สวัสดีครับเพื่อนๆห้องบลูและก้นครัว วันนี้จะมาแนะนำโรงแรม
อาหารมื้อพิเศษสำหรับทริป Autumn ฮอกไกโดที่ผ่านมา วันนี้จะพาไปเที่ยว Noboribetsu อีกหนึ่งเมืองออนเซน และหุบเขานรกที่โด่งดัง
แต่วันที่ไปโชคไม่ดี ฝนตกลงมาเกือบตลอดทั้งวัน ได้ไปเดินรอบหุบเขานรกแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ต้องกลับมาแช่ออนเซนที่โรงแรม เตรียมกินมื้อเย็น
โรงแรมนี้ชื่อ Kashotei Hanaya ใส่รายละเอียดต่างๆได้น่ารักมากๆครับ เลยอยากมาแนะนำ
เพื่อนที่ไปด้วยเคยไปพักโรงแรมใหญ่แล้วทัวร์ลงเยอะไม่ประทับใจ แต่ที่นี่สำหรับผมถือว่าประทับใจมาก
ค่าที่พักอยู่ที่ 28000 เยน/คืน/2คน รวมอาหาร 2 มื้อ คือ มื้อเย็น และมื้อเช้าของอีกวัน
ตกคนละ 14000 เยน หรือ 4200 บาท รวมอาหารมื้อไคเซกิ 1 มื้อ และมื้อเช้าแบบอิ่มๆอีก 1 มื้อ แช่ออนเซน อย่างสบายตลอดทั้งวัน
ผมว่าคุ้มมาก พูดคุยเพิ่มเติมกันได้ครับ
https://www.facebook.com/Gonipponbydrjame
เปิดด้วยอาหารมื้อเย็นแบบไคเซกิที่เสริฟในห้องก่อนนะครับ แล้วค่อยไปดูโรงแรม
ภาพรวมของเซ็ตอาหารเย็น
ไคเซกิเป็นอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เสริฟตามลำดับ โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีในช่วงฤดูกาลนั้นๆ
เซ็ตแรกที่เสริฟเป็นแบบนี้ครับ
มาเจาะอาหารกันทีละอย่าง ตามลำดับที่หาข้อมูลประกอบมาเพิ่มเติมนะครับ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ผมผิดถูกยังไงช่วยแนะนำด้วยครับ
Sakizuke (先附) เป็น appetizer จานนี้เป็นหอยแมลงภู่น่าจะเอาไปอบแล้วเสริฟกับบ๊วยเค็ม และผลไม้ดอง รองมาด้วยเกลือครับที่เห็นขาวๆนั่นแหละ
ตามมาด้วย Mukōzuke (向付) เป็นเซ็ตซาชิมิ หรืออาหารดิบตามฤดูกาลที่มี
ถัดมาเสริฟมาในตะแกรงครอบแบบนี้ เป็นอะไรนะ
Hassun (八寸) เป็นอาหารเซ็ตที่จัดมาโดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลตกแต่งให้เข้ากับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือ Momiji ครับ
มีเป็นกุ้งสับปรุงรสด้วยน่าจะเป็นน้ำส้ม เสริฟมากับไข่หวาน และลูกพลับเชื่อม ตกแต่งด้วย Kamaboko ลูกชิ้นปลาที่ทำเป็นรูปใบเมเปิ้ล
Futamono (蓋物) ต่อมาก็เป็นซุปล้างปากที่ 1 ทั้งหมดเซ็ตจะมี 3 ซุปครับ
นี่เป็นซุปเต้าหู้ หนึบๆดีรสชาติและกลิ่นถั่วเหลืองชัดเจนมาก
Yakimono (焼物) เป็นอาหารย่าง ที่ยกมาเสริฟคือปลาย่าง มิโสะเสริฟมากับฟักทองนึ่งห่อไข่ จานนี้อร่อยครับ
