สวัสดีค่ะ คือเรื่องของเรามันมีอยู่ว่า เมื่อต้นปีเรามีโอกาศได้ไปเรียนที่ฝรั่งเศสประมาณสามเดือน ภาษาเราดีขึ้นเราจึงชอบโพสต์เรื่องราวในเฟสเป็นภาษาฝรั่งเศส เเละนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ค่ะ ช่วงหนึ่งอาทิตย์ก่อนที่เราจะกลับไทยวันนั้นวันที่ 2 มิถุนานั้นจู่ๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งเเอดเฟสเรามาเป็นคนฝรั่งเศส ปกติเราไม่รับแอดใครมั่วอยู่เเล้วแต่ที่เราตัดสินใจรับแอดของคนนี้ เราให้นามสมมุติว่าเอละกัน เรารับเเอดเอเพราะว่าเราเห็นว่าเอมีผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เราเคารพมากเป็นเพื่อนร่วมกับเอ และผู้ใหญ่คนนี้ไม่เคยรับใครมั่วๆ เราเชื่อ พอเรารับเอเป็นเพื่อน เอก็ทักแชทเฟสมาหาเราอย่างรวดเร็ว เอแนะนำตัวกับเราเป็นภาษาฝรั่งเศส เราก็แบบ อีนี่ใครวะ 5555 เอบอกว่าเอจะมาทำงานให้กับองค์กรหนึ่งในประเทศไทย เราก็อืมม เเล้วไง บอกทำไม เอมาตีเนียนสนิทกับเรา ชวนเราคุยตลอดเกือบทั้งวัน เราก็แบบไม่ค่อยอยากตอบ เพราะเราเที่ยวอยู่และเราก็ไม่ชอบคุยกับคนไม่รู้จักด้วย เราไม่ติดโทรศัพท์ เราพยายามหลีกเลี่ยง แต่เอก็หน้าด้านคุย เราแบบ เอาวะ อยากรู้อะไร ถามมาเลย เราคุยกันเรื่องงานที่เอจะมาทำที่ไทย พอดีเรารู้รายละเอียดงานพวกนี้เราก็เลยคุยกันพอรู้เรื่อง คุยเรื่องที่สถานที่ท่องเที่ยว เอบอกว่าเอชอบสัตว์ เอทำวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ชนิดหนึ่ง เราก็ไม่ได้สนใจ วันที่8มิถุนาเป็นวันที่เราต้องบินกลับไทย เอบอกเสียดายมาก ที่เราไม่มีโอกาศได้เจอกัน เพราะบ้านเออยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส เเล้วตอนนั้นเราอยู่ปารีส ไกลค่ะ เอมีกำหนดการบินมาไทยวันที่11 เราบินก่อนเอแค่ 3 วัน อีกอย่างเอไปขึ้นเครื่องที่เเฟร้งเฟริตไม่ได้ขึ้นที่ปารีส ก่อนเราจะกลับ เอบอกว่าวันที่เอจะถึงไทย คือวันที่ 12 เอนัดเราให้มาเจอกันที่โรงแรมที่เอเข้าพักค่ะ ตอนเเรกเราก็ลังเล เเต่สุดท้ายก็ตกลง (อ้าววว 5555) ที่เราไปเพราะเรารู้ว่าเขามีตัวตนไว้ใจได้ค่ะ และเราก็กลับไทย ... เรากับเอคุยกันทุกวันนะคะตั้งเเต่เอแอดเรามา ขี้เยี่ยวนี่บอกหมด วันนี้ทำอะไร กินอะไร ไปไหน คือบอกเราทุกเรื่องค่ะ จนกระทั่งเอมาขึ้นเครื่อง ผ่านศุลกากรก็เล่า เราคุยทั้งหมดผ่านเเชทเฟสนะคะ เเละเเล้ว เอก็บินมาถึงประเทศไทย ...
