เพียงเธอ (บทที่ ๓)

กระทู้สนทนา
ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านนะคะ

ขอบคุณ:
คุณ ชลบุรีมามี่คลับ,
น้องนุ้ย ณวลี,
จารย์จี GTW,
คุณ ริมแม่โขง,
คุณนัน turtle_cheesecake,
คุณ คาโบนาร่าลาซาญญ่ามักกะโรนี,
น้องแพรว thezircon,
น้อง มาโซคิส,
คุณนุ่น lovereason,
คุณ Susisiri
รวมถึงอีก 6 คน ใครก็ไม่ทราบ ชื่อหายไปแล้ว ขอบคุณนะคะ
คุณ กลิ่นลั่นทม
น้องปุ้ย อรุสา
คุณ  สมาชิกหมายเลข 1625278
คุณ ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
คุณ เจ้าหญิงงัวเงีย
คุณ สมาชิกหมายเลข 1820810
คุณ Hermosa จากบทก่อนโน้นนนค่ะ เพิ่งไปเห็นค่ะ

ตกหล่นชื่อใครไปก็ต้องขอโทษด้วยค่ะเพราะชื่อหายไปหลายคนเลย ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ



บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ http://ppantip.com/topic/32705425
บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/32747704
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/32775622

บทนี้มีตัวละครสำคัญเพิ่มขึ้นมาอีกตัวค่ะ


บทที่ ๓


    ราศียืนมองพลรบกับหญิงสาวคนนั้นจากหน้าต่างชั้นล่างของบ้าน ดูๆ ทั้งคู่กำลังเจรจาอะไรกันบางอย่างที่ข้างรถเครื่องซึ่งจอดอยู่หน้าประตูรั้ว และเหมือนจะยังตกลงกันไม่ได้ แต่ท่าทีที่เขาแสดงออกต่อพี่สะใภ้ของตัวเองทำให้หล่อนมั่นใจแล้วว่าอะไรคือสาเหตุที่เขาบอกจะเลิกทำงานให้หล่อน เขายอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองที่หล่อนทุ่มเทให้ ชีวิตสุขสบายที่หล่อนเสนอให้ หรือแม้แต่ความยำเกรงจากคนรอบข้างซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยกระหายใคร่ได้มาเสียนัก แต่พอได้มาแล้วเขากลับจะทิ้งทั้งหมดนั้นอย่างไม่แยแสเพียงเพื่อคนๆ เดียว หล่อนจะยอมได้หรือ

    ‘คืนนี้คงยุ่งกันอีกนะจ๊ะพล’ เมื่อครู่หล่อนเกริ่นเป็นนัยๆ ให้เขารู้ว่าต้องการให้เขาทำอะไร

    แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำเอาสะอึกไปได้เหมือนกัน

    ‘ผมห่วงที่บ้านครับ ถึงจะไม่มีการทิ้งระเบิดมาหลายคืนแล้ว แต่ผมก็เป็นห่วง’

    ไม่บ่อยครั้งนักหรอกที่พลรบจะปฏิเสธหล่อนอย่างไม่มีเยื่อใยลักษณะนั้น เขาควรรู้ว่าที่บอกนั้นหล่อนความว่าอย่างไร รู้อีกเช่นกันว่าทำไม เห็นๆ อยู่ว่าตลอดเวลาสายตาเขาไม่ได้ละไปจากผู้หญิงคนนั้นเลยแม้ชั่วขณะ

นี่หล่อนกำลังจะเสียเขาไปอย่างนั้นหรือ เขาใช่เป็นเพียงมือขวาของหล่อน และคอยดูแลกิจการให้ในยามที่หล่อนป่วยไข้เท่านั้นหรอก เขายังเป็นคนที่คอยปกป้องและให้ความคุ้มครองทุกคนที่ทำงานให้หล่อนอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือเขามีความหมายลึกซึ้งต่อจิตใจหล่อน แม้จะอายุน้อยกว่าขนาดเป็นลูกชายหล่อนก็ยังได้ แต่เขาก็มีอะไรหลายอย่างคล้ายวิทย์…ผู้ชายซึ่งเป็นรักแรกของหล่อน เป็นคนที่หล่อนไม่เคยลืมไม่ว่าจะสูญเสียไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม

