อยู่อย่างคนเพ้อฝันในวันเศร้า
เคียงคู่เงาระทมตรมหนักหนา
ขาดคนคอยห่วงใยให้พึ่งพา
เปรียบเศษดินท้องนาค่าไม่มี
ต้องเจ็บช้ำจำทนเหมือนคนบ้า
โชคชะตาคลับคล้ายไกลหลีกหนี
เฝ้าโศกศัลย์นานนับกับเดือนปี
ดวงฤดีรอนร้าวเฝ้าตรมใจ
นั่งเหม่อมองฟากฟ้า คราสับสน
ทุกข์เสียจนปวดปร่าน้ำตาไหล
หรือเพราะกรรมทำฉันนั้นเป็นไป
ได้แต่ร้องร่ำไห้ใต้แสงดาว
โอ้ดาวเอยดาวน้อยเจ้าลอยเด่น
โอบเดือนเพ็ญส่องฉาย ปลายห้วงหาว
แต่ตัวฉันสิ้นแสงแห่งรักพราว
ต้องนอนหนาวเศร้าซม"ขื่นขม"ใจ..
“สุนันท์ยา”
***“ขื่นขม”***
อยู่อย่างคนเพ้อฝันในวันเศร้า
เคียงคู่เงาระทมตรมหนักหนา
ขาดคนคอยห่วงใยให้พึ่งพา
เปรียบเศษดินท้องนาค่าไม่มี
ต้องเจ็บช้ำจำทนเหมือนคนบ้า
โชคชะตาคลับคล้ายไกลหลีกหนี
เฝ้าโศกศัลย์นานนับกับเดือนปี
ดวงฤดีรอนร้าวเฝ้าตรมใจ
นั่งเหม่อมองฟากฟ้า คราสับสน
ทุกข์เสียจนปวดปร่าน้ำตาไหล
หรือเพราะกรรมทำฉันนั้นเป็นไป
ได้แต่ร้องร่ำไห้ใต้แสงดาว
โอ้ดาวเอยดาวน้อยเจ้าลอยเด่น
โอบเดือนเพ็ญส่องฉาย ปลายห้วงหาว
แต่ตัวฉันสิ้นแสงแห่งรักพราว
ต้องนอนหนาวเศร้าซม"ขื่นขม"ใจ..
“สุนันท์ยา”