วันที่ 12 เอบินมาถึงไทย เอบอกว่าเครื่องแลนด์ประมาน 9.30 เราจะเจอกันที่โรงแรมประมาน 11.00 บอกเลยค่ะ วันนั้นเราใจเต้นตุ๊บตับ เราไม่เคยไปทำอะไรแบบนี้ วันนั้นเราตื่นมาโบกหน้าตั้งเเต่หกโมงเช้า เเต่งตัว อ่อ เรื่องนี้เราเล่าให้เพื่อนสนิทเราฟังด้วยค่ะ เพื่อนเราก็ให้ลองดู ไม่น่าจะเป็นไร เราออกจากหอเพื่อไปตามที่นัดหมายคือโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านนานา ระหว่างทางไปโรงแรมมีเบอร์แปลกโทรมา เรารู้เลยค่ะว่ามันต้องเป็นของเอา เราเลยไม่รับ สุดท้ายเค้าก็ส่งข้อความมาบอกว่าเอมาถึงเเล้วกำลังไปโรงแรม มีอะไรให้ติดต่อมาเบอร์นี้ สรุปเป็นเบอร์จากเจ้าหน้าที่กระทรวงคนหนึ่ง(เอมาบอกเราที่หลังว่าเจ้าหน้าที่คนนี้กลัวเอโดนเราหลอก) เราไปถึงโรงแรมตามเวลานัดหมาย รอเอที่ฟร้อน ยอมรับค่ะว่าตอนนั้นก็เริ่มชอบๆเอบ้างแล้วแหละ และแล้วเอก็มา เอทักทายเราด้วยวิธีแบบฝรั่งเศสคือการเอาแก้มชนแก้ม ตอนนั้น เขินค่ะ เราเจอเอเราไม่ค่อยคุยกับเอเลยเราบอกไว้ล่วงหน้าเเล้ว แต่เอนี่พูดมากค่ะ เราไปกินกาแฟกัน เอสำรวจเราตั้งเเต่หัว จรดเท้า นาฬิกา เครื่องประดับที่เราใส่ แม้กระทั่งน้ำหอมที่เราฉีด เอพกชอกโกเเลตฝรั่งเศสมาฝากเราค่ะ เราก้ไม่รู้ความหมายหรอก ให้ก็รับมา หลังจากนั้นเราก็พาเอไปที่ที่เออยากไป สรุปคือ เออยากไปเจออาจารย์คนหนึ่งที่จุฬา เอให้เราพาไปสวนสัตว์ และนั่งเรือ วันนั้นเหนื่อยมากเเต่สนุกดีค่ะ หลังจากที่แยกกันตอนเย็น เราไม่คิดนะว่าเอจะอยากคุยกับเราต่อ คือเราไม่ได้เป็นคนสวยอะไรขนาดนั้น เเต่เพื่อนเราบอกว่ารูปร่างเราเหมาะให้เป็นเด็กเสี่ย 5555 อายุเราห่างกับเอเกือบ 6 ปี เราไม่คิดว่าเอจะชอบเด็กอย่างเรา เเล้ววันนั้นเราก็ไม่ได้เป็นไกด์ที่ดี บอกเลยว่าทริปที่เราพาไปมันดูเหนื่อยๆห่วยแตก เราไม่ได้วางแผนอะไรทั้งนั้น ตัวเราเองยังคิดว่าน่าเบื่อมาก เราถอดใจเรื่องเอ เราไม่อยากตกหลุมรัก ระหว่างอยู่บนบีทีเอสเพื่อกลับหอ เอทักมา เอบอกว่าอยากเจอเราอีก ชอบเรา เราเเบบ เฮ้ยย บ้าหรือเปล่า เราถามจริงหรอ เอบอก จริงๆ เราก็เอาวะโอเค เอาไงก็เอา หลังจากวันนั้น เราไม่ได้เจอเออีกเพราะเอมีประชุมเรื่องงานที่ต้องทำ เอได้ย้ายไปประจำที่จังหวัดๆหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านเกิดเราเอง เอได้ทำงานในที่ๆเราเคยอยู่ ผ่านไปประมานสามวัน เอก็ต้องไปอยู่จังหวัดนั้น เราเรียกย่อๆว่านครละกัน ช่วงนั้นเราไม่มีเรียนเอเลยนัดเราไปเจอกันที่นคร เราก็ไปเจอกัน กินข้าว ดูหนัง เอบอกว่าเอชอบเรามาตลอดเวลาที่เราคุยกัน ช่วงนี้เอจีบเราหนักหน่วงมาก ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่าง เอจึงถามเราว่าผช ไทย จีบ ผญ ยังไง จูบ ยังไง แล้วตอนที่เอถามเราจำได้ว่าเราไปเที่ยวผับกับเพื่อนเราเเลยแปลคำว่าจูบเป็นคำว่ากอด เราไม่ได้เมานะ เราเลยบอกเอไปว่าเทอเป็นเพื่อนเราเทอจูบเราได้นะ ซึ่งในตอนนั้นเราจะสื่อความหมายว่ากอด แต่เรามัวเเต่หลงเเสงสี 