หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
บันทึกบทที่ 4 ตามหารากเหง้า เล่าความหลัง
กระทู้สนทนา
ภาพถ่ายทิวทัศน์
ภาพถ่าย
เที่ยวไทย
จังหวัดสตูล
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล คฤหาสน์กูเด็น อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ถนนสตูลธานี ซอย 5 ตรงข้ามกับสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น อาคารเป็นตึกแบบตะวันตก ประตูหน้าต่างรูปโค้งสถาปัตยกรรมยุโรป
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล คฤหาสน์กูเด็น ถูกสร้างขึ้นในแบบหลังคาทรงปั้นหยาแบบไทยและใช้กระเบื้องดินเผารูปกาบกล้วย บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็กๆ เป็นเกล็ดแนวนอน ช่องลมหน้าบนตกแต่งรูปดาวสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม สร้างเมื่อ พ.ศ.2441 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2459 โดยพระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกูบาฮารุดดินบินตำมะหงง (กูเด็น บินกูแม๊ะ) เจ้าเมืองสตูลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
คฤหาสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ไม่ได้ประทับแรม และเคยเป็นบ้านพักและศาลากลางจังหวัด ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโบราณวัตถุและจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของชาวสตูลในด้านต่าง ๆ
รูปทรงสวยงามมากๆ ผ่านการปรับปรุงซ่อมแซมมาแล้ว ถ้าเกิดต้องเปลี่ยนไปกว่านี้คงหมดความงามไปเยอะ
ภายในจริงๆ ไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพน่ะครับ ครั้งนี้ผมไปในนามของทีมช่างภาพที่บันทึกประวัติศาสตร์สตูลเลยได้เป็นกรณีพิเศษ
หน้าต่างบานประตูซุ้มประตูออกแบบงามมาก
บันไดส่วนหน้าเมื่อสมัยก่อนจะไม่อนุญาติให้สตรีเดินขึ้นมาเพราะถือกันว่าต้องให้ผู้ชายเป็นผู้นำขึ้นเท่านั้น
ผสมผสานวัฒนธรรม เรือไม้ตะเคียนขุด ที่นี่มีมุสลิมเยอะกว่าพุทธ บ้านหลังนี้ก็มีเจ้าของเก่าเป็นมุสลิม แต่เรือลำนี้ขุดพบแล้วนำมาไว้ที่นี่มีการทาแป้งผูกผ้าแสดงถึงความเชื่อของศาสนาอื่นชัดเจน
ผู้ดูแลเดินขึ้นมาชั้น2 เพื่อเปิดไฟ ผมเห็นแล้วรีบเดินตามขึ้นมาขณะคนอื่นอยู่ชั้น1 ภาพที่ได้คือสิ่งที่คิดไว้แต่แรก
จับจังหวะได้กดทันทีได้ดั่งหวัง แสงลอดบานเกล็ดโบราณที่ทำด้วยไม้เมื่อยกขึ้นแล้วพับก้านจับมันจะล๊อคในตำแหน่งที่ต้องการโดยไม่ต้องมีกลอนเลย
รีบวิ่งมาด้านหลังจับเฟรมนี้อิอิฟินจริงๆ
ว่าวควาย ไม่ต้องดัดจริตเรียกว่าวกระบือน่ะ ลวดลายที่ประดับและบรรจงเขียนช่างงดงามยิ่งนัก
ปกติว่าวชนิดนี้จะมีคันธนูอยู่ด้ายหลังเวลาติดลมบนจะมีเสียงร้องดังมาก เหมือนควายเรียกหาแม่เลยทีเดียว
การจัดแสดงดูหลวมๆ แต่ผมว่าดูดีมาก เพราะจะได้ไม่บังความงามของอาคารเก่า
การลงทองลวดลายสวยงามจริงๆ ให้ดูแบบชัดๆ
พระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกูบาฮารุดดินบินตำมะหงง (กูเด็น บินกูแม๊ะ) เจ้าเมืองสตูลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จำลองข้าวของเครื่องใช้ท่านเจ้าเมือง
แสงลงมาสวยพอดีอิอิ
เครื่องใช้ชาวบ้านสมัยก่อนใช้บดยาบดเครื่องเทศ
อันนี้คงไม่ต้องบอกมีใครไม่รู้จักไหม เกราะคล้องคอควาย เพื่อเวลาควายเดินไปไหนเจ้าของจะได้รู้ว่าอยู่ตรงไหน
เล่นกันสนุกเลยเทคโนโลยีภูมิปัญญาเมื่อสมัยก่อนสุดยอดจริงๆ จับยกแล้วพับ เปิดปิดบานเกร็ดไม้
แล้วก็ไปต่อถนนประวัติศาสตร์ วงเวียนหอนาฬิกา
บ้านเก่าสถาปัตยกรรมชิโนโปตุกีส แต่ปรับปรุงไปแบบสุดๆแล้ว จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
แล้วก็มาต่อที่มัสยิดกลางสตูลหรือมัสยิดมำบัง
ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนบุรีวานิชและถนนสตูลธานี กลางเมืองสตูล เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระยาสมันตรัฐบุรินทร์ (ตนกูมูฮำหมัดอาเก็ม) เป็นเจ้าเมืองสตูล ชื่อมำบังตั้งตามชื่อเมืองสตูลในสมัยนั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 ได้จัดสร้างลักษณะรูปทรงมัสยิดเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ตัวอาคารสีขาวตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบหินอ่อนและกระจกใส ตัวอาคารแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนอกเป็นระเบียง มีบันไดขึ้นหอคอย ลักษณะเป็นยอดโดม สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองสตูลได้ ส่วนในเป็นห้องโถงใหญ่ใช้เป็นที่ละหมาด ชั้นล่างมีห้องใต้ดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จทรงเปิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2525
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
❤️🙏 ๒๓ ตุลาคม “วันปิยมหาราช” 🙏❤️ วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
🙏 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ 🙏 ❤️🙏 ๒๓ ตุลาคม “วันปิยมหาราช” 🙏❤️ วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
สมาชิกหมายเลข 4962221
เที่ยววันปิยมหาราช ชมจิตรกรรมฝาผนัง "พระที่นั่งทรงผนวช" วัดเบญจมบพิตร
วันนี้เป็นวันปิยมหาราช ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ในวันนี้ของทุกปี ทางวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร จะเปิดให้เข้าชมพระที่นั่งทรงผนวช ซึ่งภายในมี
สมาชิกหมายเลข 3915106
สวดมนต์ข้ามปี วัดโบราณ สวยงดงาม ที่ นครนายก
ขอเชิญร่วมสวดมนต์ข้ามปี ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล ประจำปี ๒๕๖๗ - ๒๕๖๘ Cr. วัดคีรีวัน การสวดมนต์ข้ามปี ถือเป็นประเพณีที่ชาวไทยปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ
weiweija
ศิษยานุศิษย์สุดอาลัย สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร มรณภาพแล้วอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี 68 พรรษา
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (พิจิตร ฐิตวณฺโณ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม มรณภาพแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 21.05 น. วันที่&nbs
สมาชิกหมายเลข 7808925
มัสยิดในธนบุรี?
จากทะเบียนมัสยิดในประเทศไทย พ.ศ. 2546 มีข้อมูลให้ทราบว่า จำนวนมัสยิดในกรุงเทพมหานครที่จดทะเบียนมีจำนวน 164 แห่ง เป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ธนบุรีจำนวน 20 แห่ง&nb
สมาชิกหมายเลข 5588648
รู้ไว้ใช่ว่า ไม่ต้องแบกไม่ต้องหาม ๒๐กันยายน วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ไทย ๒ พระองค์
๒๐ กันยายน วันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร วันที่ ๒๐ กันยายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริ
ต้นโพธิ์ต้นไทร
ความงดงาม..บนหน้า "ประวัติศาสตร์ไทย" ที่ชาติใดก็มิอาจจะทัดเทียม
บทความโดย : YUM comment วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆย้อนประวัติศาสตร์ ไปกับเรื่องราวของ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงพระองค์หนึ่ง ที่ทรงมีพระสิริโฉมที่งดงามยิ่งนัก นั่นก็คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า
สมาชิกหมายเลข 7590724
พระราชพิธี 12 เดือน....ของคนไทย หนึ่งเดียวในโลก. .... ..เล่าสู่กันฟัง...
