ขออนุญาต ปรึกษาค่ะ ใครที่ซื้อบ้านเดียว โครงการใหญ่ มีความน่าเชื่อถือมาก ๆ แล้วจะต้องเจอกับปัญหาเช่นนี้
ขอปรึกษาแนวทางการแก้ปัญหา เนื่องจากว่า เพิ่งจะเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ในโครงการหมู่บ้านใหม่ วัชรพล-วงแหวนรอบนอก
มีเพื่อนบ้านที่พยายามก่อสร้างโครงหลังคาเพื่อดัดแปลงเป็นเป็นโรงงาน เริ่มแรกเขาซื้อบ้านหลังสุดซอย 2 หลังที่หันหน้าติดกัน หลังจากนั้น รื้อรั้วกั้นออก ทั้งรั้วที่กั้นระหว่างบ้าน 2 หลัง รวมถึง รั้วที่กั้น ระหว่างตัวบ้านและถนนในซอยค่ะ
กรณีนี้คือ การค่อย ๆ ถอดรื้อทีละส่วน แล้วขยายพื้นที่ในการทำงาน เพราะ บ้าน 2 หลังที่ซื้อติดกัน ถนนหน้าบ้าน จะเป็นพื้นที่ของเขาไปโดยปริยาย ทำให้เขาสามารถจอดรถสองแถวขนาดใหญ่ รถกระบะ และเพิ่มเติมที่ต่อเติมในการวางชิ้นงานได้อีกมาก
ในบ้านทั้งสองหลัง ส่วนของสนามหญ้า ทางลูกบ้านได้ฉวยโอกาส ในช่วงค่ำ นำรถเครนขนาดใหญ่มาก ทำการปิดซอย และติดตั้งเสาเหล็ก ที่มีความสูงพอ ๆ กับตัวบ้าน ทำตะแกรง วางเป็นชั้น ๆ แล้วมุงหลังคาด้วยฟิวเจอร์บอร์ด เพื่อบังแดด ซึ่ง กรณีที่ฝนตกมีลมพัดแรง ๆ ก้อทำให้ฟิวเจอร์บอร์ดนั้นสั่นจนแทบจะหลุด น่ากลัวอยู่เหมือนกันค่ะ
แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่เพิ่งเข้าอยู่กันใหม่ ทำให้ลูกบ้านท่านนี้ ไม่กล้าดำเนินการเต็มรูปแบบ แต่ละอาศัยจังหวะ ค่อย ๆ ต่อเติมทีละนิด ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน จนลูกบ้านในซอยเข้าอยู่เต็ม หลังจากการย้ายเข้ามาอยู่ เกือบ ๆ ปี แผนการต่อเติมและดำเนินการดัดแปลงเป็นโรงงาน รวมไปถึงการทำชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ก็เสร็จเรียบร้อย ลูกบ้านท่านนี้ ดำเนินการธุรกิจรับทำเฟอร์นิเจอร์แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งมีเครื่องมือตัดเหล็ก งานสี งานเชื่อม งานไม้ คนงานที่ทำงาน รถขนส่งของโรงงาน ซึ่ง ก่อนหน้านั้นแม้ว่า เขาจะตั้งโครง แต่การทำงานยังไม่ชัดเจนทำให้ลูกบ้านใหม่ ๆ ก้ออาจไม่ได้ใส่ใจมากนักในช่วงแรก ๆ
แต่ ตอนนี้ การเข้าไปดูครั้งล่าสุด ประกอบกับการได้ยินเสียงเครื่องจักรทำงานตลอด เสียงคนคุยกัน เสียงคทำงานตลอดเวลา เลยได้มีโอกาสเข้าไปดูว่า เขาไปถึงไหนแล้ว และภาพที่ถ่ายมา เป็นการทำงานของเขา คงบอกได้ว่า เขาได้เริ่มกิจการอย่างเต็มรูปแบบแล้วค่ะ
ในส่วนของเจ้าของโรงงานนั้น เขาได้แจ้งว่า ได้บอกทางฝ่ายขายไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าจะทำโรงงาน แต่โครงการไม่อนุญาต เขาเลยไม่ได้ทำเป็นโรงงาน แต่เขาแจ้งว่า เขาซื้อบ้านแล้ว จะสามารถทำอะไรกับบ้านที่เขาเป็นเจ้าของ และพ้นที่ของเขาก้อได้ ซึ่งเขาบอกว่าได้ยื่นแบบแปลนไปที่โครงการแล้ว และได้รับการอนุมัติมา เรียกว่า ผ่านการเห็นชอบจากโครงการแล้วค่ะ แต่ในส่วนของการ รื้อรั้งออก การจอดรถเต็มพื้นที่ ตรงหน้าบ้านของเขา รวมไปถึงการพ่นสีกลางอากาศ กิจกรรมต่าง ๆ นั้น เขาอ้างว่า เป็นกิจกรรมในบ้านของเขาไม่ใช่การทำงานในโรงงาน
