"ผมไม่ต้องการอะไร ชีวิตผมจึงมีความสุข" ไอสไตน์กล่าวไว้
ผมเข้าใจในสิ่งที่ไอสไตน์บอก ผมก็ว่ามีความสุขจิงๆ แต่... มาฟังเรื่องราวของผมกันดีกว่า ถือว่ามาศึกษาคนๆนึง ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้าง
ตอนนี้ผมอายุ 18 ปี เรียนอยู่ ปี 1 ตั้งแต่เด็กผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ค้นหาความรู้รอบตัวมากๆ ทั้ง วิทยาศาสตร์ ธรรมะ นิยาย การแพทย์ นิทานอีสบ
ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ปัญหาเชาว์ ประวัติศาสตร์ ภาษา อะไรต่างๆ มากมาย ทั้งดูสารคดี การ์ตูนการใช้สมองต่างๆ มันทำให้ผมเป็นคนฉลาดและรู้ทันคน
มีไหวพริบมาก แต่มันทำให้ผมรู้สึก ว่าผมเป็นโรคจิตหน่อยๆ คือ หลังจากที่ผมอ่านหนังสือเยอะ มาก ผมเริ่ม คุยกับใครก็ ไม่รู้เรื่อง เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ
ตอนผมอายุ 14 ปีผมรู้สึกไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตเลย มันเกิดจากผมอ่านหนังสือ มากนีแหหละ มันทำให้ผมรู้สึกว่า มันไม่มีจริง จะตายตอนนี้กับตายตอนไหน ก็มีค่าเท่ากัน ผมก็รู้นะว่าสิ่งที่ถูกที่ควรทำคืออะไร แต่มันคือความจริง ผมก็เครียดเรื่อยๆมา จนทนไม่ไหว ก็ไปบอก พ่อ แม่
พ่อแม่ก็พาไปพบ จิตแพทย์ คุยกับจิตแพทย์ ประมาณ ครึ่ง ชม จิตแพทย์ บอก พ่อ แม่ ว่า เขาเป็นออทิสติกหน่อยๆ แต่ว่าเขาเป็นคนฉลาดมาก เลยสามารถควบคุม พฤติกรรมได้ (นี่หมอบอกนะ ก็ให้ยามากิน แต่ก็นะไม่ช่วยอะไรเลย)แล้วก็หมอบอกมากกว่านี้แต่เดี๋ยวมันยาวเกิน ผมก็พอรู้อยู่แล้วละ เพราะผมก็ศึกษามาหมดแล้วก่อนที่จะหาหมอว่าผมเป็นอะไร คือ ผมอ่านหนังสือวันเดียวก่อนสอบ ก็ได้เกรด 3.5 ขึ้นตลอดอะ(คือผมเป็นพวกไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เรื่องเรียน ผมไม่สน สนเฉพาะเรื่องที่อยากรู้) ตอนมัธยมก็อยู่โรงเรียนชื่อดังใน กทม นี่แหละ คือหน้าตาผม ก็ดีด้วยนะประมาณเป็นพระเอกได้ คือมีผญมาจีบเต็มไปหมดอะ แต่ว่าแหละ ผมก็เลือกที่จะอยู่คนเดียว เพราะว่าผมกลัว กลัวว่าชีวิตผมที่ผมเลือก ผมไม่อาจให้ใครมาเสี่ยงกับผมได้ และพอใกล้จบ ม.6 ผมไม่รู้ว่าผมจะเป็นอะไรดี เพราะผมอยากรู้ไปหมด
พ่อผม เป็น วิศวะไฟฟ้า พ่อ แม่ก็บอก ให้เขา วิศวะไฟฟ้าเลย ผมก็เข้าไป ผมไม่รู้ว่าผมชอบไหม แต่ ผมก็เรียนได้หมดละ ถือว่าเป็นความรู้.