55555 เอตอบมาว่า โอเค เดี้ยวฉันจะจูบเทอ 555 เราอายมากเรื่องนี้ เราพยายามไม่อะไรเพราะรู้ว่าเดี้ยวเอก็ต้องกลับ เออยู่ที่ไทยเเค่สามเดือน แต่เอตื้อเรา เราก็เลยปล่อยเลยตามเลย วันหนึ่งเราไปห้องเอ พอขึ้นไปเอบอกว่าเอได้พยายามไปหาตุ๊กตาตัวหนึ่งที่เราอยากได้มากแต่เอบอกว่ามันไม่มีขาย หาทั่วนครเลย เราแบบ เอ้ยยย เทอหาให้ตายก็ไม่มีขายที่นี่หรอก มันคือตุ๊กตาสโนวแมน เราบอกว่ามันไม่ได้หาง่ายเเบบที่ฝรั่งเศส 5555 ตอนนั้นประทับใจอ่ะ รักเลย เอถามว่าเราชอบเอไหม เราบอกชอบ เเบบไม่อายเลยเพราะเอเหมือนจะมอมเหล้าเรา แต่เราไม่เมา และหลังจากนั้นเราก็เสียบริสุทธิ์ให้กับเอไป หลังจากนั้นเอก็ขอเราเป็นแฟน เราไม่ตอบ เราพูดแค่อืมมม ซึ่งไม่ได้ตอบว่าตกลงหรือปล่าว เราสองคนเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับมีแค่ เอ เรา เพื่อนสนิทเราที่รู้ เราไม่อยากให้ใครรู้ ไม่มีการขึ้นสถานะทางเฟส เอมีมาคอมเม้นเราบ้าง นิดหน่อย ส่วนเราไม่เคยยุ่งกับเฟสเอเลย เราเคารพสิทธิ์ซึ่งกันเเละกัน เราจะลงแค่ในอินตราแกรมซึ่งมันคนน้อยดี เออยากเจอเราตลอดเวลา ขอให้เราไปอยู่ที่ห้องเอ แต่เราก็มีเรียนเราไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่ประจำ จนวันหนึ่ง ตอนกลางคืน เรานอนอยู่กับเอ เราก็นเห็นเอแชทในโทรศัพท์ เราก็เฉยๆนะ เราเล่นบ่อยกว่าอีก เราเลยแอบชำเลืองไปอ่าน ผญ คนนั้นคุยกับเอเเต่เป็นภาษาอังกฤษ เราเห็นนางถามมาว่า ง่วงยัง เอตอบว่า นิดหน่อย เราก็อีนี่ใคร เราเลยเปิดเฟสเอ เช็คชื่อผญคนนี้สรุปเป็นคนไทย วันนั้นเราโกรธมาก เลยจะหนีกลับบ้านเอรั้งเราไว้ แล้วบอกว่าเเค่เพื่อนถ้าไม่เชื่อไปถามได้ เราโอเค ไม่โกดก็ได้ ....
อย่าที่เราบอกไปตอนเเรกเอเค้าทำวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำตัวหนึ่ง เเล้วตัวนี้ดันมีอยู่ในประเทศไทย เออยากไปหาพวกมันมาก แต่เราจะต้องไปหาตามอุทยานแห่งชาติ ครั้งเเรกเอไปกับเพื่อนร่วมงาน และหลังจากนั้น เอไปกับเราตลอด มีอยู่ครั้งหนึ่งเอไม่ได้ไปกับเรา เพราะเราไม่ว่างติดออกค่ายต่างจังหวัด เอบอกว่าจะไปกับเพื่อนคนฝรั่งเศสด้วยกัน เพื่อนเอคนนี้เป็นผู้ชาย ทำงานอยู่ที่พัทลุง ตอนเเรกเราก็เอะใจว่าเพื่อนเอจะนั่งรถมาหรอ ไกลมากนะเเละก็มีเวลาเเค่ศุกเสาร์อาทิตย์ และอุทยานที่เอจะไปอยู่เพชร แต่เราก็ไม่ถามอะไร เพราะเราไม่อยากก้าวก่าย เราไม่ได้อยู่ในสถานะที่เรียกได้เต็มปากว่า แฟน แต่การกระทำของเราทั้งคู่มันแทบจะเรียกได้ว่าสามีภรรรยา ตอนเออยู่เพชรเอโทมาเล่าให้เราฟัง เราถามลำบากไหม เอบอกนิดหน่อยเพราะคนที่นี่ไม่พูดอังกฤษ มันเป็นเหมือนชุมชนเล็กๆเอพูดไทยไม่ได้ เราก็อ้าวแล้วเอทำไงละ เอเลยบอกมาว่าเพื่อนเอพาแฟนมาด้วยแฟนเพื่อนเอเป็นคนไทย เราก็อ้าว หรออ ทำไมไม่บอกล่ะ เเต่เราก็ไม่อยากไซร้แต่ตอนนั้นเราตะหงิดใจ เราเลยตัดสินใจเชค ทุกอย่างของเอผ่านอีเมล์ขอเอซึ่งเอเคยล็อคอินผ่านมือถือเราไว้เเล้วไม่ได้ออกจากระบบ เราไล่อ่านอีเมล์ของเอ ซึ่งมีคนหนึ่งที่เราคาดว่าเป็นเพื่อนสนิทของเอที่อยู่ฝรั่งเศส เอเล่าทุกอย่างให้เพื่อนคนนี้ฟัง มีเรื่องเราด้วยเเต่ก็ไม่ได้อะไรส่วนมากจะคุยเรื่องวิจัยสัตว์เลื้อยคลานตัวนี้มากกว่า เราเลยเปลี่ยนไปอ่านอีเมลที่เชื่อมกับเฟสเเทน เราเห็นว่ามีผญคนหนึ่ง เราจะเรียกว่าซีละกัน ซีเป็น ผญไทยที่เรารู้จักและค่อนข้างจะเคารพนิดนึง ซีคุยกับเอบนเฟสแล้วมีการแท็กชื่อ มันเลยมีอีเมลขึ้นมา เราไปเจออันหนึ่งซีแท็กถึงเอว่า "ฉันมีไกด์เป็นของตัวเองเเล้ว" ตอนนั้นเลยนี่อึ้งเลย ไม่คิดว่าเค้าสองคนจะเม้นอะไรทำนองนี้ เราเลยนึกย้อนไปก่อนหน้านั้น วันนั้นเรานั่งรถกลับนครโดยที่ไม่บอกเอ เอนั่งรถไป กทมโดยที่ไม่บอกเรา เอโทมาหาเราบอกตอนนี้อยู่กทม อยากเจอเรา มาหาหน่อย เราบอกเราอยู่นคร เราเลยต่างคนต่างงอนกัน เราถามว่าไปกับใคร เอบอกมากับเพื่อนที่ทำงาน เราก็อืม โอเค เอเที่ยวใน กทม และจังหวัดเมืองเก่า เอบอกเราตลอด และพอถึงวันกลับเอบอกอยากเจอเรามาก เราก็โอเคถึงแล้วบอก เดี้ยวไปหา เอกลับมาถึงนครก่อนเวลาที่บอกเราประมานสาม ชม เเล้วโทมาหาเราซึ่ยังไม่ตื่น เอบอกมาหาหน่อยไม่งั้นเอจะมาหาเราที่บ้านเเทน เอเคยบอกว่าอยากมาบ้านเรา เราก็แบบ บ้าหรอ เอแสดงให้เราเห็นว่าเอคิดถึงเราอยากเจอเรามากมากก่ายกอง เราถึงค่อนข้างใจไว้ใจ เเละวันนั้นเอลงรูปที่ไปจังหวัดเมืองเก่าในเฟส เราก็เห็นซีมาคอมเม้นแปลไทยได้ประมานว่า "ฉันหวังว่าจะเห็นฉันในรูปพวกนั้น ฉากหลังในรูปมันดูเหมือนๆกันหมดเลย เทอถ่ายรูปสวยจัง" เอตอบคอมเม้นไปแค่ว่า "ขอบคุณ" ตอนนั้นเรารู้เลยว่าซีไปด้วย แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากในเรื่องนี้... เอไม่รู้ว่าเรารู้จักซี ซีไม่รู้ว่าเอเป็นอะไรกับเราเเละไม่รู้จักเรา เราไม่มีซีเป็นเพื่อนในเฟส กลับไปเรื่องที่เราไปอ่านอีเมล์ของเอ พอเราเห็นว่าซีแท็กคอมเม้นเอว่า "ฉันมีไกด์เป็นของตัวเองเเล้ว" เราอึ้ง และคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเเล้วแหละเราอยากแอดเฟสซีแต่ไม่ได้ต้องการจะไปเคลียร์อะไร เราเเค่อยากรู้ว่าที่เอไปเพชรครั้งนี้ซีไปด้วยหรือเปล่า เราเลยรอ รอ จนเอกลับจากเพชรและก็เป็นไปตามคาด เอเขียนอีเมล์หาเพื่อนคนเดิม เราแอบไปอ่านมา เอคุยเรื่องที่เอไปหาสัตว์ตัวนั้นเเหละเเต่มันมีอยู่สองบรรทัดที่สกิดใจเราแบบเจ็บจี๊ด เราไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เอเขียนว่า"ฉันไปเจอผญไทยคนหนึ่ง อายุ... สุดยอด ทำไมเราถึงตกหลุมรักผญที่ชอบยิ้มแบบนี้ไวจัง? " เท่านั้นแหละค่ะ เราเเชทไปหาเอเลย เราบอกเอว่า "เอ เราอยากเจอเทอ พรุ่งนี้เราไปหานะ" เอตอบตกลง นี่เป็นครั้งเเรกที่เราไปหาเอด้วยความต้องการของเรา ปกติเอจะง้องเเง้งให้เราไปหาตลอด เราคิดเลยแหละตอนนั้นว่าเอต้องไปเพชรกับซีสองคนแน่ๆแล้วเค้าจะ....