สวัสดีรอบดึกๆค่ะชาวพันทิป....
...........................................................................................................................
เมื่อครั้งที่แล้วเราพูดถึงคุณพ่อเจ้าวัดคนเก่าไปแล้วมาฟังคุณพ่อเจ้าวัดคนปัจจุบันกันบ้างนะค่ะ
คุณพ่อเจ้าวัดคนปัจจุบันท่านเป็นคนน่ารักค่ะ...อารมณ์ดี สนุก เฮฮา และเป็นกันเองค่ะ เวลาเรามีเรื่องไม่สบายใจก็ชอบเล่าให้คุณพ่อฟังและท่านก็ฟังและสอนเรานะค่ะ
เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรถึงท่านแล้วค่ะ เพราะ....มันคงเขียนออกมาไม่ถูก 55555แต่บอกได้เลยว่า เวลาที่เราได้ไปเรียนกับท่านได้คุยกับท่านเราสบายใจมากๆและมีความสุขมากๆค่ะ.....หรือว่าความรู้สึกแบบเราต้องมาสัมผัสเองนะ 555555
เอาล่ะค่ะพูดถึงคุณพ่อจบแล้ว....ก็มาถึงเรื่องเล่าจากเราบ้างนะค่ะ.....
จะว่ายังไงดีล่ะคะ? มันก็เริ่มไม่ค่อยถูกเหมือนกัน แต่เราจะพยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุดนะค่ะ....
ไอ้เราก็แหม...เรียนพิเศษเสร็จก็เพิ่งจะเที่ยงเอง...กลับบ้านก็ไม่มีไรทำ กลับบ้านไปก็นั่งๆนอนๆเล่นเกมส์ ... เราก็แบบว่าไหนๆก็ไหนล่ะวัดก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง เข้าวัดก็ได้....และช่วงนี้ก็ดีเลยค่ะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ก็มีน้องๆบางคนก็มาอยู๋ที่วัดเลย...เราก็เลยได้เพื่อนเล่นใหม่ไปเลย55555 เรามาถึงที่ไรก็ต้องขอเล่นโทรศัพท์เราทุกกกที! เราก็บ่นน้องทุกที!! แต่สุดท้ายก็ให้ค่ะ 555555 น้องๆที่นี้น่ารักและเป็นกันเองดีค่ะ ในบางทีเราเองก็แอบนิสัยเสียชอบใช้น้องค่ะ 555555 และน้องก็ชอบพูดว่า
'เมื่อไหร่พี่จะมานอนวัดอ่ะ' หรือไม่ก็ 'พี่ไม่อยู่มิสซาหรอ?' เราก็ตอบไปแบบเบสิดเลยค่ะว่า 'แค่นี้ฉันยังต้องหนีแม่ฉันมาเลย' 555555
แต่ก็แปลกอยู่นะค่ะ....คือคุณพ่อให้จี้พระเมตตาเรามา เราก็ใส่อย่างเปิดเผยเลยค่ะ แล้วแม่เราก็เห็น แม่เราก็ถามว่า
'พระนี้ไปเอามาจากไหน'
'อ่อ...คุณพ่อให้มา'
แล้วแม่เราก็ถามด้วยน้ำเสียงที่อมยิ้ม นะค่ะ 'อ่อ...เข้าโบสถ์แล้วคุณพ่อให้หรอ?'
'อื้ม'
หลังจากที่ตอบแบบนี้แม่เราก็ไม่ว่าอะไรค่ะ ตอนแรกเราก็นึกว่าแม่เราจะให้ถอดพระเมตตาออกแล้วก็ว่าเราแต่เปล่าเลยค่ะแม่เรากลับนั่งอมยิ้มแล้วดูทีวีต่อค่ะ(บางที่หนูก็งงกับแม่นะ)
...พอวันต่อมา....
