ทีมทนายความยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้กลุ่มผู้ต้องหา คนร้ายชุดดำ หลังกลับคำรับสารภาพอ้าง
ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย
นายวิญญัติ ชาติมนตรี พร้อมด้วยทีมทนายความกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ กนส. ยื่นหนังสือ ถึงนายกมล ธรรมเสรีกุล อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับ 5 ผู้ต้องหา คนร้ายชุดดำ ที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช. เมื่อ ปี 2553
โดยนายวิญญัติ ระบุว่าทีมทนายความ ได้เข้าพบผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ที่เรือนจำ และผู้ต้องหาทั้ง 5 คน กลับคำรับสารภาพ ระบุว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง และทนต่อการถูกทำร้ายร่างกายไม่ไหวจึงยอมรับสารภาพ
และเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองจึงเป็นคดีพิเศษตามมติ คณะกรรมการคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จึงไม่มีอำนาจการสอบสวน เป็นอำนาจการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จึงขอให้ทางอัยการไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว หรือมีคำสั่งสอบสวนคดีนี้ใหม่
นอกจากนี้นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า การยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ไม่ได้ใส่ร้ายใคร แต่เป็นการนำข้อเท็จจริงมาเสนอต่ออัยการ
ด้านนายกมล ระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ขอสำนวนคดีดังกล่าวไปสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าอยู่ในส่วนรับผิดชอบของคดีพิเศษ และหากดีเอสไอส่งสำนวนกลับมาให้อัยการอีกครั้ง ก็จะอยู่ในอำนาจการพิจารณาของอัยการคดีพิเศษ ในการสั่งคดี ส่วนหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจะรับไว้ และจะประสานอัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาอีกแล้ว งามไส้....มั้ยล้ะ..กร้ากๆๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"ชุดดำพลิกลิ้น" แฉถูกซ้อมให้รับสารภาพ
นายวิญญัติ ชาติมนตรี พร้อมด้วยทีมทนายความกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ กนส. ยื่นหนังสือ ถึงนายกมล ธรรมเสรีกุล อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับ 5 ผู้ต้องหา คนร้ายชุดดำ ที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช. เมื่อ ปี 2553
โดยนายวิญญัติ ระบุว่าทีมทนายความ ได้เข้าพบผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ที่เรือนจำ และผู้ต้องหาทั้ง 5 คน กลับคำรับสารภาพ ระบุว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง และทนต่อการถูกทำร้ายร่างกายไม่ไหวจึงยอมรับสารภาพ
และเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองจึงเป็นคดีพิเศษตามมติ คณะกรรมการคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จึงไม่มีอำนาจการสอบสวน เป็นอำนาจการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จึงขอให้ทางอัยการไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว หรือมีคำสั่งสอบสวนคดีนี้ใหม่
นอกจากนี้นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า การยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ไม่ได้ใส่ร้ายใคร แต่เป็นการนำข้อเท็จจริงมาเสนอต่ออัยการ
ด้านนายกมล ระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ขอสำนวนคดีดังกล่าวไปสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าอยู่ในส่วนรับผิดชอบของคดีพิเศษ และหากดีเอสไอส่งสำนวนกลับมาให้อัยการอีกครั้ง ก็จะอยู่ในอำนาจการพิจารณาของอัยการคดีพิเศษ ในการสั่งคดี ส่วนหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจะรับไว้ และจะประสานอัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาอีกแล้ว งามไส้....มั้ยล้ะ..กร้ากๆๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้