กรณีต่อมา โครงการได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้าน ในการต่อเติมมาอยู่ตลอด และมีการเรียกคุยกับเจ้าของบ้านอยู่หลายครั้งค่ะ เคยรับข้อมูลมาว่า ทางนิติของโครงการ เจรจาต่อรองอยู่หลายครั้ง แต่ทางลูกค้ารายนั้น ยืนยันว่าจะไม่ยอมรื้อถอนทุกกรณี เพราะเขาถือว่า เขาซื้อบ้านแล้วเขาสามารถจะทำอะไรกับพื้นที่ของเขาก้อได้ โครงการไม่มีสิทธิ์
ในส่วนของโครงการเองนั้น ลูกบ้านรายอื่น ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้ถามถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่โครงการจะแก้ไขอย่างไร ซึ่ง เราได้รับคำตอบแบบเสียไม่ได้ว่า โครงการไม่มีนโยบายค้าความกับลูกบ้าน ประมาณว่าไม่อยากทำคดีความขัดแย้งกับลูกบ้านค่ะ อาจะเป็นเพราะบ้านเริ่มจะขายหมดแล้ว หรือไม่อยากมานั่งแก้ปัญหา ก่อนหน้านั้นก้อมีการทำเรื่องร้องเรียนไปที่เขต จากการดำเนินงานของนิติโครงการมาก่อนค่ะ มีข่าวว่า เขตจะทำการฟ้องร้อง และมีคำสั่งให้รื้อถอน และก้อมีข่าวว่า โรงงานจะชิงรื้อถอนก่อน เรื่องจึงเงียบไปสักพัก เพราะโรงงานเองรู้ว่า มีคนเพ่งเล่ง จึงไม่ทำชิ้นงาน
แต่ในที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฟ้องร้องให้รื้อถอนจากเขต หรือการชิงรื้อถอนของโรงงาน ไม่มีความคืบหน้าเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ทั้งยังคงมีการต่อเติมแล้วเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป แม้ว่าเขาจะแจ้งให้โรงงานไปให้ปากคำ ไปสอบถาม หรือมีข่าวว่า โรงงานไม่เคยเข้าพบเขตเลย เสมือนหนึ่งว่าไม่รับทราบทุกข้อกล่าวหาใด ๆ ทั้งจากเขตและโครงการเลย
ในส่วนของการบริหารพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด เป็นความรับผิดชอบของโครงการ และทางนิติมีข้ออ้างมาเสมอว่า เรายังไม่ได้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลทางโครงการ จึงไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ เป็นการตอบของโครงการแบบซ้ำไปซ้ำมาตลอด
ขอให้เขตเข้ามาตรวจสอบ ทางเขตก้อเข้ามา คือมาแล้ว เมื่อ 6 เดือนก่อน ตั้งแต่ตั้งเสาใหม่ ๆ แล้วเรื่องก้อเงียบไปค่ะ มีการไปสอบถาม ก้อมีช่างโครงการมาเล่าให้ฟังแบบทีเล่นทีจริงว่า ทาง โรงงานจ่ายให้เขตไปเท่านั้นเท่านนี้แล้ว เค้าไม่กลัว จริงเท็จไม่ทราบได้
** หลังจากได้มีโอกาสเข้าไปสอบถามกับเจ้าของโรงงานแล้ว เขายืนยันว่า ตัวเขาไม่ได้ทำโรงงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นกิจกรรมภายในบ้านของเขาเอง ซึ่งเขามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับพื้นที่ในบ้านของเขาก้อได้ค่ะ
ปรึกษาด่วน !!! ซื้อบ้านโครงใหญ่ (มาก) มีของแถมขนาดมหึมา น่าปวดหัว ทำอย่างไรดี ?