ทำอะไรกันบ้าง เราคิดเยอะไปหมด วันนั้นพอเราไปถึง เราไม่พูดอะไรถึงเรื่องนี้เลย เราไม่กล้า ปอดมากก กลัวคำตอบ สารพัด เลยตัดสินใจไม่พูด วันต่อมา ก่อนเราจะกลับเราไปกินข้าวกับเอพอกินเสร็จก่อนจะเเยกกัน เราเลยตัดสินใจถามเอไปประมานว่า "เทอเจอผญคนอื่นเเล้วใช่ไหม ผญคนนั้นอายุมากกว่าฉัน เก่งกว่าฉัน" เอเหมือนอึ้งไปนิดนึง แล้วตอบกลับมาว่าไม่ใช่ ถามอะไรของเทอ เราเลยพูดไปว่าบอกมาตรงๆ เอก็ไม่ยอมบอก ว่าเราว่าอย่ามาถามอะไรไร้สาระ เรายื้อเเบบนั้นอยู้ประมานสิบนาทีจนคนมองเรา เอเริ่มหงุดหงิดที่คนมอง เอไม่ชอบ เราก็เลยเออ ไม่ตอบก็ตามใจ แต่เราจะบอกว่า ตอนที่เอปฎิเสธคำถามเรานั้น เอไม่มองหน้าเราเลย เเถมตอนนั้นใส่เเว่นกันแดดปิดแววตาด้วย แต่เสียใจค่ะ เรามองทะลุ ท่าทางเอดูกังวน หงุดหงิด เราก็เลยกลับดีกว่า ตอนนั้นถ้าเอบอกเรามาตรงๆ เราจะไม่ยื้อเลย ถึงเราจะเสียใจมากก็ตาม ซีมีดีกว่าเราเยอะ เราคิดแบบนั้น ซีเก่งกว่าเรา เป็นผู้ใหญ่กว่า และอีกอย่างอายุซีกับเอก็ไล่ๆกันเลยถ้าเค้าสองคนคบกันคงดูเข้ากันดี เราห่างกับเอต้องหกปี ในเมื่อเอไม่ยอมปล่อยเรา เราก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หรอก เราจึงแอดเฟสซีไป ......
เล่าถึงเเค่นี้ก่อน ถ้าเพื่อนๆชอบเราจะเล่าต่อ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^
มีแฟน(ฝรั่ง)แบบนี้ จะแก้เผ็ดไงดีคะ ?
วันที่ 12 เอบินมาถึงไทย เอบอกว่าเครื่องแลนด์ประมาน 9.30 เราจะเจอกันที่โรงแรมประมาน 11.00 บอกเลยค่ะ วันนั้นเราใจเต้นตุ๊บตับ เราไม่เคยไปทำอะไรแบบนี้ วันนั้นเราตื่นมาโบกหน้าตั้งเเต่หกโมงเช้า เเต่งตัว อ่อ เรื่องนี้เราเล่าให้เพื่อนสนิทเราฟังด้วยค่ะ เพื่อนเราก็ให้ลองดู ไม่น่าจะเป็นไร เราออกจากหอเพื่อไปตามที่นัดหมายคือโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านนานา ระหว่างทางไปโรงแรมมีเบอร์แปลกโทรมา เรารู้เลยค่ะว่ามันต้องเป็นของเอา เราเลยไม่รับ สุดท้ายเค้าก็ส่งข้อความมาบอกว่าเอมาถึงเเล้วกำลังไปโรงแรม มีอะไรให้ติดต่อมาเบอร์นี้ สรุปเป็นเบอร์จากเจ้าหน้าที่กระทรวงคนหนึ่ง(เอมาบอกเราที่หลังว่าเจ้าหน้าที่คนนี้กลัวเอโดนเราหลอก) เราไปถึงโรงแรมตามเวลานัดหมาย รอเอที่ฟร้อน ยอมรับค่ะว่าตอนนั้นก็เริ่มชอบๆเอบ้างแล้วแหละ และแล้วเอก็มา เอทักทายเราด้วยวิธีแบบฝรั่งเศสคือการเอาแก้มชนแก้ม ตอนนั้น เขินค่ะ เราเจอเอเราไม่ค่อยคุยกับเอเลยเราบอกไว้ล่วงหน้าเเล้ว แต่เอนี่พูดมากค่ะ เราไปกินกาแฟกัน เอสำรวจเราตั้งเเต่หัว จรดเท้า นาฬิกา เครื่องประดับที่เราใส่ แม้กระทั่งน้ำหอมที่เราฉีด เอพกชอกโกเเลตฝรั่งเศสมาฝากเราค่ะ เราก้ไม่รู้ความหมายหรอก ให้ก็รับมา หลังจากนั้นเราก็พาเอไปที่ที่เออยากไป สรุปคือ เออยากไปเจออาจารย์คนหนึ่งที่จุฬา เอให้เราพาไปสวนสัตว์ และนั่งเรือ วันนั้นเหนื่อยมากเเต่สนุกดีค่ะ หลังจากที่แยกกันตอนเย็น เราไม่คิดนะว่าเอจะอยากคุยกับเราต่อ คือเราไม่ได้เป็นคนสวยอะไรขนาดนั้น เเต่เพื่อนเราบอกว่ารูปร่างเราเหมาะให้เป็นเด็กเสี่ย 5555 อายุเราห่างกับเอเกือบ 6 ปี เราไม่คิดว่าเอจะชอบเด็กอย่างเรา