(18+) เพื่อนๆคะ อาการแบบนี้คือเราโดนหลอกเคลมฟรีแล้วใช่มั้ย T T

จขกท.นั่งคิดอยู่นาน ว่าจะถามดีไม่ถามดี ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองนี่อย่างโง่เลย T^T ฮือๆ คนรอบตัว คนใกล้ตัวที่ปกติจะปรึกษาได้ทุกเรื่อง ก็กลายเป็นปรึกษาไม่ได้ กลัวจะทำให้คนรอบข้างผิดหวังเสียใจ มันอึดอัดไปหมด ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

จขกท.เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิดค่ะ เกิดและโตในกทม. วิถีชีวิตก็เด็กกทม.ทั่วไป คือเรียนๆๆๆๆๆ เรื่องอื่นไม่ยุ่ง มุ่งเรียนอย่างเดียว ชีวิตอยู่ในโรงเรียน เลิกเรียนเรียนพิเศษ กลับบ้านอ่านหนังสือ ตั้งใจสอบเข้ามหาลัยรัฐดีๆ พ่อแม่ปลื้มใจ ซึ่งเราก็ทำได้แบบนั้นมาตลอดค่ะ จขกท.เป็นเด็กเรียนดี ใช้ชีวิตตามกรบตามระเบียบทุกอย่าง มีดื้อบ้าง งอแง เที่ยวบ้างแต่ก็ไม่เคยใช้ชีวิตโลดโผน ไปกับเพื่อนผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้างแต่ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสีย เหล้าไม่ดื่ม กลางคืนกลับบ้านตรงเวลา ทั้งชีวิตมีแฟนมาสองคน(ไม่ได้มีพร้อมกันสองคนนะคะ555+) ทั้งสองคนพามาให้พ่อแม่รู้จัก แฟนเราก็เหมือนกับเรา เป็นคนกทม. ตั้งใจเรียน ประวัติดี เรากับแฟนก็เที่ยวบ้าง ไปกินข้าว ดูหนัง เรื่อยเปื่อย ไม่เคยมีเรื่องติดเรทเข้ามาในชีวิต เรียกว่าประวัติขาวสะอาดทีเดียว

เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นในปีสุดท้ายของการเรียนมหาลัยนี่แหละค่ะ

เพื่อนๆคงจะรู้ว่าในปีสุดท้ายของมหาลัยจะมีสิ่งที่เรียกว่า การฝึกงาน สถานที่ฝึกของเราอยู่ต่างจังหวัด ถึงจะไม่ไกลมาก แต่รบกวนพ่อแม่ไปรับส่งคงไม่ไหวก็เลยตัดสินใจไปอยู่หอพัก ในช่วงฝึกงานนั้น เรากับแฟนที่ไปด้วยกันก็เลิกกันค่ะ เอาเข้าจริงเรากับแฟนคนนี้ก็มีปัญหาระหองระแหงกันมานานแล้ว ในตอนที่ไปฝึกงานและพึ่งพากันและกันมันทำให้เห็นธาตุแท้ของคนจริงๆค่ะ เรารู้สึกเลยว่าเรากับแฟนคนนี้คงไปกันไม่ได้จริงๆ เจ็บแต่จบก็เลยตัดสินใจเลิกกันกลางอากาศแบบนั้นเลยค่ะ