Takiawase (煮合) จานนี้เป็นผักกับแครอทเสริฟมาพร้อมกับฟองเต้าหู้ที่น่าจะเอาไปตุ๋นมา
Shiizakana (強肴) เป็นจานหลักของมื้อ ในมื้อนี้เสริฟเป็นหม้อไฟครับ อร่อยมากกกก น้ำซุปหอมกลมกล่อม ซดจนหมดเลย
ลูกชิ้นก็อร่อย หมูนุ่มดี กลมกล่อมครับ
จัดหม้อมาสวยงาม
จานหลักอีกจาน
หมูตุ๋นคล้ายสตูวห่อมาในแป้งคล้ายแป้งพายครับ จานนี้อร่อยชอบๆ
ก่อนจะปิดท้ายด้วยข้าว Gohan (御飯) ทีโปะหน้ามาด้วยสาหร่อยและคิดว่านะจะเป็นหมึกสับละเอียดปรุงรสกับมิโสะ เค็มๆครับ
กับมิโสะซุป ซุปที่ 3 แล้ว ถ้านับหม้อไฟด้วย ล้างปากด้วยผักดองซึ่งถือเป็นอีกจานนึงในเซ็ต Su-zakana (酢肴)
สุดท้ายจริงๆด้วยผลไม้ Mizumono (水物) หรือของหวานตามฤดูกาล
แอบไม่อร่อย เหลืองๆนั่นนึกว่าเมลอน แต่ก็ชิ้นเล็กไปสีแปลกๆ สรุปคือมะละกอขมด้วย ไม่ผ่านครับ
สรุปสำหรับอาหารมื้อเย็นแบบไคเซกิ ที่โรงแรม Kashotei Hanaya รสชาติดีครับ เป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมทีเดียว
คนที่คุ้นกับอาหารญี่ปุ่นคงอร่อย สำหรับผมก็ว่าอร่อยดี แต่บางอย่างรสชาติเข้าถึงยาก พวกผักดองนี่กินกี่ทีๆก็ไม่อิน
กับอะไรที่มิโสะเยอะๆ ส่วนตัวก็ไม่ถูกปากเท่าไหร่ แต่โดยรวมด้วยวัตถุดิบ การปรุง การบริการเสริฟในห้อง ถือว่าดีครับ
ส่วนของโรงแรมกันบ้างครับ ถ่ายรูปไว้เยอะ ประทับใจรายละเอียดของที่นี่มาก
การเดินทางให้นั่งรถบัสจากสถานี Noboribetsu มาลงที่ป้าย Byoinmae ประมาณ 15 นาที
หน้าโรงแรมเป็นแบบนี้
เปิดประตูเข้ามามีเก้าอี้เล็กๆให้นั่ง
มองจากด้านในออกไปหน้าโรงแรม
เสื่อทาทามิตรงส่วนต้อนรับที่ต้องนั่งถอดรองเท้าก่อนเข้าโรงแรมน่ะครับ น่ารักมาก มีนกตัวเล็กๆด้วย
ไม้ช่วยใส่รองเท้าที่วางอยู่ข้างหน้า
ห้องเก็บรองเท้า ถอดรองเท้าแล้ว ลุงๆป้าๆจะช่วยเอารองเท้าไปเก็บให้ครับ สตาฟที่นี่ส่วนมากอายุเกิน 40-50 ทุกคนเลย
เชคอิน
กรอกรายละเอียดยื่นพาสปอร์ตเรียบร้อย คุณป้าที่ต้อนรับบอกให้เรานั่งรอซักครู่ขณะเตรียมห้องให้เรียบร้อย
ตอนนั้นไปถึงประมาณเที่ยงพอดีครับ ก็รออยู่มุมนี้
มีสวนญี่ปุ่นที่จัดไว้สวยงามให้นั่งดู
มีเวลานั่งดูสวนซักพักผ่อนคลายมากๆ
ชามาเสริฟระหว่างนั่งรอห้องพักเรียบร้อย
ใครรู้บ้างครับว่าก้อนๆนั่นในน้ำคืออะไร ตอนแรกคิดว่าเป็นชา แต่พอลองคนๆดูปรากฎว่ามันเค็ม ออกแนวซุปอะไรซะมากกว่า
ไม่ไหวๆ เริ่มหิวแล้วด้วย ต้องงัดเอาขนมที่พกมาจากโอตารุออกมาซะหน่อย อันนี้แนะนำนะครับ ซื้อได้เลย