ถึงตอนนี้ ตอนเรียน ปี 1 ผมก็เรียนได้ไม่มีปัญหาาอะไร แต่นั่นแหละ ก็อย่างที่ บอกชีวิตผมไม่ต้องการอะไรเลย แบบพ่อแม่ถามว่าอยากได้อะไร ไหม ผมก็บอกว่าตอนนี้ผมก็มีความสุขดีอยู่แล้วไม่ได้อยากได้อะไร บางคนต้องการ iphone รถแพง แฟนบ้าง สิ่งต่างๆ แต่ผมไม่อยากได้อะไรจริงๆ
มันทำให้ผมรู้สึกว่าจะมีชีวิตไปทำไมเมื่อ ไม่ต้องการอะไรเลยจากโลกนี้ พ่อ แม่ ก็ภูมิใจในตัวผม ทั้งเรียนเก่ง เรียนดี ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีแฟน หน้าตาดี ฉลาดมาก คนอื่นก็ชื่นชมเรียนมาหาลัย คนก็มาจีบ แต่ผมไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเลย และ ตระกูลผมก็วิศวะหมดทำงาน พอผมฟังสิ่งที่ทำงาน พ่อ พี่คุยกัน ต้องมีการpresent งาน แก่งแย่งกัน คือผมมไม่ชอบ ผมอยากให้สังคม มองความสำคัญของเพื่อนมนุษย์มากกว่าเงินกับอำนาจ ผมเลยไม่อยากทำงาน ในโรงงาน
ผมเลยอยากได้คำปรึกษาจากเพื่อนทุกคนว่าผมจะทำอย่างไรต่อไปดี กับชีวิตที่เหลือ ขีวิตผมอาจดูไม่ได้ดูเลวร้ายนัก แต่สำหรับผมต้องการคำปรึกษา
เพื่อจะได้มุมมองที่มากขึ้น ตอนนี้ผมพยายามเสพกิเลสให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้อยากมีชีวิตต่อ เล่นเกม ดูซีรี่ ทำอะไรต่างๆ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน แต่อดคิดไม่ได้ว่า ควรจะเดินไปทางไหน ตอนนี้ผมพูดได้ 3 ภาษาคือ ไทย จีน อังกฤษ ด้านคอมก็พอรู้เกี่ญวกับภาษาต่าง รวมทั้ง ไวรัส ระบบต่างๆ ด้านเรียนก็ถือว่าดี
กีฬา ก็เล่นพอใช้ได้ ถ้าใครแนะนำให้ผมบวชเป็นพระ ผมคงทำไม่ได้ อยากเลี้ยงดู พ่อ แม่ก่อน และผมก็มีทางเป็นของตัวเอง
ผมอยากได้คำปรึกษาดีๆนะครับ ไม่เอากวนตีนนะ
ขอบคุณสำหรับทุกcommentนะครับ
อย่างที่คอมเม้นท่านนึงว่าไว้ ผมยอมรับว่าผมก็เคยหลงตัวเอง เพราะมีแต่คนชม แต่ตอนนี้ผมก็โตแล้ว รู้แล้วว่า มันไม่ใช่ความสุขอะไรเลย
ตอนนี้ผม ก็ไม่หลงตัวเองอะไรแล้ว ยอมรับความคิดเห็นทุกคน
ผมก็ไม่เข้าใจเด็กสมัยนี้ หรือเพื่อน ผมนะ ครับ อยากได้ ของแบรนเนม หรือ สูบบุหรี่ กินเหล้า ห่แฟน บ้าเกาหลี ขนาดเป๊บซี่ ผมยังไม่กินเลย
ตอนเด็กผมก็ไม่รู้ก็กิน ตอนนี้ ผมแทบจะไม่กินอะไรเลย พึ่งเข้าใจเหมือนกันว่า พ่อ แม่ รักผมมากที่สุดแล้ว โชคดีที่ผม เห็นแล้วว่ารักแท้เป็นเช่นไร
ผมจะใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวัน ด้วยการช่วยเหลือคนอื่น ขอบคุณคอมมมเ้นท่านนี้ที่บอกไว้นะครับ มันคงทำให้ผมมีค่ามากขึ้น
