ขอเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์นะคะ
เราอายุ 39 ปี แต่งงานมา 9 ปี ไม่เคยท้อง ปี 41 เคยผ่าตัดปีกมดลูกออกไป 1 ข้าง เราแต่งงานปี 48
พอปี 49 เคยผ่าตัดเอาช้อคซีสรังไข่ข้างที่เหลือออกเผื่อรักษาจะได้มีลูก แต่ก็ไม่มี
เราเลยคุยกับสามีว่า ไม่มีแล้วมั้ง ช่างมันก็ได้ เก็บเงินไว้ยามแก่ 2 คน ตา ยาย
แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราตั้งท้องเอง ดีใจมากที่สุด แต่ดีใจได้แค่ 2 เดือนกว่า เด็กก็ไม่มีสัญญาณหัวใจเต้นแล้ว
เราตรวจเจอว่าเด็กเสียวันที่ 25 สิงหา ตอนนั้น 11 วีค แต่หมอบอกว่าเด็กน่าจะเสียเมื่อ 9-10 วีค ดูจากขนาดเด็ก
เสียใจที่สุดในชีวิต คุณหมอให้เราเลือก ระหว่ารอให้หลุดเอง กับ เหน็บยาแต่ต้องนอน รพ.
แต่เราขอลองให้หลุดเอง เพราะเราไม่อยากนอน รพ. เพราะมีหมาที่ต้องดูแล
หมอให้เวลา 4 อาทิตย์ จนถึงวันที่ 27 กันยายน ก็ยังไม่หลุด เราทั้งวิ่ง ทั้งออกกำลังกาย ทั้งยกของหนัก สารพัด
เลยนัดเราไปเหน็บยาวันที่ 29 กันยายน เราไปถึง รพ.8โมง ตรวจภายใน อัลตราซาวด์อีกรอบ จองห้องแอดมิด เจาะเลือดดูความพร้อม เรานอนรอในห้อง
หมอมาเหน็บยา 3 ทุ่ม 5 ทุ่มครึ่งน้ำเดิน พยาบาลรีบเอาเราลงไปห้องคลอด ซักประวัติครึ่ง ชม. เราก็มานอนที่ห้องคลอด
เราเริ่มปวดท้องมากๆ ปวดกว่าปวดประจำเดือน ปวดทุก 15 นาที มีเลือดไหลตลอด ไข้ก็ขึ้น
นอนสั่นไปทั้งตัว ทั้งกลัว ทั้งหนาว ไม่มีคนไข้ เงียบสุดๆ เงียบมว๊ากกกก นอนฟังเสียงนาฬิกาในห้องคลอด ติ้กๆๆๆๆๆ
หัวใจก็เต้นแรง และเร็วผิดจังหวะ คือเราเป็นโรคนี้อยู่ด้วย แต่เป็นๆ หายๆ เป็นเวลาเครียด และยานี้มันมีผล
เราหลับๆตื่นๆทุก 5 นาที ตื่นมาก็คิด โอยเพิ่งผ่านไป 5 นาที มีหมอและพยาบาลเดินมาดูทุก 1.30 ชม.ได้มั้ง เดินมาถามว่าปวดท้องไหม 1-10 ให้คะแนนสิ๊
นอนเงียบๆ มองนาฬิกา มองนั่น มองนี่ ตี 1 ตี 2 ตี 3 เลือดก็ไหลตลอดๆๆ เรานอนคิดโน่นนี่ นี่มันเวรกรรมอะไร เราทำกรรมอะไรไว้มากขนาดนี้เลยเหรอ
ตั้งแต่เกิดมา เราผ่าตัดมา 4 ครั้ง หน้าท้อง 2 หน้าอก 1 คอ 1 นอนคิดสารพัด สวดมนต์ให้เจ้ากรรมนายเวร นอนคิดถึงหน้าพ่อ แม่ สามี และลูกๆ (สี่ขา)
นอนต่อจน 6 โมงเช้า ของวันที่ 30 กันยายน เริ่มมีหมอมาตรวจปาดมดลูก ปากมดลูกยังไม่เปิด เจ้าหน้าที่ให้เราลุกไปอาบน้ำ พอเราลุกก็หน้ามืด เสียเลือดมาก และเป็นไข้ด้วย (ยังจะให้ไปอาบน้ำอีกนะ)
เราเห็นกองเลือดสดๆแบบสยองมาก เจ้าหน้าที่รีบเก็บผ้าลงถัง เราก็ เห้ย ไม่ให้หมอดูก่อนเหรอ เผื่อมีลูกเราหลุดออกมาแล้วละ
พอ 8 โมง หมอมาเหน็บอีก แล้วฉีดยาแก้ปวดให้ ยานี้ทรมานกว่าอีก เวียนหัวมาก ลืมตาไม่ขึ้น นอนหลับ ตื่นมาอีกทีจะเที่ยงแล้ว เราเพลียมาก เสียเลือด
ไม่มีแรงเลย ลืมตาไม่ขึ้นเพราะยาทำให้เวียนหัว เราอยากขอกระดาษ ปากกากับพยาบาล เขียนสั่งเสียให้สามีเรา เค้านอนรอที่ห้องพัก
สักพักก็มีเสียงสามีเรามาเรียกข้างๆ เราดีใจมาก นึกว่าจะตายอยู่ให้ห้องนี้ โดยไม่ได้ร่ำลาใครแล้ว น้ำตาไหลเลย
สามีบอกว่า เค้ามาถาม 3-4 รอบ ตั้งแต่เมื่อคืน จนพยาบาลยอมให้เปลี่ยนชุดเข้ามาหาเรา เราก็สั่งใหญ่เลย ว่าดูแลลูกๆ (สี่ขา) ยังไง เหมือนสั่งเสีย
