'บิ๊กกี่'ปัดล็อบบี้สนช.ไม่รับสำนวน ลั่นเป็นกกปส.ตัวพ่อไม่มีแบ่งฝ่าย .... แนวหน้าออนไลน์
แนวคิดยอมจำนนปรองดองโจร ก็แค่ซื้อเวลาหนีปัญหา .....
นับวันจะเริ่มเห็นร่องรอยแตกแยกทางความคิดในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
ทั้ง 220 คนภายใต้เงาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ยื่นเรื่องให้ถอดถอน
สองแกนนำทาสรับใช้ระบอบทักษิณคือนายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาจาก
พรรคเพื่อไทยกับนายนิคม ไวยรัชพาณิช อดีตประธานวุฒิสภากรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบส่อ
เจตนารวบรัดผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ในยุครัฐบาลหุ่นเชิด
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สนช.เกิดภาวะเสียงแตกเป็นสองฝ่ายเห็นได้ชัดเจนโดยฝ่ายหนึ่งคือกลุ่มอดีต 40 สว. กับอีก
ฝ่ายหนึ่งคือกลุ่มสนช.สายคสช.นำโดย พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่เห็นว่าไม่ควรรับเรื่องการ
ถอดถอนโดยอ้างว่าเพื่อสร้างความปรองดอง เพราะหากมีการถอดถอนจะเกิดการต่อต้านจาก
เหล่าสาวกระบอบทักษิณอย่างรุนแรงแน่
ขณะที่กลุ่มอดีต 40 สว.กลับเห็นว่า ที่ผ่านมาเหล่าสาวกระบอบทักษิณเหิมเกริมลุแก่อำนาจ
อาศัยเผด็จการเสียงข้างมากทำอะไรตามใจชอบถึงขนาดรวบรัดตัดสิทธิ์อดีต ส.ส.พรรคฝ่าย
ค้านเกือบ 60 คนไม่ให้อภิปราย ขณะเดียวกันมีการปลอมแปลงเอกสารและถึงขนาดโกงมติ
ด้วยการ เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันเพื่อเร่งรีบผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นสว.ซึ่งเป็น
เรื่องเลวร้ายและละเมิดหลักกฏหมายอย่างชัดเจน
นี่ยังไม่พูดถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณในอดีตทั้งการก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุม
สุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2522 ตามด้วยการก่อการร้าย
เผาบ้านทำลายเมืองในปี 2553 และที่เลวร้ายก็คือการจวบจ้วงสถาบันเบื้องสูง และทุจริตคอร์รัปชั่น
และสร้างความแตกแยกในชาติอย่างลึกซึ้งรุนแรง รวมทั้งสร้างความหายนะล่มจมให้กับชาติบ้านเมือง
ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นมูลค่าเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาทจากโครงการรับจำนำข้าว
แนว
คิดที่จะปรองดองกับขบวนการระบอบทักษิณที่เคยก่อกรรมทำเข็ญไว้กับชาติบ้านเมืองอย่าง
ร้ายแรงตลอด 10 ปีที่ผ่านมาจึงไม่ต่างอะไรจากการทำลายหลักนิติรัฐและความถูกต้องชอบธรรม
โดยยอมจำนนต่อความชั่วร้าย และโดยแท้ที่จริงแล้วการปรองดองกับโจรก่อการร้ายที่พร้อมทำชั่ว
ได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองจึงเป็นเพียงแค่การซื้อเวลาหนีปัญหาปล่อยระบอบอันชั่วร้ายลอยนวลตั้งหลัก
รอเวลาและโอกาสที่จะกลับมายิ่งใหญ่สร้างความเลวร้ายทำลายประเทศอีกครั้ง
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/126546
กรณีถอดถอน 2 อดีต ประธานสภา .... นิทานอีสป หมาป่ากับลูกแกะ ตอน 2 ....แนวหน้า vs ประชาธิปัตย์ เสียงเดียวกัน ??????
แนวคิดยอมจำนนปรองดองโจร ก็แค่ซื้อเวลาหนีปัญหา .....
นับวันจะเริ่มเห็นร่องรอยแตกแยกทางความคิดในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
ทั้ง 220 คนภายใต้เงาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ยื่นเรื่องให้ถอดถอน
สองแกนนำทาสรับใช้ระบอบทักษิณคือนายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาจาก
พรรคเพื่อไทยกับนายนิคม ไวยรัชพาณิช อดีตประธานวุฒิสภากรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบส่อ
เจตนารวบรัดผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ในยุครัฐบาลหุ่นเชิด
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สนช.เกิดภาวะเสียงแตกเป็นสองฝ่ายเห็นได้ชัดเจนโดยฝ่ายหนึ่งคือกลุ่มอดีต 40 สว. กับอีก
ฝ่ายหนึ่งคือกลุ่มสนช.สายคสช.นำโดย พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่เห็นว่าไม่ควรรับเรื่องการ
ถอดถอนโดยอ้างว่าเพื่อสร้างความปรองดอง เพราะหากมีการถอดถอนจะเกิดการต่อต้านจาก
เหล่าสาวกระบอบทักษิณอย่างรุนแรงแน่
ขณะที่กลุ่มอดีต 40 สว.กลับเห็นว่า ที่ผ่านมาเหล่าสาวกระบอบทักษิณเหิมเกริมลุแก่อำนาจ
อาศัยเผด็จการเสียงข้างมากทำอะไรตามใจชอบถึงขนาดรวบรัดตัดสิทธิ์อดีต ส.ส.พรรคฝ่าย
ค้านเกือบ 60 คนไม่ให้อภิปราย ขณะเดียวกันมีการปลอมแปลงเอกสารและถึงขนาดโกงมติ
ด้วยการ เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันเพื่อเร่งรีบผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นสว.ซึ่งเป็น
เรื่องเลวร้ายและละเมิดหลักกฏหมายอย่างชัดเจน
นี่ยังไม่พูดถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณในอดีตทั้งการก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุม
สุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2522 ตามด้วยการก่อการร้าย
เผาบ้านทำลายเมืองในปี 2553 และที่เลวร้ายก็คือการจวบจ้วงสถาบันเบื้องสูง และทุจริตคอร์รัปชั่น
และสร้างความแตกแยกในชาติอย่างลึกซึ้งรุนแรง รวมทั้งสร้างความหายนะล่มจมให้กับชาติบ้านเมือง
ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นมูลค่าเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาทจากโครงการรับจำนำข้าว
แนวคิดที่จะปรองดองกับขบวนการระบอบทักษิณที่เคยก่อกรรมทำเข็ญไว้กับชาติบ้านเมืองอย่าง
ร้ายแรงตลอด 10 ปีที่ผ่านมาจึงไม่ต่างอะไรจากการทำลายหลักนิติรัฐและความถูกต้องชอบธรรม
โดยยอมจำนนต่อความชั่วร้าย และโดยแท้ที่จริงแล้วการปรองดองกับโจรก่อการร้ายที่พร้อมทำชั่ว
ได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองจึงเป็นเพียงแค่การซื้อเวลาหนีปัญหาปล่อยระบอบอันชั่วร้ายลอยนวลตั้งหลัก
รอเวลาและโอกาสที่จะกลับมายิ่งใหญ่สร้างความเลวร้ายทำลายประเทศอีกครั้ง
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/126546