นอกจากคนแปลกแยกคนนึง
ขอถามจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตของแต่ละคนหน่อยครับ
ผมเข้าใจในสิ่งที่ไอสไตน์บอก ผมก็ว่ามีความสุขจิงๆ แต่... มาฟังเรื่องราวของผมกันดีกว่า ถือว่ามาศึกษาคนๆนึง ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้าง
ตอนนี้ผมอายุ 18 ปี เรียนอยู่ ปี 1 ตั้งแต่เด็กผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ค้นหาความรู้รอบตัวมากๆ ทั้ง วิทยาศาสตร์ ธรรมะ นิยาย การแพทย์ นิทานอีสบ
ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ปัญหาเชาว์ ประวัติศาสตร์ ภาษา อะไรต่างๆ มากมาย ทั้งดูสารคดี การ์ตูนการใช้สมองต่างๆ มันทำให้ผมเป็นคนฉลาดและรู้ทันคน
มีไหวพริบมาก แต่มันทำให้ผมรู้สึก ว่าผมเป็นโรคจิตหน่อยๆ คือ หลังจากที่ผมอ่านหนังสือเยอะ มาก ผมเริ่ม คุยกับใครก็ ไม่รู้เรื่อง เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ
ตอนผมอายุ 14 ปีผมรู้สึกไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตเลย มันเกิดจากผมอ่านหนังสือ มากนีแหหละ มันทำให้ผมรู้สึกว่า มันไม่มีจริง จะตายตอนนี้กับตายตอนไหน ก็มีค่าเท่ากัน ผมก็รู้นะว่าสิ่งที่ถูกที่ควรทำคืออะไร แต่มันคือความจริง ผมก็เครียดเรื่อยๆมา จนทนไม่ไหว ก็ไปบอก พ่อ แม่
พ่อแม่ก็พาไปพบ จิตแพทย์ คุยกับจิตแพทย์ ประมาณ ครึ่ง ชม จิตแพทย์ บอก พ่อ แม่ ว่า เขาเป็นออทิสติกหน่อยๆ แต่ว่าเขาเป็นคนฉลาดมาก เลยสามารถควบคุม พฤติกรรมได้ (นี่หมอบอกนะ ก็ให้ยามากิน แต่ก็นะไม่ช่วยอะไรเลย)แล้วก็หมอบอกมากกว่านี้แต่เดี๋ยวมันยาวเกิน ผมก็พอรู้อยู่แล้วละ เพราะผมก็ศึกษามาหมดแล้วก่อนที่จะหาหมอว่าผมเป็นอะไร คือ ผมอ่านหนังสือวันเดียวก่อนสอบ ก็ได้เกรด 3.5 ขึ้นตลอดอะ(คือผมเป็นพวกไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เรื่องเรียน ผมไม่สน สนเฉพาะเรื่องที่อยากรู้) ตอนมัธยมก็อยู่โรงเรียนชื่อดังใน กทม นี่แหละ คือหน้าตาผม ก็ดีด้วยนะประมาณเป็นพระเอกได้ คือมีผญมาจีบเต็มไปหมดอะ แต่ว่าแหละ ผมก็เลือกที่จะอยู่คนเดียว เพราะว่าผมกลัว กลัวว่าชีวิตผมที่ผมเลือก ผมไม่อาจให้ใครมาเสี่ยงกับผมได้ และพอใกล้จบ ม.6 ผมไม่รู้ว่าผมจะเป็นอะไรดี เพราะผมอยากรู้ไปหมด
พ่อผม เป็น วิศวะไฟฟ้า พ่อ แม่ก็บอก ให้เขา วิศวะไฟฟ้าเลย ผมก็เข้าไป ผมไม่รู้ว่าผมชอบไหม แต่ ผมก็เรียนได้หมดละ ถือว่าเป็นความรู้.
