แชร์ประสบการณ์และขอเป็นกำลังใจให้ Single Mom ทุกท่านครับ

กระทู้สนทนา
ออกตัวก่อนว่า ไม่ต้องการเรทติ้ง หรือคำชมใดใด แต่อ่านมาพักใหญ่ๆในส่วนของ Single Mom แล้วหดหู่ใจครับ

สมัยก่อนตอนที่ยังอายุสามสิบต้นๆ ผมเลิกรากับภรรยาคนแรก ไม่มีลูกด้วยกัน และแน่นอนที่ผมจะมองหาผู้หญิงคนใหม่ตามประสาผู้ชาย อันดับแรก ผมมองผู้หญิงที่ไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อนจริงๆ ถ้าเป็นแม่หม้าย แค่มองอย่างเดียวครับ จะสวยขนาดไหน ฐานะดี ชาติตระกูลดี ผมไม่สน ต้องโสดเท่านั้น

จนกระทั่งอายุเริ่มมากขึ้น ก็ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่เช่นนั้น ไม่เคยคบกันได้ตลอดรอดฝั่งเลยสักราย ไม่มีความรู้สึกว่ารักใครจนถึงขั้นอยากจะเริ่มต้นใหม่เลยสักคน ผ่านมาผ่านไปไร้จุดยืนจริงๆ จนมาพบกับรุ่นน้องที่รู้จักกัน ตอนนั้นรู้แล้วล่ะว่าเธอเป็นหม้ายและมีลูกติดมากกว่า 2 คน (ขออนุญาตไม่บอกจำนวนและเหตุที่เลิกรากับสามีเก่านะครับ)

ผมเลือกที่จะคุยตามประสาพี่น้องกันเหมือนสมัยก่อน บอกเลยว่าในสายตาของผม หน้าตาเธอจัดอยู่ในขั้นธรรมดา  รูปร่างอวบหน่อยๆ ความสูงเทียบกับผมซึ่งสูง 189 cm.ถือว่าเตี้ยกว่า หน้าที่การงานพอสมควร แต่ตระกูลดี ครอบครัวพื้นฐานเป็นคนดี เหมือนผู้หญิงที่เป็นหม้ายทั่วๆไปซึ่งผมมองว่าไม่โดดเด่นแต่ไม่ขี้เหร่ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ เธอรักลูก รักมากแต่ไม่เคยคาดหวังอะไรจากลูกและคนรอบข้างเลย ซึ่งมันออกจะแปลกๆในสายตาผม

ผมไม่เริ่มต้นที่การคบหา ไม่รู้สึกอะไรไปนอกจากการช่วยเหลือแบบพี่ช่วยน้อง ไม่เคยยุ่งกับหลานๆและเธอก็ไม่เคยร้องขอเพราะคงเห็นว่าผมเทียวไล้เทียวขื่อกับผุ้หญิงโสดอีกคนหนึ่ง(ตอนนี้ล่ะที่เรียกว่ามีสาวโสดให้เข้ามารู้สึกแล้ว) จนกระทั่งได้ข่าวคาวของเธอ (เขียนไม่ผิดครับ ข่าวคาวจริงๆ)

แรกๆก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ความอยากรู้มันอดใจไม่ไหว เลยต้องถาม คำตอบคือ เธอยิ้มสวยๆ(ฟันสวยนั่นล่ะ) กับคำว่า "พี่ดูน้อง แล้วคิดเอาเองสิ"

ตอนนั้นเลยเอนเอียงมาในทางเชื่อ (ไม่รู้ว่าเพราะใจเรามันยังไม่ติดอยู่ที่เขาหรือเปล่านะ) ติดความไม่เชื่อเล็กน้อยเพราะเธอเป็นคนไว้ตัวพอสมควร จนกระทั่งมีเหตุให้ไปพบกับคนต้นเรื่องซึ่งเป็นเพื่อนผู้ชายของเธอและมีภรรยาอยู่แล้ว ความที่อดไม่ได้เลยถามตามตรง คนที่ตอบมาเป็นภรรยาของผู้ชายคนนั้น ซึ่งตอบได้เต็มเสียงว่า "มันไม่จริง" ซึ่งโอกาสน้อยมากที่จะเป็นความจริงที่ออกจากปากของภรรยาอีกฝ่ายซึ่งเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างจัง เพราะผู้หญิงต้องมีหึงหวงสามี แต่ทางภรรยาของคนต้นเรื่องยืนยันหนักแน่นว่าสองคนนี้ไม่มีอะไรกันจริงๆ

