หลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง Butterfly Effect เพียงเด็ดดอกไม้ก็สะเทือนถึงดวงดาว อะไรเล็ก ๆ น้อยที่เกิดขึ้นอาจส่งผลใหญ่โต พลิกแพลงเปลี่ยนชีวิตคน ๆ หนึ่งไปตลอดกาล ชีวิของชายูจินก็เช่นกัน ความเปลี่ยนแปลงนั้นก็กิดขึ้นจาก "ดนตรี" ซึ่งถ้าพูดให้ชัดลงไปอีก มันคือ "ดนตรี" ของยัยเพี้ยนคนหนึ่งที่โดยปกติแล้วคนระดับชายูจินคงไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดคือความซวยบรมซวยในคลาสเปียโนตัวต่อตัวของยูจินและอาจารย์โทที่ขึ้นชื่อว่าเด็กในคาถาต้องระดับ A++ ชายูจินก็เป็นหนึ่งในนั้น ช่วงนั้นชายูจินกำลังป่วยจิตหลายอย่าง มองคนที่(รู้สึก)ว่าด้อยกว่าเราข้ามหัวไปข้ามหัวมา ห่วยเอ๊ย โน่นก็ห่วย นี่ก็ห่วย แค้นแทบกระอักออกมาเป็นเลือดก็มิปาน ยูจินพกพาอารมณ์เล่านั้นเข้าไปในห้องเรียนแล้วเกิดมีปากเสียงกับอาจารย์โท นอกจากจะถูกไล่ออกจากการเป็นเด็กในสังกัดแล้ว อาจารย์โทยังแค้นฝั่งหุ่นอีกต่างหาก
จบสิ้นกันแล้วชีวิต .... ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ชายูจินไม่ต่างอะไรกับเจ้าชาย แต่คงเป็นเจ้าชายที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกอยู่ซักหน่อย ด้วยความเด่นความเก่งที่ไม่เป็นสองรองใคร รวมทั้งฐานะทางบ้านที่ไม่เคยเดือดร้อน โลกทั้งใบของชายูจินมีเพียงดนตรี คนที่เชื่อใจได้มีเพียงมาเอสโตรวิเอร่า เมื่อผู้เป็นแม่หย่ากับพ่อซึ่งเป็นนักเปียโนมือทอง แม่ได้หอบเอาตัวเขากลับมาจากยุโรปตั้งต้นใหม่ที่เกาหลี ต้นแบบผู้เป็นพ่ออย่างมาเอสโตรวิเอร่าถูกตัดขาด และ เขาก็โหยหามันยิ่งนัก
ใครจะคาดคิดว่าเที่ยวบินที่กลับจากยุโรปในคราวนั้นค่อนไปทางระทึกขวัญ มากเสียจนปิดเส้นทางการเดินทางด้วยเครื่องบินของเขาจนกระทั่งทุกวันนี้ ความสามารถเรามีล้นเหลือมากมายนัก อยากจะกลับไปหามาเอสโตรใจจะขาด แต่ต่อให้เก่งแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ เมื่ออุปสรรคที่ขวางหน้ามันไม่ใช่ฝีมือแต่เป็น "ตัวเรา" ด้วยความปรารถนาที่จะเดินทางไปพบมาเอสโตร และ ความรักในดนตรี ยูจินบ่มเพาะความสามารถตัวเองเอาไว้ แต่ด้วยความกดดันชีวิตที่มากมายนิสัยของเจ้าตัวจึงไม่น่าโสภา แม้จะขึ้นชื่อลือชาในความเก่งกาจ และ หน้าตาหล่อเหลา ชายูจินจึงไม่ใช่เจ้าชายขี่ม้าขาว แต่เป็น Dark Prince แห่งความมืด
คำพูดที่หลุดจากปากแสบร้อนยิ่งกว่าถวายพระเพลิง แต่เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายก็ต้องยอมรับว่า หมอนี่มัน "พูดถูก" จริง ๆ การบ่มเพาะความสามารถตัวเองให้เป็นที่ยอมรับทำให้ชายูจิน "เป๊ะ" ทุกสิ่งอย่าง โน้ตเหรอ สกอร์เหรอ จังหวะเหรอ sightseeing เหรอ improvise เหรอ ear trainging เหรอ โถ้วววว อย่าให้ said มีอะไรบ้างที่ชายูจินคนนี้ทำไม่ได้ ความรู้ทางดนตรี ทฤษฎี ประวัติศาสตร์ ไม่ต้องมาพูดกัน เลิศ ๆ ทั้งนั้น แต่สิ่งเหล่านี้มีความหมายอะไร เมื่อหนทางปิดตายออกสู่โลกกว้างไม่ได้แล้ว