เเล้ววันนั้นเราก็ไม่ได้เป็นไกด์ที่ดี บอกเลยว่าทริปที่เราพาไปมันดูเหนื่อยๆห่วยแตก เราไม่ได้วางแผนอะไรทั้งนั้น ตัวเราเองยังคิดว่าน่าเบื่อมาก เราถอดใจเรื่องเอ เราไม่อยากตกหลุมรัก ระหว่างอยู่บนบีทีเอสเพื่อกลับหอ เอทักมา เอบอกว่าอยากเจอเราอีก ชอบเรา เราเเบบ เฮ้ยย บ้าหรือเปล่า เราถามจริงหรอ เอบอก จริงๆ เราก็เอาวะโอเค เอาไงก็เอา หลังจากวันนั้น เราไม่ได้เจอเออีกเพราะเอมีประชุมเรื่องงานที่ต้องทำ เอได้ย้ายไปประจำที่จังหวัดๆหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านเกิดเราเอง เอได้ทำงานในที่ๆเราเคยอยู่ ผ่านไปประมานสามวัน เอก็ต้องไปอยู่จังหวัดนั้น เราเรียกย่อๆว่านครละกัน ช่วงนั้นเราไม่มีเรียนเอเลยนัดเราไปเจอกันที่นคร เราก็ไปเจอกัน กินข้าว ดูหนัง เอบอกว่าเอชอบเรามาตลอดเวลาที่เราคุยกัน ช่วงนี้เอจีบเราหนักหน่วงมาก ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่าง เอจึงถามเราว่าผช ไทย จีบ ผญ ยังไง จูบ ยังไง แล้วตอนที่เอถามเราจำได้ว่าเราไปเที่ยวผับกับเพื่อนเราเเลยแปลคำว่าจูบเป็นคำว่ากอด เราไม่ได้เมานะ เราเลยบอกเอไปว่าเทอเป็นเพื่อนเราเทอจูบเราได้นะ ซึ่งในตอนนั้นเราจะสื่อความหมายว่ากอด แต่เรามัวเเต่หลงเเสงสี 55555 เอตอบมาว่า โอเค เดี้ยวฉันจะจูบเทอ 555 เราอายมากเรื่องนี้ เราพยายามไม่อะไรเพราะรู้ว่าเดี้ยวเอก็ต้องกลับ เออยู่ที่ไทยเเค่สามเดือน แต่เอตื้อเรา เราก็เลยปล่อยเลยตามเลย วันหนึ่งเราไปห้องเอ พอขึ้นไปเอบอกว่าเอได้พยายามไปหาตุ๊กตาตัวหนึ่งที่เราอยากได้มากแต่เอบอกว่ามันไม่มีขาย หาทั่วนครเลย เราแบบ เอ้ยยย เทอหาให้ตายก็ไม่มีขายที่นี่หรอก มันคือตุ๊กตาสโนวแมน เราบอกว่ามันไม่ได้หาง่ายเเบบที่ฝรั่งเศส 5555 ตอนนั้นประทับใจอ่ะ รักเลย เอถามว่าเราชอบเอไหม เราบอกชอบ เเบบไม่อายเลยเพราะเอเหมือนจะมอมเหล้าเรา แต่เราไม่เมา และหลังจากนั้นเราก็เสียบริสุทธิ์ให้กับเอไป หลังจากนั้นเอก็ขอเราเป็นแฟน เราไม่ตอบ เราพูดแค่อืมมม ซึ่งไม่ได้ตอบว่าตกลงหรือปล่าว เราสองคนเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับมีแค่ เอ เรา เพื่อนสนิทเราที่รู้ เราไม่อยากให้ใครรู้ ไม่มีการขึ้นสถานะทางเฟส เอมีมาคอมเม้นเราบ้าง นิดหน่อย ส่วนเราไม่เคยยุ่งกับเฟสเอเลย เราเคารพสิทธิ์ซึ่งกันเเละกัน เราจะลงแค่ในอินตราแกรมซึ่งมันคนน้อยดี เออยากเจอเราตลอดเวลา ขอให้เราไปอยู่ที่ห้องเอ แต่เราก็มีเรียนเราไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่ประจำ จนวันหนึ่ง ตอนกลางคืน เรานอนอยู่กับเอ เราก็นเห็นเอแชทในโทรศัพท์ เราก็เฉยๆนะ เราเล่นบ่อยกว่าอีก เราเลยแอบชำเลืองไปอ่าน ผญ คนนั้นคุยกับเอเเต่เป็นภาษาอังกฤษ เราเห็นนางถามมาว่า ง่วงยัง เอตอบว่า นิดหน่อย เราก็อีนี่ใคร เราเลยเปิดเฟสเอ เช็คชื่อผญคนนี้สรุปเป็นคนไทย วันนั้นเราโกรธมาก เลยจะหนีกลับบ้านเอรั้งเราไว้ แล้วบอกว่าเเค่เพื่อนถ้าไม่เชื่อไปถามได้ เราโอเค ไม่โกดก็ได้ ....