ขอปรึกษาแนวทางการแก้ปัญหา เนื่องจากว่า เพิ่งจะเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ในโครงการหมู่บ้านใหม่ วัชรพล-วงแหวนรอบนอก
มีเพื่อนบ้านที่พยายามก่อสร้างโครงหลังคาเพื่อดัดแปลงเป็นเป็นโรงงาน เริ่มแรกเขาซื้อบ้านหลังสุดซอย 2 หลังที่หันหน้าติดกัน หลังจากนั้น รื้อรั้วกั้นออก ทั้งรั้วที่กั้นระหว่างบ้าน 2 หลัง รวมถึง รั้วที่กั้น ระหว่างตัวบ้านและถนนในซอยค่ะ
กรณีนี้คือ การค่อย ๆ ถอดรื้อทีละส่วน แล้วขยายพื้นที่ในการทำงาน เพราะ บ้าน 2 หลังที่ซื้อติดกัน ถนนหน้าบ้าน จะเป็นพื้นที่ของเขาไปโดยปริยาย ทำให้เขาสามารถจอดรถสองแถวขนาดใหญ่ รถกระบะ และเพิ่มเติมที่ต่อเติมในการวางชิ้นงานได้อีกมาก
ในบ้านทั้งสองหลัง ส่วนของสนามหญ้า ทางลูกบ้านได้ฉวยโอกาส ในช่วงค่ำ นำรถเครนขนาดใหญ่มาก ทำการปิดซอย และติดตั้งเสาเหล็ก ที่มีความสูงพอ ๆ กับตัวบ้าน ทำตะแกรง วางเป็นชั้น ๆ แล้วมุงหลังคาด้วยฟิวเจอร์บอร์ด เพื่อบังแดด ซึ่ง กรณีที่ฝนตกมีลมพัดแรง ๆ ก้อทำให้ฟิวเจอร์บอร์ดนั้นสั่นจนแทบจะหลุด น่ากลัวอยู่เหมือนกันค่ะ
แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่เพิ่งเข้าอยู่กันใหม่ ทำให้ลูกบ้านท่านนี้ ไม่กล้าดำเนินการเต็มรูปแบบ แต่ละอาศัยจังหวะ ค่อย ๆ ต่อเติมทีละนิด ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน จนลูกบ้านในซอยเข้าอยู่เต็ม หลังจากการย้ายเข้ามาอยู่ เกือบ ๆ ปี แผนการต่อเติมและดำเนินการดัดแปลงเป็นโรงงาน รวมไปถึงการทำชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ก็เสร็จเรียบร้อย ลูกบ้านท่านนี้ ดำเนินการธุรกิจรับทำเฟอร์นิเจอร์แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งมีเครื่องมือตัดเหล็ก งานสี งานเชื่อม งานไม้ คนงานที่ทำงาน รถขนส่งของโรงงาน ซึ่ง ก่อนหน้านั้นแม้ว่า เขาจะตั้งโครง แต่การทำงานยังไม่ชัดเจนทำให้ลูกบ้านใหม่ ๆ ก้ออาจไม่ได้ใส่ใจมากนักในช่วงแรก ๆ
แต่ ตอนนี้ การเข้าไปดูครั้งล่าสุด ประกอบกับการได้ยินเสียงเครื่องจักรทำงานตลอด เสียงคนคุยกัน เสียงคทำงานตลอดเวลา เลยได้มีโอกาสเข้าไปดูว่า เขาไปถึงไหนแล้ว และภาพที่ถ่ายมา เป็นการทำงานของเขา คงบอกได้ว่า เขาได้เริ่มกิจการอย่างเต็มรูปแบบแล้วค่ะ
ในส่วนของเจ้าของโรงงานนั้น เขาได้แจ้งว่า ได้บอกทางฝ่ายขายไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าจะทำโรงงาน แต่โครงการไม่อนุญาต เขาเลยไม่ได้ทำเป็นโรงงาน แต่เขาแจ้งว่า เขาซื้อบ้านแล้ว จะสามารถทำอะไรกับบ้านที่เขาเป็นเจ้าของ และพ้นที่ของเขาก้อได้ ซึ่งเขาบอกว่าได้ยื่นแบบแปลนไปที่โครงการแล้ว และได้รับการอนุมัติมา เรียกว่า ผ่านการเห็นชอบจากโครงการแล้วค่ะ แต่ในส่วนของการ รื้อรั้งออก การจอดรถเต็มพื้นที่ ตรงหน้าบ้านของเขา รวมไปถึงการพ่นสีกลางอากาศ กิจกรรมต่าง ๆ นั้น เขาอ้างว่า เป็นกิจกรรมในบ้านของเขาไม่ใช่การทำงานในโรงงาน
