ข้อมูลจาก: dek-d ซ้ำต้องขอโทษด้วยครับ
8 พฤติกรรมที่ห้ามทำบนเครื่องบิน เพราะจะถูกเชิญลงจากเครื่องได้!!
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ ก็คงจะรู้ถึงมารยาทและสิ่งที่ควรปฏิบัติบนเครื่องบินกันบ้างแล้ว และในบทความนี้ผมก็จะมาแนะนำเพิ่มเติมสำหรับ 8 พฤติกรรมที่ห้ามทำบนเครื่องบิน เพราะจะถูกเชิญลงจากเครื่องได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
1. แต่งตัวไม่สุภาพ
ในกรณีหากเป็นผู้หญิง การแต่งตัวไม่สุภาพจะอยู่ในระดับที่ หน้าอกแทบจะล้นออกมากองหรือสั้นมากจนเห็นแก้มก้น ประมาณว่าถ้าเดินขึ้นเครื่องบินมาแล้วทุกคนหันมามองที่เราเป็นสายตาเดียว นั่นแปลว่าชุดที่ใส่มาไม่โอเคแล้ว สำหรับหนุ่มๆ ระดับที่ไม่สุภาพน่าจะประมาณว่า แต่งตัวสไตล์ฮิปฮอปหลุดโลกไปหน่อย คือกางเกงแทบจะหลุดลงไปกองอยู่แล้ว ลูกเรืออาจมาขอร้องให้ดึงขึ้นหรือหาเข็มขัดรัด ถ้าทำตามก็ไม่มีปัญหาครับ
2. พูดจาหยาบคาย ด่าทอ เสียดสีลูกเรือ
ในกรณีที่เครื่องบินยังไม่ take off หากเราต้องการความช่วยเหลือใดๆ ที่จำเป็นมากๆ เราก็สามารถบอกลูกเรือได้ เช่น ขอน้ำเพราะจำเป็นจะต้องทานยาเดี๋ยวนั้น ถ้าลูกเรือสามารถทำให้ได้ ณ ตอนนั้น เค้าก็จะทำให้ครับ แต่บางคนถึงขั้นจะขอให้เอาอาหารมาเสิร์ฟเดี๋ยวนั้นเลย เมื่อถูกลูกเรือปฏิเสธจึงแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม แถมยังด่าหยาบๆ ลูกเรือก็มีสิทธิ์แจ้งไปยังกัปตันแล้วเชิญผู้โดยสารคนนั้นลงจากเครื่องได้
3. เมา
คนที่เมาเป๋นั้นขาดสติ อาจลุกมาทำอะไรที่ส่งผลร้ายได้ เช่น ลุกมาจะเปิดประตูเครื่องบิน ลุกมาพังข้าวของบนเครื่องบิน ซึ่งหากเครื่องบินบินขึ้นแล้ว ก็คงแก้ปัญหายากแน่ๆ ดังนั้นเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ถ้าผู้โดยสารคนไหนมีกลิ่นแอลกอฮออล์หึ่งหรือดูท่าทางจะเมา ลูกเรือก็จะมาเชิญให้ลงจากเครื่องเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่นๆ
4. ผู้โดยสารโวยวาย หรือ ทะเลาะกัน
จากสถิติแล้ว ผู้โดยสารชาติที่ครองแชมป์สร้างเรื่องนี้คือบรรดาคุณลุงคุณป้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ ปัญหายอดฮิตคือแย่งที่นั่งกันนั่นเอง อีกเคสที่ได้ยินมาคือ เป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่ทะเลาะกันดังลั่น ถึงแม้เครื่องบินเคลื่อนตัวออกจากที่จอดแล้ว กัปตันก็ขับกลับมาจอดแล้วเชิญทั้งคู่ลงจากเครื่องเหมือนกัน
5. วุ่นวาย รบกวนผู้โดยสารคนอื่น
สำหรับกรณีนี้มักเกิดกับผู้โดยสารที่เป็นเด็กเล็กที่ซนและป่วน ถ้าซนแบบวุ่นวายจนเกินไป ลูกเรือก็จะใช้วิจารณญาณไตร่ตรองว่าพอรับมือได้มั้ย ถ้าเห็นว่าไม่ไหวแน่ๆ ก็จะเชิญน้องคนนั้นลงพร้อมกับผู้ปกครองด้วยเลย แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กมากๆ ที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องที่ร้องไห้ดังลั่น อันนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้