ความคิดนี้ติดอยู่ในใจเนิ่นนานแล้วมันก็ดันมาระเบิดออกในเวลาที่โคตรสำคัญ คือ เวลาที่จะจบการศึกษา จบแล้วชีวิต สิ้นหวังแล้วฉัน และในวันนั้นท่ามกลางอารมณ์อัดแน่นในอก เสียงเพลงแผ่วเบาลอยมาตามลม ดังการกระพือปีกของผีเสือ เช่นเดียวกับก้านดอกไม้ไหวอ่อนเมื่อถูกปลิด เฮ้อ ห่วย ทั้งห่วยทั้งมั่ว แต่เอ๊ะ .... ไม่ผิดเลยนี่ ท่วงทำนองงดงามราวลำนำขับขาน มันอาจจะยังไม่เปิดโลกทัศน์ของชายูจินมากเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรผีเสื้อก็กระพือปีกแล้ว
คนเราถึงเวลาที่แย่ที่สุดเรื่องแย่มันมักจะไม่จบแค่เรื่องเดียว เขาถูกไล่ส่งในช่วงกลางวันยังไม่พอ ยังถูกบอกเลิกแฟนข่าวคู่กิ่งทองใบหยก ในตอนกลางคืนอีกต่างหาก อีโก้ถูกตีแตกยับ ความมั่นใจสลายไปแทบไม่เหลือ แบบนี้แม่มต้องเมาลูกเดียว แล้วก็ได้เรื่อง .... ในฝันของชายูจิน มีลมรำเพยพัด เสียงเปียโนกังวาลแว่ว เสียงเปียโนไร้ขนบราวตัวโน้ตส่งเสียงขับขานด้วยตัวของมันเอง แต่ยอดหญ้าไหวเอนนั้นบังมิด ใครกันหนออยู่ที่นั่น ก่อนจะฟื้นคืนสติขึ้นมาพบว่าเสียงไพเราะเพราะพริ้งมันเกิดท่ามกลางกองขยะ พร้อมยัยตัวประหลาดตัวหนึ่งพรมนิ้วอยู่บนเปียโน
แล้วก็ต้องตกใจเพิ่มขึ้นมาเป็นขั้นสองเพื่อพบว่าต้องมาเล่นเปียโนสี่มือกับยัยประหลาดแนอิลภายใต้การดูแลของอาจารย์อัน(ปารมจารย์ดูแลเด็กห่วย) เฮ้ย ถูกลดชั้นมาขนาดนี้ แล้วยังต้องมาเล่นเปียโนกับยัยเด็กแนอิลไม่ได้ความนี่อีก ชีวิตมันจะซวยจะห่วยได้กว่านี้อีกไหม ? แต่ ... เฮ้ย ฉันคือชายูจินป่ะ แค่เด็กบ๊อง ๆ คนนึงจะเอาไม่อยู่เชียวหรือ เอ๊ะ .... ยัยเด็กนี่ นางมีของนะ ไม่มีใครมองเห็นเลยเหรอ อ่ะ แน่น้อนนนน มันต้องฉันคนนี้เท่านั้นสินะที่เห็น และ มันก็ต้องเป็นฉันคนนี้ด้วยล่ะที่เอาอยู่
ด้วยความเป๊ะ ชายูจินทั้งอัด ทั้งตบ ทั้งขู่ แต่ก็หาเป็นผลไม่แถมยังโดนกัดอีก เอาล่ะ งั้นเธอเล่นของเธอไป ฉันคนนี้จะประสานให้ดู จากนั้นคือการวิ่งไล่กวดในแบบฉบับเปียโนสี่มือ เอาซี้เล่นยังไงฉันก็รับได้ ฉันจะเป็นคนตบมันให้อยู่ในร่องในรอยเอง เปียโนม้าพยศของเธอ ถึงมันจะตามอารมณ์ไปหน่อย แต่โน้ตไม่ผิดรวมถึงเทคนิคก็เลอเลิศ อีโก้ของยูจินประกอบร่าง ความมั่นใจก่อรูปขึ้นมาใหม่ ผีเสื้อตัวเล็กขยับปีกครั้งที่สองในห้องซ้อมดนตรีเล็ก ๆ