เราไม่ชอบสร้อยที่ห้อยค่ะเพราะเส้นมันใหญ่และหนา เราก็เลยขอให้แม่ซื้อสร้อยให้หน่อยแม่ก็ตอบโอเคๆๆเดียวซื้อให้...แต่ช่วงนั้นเราหาร้านสร้อยไม่ถูกใจค่ะ เราก็เลยไปซื้อสร้อยที่มันถูกใจตัวเองและทรัพยากรของตัวเองมาใส่เองเลยค่ะ ก็เลยทำให้แม่ไม่ได้ซื้อสร้อยให้...แต่แม่เราก็รู้นะค่ะว่าเราซื้อสร้อยมาใหม่และก็ห้อยพระเมตตาเหมือนเดิมม....จู่ๆแม่ก็พูดขึ้นว่า 'เดียวแม่ต้องซื้อสร้อยให้ตัวเองล่ะ' เราก็แอบงงนะ ว่าเราซื้อสร้อยมาใหม่แล้วนะแม่จะซื้อสร้อยใหม่ให้หนูอีกทำไม?? แต่ก็มารู้อีกทีว่าสร้อยที่เราซื้อมาเองมันสั้นไปและถอดออกยาก(แต่เราก็ไม่ถอดอยู่แล้วนะ) แม่อยากให้ใส่แบบที่มันถอดออกได้และไม่ต้องใส่นอนและใส่อาบน้ำ...ไอ้เราก็ซึ้งเลยค่ะ ยังงงอยู่เลยเมื่อก่อนยังว่าหนูบ้าอยู่เลยทำไมวันนี้ถึงยอมรับซะแล้วล่ะ และตอนนี้ก็ยังงงอยู่ค่ะ555555
แต่มันอาจจะเกี่ยวหรือเปล่าค่ะที่....ช่วงนี้เราเริ่มพูดมีหางเสียงกับแม่แล้ว แต่ก่อนเราจะชอบพูดกับแม่แบบเป็นกันเองมากกกและไม่มีหางเสียง(นึกถึงตอนที่คุยกับเพื่อนเลยค่ะ) อย่างแต่ก่อน ก่อนที่จะออกจากบ้านเราก็จะแบบว่า 'แม่ไปแล้วนะหวัดดี' แต่หลังๆมา 'แม่ไปแล้วนะหวัดดีค่ะ' 55555555 แล้วช่วงนี้เราก็ และก็หลังกลับมาถึงบ้านก็....'คุณแม่ที่รักสวัสดีค่ะ' แม่เราก็พูดขึ้นมาเลยค่ะ 'ดูมันพูดเข้าตั้งแต่ไปเข้าคริสต์มา มันพูดคุณแม่ที่รักเลย' แล้วแม่เราก็ยิ้มๆค่ะ
และเราก็ตั้งใจไว้แต่ต้นแล้วว่าถ้าแม่เรายอมรับที่เราจะนับถือศาสนาคริสต์เราก็พร้อมที่จะเปิดเผยให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆทุกคนรู้ค่ะว่า เราเป็นคริสต่์แล้วนะและเราจะไม่สนใจใครแล้วนะ....และแม่เราก็ยอมรับ(ได้ในระดับหนึ่ง)และเราก็จะบอกกับทุกคนอย่างมั่นใจค่ะว่า'ฉันเป็นคริสต์' (แม้ยังไม่ได้ล้างบาปก็ตาม)
-----และความเชื่อของเราก็คือว่า....เราเป็นลูกของพระตั้งแต่เราเชื่อแล้วค่ะแล้วพระเจ้าก็จะคุ้มครองเราค่ะ...เหมือนพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในท้องนั้นแหละค่ะ แม้ลูกอยู่ในท้องยังไม่ได้เกิดเราก็ต้องดูแลเขาให้ดีก่อนที่จะเกิดจริงไหมคะ? พระเจ้าก็เช่นเดียวกันค่ะ...พระองค์ทรงเป็นความดีงามที่หาที่สุดมิได้ พระองค์จะดูแลรักษาและคุ้มครองเราให้ดียิ่งกว่าค่ะ------
และช่วงปิดเทอมนี้เราก็เข้าวัดไปเรียนคำสอนทุกวันเลยค่ะ.....อยู่ถึงมิสซาบ้างไม่ถึงบ้างก็แล้วแต่วันค่ะ.....
จบแล้วค่ะ....ประสบการณ์ของเรา...ขอปิดเรื่อง 'ประสบการณ์ของการไปเรียนคำสอน(คริสตัง)'ไว้ที่กระทู้นี้เลยนะค่ะถ้าเขียนมากๆ หลายคนอาจจะหาว่าเราว่าเว่อร์ๆ 5555 และประสบการณ์ระหว่างพระกับมนุษย์ไม่เหมือนกันค่ะ แล้วแต่ว่าใครจะเจออะไร ... เวลาเราท้อเวลาเราทุกข์เวลาเราเหนื่อยให้เราลองคุยกับพระเจ้าดูนะค่ะแล้วความเชื่อของคุณจะเพิ่มมากขึ้นค่ะและพระเจ้าจะช่วยบรรเทาความทุกข์ของเราค่ะ
และก็เราก็คิดว่าตั้งกระทู้เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ต่อไปนะค่ะเพื่อใช้เป็นข้อคิดของคนอีกหลายคน(รวมถึงเราด้วย)
แต่จะเป็นเรื่องอะไรก็รอติดตามนะค่ะ
คืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ พระเจ้าอวยพรและ Buona notte!!