เป็นขนมรวมๆขายเป็นห่อๆ ซื้อจากร้านขายของฝากที่โอตารุ อร่อยดี ทัวร์จีนหอบกันคนละตะกร้าพูนๆเลย
ล็อบบี้มีขายของที่ระลึกของเมืองด้วย
มีน้องแมวทุกที่เลยญี่ปุ่นนี่
ของตกแต่งตามมุมต่างๆในชั้นล่างบริเวณล็อบบี้กับออนเซนครับ
โนโบริเบตสึก็ต้องมียักษ์นะ
ได้เวลาขึ้นห้องแล้ว ในลิฟท์บอกรายละเอียดว่าแต่ละชั้นมีอะไร
ทางเดินเข้าห้องก็ตกแต่งน่ารักตามรายทาง
ไปดูในห้องกัน เป็นห้องเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่นครับ ไม่กว้างมาก
ด้านหน้าเป็นส่วนห้องสุขา ไม่มีห้องน้ำเพราะให้ลงไปแช่ออนเซนเอาครับ
ของตกแต่งในห้อง
เสริฟชาเขียวหลังจากเข้าห้องแล้ว ในกล่องนั่นเป็น ผักดองครับให้กัดแกล้มชา เง้ออนึกว่าขนม
ตู้เก็บฟูกนอน ที่ป้าๆจะมาปูให้หลังจากที่เรากินมื้อเย็นเสร็จ นอนสบายนะ
หน้าต่างหลังห้องเปิดได้ ให้เห็นวิวนี้ครับ ฝนยังพรำๆนะตอนมาถึง แต่ซักพักอะ ลงหนักเลย
ฝนเริ่มซาก็ออกไปเที่ยวกันครับ ที่หุบเขานรก Jigokudani จากโรงแรมเดินขึ้นไปบนส่วนที่เรียกว่า Noboribetsu onsem 20 นาที ก็ถึงละครับ
ระหว่างทางอารมณ์ประมาณนี้ แต่เราโชคดี ทางโรงแรมบริการเอารถไปส่ง คงเห็นว่าฝนจะตกแล้ว เลยปรู๊ดเดียวถึงเลย
ทัศนียภาพแปลกตามากครับ สีสันของเนินดินต่างๆใบไม้เปลี่ยนสีสดใส และควันที่พวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน
มีสะพานให้เราเดินตามทางไปจนถึงบ่อน้ำที่เดือดปะทุอยู่ข้างล่าง
ลำธารอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากภูเขาไฟ
ฝนหยุดให้เราได้เดินอยู่ที่หุบเขานรก Jigokudani นี่แค่ชั่วโมงเดียว จากนั้นก็เทกระหน่ำลงมาเลย
ทำให้การมาเที่ยว Noboribetsu รอบนี้ได้เที่ยวที่นี่แค่ที่เดียวเลยครับ
ติดฝนอยู่ตรงร้านขายของที่ระลึกพักใหญ่
เข้าห้องน้ำอะไรก็แล้ว
ในที่สุดก็ตัดสินใจวิ่งฝ่าฝนกลับโรงแรมครับ ไม่มีทีท่าจะเบาลงเลย
มะลอกมะแลกกันกลับมา โรงแรมน่ารักมาก เอาเสื้อโค้ตและรองเท้าของพวกเรา ไปอบแห้งให้ มีคู่เดียวใส่เปียกๆวันรุ่งขึ้นไม่รอดแน่
ได้เวลาแช่ออนเซนละครับ สีส้มผู้หญิง เขียวผู้ชายนะ
ตอนเข้าไปไม่มีคน แอบถ่ายบรรยากาศที่ออนเซนมานิดนึง
สุดๆไปเลย ฝนพรำ มาเจอออนเซนอุ่นๆ
ก่อนจากโรงแรมที่น่ารักน่าประทับใจนี้ไป เติมพลังด้วยมื้อเช้าในห้องครับ
ตั้งเตากันต่อหน้าเลย
แค่นี้ก็ฟินละ
จบไปแล้วกับการพาเที่ยว Noboribetsu แบบฝนๆ
และรีวิวโรงแรมน่ารักๆ ใครมีโอกาสแนะนำเลยครับ