ถึงตอนนี้ ตอนเรียน ปี 1 ผมก็เรียนได้ไม่มีปัญหาาอะไร แต่นั่นแหละ ก็อย่างที่ บอกชีวิตผมไม่ต้องการอะไรเลย แบบพ่อแม่ถามว่าอยากได้อะไร ไหม ผมก็บอกว่าตอนนี้ผมก็มีความสุขดีอยู่แล้วไม่ได้อยากได้อะไร บางคนต้องการ iphone รถแพง แฟนบ้าง สิ่งต่างๆ แต่ผมไม่อยากได้อะไรจริงๆ
มันทำให้ผมรู้สึกว่าจะมีชีวิตไปทำไมเมื่อ ไม่ต้องการอะไรเลยจากโลกนี้ พ่อ แม่ ก็ภูมิใจในตัวผม ทั้งเรียนเก่ง เรียนดี ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีแฟน หน้าตาดี ฉลาดมาก คนอื่นก็ชื่นชมเรียนมาหาลัย คนก็มาจีบ แต่ผมไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเลย และ ตระกูลผมก็วิศวะหมดทำงาน พอผมฟังสิ่งที่ทำงาน พ่อ พี่คุยกัน ต้องมีการpresent งาน แก่งแย่งกัน คือผมมไม่ชอบ ผมอยากให้สังคม มองความสำคัญของเพื่อนมนุษย์มากกว่าเงินกับอำนาจ ผมเลยไม่อยากทำงาน ในโรงงาน
ผมเลยอยากได้คำปรึกษาจากเพื่อนทุกคนว่าผมจะทำอย่างไรต่อไปดี กับชีวิตที่เหลือ ขีวิตผมอาจดูไม่ได้ดูเลวร้ายนัก แต่สำหรับผมต้องการคำปรึกษา
เพื่อจะได้มุมมองที่มากขึ้น ตอนนี้ผมพยายามเสพกิเลสให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้อยากมีชีวิตต่อ เล่นเกม ดูซีรี่ ทำอะไรต่างๆ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน แต่อดคิดไม่ได้ว่า ควรจะเดินไปทางไหน ตอนนี้ผมพูดได้ 3 ภาษาคือ ไทย จีน อังกฤษ ด้านคอมก็พอรู้เกี่ญวกับภาษาต่าง รวมทั้ง ไวรัส ระบบต่างๆ ด้านเรียนก็ถือว่าดี
กีฬา ก็เล่นพอใช้ได้ ถ้าใครแนะนำให้ผมบวชเป็นพระ ผมคงทำไม่ได้ อยากเลี้ยงดู พ่อ แม่ก่อน และผมก็มีทางเป็นของตัวเอง
ผมอยากได้คำปรึกษาดีๆนะครับ ไม่เอากวนตีนนะ
ขอบคุณสำหรับทุกcommentนะครับ
อย่างที่คอมเม้นท่านนึงว่าไว้ ผมยอมรับว่าผมก็เคยหลงตัวเอง เพราะมีแต่คนชม แต่ตอนนี้ผมก็โตแล้ว รู้แล้วว่า มันไม่ใช่ความสุขอะไรเลย
ตอนนี้ผม ก็ไม่หลงตัวเองอะไรแล้ว ยอมรับความคิดเห็นทุกคน
ผมก็ไม่เข้าใจเด็กสมัยนี้ หรือเพื่อน ผมนะ ครับ อยากได้ ของแบรนเนม หรือ สูบบุหรี่ กินเหล้า ห่แฟน บ้าเกาหลี ขนาดเป๊บซี่ ผมยังไม่กินเลย
ตอนเด็กผมก็ไม่รู้ก็กิน ตอนนี้ ผมแทบจะไม่กินอะไรเลย พึ่งเข้าใจเหมือนกันว่า พ่อ แม่ รักผมมากที่สุดแล้ว โชคดีที่ผม เห็นแล้วว่ารักแท้เป็นเช่นไร
ผมจะใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวัน ด้วยการช่วยเหลือคนอื่น ขอบคุณคอมมมเ้นท่านนี้ที่บอกไว้นะครับ มันคงทำให้ผมมีค่ามากขึ้น
นอกจากคนแปลกแยกคนนึง