ถามไปถามมามันก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้วกลายเป็นเรื่องปากต่อปากเท่านั้นเอง สรุปเหตุการณ์นั้นผ่านไป เธอรอดจากคำครหานั้นไปแบบสวยงามสำหรับผม แต่ในสายตาของคนรอบข้างคงเป็นเรื่องดาษๆไป ซึ่งเธอได้แต่ยิ้มอย่างเดียว ไม่ใส่ใจต่อเสียงนินทาลับหลังที่ผ่านหูมาเรื่อยๆ ตอนนั้นผมเริ่มประทับใจ แต่ก็ยังบอกตัวเองว่า "คนโสดดีกว่า"

คงจะเป็นความซึมลึก และการวางตัวของเธอ ผลสุดท้ายวันที่ผมต้องเลือกก็มาถึง ผมมีสาวโสด หน้าตาดี หน้าที่การงานดีมากๆซึ่งคุยกันอยู่พักใหญ่ แต่ทุกครั้งผมอดจะกระหวัดคิดถึงสิ่งดีๆของเธอ ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งขับรถไปรับไปส่งลูกลำพัง ภาพที่อัพเฟสบุ๊คกับเด็กๆในช่วงวันหยุด ภาพที่เธอจะคอยดูแลคุณแม่ของเธอตลอด ตอนนั้นบอกตัวเองได้แล้วล่ะว่า สงสัยผมคงจะโดนน้ำเซาะใจเข้าให้แล้ว

วันที่ผมทำให้ผู้หญิงโสดที่แสนดีคนหนึ่งต้องเสียใจ ผมเสียใจเช่นกันเพราะผมเลือกที่จะหันหน้าไปหาผู้หญิงที่มีแต่ภาระและก็ไม่รู้เลยว่า เธอจะโอเคกับผมรึเปล่า เรียกได้ว่าไม่เห็นอนาคตเลย แต่ผมก็เลือกที่จะหันหน้าไปจีบผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว มีลูกมาแล้วและคลอดโดยธรรมชาติมากกว่าสองครั้ง (เผื่อเรท +18)

การจีบแม่หม้าย ยากกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับคนที่เป็นรุ่นน้องหลายปี และคนที่กลัวการเริ่มต้นใหม่พอสมควร ผมไปๆมาๆอยู่พอสมควร ไม่เคยล่วงเกินอะไร ไม่ใช่ว่าเป็นคนดีขนาดนั้น แต่กลัวโดนตบมากกว่า!!!(ก็ผู้ชายน่ะนะ) ผมไม่เคยบอกรักเพราะไม่รู้จริงๆว่าจะบอกยังไง พูดไม่ถูก แต่แสดงออกให้เพื่อนเธอรู้ว่าผมหวง หลายคนดูออก มีเสียงคัดค้านพอสมควร แต่ผมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่มากกว่าเรียกว่าพูดไปเถอะ ผมฟังได้ แต่ไม่เคยใส่ใจ

จนถึง ณ เวลานี้ผมแต่งงานมาร่วมสามปีแล้ว เราไม่สามารถที่จะมีพยานรักร่วมกันได้ ภรรยาเคยตั้งครรภ์และแท้งไปเพราะเธอไม่ค่อยแข็งแรง ตอนนั้นล่ะมั้งผมถึงได้รู้ว่า ผมรักเธอมากและมากพอที่จะยอมไม่มีลูกอีก (จะไปทำหมันแต่เธอไม่ให้ทำ เธอบอกว่าเดี๋ยวอ้วน...เวรกรรม!!!) แต่ผมก็มีความสุขดีกับเด็กๆ ลูกๆของภรรยาเรียกผมว่า 'คุณลุง...' มีทะเลาะกันบ้างตามประสาครอบครัว ผลัดกันใจเย็นใจร้อนตามเรื่องตามราวครับ

