพื่ออะไร ดีจริงไหม ไม่มีล่ะเสียหายไหม
ถ้าคุณไม่สามาถตอบได้
ดิฉันคิดว่าสังคมเราเป็นสังคมแห่งความดัดจริตโดยแท้ค่ะ

----
ดิฉันขอเขียนเผื่อไว้หน่อยค่ะ เดี๋ยวจะมีคนหาว่าพวกลิเบอรอล ลิเบอร่านก่อความวุ่นวายอีกแล้ว
ก็ขอย้ำนะคะว่าบางทีต้องถามความวุ่นวายนั้นเกิดจากผู้ใช้สิทธิเสรีภาพ หรือคนอื่นที่ไม่พอใจคนใช้กันแน่
อีกอย่างนะคะลิเบอลรัล ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำแต่ทุกอย่างมันมีฐานคิดและการถกเถียงอยู่เสมอค่ะ
สิ่งสำคัญเลยคือ เราทุกคนล้วนมีขอบเขตที่อย่างน้อยที่สุดคือการไม่ละเมิดซึ่งกันและกันค่ะ
----
เบื่อคนที่พยายามลากโยงดิฉันไปถามหาพ่อแม่แล้วลูกหลาน
จะขอบอกตรงนี้เลยค่ะว่า

1. พ่อแม่ดิฉันเวลาจะสอนอะไรเขามักถามดิฉันก่อนว่ามีความเห็นยังไง
และก็ให้คำแนะนำพูดคุยกันตลอดเวลา มีบ้างที่เขายังติดความคิดแบบไทยๆ
แต่สุดท้ายเราก็ปรับตัวกัน นั่งพูดคุยในฐานะคนอย่างเสมอภาคและความห่วงใยกัน
ไม่ใช่ในฐานะของผุ้ปกครองที่จะเที่ยวปิดปากหรือยัดเยียดความคิดลูกยังไงก็ได้ค่ะ
เพราะสุดท้ายแล้วพ่อแม่ดิฉันก็เข้าใจว่า "สอนให้ลูกรู้จักคิด มีข้อมูลที่หลากหลาย"
คือสิ่งที่ดีที่สุด หาใช่การยัดเยียดแต่ความคิดด้านเดียว เพราะชีวิตลูกก็คือชีวิตลูกค่ะ

2. แล้วถ้าลูกดิฉันไปทำแบบนี้จะว่าไง? อ้อไม่ว่าอะไรค่ะถ้าไม่ถึงกับไปลูบคลำโป๊เปลือยหรือมีเซ้กกลางที่สาธารณะ
แค่กอดจูบกัน ดิฉันรับได้นะคะ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือสังคมวุ่นวาย

ดิฉันจะสอนให้ลูกรู้จักเคารพความหลากหลาย ไม่ผูกขาดความดีงาม
ไม่ทำตัวเป็นศาลเตี้ยลงโทษผู้อื่น

ใครอยากทำอะไรบนตัวเขาทำไปเลย แต่ขอให้คิดให้รอบคอบว่าสิ่งที่ทำมันกระทบยังไงต่อคนอื่น
หรือสังคมส่วนร่วมไหม หรือแม้แต่ถ้าลูกดิฉันจะไปมีเพศสัมพันธ์สัมพันธ์ดิฉันก็จะสอนให้เขา
ถามตัวเองว่ารับผิดชอบตัวเองได้หรือยัง เลี่ยงได้ไหม เลี่ยงไม่ได้ก็ป้องกันเป็นหรือเปล่า

เก็ทนะคะ เลิกถามสักทีว่าถ้าเป็นลูกเป็นพ่อแม่ดิฉันจะทำไง
----

ชี้แจ้ง เนื่องจากกระทู้ไปไว และดิฉันไม่ได้อ่านทุกคอมเม้น
ถ้าท่านใดต้องการให้ดิฉันมาตอบ กรุณาหลังไมค์มาค่ะ
แล้วจะมาอ่านมาตอบนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่