ประสบการณ์ของการไปเรียนคำสอน (คริสต์ตัง) ตอนสุดท้าย....
...........................................................................................................................
เมื่อครั้งที่แล้วเราพูดถึงคุณพ่อเจ้าวัดคนเก่าไปแล้วมาฟังคุณพ่อเจ้าวัดคนปัจจุบันกันบ้างนะค่ะ
คุณพ่อเจ้าวัดคนปัจจุบันท่านเป็นคนน่ารักค่ะ...อารมณ์ดี สนุก เฮฮา และเป็นกันเองค่ะ เวลาเรามีเรื่องไม่สบายใจก็ชอบเล่าให้คุณพ่อฟังและท่านก็ฟังและสอนเรานะค่ะ
เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรถึงท่านแล้วค่ะ เพราะ....มันคงเขียนออกมาไม่ถูก 55555แต่บอกได้เลยว่า เวลาที่เราได้ไปเรียนกับท่านได้คุยกับท่านเราสบายใจมากๆและมีความสุขมากๆค่ะ.....หรือว่าความรู้สึกแบบเราต้องมาสัมผัสเองนะ 555555
เอาล่ะค่ะพูดถึงคุณพ่อจบแล้ว....ก็มาถึงเรื่องเล่าจากเราบ้างนะค่ะ.....
จะว่ายังไงดีล่ะคะ? มันก็เริ่มไม่ค่อยถูกเหมือนกัน แต่เราจะพยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุดนะค่ะ....
ไอ้เราก็แหม...เรียนพิเศษเสร็จก็เพิ่งจะเที่ยงเอง...กลับบ้านก็ไม่มีไรทำ กลับบ้านไปก็นั่งๆนอนๆเล่นเกมส์ ... เราก็แบบว่าไหนๆก็ไหนล่ะวัดก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง เข้าวัดก็ได้....และช่วงนี้ก็ดีเลยค่ะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ก็มีน้องๆบางคนก็มาอยู๋ที่วัดเลย...เราก็เลยได้เพื่อนเล่นใหม่ไปเลย55555 เรามาถึงที่ไรก็ต้องขอเล่นโทรศัพท์เราทุกกกที! เราก็บ่นน้องทุกที!! แต่สุดท้ายก็ให้ค่ะ 555555 น้องๆที่นี้น่ารักและเป็นกันเองดีค่ะ ในบางทีเราเองก็แอบนิสัยเสียชอบใช้น้องค่ะ 555555 และน้องก็ชอบพูดว่า
'เมื่อไหร่พี่จะมานอนวัดอ่ะ' หรือไม่ก็ 'พี่ไม่อยู่มิสซาหรอ?' เราก็ตอบไปแบบเบสิดเลยค่ะว่า 'แค่นี้ฉันยังต้องหนีแม่ฉันมาเลย' 555555
แต่ก็แปลกอยู่นะค่ะ....คือคุณพ่อให้จี้พระเมตตาเรามา เราก็ใส่อย่างเปิดเผยเลยค่ะ แล้วแม่เราก็เห็น แม่เราก็ถามว่า
'พระนี้ไปเอามาจากไหน'
'อ่อ...คุณพ่อให้มา'
แล้วแม่เราก็ถามด้วยน้ำเสียงที่อมยิ้ม นะค่ะ 'อ่อ...เข้าโบสถ์แล้วคุณพ่อให้หรอ?'
'อื้ม'
หลังจากที่ตอบแบบนี้แม่เราก็ไม่ว่าอะไรค่ะ ตอนแรกเราก็นึกว่าแม่เราจะให้ถอดพระเมตตาออกแล้วก็ว่าเราแต่เปล่าเลยค่ะแม่เรากลับนั่งอมยิ้มแล้วดูทีวีต่อค่ะ(บางที่หนูก็งงกับแม่นะ)
...พอวันต่อมา....