ยูจินเองก็ไม่รู้ตัวว่า การขยับปีกของผีเสื้อตัวน้อยในครั้งต่อ ๆ ไป มันจะสามารถกลายเป็นพายุซึ่งเปลี่ยนชีวิตของเขา และ ยัยประหลาดแนอิล ไปตลอดกาล ถึงจะยังออกจากเกาหลีไม่ได้ แต่ตอนนี้ชีวิตชายูจินไม่ว่างเปล่าอีกแล้ว ที่แท้ที่เกาหลีก็ยังมีหลายสิ่งให้ทำ
Tomorrow Cantabile (คาแร็คเตอร์รีวิว) : Dark Prince and His Butterfly Effect (Spoiled)
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดคือความซวยบรมซวยในคลาสเปียโนตัวต่อตัวของยูจินและอาจารย์โทที่ขึ้นชื่อว่าเด็กในคาถาต้องระดับ A++ ชายูจินก็เป็นหนึ่งในนั้น ช่วงนั้นชายูจินกำลังป่วยจิตหลายอย่าง มองคนที่(รู้สึก)ว่าด้อยกว่าเราข้ามหัวไปข้ามหัวมา ห่วยเอ๊ย โน่นก็ห่วย นี่ก็ห่วย แค้นแทบกระอักออกมาเป็นเลือดก็มิปาน ยูจินพกพาอารมณ์เล่านั้นเข้าไปในห้องเรียนแล้วเกิดมีปากเสียงกับอาจารย์โท นอกจากจะถูกไล่ออกจากการเป็นเด็กในสังกัดแล้ว อาจารย์โทยังแค้นฝั่งหุ่นอีกต่างหาก
จบสิ้นกันแล้วชีวิต .... ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ชายูจินไม่ต่างอะไรกับเจ้าชาย แต่คงเป็นเจ้าชายที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกอยู่ซักหน่อย ด้วยความเด่นความเก่งที่ไม่เป็นสองรองใคร รวมทั้งฐานะทางบ้านที่ไม่เคยเดือดร้อน โลกทั้งใบของชายูจินมีเพียงดนตรี คนที่เชื่อใจได้มีเพียงมาเอสโตรวิเอร่า เมื่อผู้เป็นแม่หย่ากับพ่อซึ่งเป็นนักเปียโนมือทอง แม่ได้หอบเอาตัวเขากลับมาจากยุโรปตั้งต้นใหม่ที่เกาหลี ต้นแบบผู้เป็นพ่ออย่างมาเอสโตรวิเอร่าถูกตัดขาด และ เขาก็โหยหามันยิ่งนัก
ใครจะคาดคิดว่าเที่ยวบินที่กลับจากยุโรปในคราวนั้นค่อนไปทางระทึกขวัญ มากเสียจนปิดเส้นทางการเดินทางด้วยเครื่องบินของเขาจนกระทั่งทุกวันนี้ ความสามารถเรามีล้นเหลือมากมายนัก อยากจะกลับไปหามาเอสโตรใจจะขาด แต่ต่อให้เก่งแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ เมื่ออุปสรรคที่ขวางหน้ามันไม่ใช่ฝีมือแต่เป็น "ตัวเรา" ด้วยความปรารถนาที่จะเดินทางไปพบมาเอสโตร และ ความรักในดนตรี ยูจินบ่มเพาะความสามารถตัวเองเอาไว้ แต่ด้วยความกดดันชีวิตที่มากมายนิสัยของเจ้าตัวจึงไม่น่าโสภา แม้จะขึ้นชื่อลือชาในความเก่งกาจ และ หน้าตาหล่อเหลา ชายูจินจึงไม่ใช่เจ้าชายขี่ม้าขาว แต่เป็น Dark Prince แห่งความมืด
คำพูดที่หลุดจากปากแสบร้อนยิ่งกว่าถวายพระเพลิง แต่เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายก็ต้องยอมรับว่า หมอนี่มัน "พูดถูก" จริง ๆ การบ่มเพาะความสามารถตัวเองให้เป็นที่ยอมรับทำให้ชายูจิน "เป๊ะ" ทุกสิ่งอย่าง โน้ตเหรอ สกอร์เหรอ จังหวะเหรอ sightseeing เหรอ improvise เหรอ ear trainging เหรอ โถ้วววว อย่าให้ said มีอะไรบ้างที่ชายูจินคนนี้ทำไม่ได้ ความรู้ทางดนตรี ทฤษฎี ประวัติศาสตร์ ไม่ต้องมาพูดกัน เลิศ ๆ ทั้งนั้น แต่สิ่งเหล่านี้มีความหมายอะไร เมื่อหนทางปิดตายออกสู่โลกกว้างไม่ได้แล้ว