พอเที่ยง หมอมาเหน็บอีกรอบ คราวนี้หมอตรวจปากมดลูกก่อน พอดึงนิ้วออกมา เด็กหลุดติดถุงมือออกมา ยาวประมาณ 1 นิ้ว แบนๆ เหมือนกระดาษ
เราก็มองไม่ชัด เบลอมากตอนนั้น สติไม่ค่อยมี หมอให้เบ่งๆๆ ปรากฏว่า รกไม่หลุด เพราะเปื่อยมาก แช่เป็นเดือน หมอรีบพาให้อีกห้อง
เอาไม้พันสำลี หรืออะไรสักอย่างควานๆในมดลูกเรา เรารู้สึกเลย เจ็บมาก เราดิ้นๆๆหนี หมอเลยสรุปว่า เดี๋ยววางยา ขูดมดลูก
ระหว่างนั้นก็มีเข็มมีเจาะเราที่หลังมือ ควานหาเส้นไม่เจอ มาควานอีกข้าง มาเจาะปลายนิ้ว เราหมดแรงดิ้น เจ็บก็เจ็บ แต่ก็นอนนิ่งๆ จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ
แล้วก็มีพยาบาลเอาเอกสารมาให้เราเซ็นมากมาย เราก็เซ็นๆๆ ลายมือไม่เป็นลายมือ สักพักเราอาเจียน เพราะยาแก้ปวดเมื่อเช้า เวียนหัวมาก
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เข็นเราไปห้องผ่าตัด นอนรออีก 3 ชม. หมอว่าวางยา เราก็หลับไป เราดูเวลาก่อนให้ยาสลบ ตอนนั้น 15.00 น. เราฟื้นมา 15.20 น.
เราฟื้นมาก็อาเจียนอีก 2-3 รอบ น่าจะเป็นเพราะยาสลบ เจ้าหน้าที่เข็นขึ้นไปที่ห้องพัก ตอนนั้น 16.30 น. เห็นหน้าสามี ดีใจที่สุด เฮ้อออ
นอนพัก มีเวียนหัวเพราะเสียเลือดมาก แต่สบายตัว สบายใจ ไม่มีปวดท้อง กินยา นอนค้างอีก 1 คืน
เช้ามา ขอหมอกลับบ้าน หมอก็ให้กลับไปพัก ห้ามทำงานหนัก 2-3 วัน แต่กว่าเราจะฟื้นตัว ก็ปาเข้าไปวันที่ 7-8 ตุลาค่ะ พยามกินอาหารครบ 5 หมู่
นอนที่บ้านคืนแรก ร้องไห้ใหญ่เลย เมื่อคิดถึงตอนที่นอนห้องคลอดคนเดียว นอนเลือดทะลักๆๆ เงียบๆ ปรกติเป็นคนกลัวผีมาก แต่คืนนั้นไม่กลัวเลย
กลัวตายมากกว่า ไม่ร้องไห้ด้วย ไม่รู้ทำไม แต่พอถึงบ้าน ร้องไห้ทุกวันเมื่อคิดถึง และร้องทุกครั้งเมื่อเล่าให้คนที่ถามฟัง ก่อนนอนจะตัวสั่นๆเหมือนเป็นไข้
เหมือนตอนที่นอนรอในห้องคลอดเลยค่ะ แต่ตอนนี้ปรกติแล้วน๊า เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ที่เลวร้ายให้เพื่อนๆอ่าน (เลวร้ายสำหรับเราตอนนี้นะ อนาคตไม่รู้ว่าจะมีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีก)
ใครเคยผ่านประสบการณ์ เหน็บยา แบบไหน อะไร ยังไง เล่าให้ฟังบ้างนะคะ
*-*-*-*- ประสบการณ์เหน็บยาที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ ท้องแล้วแท้งค้าง -*-*-*-*
เราอายุ 39 ปี แต่งงานมา 9 ปี ไม่เคยท้อง ปี 41 เคยผ่าตัดปีกมดลูกออกไป 1 ข้าง เราแต่งงานปี 48
พอปี 49 เคยผ่าตัดเอาช้อคซีสรังไข่ข้างที่เหลือออกเผื่อรักษาจะได้มีลูก แต่ก็ไม่มี
เราเลยคุยกับสามีว่า ไม่มีแล้วมั้ง ช่างมันก็ได้ เก็บเงินไว้ยามแก่ 2 คน ตา ยาย
แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราตั้งท้องเอง ดีใจมากที่สุด แต่ดีใจได้แค่ 2 เดือนกว่า เด็กก็ไม่มีสัญญาณหัวใจเต้นแล้ว
เราตรวจเจอว่าเด็กเสียวันที่ 25 สิงหา ตอนนั้น 11 วีค แต่หมอบอกว่าเด็กน่าจะเสียเมื่อ 9-10 วีค ดูจากขนาดเด็ก
เสียใจที่สุดในชีวิต คุณหมอให้เราเลือก ระหว่ารอให้หลุดเอง กับ เหน็บยาแต่ต้องนอน รพ.