เราไม่ชอบสร้อยที่ห้อยค่ะเพราะเส้นมันใหญ่และหนา เราก็เลยขอให้แม่ซื้อสร้อยให้หน่อยแม่ก็ตอบโอเคๆๆเดียวซื้อให้...แต่ช่วงนั้นเราหาร้านสร้อยไม่ถูกใจค่ะ เราก็เลยไปซื้อสร้อยที่มันถูกใจตัวเองและทรัพยากรของตัวเองมาใส่เองเลยค่ะ ก็เลยทำให้แม่ไม่ได้ซื้อสร้อยให้...แต่แม่เราก็รู้นะค่ะว่าเราซื้อสร้อยมาใหม่และก็ห้อยพระเมตตาเหมือนเดิมม....จู่ๆแม่ก็พูดขึ้นว่า 'เดียวแม่ต้องซื้อสร้อยให้ตัวเองล่ะ' เราก็แอบงงนะ ว่าเราซื้อสร้อยมาใหม่แล้วนะแม่จะซื้อสร้อยใหม่ให้หนูอีกทำไม?? แต่ก็มารู้อีกทีว่าสร้อยที่เราซื้อมาเองมันสั้นไปและถอดออกยาก(แต่เราก็ไม่ถอดอยู่แล้วนะ) แม่อยากให้ใส่แบบที่มันถอดออกได้และไม่ต้องใส่นอนและใส่อาบน้ำ...ไอ้เราก็ซึ้งเลยค่ะ ยังงงอยู่เลยเมื่อก่อนยังว่าหนูบ้าอยู่เลยทำไมวันนี้ถึงยอมรับซะแล้วล่ะ และตอนนี้ก็ยังงงอยู่ค่ะ555555
แต่มันอาจจะเกี่ยวหรือเปล่าค่ะที่....ช่วงนี้เราเริ่มพูดมีหางเสียงกับแม่แล้ว แต่ก่อนเราจะชอบพูดกับแม่แบบเป็นกันเองมากกกและไม่มีหางเสียง(นึกถึงตอนที่คุยกับเพื่อนเลยค่ะ) อย่างแต่ก่อน ก่อนที่จะออกจากบ้านเราก็จะแบบว่า 'แม่ไปแล้วนะหวัดดี' แต่หลังๆมา 'แม่ไปแล้วนะหวัดดีค่ะ' 55555555 แล้วช่วงนี้เราก็ และก็หลังกลับมาถึงบ้านก็....'คุณแม่ที่รักสวัสดีค่ะ' แม่เราก็พูดขึ้นมาเลยค่ะ 'ดูมันพูดเข้าตั้งแต่ไปเข้าคริสต์มา มันพูดคุณแม่ที่รักเลย' แล้วแม่เราก็ยิ้มๆค่ะ
และเราก็ตั้งใจไว้แต่ต้นแล้วว่าถ้าแม่เรายอมรับที่เราจะนับถือศาสนาคริสต์เราก็พร้อมที่จะเปิดเผยให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆทุกคนรู้ค่ะว่า เราเป็นคริสต่์แล้วนะและเราจะไม่สนใจใครแล้วนะ....และแม่เราก็ยอมรับ(ได้ในระดับหนึ่ง)และเราก็จะบอกกับทุกคนอย่างมั่นใจค่ะว่า'ฉันเป็นคริสต์' (แม้ยังไม่ได้ล้างบาปก็ตาม)
-----และความเชื่อของเราก็คือว่า....เราเป็นลูกของพระตั้งแต่เราเชื่อแล้วค่ะแล้วพระเจ้าก็จะคุ้มครองเราค่ะ...เหมือนพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในท้องนั้นแหละค่ะ แม้ลูกอยู่ในท้องยังไม่ได้เกิดเราก็ต้องดูแลเขาให้ดีก่อนที่จะเกิดจริงไหมคะ? พระเจ้าก็เช่นเดียวกันค่ะ...พระองค์ทรงเป็นความดีงามที่หาที่สุดมิได้ พระองค์จะดูแลรักษาและคุ้มครองเราให้ดียิ่งกว่าค่ะ------
และช่วงปิดเทอมนี้เราก็เข้าวัดไปเรียนคำสอนทุกวันเลยค่ะ.....อยู่ถึงมิสซาบ้างไม่ถึงบ้างก็แล้วแต่วันค่ะ.....
จบแล้วค่ะ....ประสบการณ์ของเรา...ขอปิดเรื่อง 'ประสบการณ์ของการไปเรียนคำสอน(คริสตัง)'ไว้ที่กระทู้นี้เลยนะค่ะถ้าเขียนมากๆ หลายคนอาจจะหาว่าเราว่าเว่อร์ๆ 5555 และประสบการณ์ระหว่างพระกับมนุษย์ไม่เหมือนกันค่ะ แล้วแต่ว่าใครจะเจออะไร ... เวลาเราท้อเวลาเราทุกข์เวลาเราเหนื่อยให้เราลองคุยกับพระเจ้าดูนะค่ะแล้วความเชื่อของคุณจะเพิ่มมากขึ้นค่ะและพระเจ้าจะช่วยบรรเทาความทุกข์ของเราค่ะ
และก็เราก็คิดว่าตั้งกระทู้เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ต่อไปนะค่ะเพื่อใช้เป็นข้อคิดของคนอีกหลายคน(รวมถึงเราด้วย)
แต่จะเป็นเรื่องอะไรก็รอติดตามนะค่ะ
คืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ พระเจ้าอวยพรและ Buona notte!!