…และหล่อนจะไม่มีวันยอมเสียพลรบไปอีกคน

พลรบเป็นของหล่อน ราศียืนยันกับตัวเองเช่นนั้น หล่อนถือว่ามีส่วนสร้างเขาขึ้นมาให้เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ นับแต่เห็นเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีที่เข้ามาของานในบาร์ทำเมื่อหลายปีก่อน หล่อนเฝ้าดูเขาอย่างสนอกสนใจ…และประทับใจ และความรู้สึกนี้ก็ฝังรากลงลึกขึ้นทุกที จนทุกวันนี้หล่อนขาดเขาไม่ได้เสียแล้ว

หล่อนจะไม่ยอมให้ใครแย่งเขาไปจากอก แม้จะอยู่ในวัยนี้แล้ว แต่หล่อนก็มั่นใจในความงดงามและความมีเสน่ห์เย้ายวนของตัวเอง รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้ แน่ใจว่าทั้งหมดนั้นจะเก็บเขาไว้กับหล่อนได้…จนกว่าวาระสุดท้ายของหล่อนจะมาถึง โรคร้ายที่กัดกร่อนชีวิตหล่อนให้สั้นลงทุกวันนี้มีเพียงพลรบและคนใกล้ชิดอีกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้

‘อยู่กับพี่ ทำงานให้พี่ พอพี่ตายทุกอย่างจะเป็นของเธอ’

นั่นเป็นคำมั่นสัญญาที่หล่อนเคยให้เขา ส่วนหนึ่งก็ด้วยหวังว่าเขาจะคงอยู่กับหล่อน จะคงเป็นกำลังใจและความอบอุ่นใจให้หล่อนตลอดไป อีกส่วนหล่อนต้องการให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ในเมื่อไม่มีลูก ไม่มีครอบครัวที่ไหนอีก สมบัติพัสถานที่สร้างไว้มากมายจะให้ใครถ้าไม่ใช่คนที่หล่อนรัก

…ถ้าไม่ใช่พลรบ

‘ทิ้งหนังสือแบบเสื้อนั่นไว้ที่นี่ก่อนสิคะในเมื่อปรานีกับนงคราญยังเลือกแบบกันไม่ได้’

เมื่อแสดงอำนาจกับเขาไม่ได้ผล หล่อนจึงพยายามอีกครั้ง คราวนี้ด้วยการตีสนิทกับพี่สะใภ้ของเขาเพื่อให้เข้าใจไปว่าพลรบอยู่ที่นี่กับหล่อน ที่จริงที่ได้นัดให้มาวันนี้และเวลานี้ก็ด้วยเหตุนี้นั่นแหละ

‘แล้วพี่จะฝากพลไปคืนให้’

‘ค่ะ ทิ้งไว้ทั้งสามเล่มนี่เลยก็ได้ค่ะ’ แก้วตารับคำง่ายดาย คงเชื่ออย่างที่หล่อนต้องการให้เชื่อจริงๆ


แก้วตาพยายามดึงผ้าตัวอย่างทั้งหอบกลับมาจากเขาเมื่อเห็นว่าพูดกันไม่รู้เรื่องเสียที

“เราอย่าเถียงกันอีกเลยจะดีกว่านะพล เธอกำลังทำงาน แล้วพี่ก็ต้องรีบไปรับยาให้ไพลิน ร้านก็ยังไม่ได้เปิด”

“แก้ว…” เขาคราง

รู้ตัวว่าได้ทิ้งภาระทั้งหมดให้เธอต้องแบกรับ ภาระรับผิดชอบที่หนักหนาทีเดียว

“แก้วกำลังเข้าใจผิด”

“เข้าใจผิดเรื่องอะไร” ที่จริงเธอไม่สนใจนักหรอกกับเรื่องนั้น ตอนนี้ห่วงก็แต่บ้าน

“ระยะนี้กองทหารญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงพัก ที่บาร์กับที่นี่ก็เลยมี…ลูกค้า…มากหน่อย เมามาก็มี บางคนก็แย่งผู้หญิงกัน ก็เลยต้องมีคนคอยดูแล เข้าใจไหมแก้ว”