อย่าที่เราบอกไปตอนเเรกเอเค้าทำวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำตัวหนึ่ง เเล้วตัวนี้ดันมีอยู่ในประเทศไทย เออยากไปหาพวกมันมาก แต่เราจะต้องไปหาตามอุทยานแห่งชาติ ครั้งเเรกเอไปกับเพื่อนร่วมงาน และหลังจากนั้น เอไปกับเราตลอด มีอยู่ครั้งหนึ่งเอไม่ได้ไปกับเรา เพราะเราไม่ว่างติดออกค่ายต่างจังหวัด เอบอกว่าจะไปกับเพื่อนคนฝรั่งเศสด้วยกัน เพื่อนเอคนนี้เป็นผู้ชาย ทำงานอยู่ที่พัทลุง ตอนเเรกเราก็เอะใจว่าเพื่อนเอจะนั่งรถมาหรอ ไกลมากนะเเละก็มีเวลาเเค่ศุกเสาร์อาทิตย์ และอุทยานที่เอจะไปอยู่เพชร แต่เราก็ไม่ถามอะไร เพราะเราไม่อยากก้าวก่าย เราไม่ได้อยู่ในสถานะที่เรียกได้เต็มปากว่า แฟน แต่การกระทำของเราทั้งคู่มันแทบจะเรียกได้ว่าสามีภรรรยา ตอนเออยู่เพชรเอโทมาเล่าให้เราฟัง เราถามลำบากไหม เอบอกนิดหน่อยเพราะคนที่นี่ไม่พูดอังกฤษ มันเป็นเหมือนชุมชนเล็กๆเอพูดไทยไม่ได้ เราก็อ้าวแล้วเอทำไงละ เอเลยบอกมาว่าเพื่อนเอพาแฟนมาด้วยแฟนเพื่อนเอเป็นคนไทย เราก็อ้าว หรออ ทำไมไม่บอกล่ะ เเต่เราก็ไม่อยากไซร้แต่ตอนนั้นเราตะหงิดใจ เราเลยตัดสินใจเชค ทุกอย่างของเอผ่านอีเมล์ขอเอซึ่งเอเคยล็อคอินผ่านมือถือเราไว้เเล้วไม่ได้ออกจากระบบ เราไล่อ่านอีเมล์ของเอ ซึ่งมีคนหนึ่งที่เราคาดว่าเป็นเพื่อนสนิทของเอที่อยู่ฝรั่งเศส เอเล่าทุกอย่างให้เพื่อนคนนี้ฟัง มีเรื่องเราด้วยเเต่ก็ไม่ได้อะไรส่วนมากจะคุยเรื่องวิจัยสัตว์เลื้อยคลานตัวนี้มากกว่า เราเลยเปลี่ยนไปอ่านอีเมลที่เชื่อมกับเฟสเเทน เราเห็นว่ามีผญคนหนึ่ง เราจะเรียกว่าซีละกัน ซีเป็น ผญไทยที่เรารู้จักและค่อนข้างจะเคารพนิดนึง ซีคุยกับเอบนเฟสแล้วมีการแท็กชื่อ มันเลยมีอีเมลขึ้นมา เราไปเจออันหนึ่งซีแท็กถึงเอว่า "ฉันมีไกด์เป็นของตัวเองเเล้ว" ตอนนั้นเลยนี่อึ้งเลย ไม่คิดว่าเค้าสองคนจะเม้นอะไรทำนองนี้ เราเลยนึกย้อนไปก่อนหน้านั้น วันนั้นเรานั่งรถกลับนครโดยที่ไม่บอกเอ เอนั่งรถไป กทมโดยที่ไม่บอกเรา เอโทมาหาเราบอกตอนนี้อยู่กทม อยากเจอเรา มาหาหน่อย เราบอกเราอยู่นคร เราเลยต่างคนต่างงอนกัน เราถามว่าไปกับใคร เอบอกมากับเพื่อนที่ทำงาน เราก็อืม โอเค เอเที่ยวใน กทม และจังหวัดเมืองเก่า เอบอกเราตลอด และพอถึงวันกลับเอบอกอยากเจอเรามาก เราก็โอเคถึงแล้วบอก เดี้ยวไปหา เอกลับมาถึงนครก่อนเวลาที่บอกเราประมานสาม ชม เเล้วโทมาหาเราซึ่ยังไม่ตื่น เอบอกมาหาหน่อยไม่งั้นเอจะมาหาเราที่บ้านเเทน เอเคยบอกว่าอยากมาบ้านเรา เราก็แบบ บ้าหรอ เอแสดงให้เราเห็นว่าเอคิดถึงเราอยากเจอเรามากมากก่ายกอง เราถึงค่อนข้างใจไว้ใจ เเละวันนั้นเอลงรูปที่ไปจังหวัดเมืองเก่าในเฟส เราก็เห็นซีมาคอมเม้นแปลไทยได้ประมานว่า "ฉันหวังว่าจะเห็นฉันในรูปพวกนั้น