แต่เราขอลองให้หลุดเอง เพราะเราไม่อยากนอน รพ. เพราะมีหมาที่ต้องดูแล
หมอให้เวลา 4 อาทิตย์ จนถึงวันที่ 27 กันยายน ก็ยังไม่หลุด เราทั้งวิ่ง ทั้งออกกำลังกาย ทั้งยกของหนัก สารพัด
เลยนัดเราไปเหน็บยาวันที่ 29 กันยายน เราไปถึง รพ.8โมง ตรวจภายใน อัลตราซาวด์อีกรอบ จองห้องแอดมิด เจาะเลือดดูความพร้อม เรานอนรอในห้อง
หมอมาเหน็บยา 3 ทุ่ม 5 ทุ่มครึ่งน้ำเดิน พยาบาลรีบเอาเราลงไปห้องคลอด ซักประวัติครึ่ง ชม. เราก็มานอนที่ห้องคลอด
เราเริ่มปวดท้องมากๆ ปวดกว่าปวดประจำเดือน ปวดทุก 15 นาที มีเลือดไหลตลอด ไข้ก็ขึ้น
นอนสั่นไปทั้งตัว ทั้งกลัว ทั้งหนาว ไม่มีคนไข้ เงียบสุดๆ เงียบมว๊ากกกก นอนฟังเสียงนาฬิกาในห้องคลอด ติ้กๆๆๆๆๆ
หัวใจก็เต้นแรง และเร็วผิดจังหวะ คือเราเป็นโรคนี้อยู่ด้วย แต่เป็นๆ หายๆ เป็นเวลาเครียด และยานี้มันมีผล
เราหลับๆตื่นๆทุก 5 นาที ตื่นมาก็คิด โอยเพิ่งผ่านไป 5 นาที มีหมอและพยาบาลเดินมาดูทุก 1.30 ชม.ได้มั้ง เดินมาถามว่าปวดท้องไหม 1-10 ให้คะแนนสิ๊
นอนเงียบๆ มองนาฬิกา มองนั่น มองนี่ ตี 1 ตี 2 ตี 3 เลือดก็ไหลตลอดๆๆ เรานอนคิดโน่นนี่ นี่มันเวรกรรมอะไร เราทำกรรมอะไรไว้มากขนาดนี้เลยเหรอ
ตั้งแต่เกิดมา เราผ่าตัดมา 4 ครั้ง หน้าท้อง 2 หน้าอก 1 คอ 1 นอนคิดสารพัด สวดมนต์ให้เจ้ากรรมนายเวร นอนคิดถึงหน้าพ่อ แม่ สามี และลูกๆ (สี่ขา)
นอนต่อจน 6 โมงเช้า ของวันที่ 30 กันยายน เริ่มมีหมอมาตรวจปาดมดลูก ปากมดลูกยังไม่เปิด เจ้าหน้าที่ให้เราลุกไปอาบน้ำ พอเราลุกก็หน้ามืด เสียเลือดมาก และเป็นไข้ด้วย (ยังจะให้ไปอาบน้ำอีกนะ)
เราเห็นกองเลือดสดๆแบบสยองมาก เจ้าหน้าที่รีบเก็บผ้าลงถัง เราก็ เห้ย ไม่ให้หมอดูก่อนเหรอ เผื่อมีลูกเราหลุดออกมาแล้วละ
พอ 8 โมง หมอมาเหน็บอีก แล้วฉีดยาแก้ปวดให้ ยานี้ทรมานกว่าอีก เวียนหัวมาก ลืมตาไม่ขึ้น นอนหลับ ตื่นมาอีกทีจะเที่ยงแล้ว เราเพลียมาก เสียเลือด
ไม่มีแรงเลย ลืมตาไม่ขึ้นเพราะยาทำให้เวียนหัว เราอยากขอกระดาษ ปากกากับพยาบาล เขียนสั่งเสียให้สามีเรา เค้านอนรอที่ห้องพัก
สักพักก็มีเสียงสามีเรามาเรียกข้างๆ เราดีใจมาก นึกว่าจะตายอยู่ให้ห้องนี้ โดยไม่ได้ร่ำลาใครแล้ว น้ำตาไหลเลย
