บำเพ็ญจิตตภาวนาบูชา ๒๔ ตุลา ... ๑ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์สังฆราช




ในวาระสำคัญแห่งการสิ้นพระชนม์ ครบ ๑ ปี ในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกที่จะมาถึงนี้ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวว่า วัดบวรนิเวศวิหาร จัดการบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชตลอดทั้งเดือน

              "เพราะเดือนตุลาคม จะเรียกว่าเป็นเดือนแห่งท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชก็ได้ เพราะตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระสังฆราช ถ้านับปีนี้ก็เป็นปีที่ครบ ๑๐๑ พรรษา ส่วนวันที่  ๒๔ ตุลาคม เป็นวันสิ้นพระชนม์ เพราะฉะนั้นเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ก็มีการใส่บาตรตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคม โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร จำนวน ๑๕๐ รูป ร่วมกับพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ทุกท่าน ที่ลานตรงถนนหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร

              "และเพื่อเป็นที่แน่ใจว่า พวกเรายังคงรำลึกถึงเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชอยู่ตลอด แม้พระองค์ละสังขารไปแล้วเกือบขวบปี เพราะฉะนั้นเพื่อที่จะนำความคิดถึง อาลัยอาวรณ์พระองค์ ทางวัดจึงจัดกิจกรรม 'บุปผาวิธานบูชา'  ด้วยการจัดดอกไม้ถวายสมเด็จเจ้าพระคุณพระสังฆราช โดยให้ประชาชนมาปักดอกบานไม่รู้โรย ซึ่งมีอยู่สามสีคือ ขาว ม่วง และออกชมพู ออกมาเป็นภาพ ซึ่งแต่ละคนที่มาปักนั้นอาจไม่รู้ว่าตัวเองปักอะไรอยู่ แต่ภาพที่ปักด้วยดอกไม้ลงไปประมาณ ๓x๓ เมตร เสร็จแล้ว ก็จะปรากฏภาพเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชในหลายๆ อิริยาบถ เป็นกิจกรรมครอบครัว ที่ประชาชนสามารถมาร่วมกันสร้างพระรูปสมเด็จพระสังฆราชกันตลอดเดือนตุลาคม"

              นอกจากนี้ก็มีการสวดพระพุทธมนต์ เจริญสมาธิภาวนา เป็นสังฆราชบูชา ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลาสี่โมงเย็นที่พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นต้นไปจนถึงหนึ่งทุ่ม โดยมีครูบาอาจารย์สายกรรมฐานมาเป็นอาจารย์บรรยาย

              ท่านเจ้าคุณพระศากยวงศ์วิสุทธิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจตรงที่กิจกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชทรงกระทำอยู่มาโดยตลอดในช่วงที่ยังมีพระชนม์อยู่ คือทรงเป็นอาจารย์สายกรรมฐาน หรือสายวัดป่าที่อยู่ในเมือง

              "เพราะฉะนั้นเพื่อน้อมระลึกถึงกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ จึงจัดกิจกรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิภาวนา ตามรูปแบบที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ทรงเคยทำมา ในช่วงที่ยังมีพระชนม์อยู่  โดยในเวลาหนึ่งทุ่มมีการสวดพระอภิธรรมตามปกติ นอกจากนี้ก็มีนิทรรศการ 'สัมพัจฉรานุสรณ์' ซึ่งรวบรวมกิจกรรมและจดหมายเหตุแห่งการสิ้นพระชนม์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบ ๑ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ ในนิทรรศการก็มีพระประวัติ มีนิทรรศการจดหมายเหตุ การสิ้นพระชนม์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการเปิดตัวภาพยนตร์การ์ตูน "เมืองนิรมิต แห่งจิตตนคร” และแจกหนังสือการ์ตูนเรื่อง “เมืองนิรมิต แห่งจิตตนคร” เป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราช ที่แจกให้ประชาชนที่เข้าชม สำหรับเด็กเล็กๆ ก็สามารถดูเข้าใจได้ หรือผู้ใหญ่ที่มีจิตใจเป็นเด็กก็สามารถเข้าใจเนื้อหาธรรมะ ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช กลั่นจากพระทัยออกมาเป็นนวนิยายธรรมะที่เห็นตัวละครเป็นตัวๆ เช่น ตัวศีล ตัวโทโส ตัวโมโห ออกมาให้เห็นกันว่าแต่ละตัวมีลักษณะนิสัยอย่างไร