ความคิดนี้ติดอยู่ในใจเนิ่นนานแล้วมันก็ดันมาระเบิดออกในเวลาที่โคตรสำคัญ คือ เวลาที่จะจบการศึกษา จบแล้วชีวิต สิ้นหวังแล้วฉัน และในวันนั้นท่ามกลางอารมณ์อัดแน่นในอก เสียงเพลงแผ่วเบาลอยมาตามลม ดังการกระพือปีกของผีเสือ เช่นเดียวกับก้านดอกไม้ไหวอ่อนเมื่อถูกปลิด เฮ้อ ห่วย ทั้งห่วยทั้งมั่ว แต่เอ๊ะ .... ไม่ผิดเลยนี่ ท่วงทำนองงดงามราวลำนำขับขาน มันอาจจะยังไม่เปิดโลกทัศน์ของชายูจินมากเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรผีเสื้อก็กระพือปีกแล้ว
คนเราถึงเวลาที่แย่ที่สุดเรื่องแย่มันมักจะไม่จบแค่เรื่องเดียว เขาถูกไล่ส่งในช่วงกลางวันยังไม่พอ ยังถูกบอกเลิกแฟนข่าวคู่กิ่งทองใบหยก ในตอนกลางคืนอีกต่างหาก อีโก้ถูกตีแตกยับ ความมั่นใจสลายไปแทบไม่เหลือ แบบนี้แม่มต้องเมาลูกเดียว แล้วก็ได้เรื่อง .... ในฝันของชายูจิน มีลมรำเพยพัด เสียงเปียโนกังวาลแว่ว เสียงเปียโนไร้ขนบราวตัวโน้ตส่งเสียงขับขานด้วยตัวของมันเอง แต่ยอดหญ้าไหวเอนนั้นบังมิด ใครกันหนออยู่ที่นั่น ก่อนจะฟื้นคืนสติขึ้นมาพบว่าเสียงไพเราะเพราะพริ้งมันเกิดท่ามกลางกองขยะ พร้อมยัยตัวประหลาดตัวหนึ่งพรมนิ้วอยู่บนเปียโน
แล้วก็ต้องตกใจเพิ่มขึ้นมาเป็นขั้นสองเพื่อพบว่าต้องมาเล่นเปียโนสี่มือกับยัยประหลาดแนอิลภายใต้การดูแลของอาจารย์อัน(ปารมจารย์ดูแลเด็กห่วย) เฮ้ย ถูกลดชั้นมาขนาดนี้ แล้วยังต้องมาเล่นเปียโนกับยัยเด็กแนอิลไม่ได้ความนี่อีก ชีวิตมันจะซวยจะห่วยได้กว่านี้อีกไหม ? แต่ ... เฮ้ย ฉันคือชายูจินป่ะ แค่เด็กบ๊อง ๆ คนนึงจะเอาไม่อยู่เชียวหรือ เอ๊ะ .... ยัยเด็กนี่ นางมีของนะ ไม่มีใครมองเห็นเลยเหรอ อ่ะ แน่น้อนนนน มันต้องฉันคนนี้เท่านั้นสินะที่เห็น และ มันก็ต้องเป็นฉันคนนี้ด้วยล่ะที่เอาอยู่
ด้วยความเป๊ะ ชายูจินทั้งอัด ทั้งตบ ทั้งขู่ แต่ก็หาเป็นผลไม่แถมยังโดนกัดอีก เอาล่ะ งั้นเธอเล่นของเธอไป ฉันคนนี้จะประสานให้ดู จากนั้นคือการวิ่งไล่กวดในแบบฉบับเปียโนสี่มือ เอาซี้เล่นยังไงฉันก็รับได้ ฉันจะเป็นคนตบมันให้อยู่ในร่องในรอยเอง เปียโนม้าพยศของเธอ ถึงมันจะตามอารมณ์ไปหน่อย แต่โน้ตไม่ผิดรวมถึงเทคนิคก็เลอเลิศ อีโก้ของยูจินประกอบร่าง ความมั่นใจก่อรูปขึ้นมาใหม่ ผีเสื้อตัวเล็กขยับปีกครั้งที่สองในห้องซ้อมดนตรีเล็ก ๆ
ยูจินเองก็ไม่รู้ตัวว่า การขยับปีกของผีเสื้อตัวน้อยในครั้งต่อ ๆ ไป มันจะสามารถกลายเป็นพายุซึ่งเปลี่ยนชีวิตของเขา และ ยัยประหลาดแนอิล ไปตลอดกาล ถึงจะยังออกจากเกาหลีไม่ได้ แต่ตอนนี้ชีวิตชายูจินไม่ว่างเปล่าอีกแล้ว ที่แท้ที่เกาหลีก็ยังมีหลายสิ่งให้ทำ