พระราชพิธีสิบสองเดือน (พิธีทวาทศมาส )เป็นพิธีมหามงคล..ที่ที่มีมาแต่สมัยพระนครศรีอยุธยาเป็นราชธานี.จวบ..จนมาถึงรัชสมัยราชวงศ์จักรี ..พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก . มาตั้งราชธานีใหม่..ประเพณีพิธีได้
สมาชิกหมายเลข 4478942
สงสัยเกี่ยวกับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ก็เป็น พระราชโอรสองค์ที่ 9 ในพระบาทสมเด็จพระจอม
khonnarak2012
ทำไมเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศถึงไม่ได้ทรงกรมครับ
ทำไมเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศถึงไม่ได้ทรงกรมครับ ทั้งๆที่ พระโอรสพระองค์อื่นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ที่สำคัญๆต่างได้รับการทรงกรมกันทั้งสิ้น
สมาชิกหมายเลข 3398909
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
ภาพถ่าย
เที่ยวไทย
จังหวัดสตูล
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 117
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
บันทึกบทที่ 4 ตามหารากเหง้า เล่าความหลัง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล คฤหาสน์กูเด็น ถูกสร้างขึ้นในแบบหลังคาทรงปั้นหยาแบบไทยและใช้กระเบื้องดินเผารูปกาบกล้วย บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็กๆ เป็นเกล็ดแนวนอน ช่องลมหน้าบนตกแต่งรูปดาวสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม สร้างเมื่อ พ.ศ.2441 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2459 โดยพระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกูบาฮารุดดินบินตำมะหงง (กูเด็น บินกูแม๊ะ) เจ้าเมืองสตูลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
คฤหาสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ไม่ได้ประทับแรม และเคยเป็นบ้านพักและศาลากลางจังหวัด ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโบราณวัตถุและจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของชาวสตูลในด้านต่าง ๆ
รูปทรงสวยงามมากๆ ผ่านการปรับปรุงซ่อมแซมมาแล้ว ถ้าเกิดต้องเปลี่ยนไปกว่านี้คงหมดความงามไปเยอะ
ภายในจริงๆ ไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพน่ะครับ ครั้งนี้ผมไปในนามของทีมช่างภาพที่บันทึกประวัติศาสตร์สตูลเลยได้เป็นกรณีพิเศษ
หน้าต่างบานประตูซุ้มประตูออกแบบงามมาก
บันไดส่วนหน้าเมื่อสมัยก่อนจะไม่อนุญาติให้สตรีเดินขึ้นมาเพราะถือกันว่าต้องให้ผู้ชายเป็นผู้นำขึ้นเท่านั้น
ผสมผสานวัฒนธรรม เรือไม้ตะเคียนขุด ที่นี่มีมุสลิมเยอะกว่าพุทธ บ้านหลังนี้ก็มีเจ้าของเก่าเป็นมุสลิม แต่เรือลำนี้ขุดพบแล้วนำมาไว้ที่นี่มีการทาแป้งผูกผ้าแสดงถึงความเชื่อของศาสนาอื่นชัดเจน
ผู้ดูแลเดินขึ้นมาชั้น2 เพื่อเปิดไฟ ผมเห็นแล้วรีบเดินตามขึ้นมาขณะคนอื่นอยู่ชั้น1 ภาพที่ได้คือสิ่งที่คิดไว้แต่แรก
จับจังหวะได้กดทันทีได้ดั่งหวัง แสงลอดบานเกล็ดโบราณที่ทำด้วยไม้เมื่อยกขึ้นแล้วพับก้านจับมันจะล๊อคในตำแหน่งที่ต้องการโดยไม่ต้องมีกลอนเลย
รีบวิ่งมาด้านหลังจับเฟรมนี้อิอิฟินจริงๆ
ว่าวควาย ไม่ต้องดัดจริตเรียกว่าวกระบือน่ะ ลวดลายที่ประดับและบรรจงเขียนช่างงดงามยิ่งนัก
ปกติว่าวชนิดนี้จะมีคันธนูอยู่ด้ายหลังเวลาติดลมบนจะมีเสียงร้องดังมาก เหมือนควายเรียกหาแม่เลยทีเดียว
การจัดแสดงดูหลวมๆ แต่ผมว่าดูดีมาก เพราะจะได้ไม่บังความงามของอาคารเก่า
การลงทองลวดลายสวยงามจริงๆ ให้ดูแบบชัดๆ
พระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกูบาฮารุดดินบินตำมะหงง (กูเด็น บินกูแม๊ะ) เจ้าเมืองสตูลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จำลองข้าวของเครื่องใช้ท่านเจ้าเมือง
แสงลงมาสวยพอดีอิอิ
เครื่องใช้ชาวบ้านสมัยก่อนใช้บดยาบดเครื่องเทศ
อันนี้คงไม่ต้องบอกมีใครไม่รู้จักไหม เกราะคล้องคอควาย เพื่อเวลาควายเดินไปไหนเจ้าของจะได้รู้ว่าอยู่ตรงไหน
เล่นกันสนุกเลยเทคโนโลยีภูมิปัญญาเมื่อสมัยก่อนสุดยอดจริงๆ จับยกแล้วพับ เปิดปิดบานเกร็ดไม้
แล้วก็ไปต่อถนนประวัติศาสตร์ วงเวียนหอนาฬิกา
บ้านเก่าสถาปัตยกรรมชิโนโปตุกีส แต่ปรับปรุงไปแบบสุดๆแล้ว จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
แล้วก็มาต่อที่มัสยิดกลางสตูลหรือมัสยิดมำบัง
ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนบุรีวานิชและถนนสตูลธานี กลางเมืองสตูล เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระยาสมันตรัฐบุรินทร์ (ตนกูมูฮำหมัดอาเก็ม) เป็นเจ้าเมืองสตูล ชื่อมำบังตั้งตามชื่อเมืองสตูลในสมัยนั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 ได้จัดสร้างลักษณะรูปทรงมัสยิดเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ตัวอาคารสีขาวตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบหินอ่อนและกระจกใส ตัวอาคารแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนอกเป็นระเบียง มีบันไดขึ้นหอคอย ลักษณะเป็นยอดโดม สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองสตูลได้ ส่วนในเป็นห้องโถงใหญ่ใช้เป็นที่ละหมาด ชั้นล่างมีห้องใต้ดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จทรงเปิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2525