              "บางคนบอกว่า 'จิตตนคร' อ่านยาก แต่นี่เราทำออกมาให้เข้าใจง่าย พอเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ดูแล้วก็จะทำให้เราเข้าใจตัวเรา เข้าใจจิตใจเรามากขึ้น คือดูการ์ตูนแต่เข้าใจตัวเอง แล้วก็มีหนังสือเสียง 'จิตตนคร' ซึ่งเป็นหนังสือเล่มใหญ่ที่เคยแจกไปแล้ว ก็จัดทำเป็นซีดีออกมา ซึ่งสามารถนำไปฟังในรถยนต์ ที่บ้าน ที่ไหนก็ได้"

              ท้ายนี้ ท่านเจ้าคุณศากยวงศ์วิสุทธิ์ ยังเชิญชวนให้มาร่วมกิจกรรมอันเป็นกุศลอีกมากมายว่า สำหรับผู้ที่มาถวายสักการะพระศพในช่วงนี้จะได้รับของที่ระลึกคือ หนังสือพระนิพนธ์เล่มหนึ่งที่ยอดเยี่ยมของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช มีชื่อว่า 'สัมมาทิฐิ: ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ' เป็นธรรมบรรยายที่เจ้าพระคุณสมเด็จ สอนในวัดบวร แล้วถอดเทปออกมาเป็นหนังสือ

              "เล่มนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดมาก ทรงตรวจปรู๊ฟเอง ทรงแก้ไขเอง และขอพระราชทานนุญาตพิมพ์หนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรกในปี ๒๕๒๘ สำหรับพระราชทานในงานฉลองชนมายุ ๖ รอบของสมเด็จพระสังฆราชเมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระญาณสังวร (สุวัฑฒนมหาเถระ) ซึ่งในครั้งนี้ก็จะพิมพ์แจกในงานครบรอบ ๑ ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระสังฆราช

              "ดังนั้นในช่วงเดือนตุลาคม ประชาชนจะเข้ามาที่วัดบวร เมื่อไหร่ก็ได้ เราเปิดให้กราบสักการบูชาพระพุทธรูปสำคัญของชาติเขตพุทธาวาสวัดบวรนิเวศวิหารทั้ง ๙ จุด ปกติไม่ได้เปิดเท่าไหร่ เปิดแต่ พระอุโบสถ เราคงเคยได้ยิน พระไพรีพินาศ ก็จะได้มีโอกาสไปกราบพระบรมสารีริกธาตุใน พระเจดีย์ใหญ่ ก็สามารถไปสักการบูชาได้ แล้วก็มี พระวิหารพระศาสดา พระวิหารเก๋ง ศาลารอยพระพุทธบาทศิลา  พระปรางค์พระไวโรจนะ พระปรางค์พระพุทธรูปสมัยทวารวดี และ โพธิฆระ เป็นอย่างไรไปสักการบูชาและชมกัน ตลอดทั้งเดือนตุลาคม จึงมีกิจกรรมมากมายให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าร่วมตามอัธยาศัย สามารถไปปฏิบัติบูชา ไปกราบสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช ไปช่วยกันสร้างพระรูปจากดอกไม้ก็ได้ ไปแสดงความรัก ความเคารพที่มีต่อพระองค์ หรือจะไปชมภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง 'จิตตนคร' ก็ได้ เจริญพร"

อ้างอิง

http://www.komchadluek.net/detail/20141016/194125.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่