ฉากหลังในรูปมันดูเหมือนๆกันหมดเลย เทอถ่ายรูปสวยจัง" เอตอบคอมเม้นไปแค่ว่า "ขอบคุณ" ตอนนั้นเรารู้เลยว่าซีไปด้วย แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากในเรื่องนี้... เอไม่รู้ว่าเรารู้จักซี ซีไม่รู้ว่าเอเป็นอะไรกับเราเเละไม่รู้จักเรา เราไม่มีซีเป็นเพื่อนในเฟส กลับไปเรื่องที่เราไปอ่านอีเมล์ของเอ พอเราเห็นว่าซีแท็กคอมเม้นเอว่า "ฉันมีไกด์เป็นของตัวเองเเล้ว" เราอึ้ง และคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเเล้วแหละเราอยากแอดเฟสซีแต่ไม่ได้ต้องการจะไปเคลียร์อะไร เราเเค่อยากรู้ว่าที่เอไปเพชรครั้งนี้ซีไปด้วยหรือเปล่า เราเลยรอ รอ จนเอกลับจากเพชรและก็เป็นไปตามคาด เอเขียนอีเมล์หาเพื่อนคนเดิม เราแอบไปอ่านมา เอคุยเรื่องที่เอไปหาสัตว์ตัวนั้นเเหละเเต่มันมีอยู่สองบรรทัดที่สกิดใจเราแบบเจ็บจี๊ด เราไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เอเขียนว่า"ฉันไปเจอผญไทยคนหนึ่ง อายุ... สุดยอด ทำไมเราถึงตกหลุมรักผญที่ชอบยิ้มแบบนี้ไวจัง? " เท่านั้นแหละค่ะ เราเเชทไปหาเอเลย เราบอกเอว่า "เอ เราอยากเจอเทอ พรุ่งนี้เราไปหานะ" เอตอบตกลง นี่เป็นครั้งเเรกที่เราไปหาเอด้วยความต้องการของเรา ปกติเอจะง้องเเง้งให้เราไปหาตลอด เราคิดเลยแหละตอนนั้นว่าเอต้องไปเพชรกับซีสองคนแน่ๆแล้วเค้าจะ....ทำอะไรกันบ้าง เราคิดเยอะไปหมด วันนั้นพอเราไปถึง เราไม่พูดอะไรถึงเรื่องนี้เลย เราไม่กล้า ปอดมากก กลัวคำตอบ สารพัด เลยตัดสินใจไม่พูด วันต่อมา ก่อนเราจะกลับเราไปกินข้าวกับเอพอกินเสร็จก่อนจะเเยกกัน เราเลยตัดสินใจถามเอไปประมานว่า "เทอเจอผญคนอื่นเเล้วใช่ไหม ผญคนนั้นอายุมากกว่าฉัน เก่งกว่าฉัน" เอเหมือนอึ้งไปนิดนึง แล้วตอบกลับมาว่าไม่ใช่ ถามอะไรของเทอ เราเลยพูดไปว่าบอกมาตรงๆ เอก็ไม่ยอมบอก ว่าเราว่าอย่ามาถามอะไรไร้สาระ เรายื้อเเบบนั้นอยู้ประมานสิบนาทีจนคนมองเรา เอเริ่มหงุดหงิดที่คนมอง เอไม่ชอบ เราก็เลยเออ ไม่ตอบก็ตามใจ แต่เราจะบอกว่า ตอนที่เอปฎิเสธคำถามเรานั้น เอไม่มองหน้าเราเลย เเถมตอนนั้นใส่เเว่นกันแดดปิดแววตาด้วย แต่เสียใจค่ะ เรามองทะลุ ท่าทางเอดูกังวน หงุดหงิด เราก็เลยกลับดีกว่า ตอนนั้นถ้าเอบอกเรามาตรงๆ เราจะไม่ยื้อเลย ถึงเราจะเสียใจมากก็ตาม ซีมีดีกว่าเราเยอะ เราคิดแบบนั้น ซีเก่งกว่าเรา เป็นผู้ใหญ่กว่า และอีกอย่างอายุซีกับเอก็ไล่ๆกันเลยถ้าเค้าสองคนคบกันคงดูเข้ากันดี เราห่างกับเอต้องหกปี ในเมื่อเอไม่ยอมปล่อยเรา เราก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หรอก เราจึงแอดเฟสซีไป ......
เล่าถึงเเค่นี้ก่อน ถ้าเพื่อนๆชอบเราจะเล่าต่อ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^