ทีนี้ ในช่วงที่เราเลิกกับแฟนนั่นเอง เราก็ได้รู้จักกับรุ่นพี่ในแผนกคนนึง ขอเรียกว่าพี่Aละกัน ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ คิดว่าเป็นรุ่นพี่ในแผนกเดียวกัน เราตั้งใจว่าเรียนจบจะมาทำงานที่นี่ ก็เลยรู้จักๆเอาไว้ พี่เค้าเข้ามาสนิทก็สนิทด้วย ช่วงแรกๆพี่เค้าชวนไปกินข้าวกันเป็นกลุ่มๆก็ไป (แฟน'เก่า' เราอยู่กันคนละแผนกค่ะ) หลังๆมา พี่เค้าเริ่มชวนเราไปกันสองต่อสอง อ้างว่าคนอื่นติดงานบ้างอะไรบ้าง พี่เค้าเป็นสุภาพบุรุษมากค่ะ (ตอนนั้นนะ) คือดูแลเราดี ไม่มีลามปามอะไร ไม่พูดจาแปลกๆให้เรารู้สึกอึดอัดใจ เรามีปัญหาอะไร พี่เค้าดูออกก็จะคอยปลอบคอยช่วย มีอะไรก็คอยสอนให้ เราก็อะเคค่ะ ไปก็ไป ไปกันสองคนพี่เค้าก็ไม่ได้มีอะไร ดูแลเรา เทคแคร์เหมือนน้องคนนึง จนกระทั่งเราต้องออกมาฝึกที่สาขาย่อยซึ่งอยู่นอกเมืองออกมา เราถูกส่งมาคนเดียว ได้ที่พักเป็นบ้าน (ย้ำว่าบ้าน) สองชั้น สามห้องนอน กว้างขวางใหญ่โต มีเราอยู่คนเดียวสุดจะเวิ้งว้าง 555+ นอนคนเดียวมันวังเวงมากๆๆๆๆๆ วันหนึ่งหลังจากเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านได้สองสามวัน พี่เอก็โทรมา บอกว่าไปกินข้าวดูหนังกันมั้ย ด้วยความที่เราไม่อยากอยู่บ้านเวิ้งอยู่คนเดียว+ยังไม่สนิทกับคนที่สาขานั้น ก็เลยตอบตกลงไป วันนั้น พี่เค้ามารับ ดูแลเราดีเว่อร์ๆ (ภายนอก พี่เค้าดูสุภาพบุรุษมากค่ะ เป็นคนที่หลายๆคนในที่ทำงานกรี๊ด FC เลยทีเดียว) แต่บอกตรงๆ เราไม่ได้คิดอะไรกับพี่เค้านะ คือพี่เค้าดูแลเราดี เราก็ดีใจ ยิ่งในเวลาที่เราเพิ่งจะบอบช้ำจากแฟนเก่ามา เราก็อยากจะมีคนดูแลไม่อยากนั่งหง่าวอยู่คนเดียว รู้สึกสบายใจที่ได้อยู่กับเค้า เรานั่งรถพี่เค้า ร้องเพลง นั่งคุยกันไปตลอดทาง รู้สึกสบายใจบอกไม่ถูก วันนั้นเราไปทานข้าว+ดูหนัง พี่เค้าบอกว่า อยากดูแอนนาเบลล์อ่ะ เราก็แบบ เม่าแพนิค เอาจริงหรอพี่ เดี๋ยวเราต้องกลับไปอยู่บ้านคนเดียวนะ พี่เค้าก็บอก ไม่น่ากลัวหรอกพี่ดูรีวิวมา เอาวะ ไม่น่ากลัวก็ไม่น่ากลัว แต่พอเข้าไปดู เออ...คนที่เจนจัดด้านหนังผีอาจจะบอกไม่น่ากลัว แต่สำหรับเรา มันก็น่ากลัวนะเว้ยยยยย ระหว่างอยู่ในโรงก็มีปิดตา แบบว่าหันไปเกาะๆแขนพี่เค้าบ้าง (ตามสัญชาตญาณหญิงใจเสาะ -*-) พี่เค้าก็ไม่ได้ลามปามล่วงเกินอะไร ก็แบบโอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรนะ ไปแล้วๆ อะไรแบบนี้ พอดูหนังเสร็จ พี่เค้าก็พากลับมาส่งบ้าน

บ้านมันโค-ตา-ระ วังเวงเลยคู๊ณณณณณ ปกติมันวังเวงอยู่แล้ว ยิ่งดูหนังผีมาเสร็จ ความวังเวงคุณสามอ่ะเอาจริงๆ ตอนนั้นก็ดึกและประมาณห้าทุ่ม พี่เค้าก็เข้ามาส่ง หน้าตาดูเป็นห่วงที่เราดูซีดๆ (ซีดดิ นู๋กัววววว) พอเข้ามาถึง ฝนก็ตกลงมาพอดี