กรณีต่อมา โครงการได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้าน ในการต่อเติมมาอยู่ตลอด และมีการเรียกคุยกับเจ้าของบ้านอยู่หลายครั้งค่ะ เคยรับข้อมูลมาว่า ทางนิติของโครงการ เจรจาต่อรองอยู่หลายครั้ง แต่ทางลูกค้ารายนั้น ยืนยันว่าจะไม่ยอมรื้อถอนทุกกรณี เพราะเขาถือว่า เขาซื้อบ้านแล้วเขาสามารถจะทำอะไรกับพื้นที่ของเขาก้อได้ โครงการไม่มีสิทธิ์
ในส่วนของโครงการเองนั้น ลูกบ้านรายอื่น ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้ถามถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่โครงการจะแก้ไขอย่างไร ซึ่ง เราได้รับคำตอบแบบเสียไม่ได้ว่า โครงการไม่มีนโยบายค้าความกับลูกบ้าน ประมาณว่าไม่อยากทำคดีความขัดแย้งกับลูกบ้านค่ะ อาจะเป็นเพราะบ้านเริ่มจะขายหมดแล้ว หรือไม่อยากมานั่งแก้ปัญหา ก่อนหน้านั้นก้อมีการทำเรื่องร้องเรียนไปที่เขต จากการดำเนินงานของนิติโครงการมาก่อนค่ะ มีข่าวว่า เขตจะทำการฟ้องร้อง และมีคำสั่งให้รื้อถอน และก้อมีข่าวว่า โรงงานจะชิงรื้อถอนก่อน เรื่องจึงเงียบไปสักพัก เพราะโรงงานเองรู้ว่า มีคนเพ่งเล่ง จึงไม่ทำชิ้นงาน
แต่ในที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฟ้องร้องให้รื้อถอนจากเขต หรือการชิงรื้อถอนของโรงงาน ไม่มีความคืบหน้าเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ทั้งยังคงมีการต่อเติมแล้วเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป แม้ว่าเขาจะแจ้งให้โรงงานไปให้ปากคำ ไปสอบถาม หรือมีข่าวว่า โรงงานไม่เคยเข้าพบเขตเลย เสมือนหนึ่งว่าไม่รับทราบทุกข้อกล่าวหาใด ๆ ทั้งจากเขตและโครงการเลย
ในส่วนของการบริหารพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด เป็นความรับผิดชอบของโครงการ และทางนิติมีข้ออ้างมาเสมอว่า เรายังไม่ได้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลทางโครงการ จึงไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ เป็นการตอบของโครงการแบบซ้ำไปซ้ำมาตลอด
ขอให้เขตเข้ามาตรวจสอบ ทางเขตก้อเข้ามา คือมาแล้ว เมื่อ 6 เดือนก่อน ตั้งแต่ตั้งเสาใหม่ ๆ แล้วเรื่องก้อเงียบไปค่ะ มีการไปสอบถาม ก้อมีช่างโครงการมาเล่าให้ฟังแบบทีเล่นทีจริงว่า ทาง โรงงานจ่ายให้เขตไปเท่านั้นเท่านนี้แล้ว เค้าไม่กลัว จริงเท็จไม่ทราบได้
** หลังจากได้มีโอกาสเข้าไปสอบถามกับเจ้าของโรงงานแล้ว เขายืนยันว่า ตัวเขาไม่ได้ทำโรงงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นกิจกรรมภายในบ้านของเขาเอง ซึ่งเขามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับพื้นที่ในบ้านของเขาก้อได้ค่ะ