6. ผู้โดยสารป่วยหนัก
แอร์โฮสเตสอาจจะต้องปรึกษาหัวหน้าเที่ยวบินว่าโอเคมั้ย ถ้าอยู่ในระดับที่มีโอกาสจะติดต่อไปยังผู้โดยสารคนอื่นได้ ก็อาจเชิญลงจากเครื่อง ส่วนใครที่ป่วยหนักจริงๆ แล้วจำเป็นต้องเดินทางด้วยสาเหตุที่จำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่น บินไปผ่าตัดที่ต่างประเทศ ก็จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์ติดตัวมาด้วย
7. ทำสิ่งที่ไม่สมควร
สิ่งที่ไม่สมควร เช่น การถ่ายรูปแอร์โฮสเตส จริงๆ ไม่ได้มีกฎห้ามว่าถ่ายรูปแอร์โฮสเตส แต่ทางที่ดีควรขออนุญาตก่อนจะดีกว่า เคยมีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือผู้โดยสารรายหนึ่งมีปัญหากับลูกเรือก่อนเครื่องจะขึ้น กำลังเถียงโช้งเช้งกันอยู่เลย ก็มีผู้โดยสารอีกคนหยิบกล้องมาบันทึกเหตุการณ์ไว้ ลูกเรือเลยขอร้องให้ลบออก แต่เธอไม่ลบออก จึงโดนเชิญลงจากเครื่องไปอีกราย
8. เหตุผลทางกายภาพร่างกาย
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับสายการบินในประเทศของแคนาดา ที่เคยมีการเชิญผู้โดยสารลงเนื่องจากผู้โดยสารคนนั้น “มีกลิ่นตัวที่แรงมากเกินไป” ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารในเครื่องบิน ตามข่าวเล่ามาว่า กลิ่นแรงมากจนผู้โดยสารคนอื่นขอร้องว่าไม่ไหวแล้ว ลูกเรือก็ต้องจำใจมาเชิญผู้โดยสารท่านนั้นลงไป
ข้อมูลจาก: dek-d
สืบเนื่องมนุษย์ลุงโดนเชิญลงจากเครื่อง
8 พฤติกรรมที่ห้ามทำบนเครื่องบิน เพราะจะถูกเชิญลงจากเครื่องได้!!
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ ก็คงจะรู้ถึงมารยาทและสิ่งที่ควรปฏิบัติบนเครื่องบินกันบ้างแล้ว และในบทความนี้ผมก็จะมาแนะนำเพิ่มเติมสำหรับ 8 พฤติกรรมที่ห้ามทำบนเครื่องบิน เพราะจะถูกเชิญลงจากเครื่องได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
1. แต่งตัวไม่สุภาพ
ในกรณีหากเป็นผู้หญิง การแต่งตัวไม่สุภาพจะอยู่ในระดับที่ หน้าอกแทบจะล้นออกมากองหรือสั้นมากจนเห็นแก้มก้น ประมาณว่าถ้าเดินขึ้นเครื่องบินมาแล้วทุกคนหันมามองที่เราเป็นสายตาเดียว นั่นแปลว่าชุดที่ใส่มาไม่โอเคแล้ว สำหรับหนุ่มๆ ระดับที่ไม่สุภาพน่าจะประมาณว่า แต่งตัวสไตล์ฮิปฮอปหลุดโลกไปหน่อย คือกางเกงแทบจะหลุดลงไปกองอยู่แล้ว ลูกเรืออาจมาขอร้องให้ดึงขึ้นหรือหาเข็มขัดรัด ถ้าทำตามก็ไม่มีปัญหาครับ
2. พูดจาหยาบคาย ด่าทอ เสียดสีลูกเรือ
ในกรณีที่เครื่องบินยังไม่ take off หากเราต้องการความช่วยเหลือใดๆ ที่จำเป็นมากๆ เราก็สามารถบอกลูกเรือได้ เช่น ขอน้ำเพราะจำเป็นจะต้องทานยาเดี๋ยวนั้น ถ้าลูกเรือสามารถทำให้ได้ ณ ตอนนั้น เค้าก็จะทำให้ครับ แต่บางคนถึงขั้นจะขอให้เอาอาหารมาเสิร์ฟเดี๋ยวนั้นเลย เมื่อถูกลูกเรือปฏิเสธจึงแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม แถมยังด่าหยาบๆ ลูกเรือก็มีสิทธิ์แจ้งไปยังกัปตันแล้วเชิญผู้โดยสารคนนั้นลงจากเครื่องได้