เพื่อนๆเริ่มเห็นฉากละครหลังข่าวรึยังคะ T^T

พี่เอออกไปดูนอกหน้าต่าง บอกฝนตก เดี๋ยวพี่ขออยู่รอฝนหยุดแปปนึง ถนนไม่ค่อยดีขับตอนฝนตกเดี๋ยวมีปัญหา อยากจะส่งเราเข้านอนด้วยจะได้ไม่กลัวผี เราก็ อ่ะจ้ะๆๆ เอาไงก็เอาเพราะเห็นว่าเค้าเป็นสุภาพบุรุษมาตลอด (ตรูโง่มวากกกกกกกก)พี่เค้าก็นั่งรอเราอาบน้ำทาครีมบลาๆเสร็จ (ชุดนอนเรา ปราศจากความเซะซี่ใดๆ เป็นเสื้อยืดโคร่งๆกางเกงวอร์มธรรมดา ไม่ใช่กระโปรงแนบเนื้อนะคะ) เราก็มุดขึ้นเตียง พี่เค้านั่งข้างๆ บอก...เรานอนหลับแล้วพี่จะกลับนะ รอเราหลับก่อนจะได้ไม่กลัว เราก็ ค่ะๆ ตามใจพี่ละกัน เราก็นอน คุยกับพี่ พี่เค้าก็นั่งคุย เราคุยกันถูกคอมากๆ คุยไปคุยมา ลุกขึ้นมาแกล้งกันบ้าง (เราแกล้งเค้า โง่อีกแล้ว...ไม่น่าไปถึงเนื้อถึงตัวกับเค้าเลย T^T) เล่นกันไปเล่นกันมา

พี่เค้าโน้มหน้าลงมาจุ๊บเราเต่าเอือมเต่าเอือมเต่าเอือม

คือเราไม่รู้หรอกนะว่าจุ๊บปกติเค้าจุ๊บยังไง แต่แบบนี้มันไม่ใช่จุ๊บแบบ จุ๊บๆ แน่ๆ คือเค้าจุ๊บแบบจริงจังหวังผลมากๆ เราก็ตกใจ บอกพี่เค้าอย่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เราไม่ชอบ พี่เค้าก็ถอย เราถามพี่เค้าว่า ทำไมทำกับเราแบบนี้ พี่เอก็บอกด้วยหน้าตาจริงจังมากๆ ว่า พี่ชอบหนู

เราแบบ...ช็อกกกกกก

แต่ตอนนั้นมันไม่ใช่อารมณ์ช็อกอ่ะค่ะ มันเป็นอารมณ์แบบ ผิดหวัง เสียใจ ทำไมคนที่ชั้นมองว่าเป็นสุภาพบุรุษถึงทำแบบนี้ เลยถามพี่เค้าว่า ถ้าชอบ แล้วทำไมกับกับเราแบบนี้ ทำแบบนี้ทำไม พี่เค้าก็ขอโทษ บอกพี่ขอโทษๆ อย่าเกลียดพี่นะ เราก็แบบ...เราไม่ได้เกลียดพี่ แต่เราไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ อย่าทำอีกนะ พี่เค้าก็พยักหน้า ตอนนั้นพี่เค้าดูเสียใจจริงๆ แล้วเราก็จัดการส่งพี่เค้ากลับบ้าน (ไปเลยปะ)

นี่ยังไม่ถึงจุดเคลมนะคะ เดี๋ยวมาต่อ T^T บรรยายความโง่ของตัวเองให้คนอื่นฟังซะอีกนะเรา ฮือออออ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
แต่งเรื่องป่าวเนี่ย

พวกที่เดือดร้อนจริงๆ เค้าจะถามสิ่งที่ตัวเองอยากรู้เลย ไม่มีอารมณ์มาเขียนยาวๆ แล้วเพ้อไปเรื่อยแบบนี้หรอก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่