[CR] Noboribetsu วันฝนกระหน่ำ เรียวกัง Kashoutei Hanaya มื้อไคเซกิเสริฟในห้อง[Japan Backpack 2014 Hokkaido autumn&more]
อาหารมื้อพิเศษสำหรับทริป Autumn ฮอกไกโดที่ผ่านมา วันนี้จะพาไปเที่ยว Noboribetsu อีกหนึ่งเมืองออนเซน และหุบเขานรกที่โด่งดัง
แต่วันที่ไปโชคไม่ดี ฝนตกลงมาเกือบตลอดทั้งวัน ได้ไปเดินรอบหุบเขานรกแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ต้องกลับมาแช่ออนเซนที่โรงแรม เตรียมกินมื้อเย็น
โรงแรมนี้ชื่อ Kashotei Hanaya ใส่รายละเอียดต่างๆได้น่ารักมากๆครับ เลยอยากมาแนะนำ
เพื่อนที่ไปด้วยเคยไปพักโรงแรมใหญ่แล้วทัวร์ลงเยอะไม่ประทับใจ แต่ที่นี่สำหรับผมถือว่าประทับใจมาก
ค่าที่พักอยู่ที่ 28000 เยน/คืน/2คน รวมอาหาร 2 มื้อ คือ มื้อเย็น และมื้อเช้าของอีกวัน
ตกคนละ 14000 เยน หรือ 4200 บาท รวมอาหารมื้อไคเซกิ 1 มื้อ และมื้อเช้าแบบอิ่มๆอีก 1 มื้อ แช่ออนเซน อย่างสบายตลอดทั้งวัน
ผมว่าคุ้มมาก พูดคุยเพิ่มเติมกันได้ครับ https://www.facebook.com/Gonipponbydrjame
เปิดด้วยอาหารมื้อเย็นแบบไคเซกิที่เสริฟในห้องก่อนนะครับ แล้วค่อยไปดูโรงแรม
ภาพรวมของเซ็ตอาหารเย็น
ไคเซกิเป็นอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เสริฟตามลำดับ โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีในช่วงฤดูกาลนั้นๆ
เซ็ตแรกที่เสริฟเป็นแบบนี้ครับ
มาเจาะอาหารกันทีละอย่าง ตามลำดับที่หาข้อมูลประกอบมาเพิ่มเติมนะครับ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ผมผิดถูกยังไงช่วยแนะนำด้วยครับ
Sakizuke (先附) เป็น appetizer จานนี้เป็นหอยแมลงภู่น่าจะเอาไปอบแล้วเสริฟกับบ๊วยเค็ม และผลไม้ดอง รองมาด้วยเกลือครับที่เห็นขาวๆนั่นแหละ
ตามมาด้วย Mukōzuke (向付) เป็นเซ็ตซาชิมิ หรืออาหารดิบตามฤดูกาลที่มี
ถัดมาเสริฟมาในตะแกรงครอบแบบนี้ เป็นอะไรนะ
Hassun (八寸) เป็นอาหารเซ็ตที่จัดมาโดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลตกแต่งให้เข้ากับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือ Momiji ครับ
มีเป็นกุ้งสับปรุงรสด้วยน่าจะเป็นน้ำส้ม เสริฟมากับไข่หวาน และลูกพลับเชื่อม ตกแต่งด้วย Kamaboko ลูกชิ้นปลาที่ทำเป็นรูปใบเมเปิ้ล
Futamono (蓋物) ต่อมาก็เป็นซุปล้างปากที่ 1 ทั้งหมดเซ็ตจะมี 3 ซุปครับ
นี่เป็นซุปเต้าหู้ หนึบๆดีรสชาติและกลิ่นถั่วเหลืองชัดเจนมาก
Yakimono (焼物) เป็นอาหารย่าง ที่ยกมาเสริฟคือปลาย่าง มิโสะเสริฟมากับฟักทองนึ่งห่อไข่ จานนี้อร่อยครับ