ผมอ่านหลายความเห็น หลายคำถาม สรุปได้เหมือนกับ แม่หม้ายคือเพศที่ควรห่างไกล (แอบงงนะว่าทำไมเป็นเช่นนั้น?) คนรอบตัวบางคนบอกว่า "แม่หม้ายน่ากลัว" จนต้องถามว่า 'แม่หม้าย' หรือ 'ผีแม่หม้าย' ??? เพราะถ้าเป็น 'ผี' น่ากลัวไปหมดล่ะไม่จำเพาะว่าเป็นผีแม่หม้ายหรอก

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าผู้หญิงไม่ได้อยากเลิกรากับคนรักหรอกครับ ไม่มีใครอยากเป็นหม้าย แต่เมื่อเป็นหม้ายแล้วจะอยู่อย่างไรให้ดีมากกว่า อยู่แบบใครคนมองเห็นคุณค่าในตัวของคุณที่ไม่ได้เคลือบแฝงเรื่องฐานะ ชาติตระกูล หรือหน้าตา ที่ถือเป็นต้นทุนชีวิตที่เลือกไม่ได้ (ไม่เน้นเรื่องศัลยกรรมนะ) แต่ผมก็เชื่อในเรื่องการเลือกที่จะเป็นได้ หลายคนตั้งมั่นที่จะหาสามีใหม่ให้ได้ดีกว่าเก่า ออกแนวจะเอาสามีใหม่ไปเย้ยเยาะคนเก่า หลายคนที่ยังฟูมฟายกับเรื่องที่ผ่านมา อันนี้แนวนึกว่าฝันไปเจอะเจอเรื่องราวร้ายๆและอยากจะตื่นจากฝันเสียที และหลายคนที่ยืนหยัดอยู่ได้ลำพังแม้ว่ายังแอบร้องไห้หมอนเปียกทุกคืน แต่ก็กัดฟันยิ้มสู้เพื่อลูก อันนี้เครียดนะ เจ็บปวดทรมานระวังจะเป็นไมเกรนนะครับ

ผมไม่ได้เข้ามายกยอปอปั้นใคร ไม่เปรียบเทียบระหว่างสาวโสดและหญิงหม้ายนะครับ คนโสดดีๆมีเยอะ ผมขอให้คุณผู้หญิงมีครอบครัวที่ดีและสวยงาม ส่วนที่พลาดตกพุ่มหม้ายก็ขอให้เจอแต่เรื่องที่ดี ให้เป็นฟ้าหลังฝนที่สดใส และขอที่จะไม่ลงภาพของภรรยาและครอบครัว แต่ตามที่ว่านั่นล่ะครับ เพียงแค่อยากเป็นกำลังใจให้เท่านั้น ไม่ต้องกดไลค์ ไม่ต้องกดแชร์ (อ้อ...มันไม่มี ลืมไป นึกว่าFBนี่นา)

***อย่ามองว่าผู้ชายที่ผ่านมาในช่วงที่คุณไม่มีใครเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ต้องรีบคว้าไว้ แม้สัดส่วนผู้ชายบนโลกนี้จะไม่ค่อยสมดุลกับผู้หญิงเท่าไร แต่ผมเชื่อว่าใครๆก็อยากจะได้คนดีมาเป็นคู่คิดแน่ๆ อย่างน้อยๆลูกคือคนที่จะยึดคุณแม่เป็นแบบอย่างครับ ถ้ามีใหม่แล้วปวดหัว ก็ไม่ต้องไปมีหรอก แต่ถ้ามีโอกาสที่ดีผ่านมาก็พิจารณาตามที่สมควร พวกคุณก็เพศแม่ ผมเองก็มีแม่ เกิดจากผู้หญิงครับ ไม่ได้มาจากกอไผ่ ยกย่องและเห็นคุณๆที่เป็นแม่หม้ายมีค่าเสมอ คุณค่าอยู่ที่ตัวเองนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่