สามีบอกว่า เค้ามาถาม 3-4 รอบ ตั้งแต่เมื่อคืน จนพยาบาลยอมให้เปลี่ยนชุดเข้ามาหาเรา เราก็สั่งใหญ่เลย ว่าดูแลลูกๆ (สี่ขา) ยังไง เหมือนสั่งเสีย
พอเที่ยง หมอมาเหน็บอีกรอบ คราวนี้หมอตรวจปากมดลูกก่อน พอดึงนิ้วออกมา เด็กหลุดติดถุงมือออกมา ยาวประมาณ 1 นิ้ว แบนๆ เหมือนกระดาษ
เราก็มองไม่ชัด เบลอมากตอนนั้น สติไม่ค่อยมี หมอให้เบ่งๆๆ ปรากฏว่า รกไม่หลุด เพราะเปื่อยมาก แช่เป็นเดือน หมอรีบพาให้อีกห้อง
เอาไม้พันสำลี หรืออะไรสักอย่างควานๆในมดลูกเรา เรารู้สึกเลย เจ็บมาก เราดิ้นๆๆหนี หมอเลยสรุปว่า เดี๋ยววางยา ขูดมดลูก
ระหว่างนั้นก็มีเข็มมีเจาะเราที่หลังมือ ควานหาเส้นไม่เจอ มาควานอีกข้าง มาเจาะปลายนิ้ว เราหมดแรงดิ้น เจ็บก็เจ็บ แต่ก็นอนนิ่งๆ จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ
แล้วก็มีพยาบาลเอาเอกสารมาให้เราเซ็นมากมาย เราก็เซ็นๆๆ ลายมือไม่เป็นลายมือ สักพักเราอาเจียน เพราะยาแก้ปวดเมื่อเช้า เวียนหัวมาก
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เข็นเราไปห้องผ่าตัด นอนรออีก 3 ชม. หมอว่าวางยา เราก็หลับไป เราดูเวลาก่อนให้ยาสลบ ตอนนั้น 15.00 น. เราฟื้นมา 15.20 น.
เราฟื้นมาก็อาเจียนอีก 2-3 รอบ น่าจะเป็นเพราะยาสลบ เจ้าหน้าที่เข็นขึ้นไปที่ห้องพัก ตอนนั้น 16.30 น. เห็นหน้าสามี ดีใจที่สุด เฮ้อออ
นอนพัก มีเวียนหัวเพราะเสียเลือดมาก แต่สบายตัว สบายใจ ไม่มีปวดท้อง กินยา นอนค้างอีก 1 คืน
เช้ามา ขอหมอกลับบ้าน หมอก็ให้กลับไปพัก ห้ามทำงานหนัก 2-3 วัน แต่กว่าเราจะฟื้นตัว ก็ปาเข้าไปวันที่ 7-8 ตุลาค่ะ พยามกินอาหารครบ 5 หมู่
นอนที่บ้านคืนแรก ร้องไห้ใหญ่เลย เมื่อคิดถึงตอนที่นอนห้องคลอดคนเดียว นอนเลือดทะลักๆๆ เงียบๆ ปรกติเป็นคนกลัวผีมาก แต่คืนนั้นไม่กลัวเลย
กลัวตายมากกว่า ไม่ร้องไห้ด้วย ไม่รู้ทำไม แต่พอถึงบ้าน ร้องไห้ทุกวันเมื่อคิดถึง และร้องทุกครั้งเมื่อเล่าให้คนที่ถามฟัง ก่อนนอนจะตัวสั่นๆเหมือนเป็นไข้
เหมือนตอนที่นอนรอในห้องคลอดเลยค่ะ แต่ตอนนี้ปรกติแล้วน๊า เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ที่เลวร้ายให้เพื่อนๆอ่าน (เลวร้ายสำหรับเราตอนนี้นะ อนาคตไม่รู้ว่าจะมีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีก)
ใครเคยผ่านประสบการณ์ เหน็บยา แบบไหน อะไร ยังไง เล่าให้ฟังบ้างนะคะ