ถูกโปรยหัวไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่า ระบบปฏิบัติการมือถือหุ่นกระป๋องเขียวเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของกูเกิล Android Lollipop เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดในแง่ของความปลอดภัยและการสำรองข้อมูล และเพื่อเป็นการตอกย้ำฟีเจอร์ที่ทีมงานแสนจะภูมิใจนำเสนออีกครั้ง ล่าสุด กูเกิล จึงได้ทำบทความสรุปเกี่ยวกับคุณสมบัติใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันข้อมูลโดยเฉพาะ
Adrian Ludwig หัวหน้าทีมวิศวกรด้านความปลอดภัยของแอนดรอยด์ผู้รับหน้าที่สร้างความกระจ่าง ระบุว่า การล็อคหน้าจอโทรศัพท์เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ข้อมูลบนดีไวซ์มีความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อโทรศัพท์ถูกขโมยหรือสูญหาย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้หลายคนก็ยังเลือกที่จะไม่ใช้วิธีการดังกล่าว เนื่องจากมันเป็นเรื่องของความยุ่งยากโดยเฉพาะถ้าต้องกดหมายเลขเพื่อปลดล็อคเป็นจำนวนหลายสิบครั้งต่อวัน ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ Android Lollipop จึงมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Smart Lock ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อคโทรศัพท์ได้ผ่านการใช้งานร่วมกับบลูทูธ, NFC หรือการจดจำใบหน้า แถมยังสามารถที่จะตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนข้อมูลแม้หน้าจอจะถูกล็อคได้อีกด้วย
ขณะที่ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สอง ก็คือการเข้ารหัสโดยตั้งค่าเริ่มต้น ซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่อยู่ในดีไวซ์ทั้งหมดได้รับการป้องกันจากการทำงานต่อ โดยดีไวซ์จะมีการเข้ารหัสแบบเต็มรูปแบบในครั้งแรกของการบูทเครื่องด้วยชุดรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งนั่นหมายความว่า กูเกิล ก็จะไม่สามารถเข้าถึงดีไวซ์ได้และไม่สามารถที่จะใช้กฏหมายบังคับได้แม้แต่พวกเขาต้องการก็ตาม
ส่วนฟีเจอร์สุดท้าย คือ Security Enhanced Linux (SELinux) ที่เคยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา โดยในการปรับปรุงครั้งนี้จะมีความสามารถที่มากขึ้นและสามารถช่วยอุดช่องโหว่ ซึ่งโหมดนี้จะถูกบังคับใช้สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ทั้งหมด
แน่นอนว่า คนกลุ่มแรกที่จะใช้สัมผัสกับ Android Lollipop ก่อนใครเพื่อน ก็คือ เจ้าของ Nexus 6, Nexus 9 และ Nexus Player
ที่มา TechSpot
กูเกิล เผยรายละเอียด 3 ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่บน Android Lollipop
ถูกโปรยหัวไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่า ระบบปฏิบัติการมือถือหุ่นกระป๋องเขียวเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของกูเกิล Android Lollipop เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดในแง่ของความปลอดภัยและการสำรองข้อมูล และเพื่อเป็นการตอกย้ำฟีเจอร์ที่ทีมงานแสนจะภูมิใจนำเสนออีกครั้ง ล่าสุด กูเกิล จึงได้ทำบทความสรุปเกี่ยวกับคุณสมบัติใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันข้อมูลโดยเฉพาะ
Adrian Ludwig หัวหน้าทีมวิศวกรด้านความปลอดภัยของแอนดรอยด์ผู้รับหน้าที่สร้างความกระจ่าง ระบุว่า การล็อคหน้าจอโทรศัพท์เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ข้อมูลบนดีไวซ์มีความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อโทรศัพท์ถูกขโมยหรือสูญหาย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้หลายคนก็ยังเลือกที่จะไม่ใช้วิธีการดังกล่าว เนื่องจากมันเป็นเรื่องของความยุ่งยากโดยเฉพาะถ้าต้องกดหมายเลขเพื่อปลดล็อคเป็นจำนวนหลายสิบครั้งต่อวัน ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ Android Lollipop จึงมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Smart Lock ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อคโทรศัพท์ได้ผ่านการใช้งานร่วมกับบลูทูธ, NFC หรือการจดจำใบหน้า แถมยังสามารถที่จะตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนข้อมูลแม้หน้าจอจะถูกล็อคได้อีกด้วย
ขณะที่ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สอง ก็คือการเข้ารหัสโดยตั้งค่าเริ่มต้น ซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่อยู่ในดีไวซ์ทั้งหมดได้รับการป้องกันจากการทำงานต่อ โดยดีไวซ์จะมีการเข้ารหัสแบบเต็มรูปแบบในครั้งแรกของการบูทเครื่องด้วยชุดรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งนั่นหมายความว่า กูเกิล ก็จะไม่สามารถเข้าถึงดีไวซ์ได้และไม่สามารถที่จะใช้กฏหมายบังคับได้แม้แต่พวกเขาต้องการก็ตาม
ส่วนฟีเจอร์สุดท้าย คือ Security Enhanced Linux (SELinux) ที่เคยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา โดยในการปรับปรุงครั้งนี้จะมีความสามารถที่มากขึ้นและสามารถช่วยอุดช่องโหว่ ซึ่งโหมดนี้จะถูกบังคับใช้สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ทั้งหมด
แน่นอนว่า คนกลุ่มแรกที่จะใช้สัมผัสกับ Android Lollipop ก่อนใครเพื่อน ก็คือ เจ้าของ Nexus 6, Nexus 9 และ Nexus Player
ที่มา TechSpot