Takiawase (煮合) จานนี้เป็นผักกับแครอทเสริฟมาพร้อมกับฟองเต้าหู้ที่น่าจะเอาไปตุ๋นมา
Shiizakana (強肴) เป็นจานหลักของมื้อ ในมื้อนี้เสริฟเป็นหม้อไฟครับ อร่อยมากกกก น้ำซุปหอมกลมกล่อม ซดจนหมดเลย
ลูกชิ้นก็อร่อย หมูนุ่มดี กลมกล่อมครับ
จัดหม้อมาสวยงาม
จานหลักอีกจาน
หมูตุ๋นคล้ายสตูวห่อมาในแป้งคล้ายแป้งพายครับ จานนี้อร่อยชอบๆ
ก่อนจะปิดท้ายด้วยข้าว Gohan (御飯) ทีโปะหน้ามาด้วยสาหร่อยและคิดว่านะจะเป็นหมึกสับละเอียดปรุงรสกับมิโสะ เค็มๆครับ
กับมิโสะซุป ซุปที่ 3 แล้ว ถ้านับหม้อไฟด้วย ล้างปากด้วยผักดองซึ่งถือเป็นอีกจานนึงในเซ็ต Su-zakana (酢肴)
สุดท้ายจริงๆด้วยผลไม้ Mizumono (水物) หรือของหวานตามฤดูกาล
แอบไม่อร่อย เหลืองๆนั่นนึกว่าเมลอน แต่ก็ชิ้นเล็กไปสีแปลกๆ สรุปคือมะละกอขมด้วย ไม่ผ่านครับ
สรุปสำหรับอาหารมื้อเย็นแบบไคเซกิ ที่โรงแรม Kashotei Hanaya รสชาติดีครับ เป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมทีเดียว
คนที่คุ้นกับอาหารญี่ปุ่นคงอร่อย สำหรับผมก็ว่าอร่อยดี แต่บางอย่างรสชาติเข้าถึงยาก พวกผักดองนี่กินกี่ทีๆก็ไม่อิน
กับอะไรที่มิโสะเยอะๆ ส่วนตัวก็ไม่ถูกปากเท่าไหร่ แต่โดยรวมด้วยวัตถุดิบ การปรุง การบริการเสริฟในห้อง ถือว่าดีครับ
ส่วนของโรงแรมกันบ้างครับ ถ่ายรูปไว้เยอะ ประทับใจรายละเอียดของที่นี่มาก
การเดินทางให้นั่งรถบัสจากสถานี Noboribetsu มาลงที่ป้าย Byoinmae ประมาณ 15 นาที
หน้าโรงแรมเป็นแบบนี้
เปิดประตูเข้ามามีเก้าอี้เล็กๆให้นั่ง
มองจากด้านในออกไปหน้าโรงแรม
เสื่อทาทามิตรงส่วนต้อนรับที่ต้องนั่งถอดรองเท้าก่อนเข้าโรงแรมน่ะครับ น่ารักมาก มีนกตัวเล็กๆด้วย
ไม้ช่วยใส่รองเท้าที่วางอยู่ข้างหน้า
ห้องเก็บรองเท้า ถอดรองเท้าแล้ว ลุงๆป้าๆจะช่วยเอารองเท้าไปเก็บให้ครับ สตาฟที่นี่ส่วนมากอายุเกิน 40-50 ทุกคนเลย
เชคอิน
กรอกรายละเอียดยื่นพาสปอร์ตเรียบร้อย คุณป้าที่ต้อนรับบอกให้เรานั่งรอซักครู่ขณะเตรียมห้องให้เรียบร้อย
ตอนนั้นไปถึงประมาณเที่ยงพอดีครับ ก็รออยู่มุมนี้
มีสวนญี่ปุ่นที่จัดไว้สวยงามให้นั่งดู
มีเวลานั่งดูสวนซักพักผ่อนคลายมากๆ
ชามาเสริฟระหว่างนั่งรอห้องพักเรียบร้อย
ใครรู้บ้างครับว่าก้อนๆนั่นในน้ำคืออะไร ตอนแรกคิดว่าเป็นชา แต่พอลองคนๆดูปรากฎว่ามันเค็ม ออกแนวซุปอะไรซะมากกว่า
ไม่ไหวๆ เริ่มหิวแล้วด้วย ต้องงัดเอาขนมที่พกมาจากโอตารุออกมาซะหน่อย อันนี้แนะนำนะครับ ซื้อได้เลย