3. เมา
คนที่เมาเป๋นั้นขาดสติ อาจลุกมาทำอะไรที่ส่งผลร้ายได้ เช่น ลุกมาจะเปิดประตูเครื่องบิน ลุกมาพังข้าวของบนเครื่องบิน ซึ่งหากเครื่องบินบินขึ้นแล้ว ก็คงแก้ปัญหายากแน่ๆ ดังนั้นเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ถ้าผู้โดยสารคนไหนมีกลิ่นแอลกอฮออล์หึ่งหรือดูท่าทางจะเมา ลูกเรือก็จะมาเชิญให้ลงจากเครื่องเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่นๆ
4. ผู้โดยสารโวยวาย หรือ ทะเลาะกัน
จากสถิติแล้ว ผู้โดยสารชาติที่ครองแชมป์สร้างเรื่องนี้คือบรรดาคุณลุงคุณป้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ ปัญหายอดฮิตคือแย่งที่นั่งกันนั่นเอง อีกเคสที่ได้ยินมาคือ เป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่ทะเลาะกันดังลั่น ถึงแม้เครื่องบินเคลื่อนตัวออกจากที่จอดแล้ว กัปตันก็ขับกลับมาจอดแล้วเชิญทั้งคู่ลงจากเครื่องเหมือนกัน
5. วุ่นวาย รบกวนผู้โดยสารคนอื่น
สำหรับกรณีนี้มักเกิดกับผู้โดยสารที่เป็นเด็กเล็กที่ซนและป่วน ถ้าซนแบบวุ่นวายจนเกินไป ลูกเรือก็จะใช้วิจารณญาณไตร่ตรองว่าพอรับมือได้มั้ย ถ้าเห็นว่าไม่ไหวแน่ๆ ก็จะเชิญน้องคนนั้นลงพร้อมกับผู้ปกครองด้วยเลย แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กมากๆ ที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องที่ร้องไห้ดังลั่น อันนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้
6. ผู้โดยสารป่วยหนัก
แอร์โฮสเตสอาจจะต้องปรึกษาหัวหน้าเที่ยวบินว่าโอเคมั้ย ถ้าอยู่ในระดับที่มีโอกาสจะติดต่อไปยังผู้โดยสารคนอื่นได้ ก็อาจเชิญลงจากเครื่อง ส่วนใครที่ป่วยหนักจริงๆ แล้วจำเป็นต้องเดินทางด้วยสาเหตุที่จำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่น บินไปผ่าตัดที่ต่างประเทศ ก็จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์ติดตัวมาด้วย
7. ทำสิ่งที่ไม่สมควร
สิ่งที่ไม่สมควร เช่น การถ่ายรูปแอร์โฮสเตส จริงๆ ไม่ได้มีกฎห้ามว่าถ่ายรูปแอร์โฮสเตส แต่ทางที่ดีควรขออนุญาตก่อนจะดีกว่า เคยมีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือผู้โดยสารรายหนึ่งมีปัญหากับลูกเรือก่อนเครื่องจะขึ้น กำลังเถียงโช้งเช้งกันอยู่เลย ก็มีผู้โดยสารอีกคนหยิบกล้องมาบันทึกเหตุการณ์ไว้ ลูกเรือเลยขอร้องให้ลบออก แต่เธอไม่ลบออก จึงโดนเชิญลงจากเครื่องไปอีกราย
8. เหตุผลทางกายภาพร่างกาย
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับสายการบินในประเทศของแคนาดา ที่เคยมีการเชิญผู้โดยสารลงเนื่องจากผู้โดยสารคนนั้น “มีกลิ่นตัวที่แรงมากเกินไป” ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารในเครื่องบิน ตามข่าวเล่ามาว่า กลิ่นแรงมากจนผู้โดยสารคนอื่นขอร้องว่าไม่ไหวแล้ว ลูกเรือก็ต้องจำใจมาเชิญผู้โดยสารท่านนั้นลงไป
ข้อมูลจาก: dek-d