เขาอธิบายได้ก็เพียงครึ่งๆ กลางๆ แก้วตาห่างไกลจากมุมมืดด้านนี้ของสังคม เธอมาจากไหน ครอบครัวของเธอเป็นอย่างไรเขาไม่เคยลืม และเขาก็อยากให้คงอยู่เช่นนั้นตลอดไป ความไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกของเธอนี่แหละเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของเธอที่ดึงดูดเขา และถ้าเขาจะเพียงปกป้องเธอจากความหยาบกร้านของโลกภายนอกได้

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ดีแล้วที่เธอมาอยู่ที่นี่”

“แต่ผมจะกลับบ้าน”

เขาแหงนดูท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มขึ้นมาอีก เมฆฝนลอยต่ำดำทะมึนดูคุกคาม

“ไปกันเถอะแก้ว ก่อนที่ฝนจะเทลงมาอีก”

และนั่นเองที่ยุติการถกเถียงกันลงได้

พลรบยัดผ้าทั้งหอบลงในถุงหนังที่ผูกไว้กับตะแกรงท้ายรถ จัดที่ทางให้เธอขึ้นนั่งตอนหน้า

รถเครื่องบลูสตาร์คันนี้เป็นรถขนาดเล็กและมีอานแคบๆ สำหรับคนขับเท่านั้น เขาจึงขึ้นนั่งหมิ่นเหม่แทบจะบนตะแกรงหลัง เพื่อเหลือพื้นที่ตอนหน้าให้เธอได้นั่งสบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ติดเครื่องยนต์ และสองแขนแข็งแรงก็โอบร่างบอบบางและนุ่มละมุนมาแนบไว้กับอก สัมผัสและรับรู้ถึงความอ่อนหวานล้ำลึกที่เป็นลมหายใจและเป็นแรงเต้นของหัวใจเขามาเนิ่นนาน

“ไปรับยาก่อนใช่ไหม” เขากระซิบถามแข่งกับเสียงเครื่องยนต์รถ

“ฮื่อ”

แก้วตาไม่กล้าแม้แต่จะเอี้ยวตัวไปบอก ที่จริงไม่กล้าขยับตัวเสียด้วยซ้ำเมื่อรู้สึกตลอดเวลาถึงอ้อมอกแข็งแกร่งที่เบียดชิดอยู่กับแผ่นหลังของตัวเอง ลมหายใจอุ่นๆ ที่วนเวียนอยู่ข้างซีกหน้าด้านขวา

แม้รังเกียจวิถีชีวิตของเขา วิถีชีวิตที่วนเวียนอยู่แต่กับตัณหาราคะ และด้านมืดของสังคม รวมทั้งผู้หญิงสารพัดวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่แก่คราวแม่ของเขาเอง หากเพียงคำพูดประโยคเดียวสั้นๆ ของเขา แก้วตาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนภาระหนักอึ้งถูกแบ่งไปแล้วกว่าครึ่ง

‘แต่ผมจะกลับบ้าน’

ไม่น่าเชื่อที่พลรบให้ความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่พี่เพชรไม่เคยให้ได้ เป็นความรู้สึกที่เธอบอกไม่ได้เลยว่าคืออะไรกันแน่ รู้ก็แต่ว่ามันกำลังก่อตัวเร้นลับและมีอิทธิพลมหาศาล อาจเป็นความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยทุกครั้งที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ อาจเกิดจากสองแขนล่ำสั่นที่โอบอยู่รอบตัวเวลานี้ หรืออาจเป็นการใส่ใจต่อความรู้สึกนึกคิดของเธออย่างที่เขาแสดงให้เห็นทุกครั้งก็ได้อีกเหมือนกัน

ที่แน่ๆ ก็คือพลรบมีอะไรบางอย่างที่ให้ความรู้สึกมั่นคงทางจิตใจยิ่งกว่าพี่ชายของเขามากนัก

“ห้องนั้นไม่ใช่ห้องนอนของคุณราศีหรอกนะแก้ว” เขาพยายามอธิบายอีกครั้ง “เมื่อคืนพี่รอดก็นอนห้องนั้น คงไม่คิดว่าผมนอนกับพี่รอดหรอกใช่ไหม”

พี่รอด…บุญรอด แก้วตารู้แล้วว่าเป็นใคร ผู้ชายคนที่เปิดประตูรั้วรับเธอนั่นเอง ผู้ชายที่แนะนำตัวว่าเป็นลูกน้องของเขา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่