เป็นขนมรวมๆขายเป็นห่อๆ ซื้อจากร้านขายของฝากที่โอตารุ อร่อยดี ทัวร์จีนหอบกันคนละตะกร้าพูนๆเลย
ล็อบบี้มีขายของที่ระลึกของเมืองด้วย
มีน้องแมวทุกที่เลยญี่ปุ่นนี่
ของตกแต่งตามมุมต่างๆในชั้นล่างบริเวณล็อบบี้กับออนเซนครับ
โนโบริเบตสึก็ต้องมียักษ์นะ
ได้เวลาขึ้นห้องแล้ว ในลิฟท์บอกรายละเอียดว่าแต่ละชั้นมีอะไร
ทางเดินเข้าห้องก็ตกแต่งน่ารักตามรายทาง
ไปดูในห้องกัน เป็นห้องเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่นครับ ไม่กว้างมาก
ด้านหน้าเป็นส่วนห้องสุขา ไม่มีห้องน้ำเพราะให้ลงไปแช่ออนเซนเอาครับ
ของตกแต่งในห้อง
เสริฟชาเขียวหลังจากเข้าห้องแล้ว ในกล่องนั่นเป็น ผักดองครับให้กัดแกล้มชา เง้ออนึกว่าขนม
ตู้เก็บฟูกนอน ที่ป้าๆจะมาปูให้หลังจากที่เรากินมื้อเย็นเสร็จ นอนสบายนะ
หน้าต่างหลังห้องเปิดได้ ให้เห็นวิวนี้ครับ ฝนยังพรำๆนะตอนมาถึง แต่ซักพักอะ ลงหนักเลย
ฝนเริ่มซาก็ออกไปเที่ยวกันครับ ที่หุบเขานรก Jigokudani จากโรงแรมเดินขึ้นไปบนส่วนที่เรียกว่า Noboribetsu onsem 20 นาที ก็ถึงละครับ
ระหว่างทางอารมณ์ประมาณนี้ แต่เราโชคดี ทางโรงแรมบริการเอารถไปส่ง คงเห็นว่าฝนจะตกแล้ว เลยปรู๊ดเดียวถึงเลย
ทัศนียภาพแปลกตามากครับ สีสันของเนินดินต่างๆใบไม้เปลี่ยนสีสดใส และควันที่พวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน
มีสะพานให้เราเดินตามทางไปจนถึงบ่อน้ำที่เดือดปะทุอยู่ข้างล่าง
ลำธารอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากภูเขาไฟ
ฝนหยุดให้เราได้เดินอยู่ที่หุบเขานรก Jigokudani นี่แค่ชั่วโมงเดียว จากนั้นก็เทกระหน่ำลงมาเลย
ทำให้การมาเที่ยว Noboribetsu รอบนี้ได้เที่ยวที่นี่แค่ที่เดียวเลยครับ
ติดฝนอยู่ตรงร้านขายของที่ระลึกพักใหญ่
เข้าห้องน้ำอะไรก็แล้ว
ในที่สุดก็ตัดสินใจวิ่งฝ่าฝนกลับโรงแรมครับ ไม่มีทีท่าจะเบาลงเลย
มะลอกมะแลกกันกลับมา โรงแรมน่ารักมาก เอาเสื้อโค้ตและรองเท้าของพวกเรา ไปอบแห้งให้ มีคู่เดียวใส่เปียกๆวันรุ่งขึ้นไม่รอดแน่
ได้เวลาแช่ออนเซนละครับ สีส้มผู้หญิง เขียวผู้ชายนะ
ตอนเข้าไปไม่มีคน แอบถ่ายบรรยากาศที่ออนเซนมานิดนึง
สุดๆไปเลย ฝนพรำ มาเจอออนเซนอุ่นๆ
ก่อนจากโรงแรมที่น่ารักน่าประทับใจนี้ไป เติมพลังด้วยมื้อเช้าในห้องครับ
ตั้งเตากันต่อหน้าเลย
แค่นี้ก็ฟินละ
จบไปแล้วกับการพาเที่ยว Noboribetsu แบบฝนๆ
และรีวิวโรงแรมน่ารักๆ ใครมีโอกาสแนะนำเลยครับ