ผมยังไม่ได้เขียนแสดงความยินดีและต้อนรับสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ทั้ง 250 ท่าน
อย่างเป็นทางการเลยครับ
วันนี้ ขออนุญาตเขียนถึงแบบเต็มๆคอลัมน์สักวันก็แล้วกัน
ผมลองนับรายชื่อคนที่ผมรู้จักและเคยทำงานด้วย ทั้งทำงานอย่างใกล้ชิดพอสมควร
และทำงานห่างๆ แต่ก็อยู่ในแวดวงเดียวกัน น่าจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของรายชื่อทั้งหมด
ถ้านับคนที่ผมไม่เคยทำงานด้วย หรือไม่เคยรู้จักพูดคุยด้วย แต่ได้ยินกิตติศัพท์ในการ
ทำงาน และอ่านหรือติดตามผลงานของแต่ละท่านมาบ้างทั้งในอดีตและปัจจุบัน ก็อาจ
จะกล่าวได้ว่า ผมคุ้นเคยกับชื่อที่ประกาศออกมาเกินร้อยละ 50 เลยทีเดียว
ในแง่ความรู้ ความสามารถของผู้ที่ผมรู้จัก ทั้งโดยตรง และเคยได้ยินกิตติศัพท์เหล่านี้
ต้องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และอยู่ในระดับแถวหน้าของหัวข้อที่ท่านจะรับผิดชอบ
ในการปฏิรูปเป็นส่วนใหญ่
แต่ที่ผมยังเป็นห่วงกังวลอยู่บ้าง ก็ตรงที่หลายๆท่านที่ผมเคยรู้จัก หรือเคยได้ยินกิตติศัพท์เป็น
คนที่เชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง จนเป็นเหตุให้ไม่ค่อยเชื่อมั่นในคนอื่นๆ
ไม่เกรงใจใคร ไม่ประนีประนอม และไม่ยอมใครง่ายๆ แม้ตัวเองจะเป็นเสียงส่วนน้อยในกลุ่มนั้นๆ
ความจริงเท่าที่ผมนั่งสำรวจชื่ออย่างคร่าวๆ มิได้ละเอียดอะไรนัก พบว่ามีสมาชิกสภาปฏิรูปที่มี
คุณสมบัติเช่นนี้ไม่กี่ท่าน
แต่เนื่องจากท่านเหล่านี้ แม้มีน้อยคนแต่ก็สามารถส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ราวกับมีเป็นร้อยๆคน
ได้ตลอดเวลา อาจจะเป็นสาเหตุให้การประชุมสภาปฏิรูปไม่ราบรื่นอย่างที่หวังไว้
อีกเรื่องที่เป็นห่วงก็คือ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันของนักวิชาการกับนักปฏิบัติ ที่อาจจะมอง
คนละมุมอยู่เสมอ และในสภาปฏิรูปชุดนี้ก็มีอยู่ฝ่ายละหลายๆท่าน
คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆนักที่จะตะล่อมความคิดเห็นในแต่ละเรื่องให้เข้ามาเป็นความเห็นร่วมเพื่อ
ที่จะเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
ผมก็ฝากความห่วงใย ฝากความกังวลเอาไว้พอเป็นสังเขป ตามวิสัยคนไทยที่ยังอดห่วงใย
หรืออดระแวงโน่นนี่เสียมิได้
เมื่อฝากข้อสังเกตเสร็จสรรพ ก็ขอให้กำลังใจบ้างละ...ขอให้ทุกท่านจงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เพื่อให้เกิดการปฏิรูปสมดังที่ทุกๆฝ่ายตั้งความหวังไว้
ใครมีพฤติกรรมเดิมอย่างไร ก็ขอให้ละลายพฤติกรรมนั้นเสียให้หมดก่อนที่จะเดินเข้าไปสู่สภาปฏิรูป
ถือเป็นการปฏิรูปตัวเองของท่านสมาชิกด้วยเหมือนกัน และเป็นการปฏิรูปล่วงหน้าให้ประชาชน
ได้เห็นเป็นตัวอย่าง ซึ่งก็จะทำให้ประชาชนเชื่อถือและยอมรับมาตรการหรือข้อสรุปอันเป็นมติ
ต่างๆที่ท่านเสนอไว้
สำหรับท่านที่ไม่ได้รับการคัดเลือก หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า สปช.สอบตก ซึ่งแน่นอน
ย่อมจะมีมากกว่าผู้ที่สอบได้หลายเท่า
ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณที่ท่านได้กรุณามาร่วมสมัคร และก็อยากจะปลอบใจหากท่านรู้สึก
ผิดหวังหรือเสียใจที่มิได้รับการคัดเลือก
แม้ส่วนใหญ่จะยอมรับในผลการคัดเลือกและไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก แต่ก็มีไม่น้อยที่แสดง
ความไม่พอใจและยังปักใจว่ามีการล็อกสเปก มีการกำหนดตัวบุคคลล่วงหน้า
เรื่องนี้ผมคาดการณ์เอาไว้แล้ว และได้เคยเขียนปลอบใจล่วงหน้าเอาไว้แล้วว่าท่านจะต้อง
ทำใจและเตรียมตัวที่จะเป็นผู้สอบตกที่ดี ยอมรับการตัดสินใจของกรรมการคัดเลือก
นี่ก็ถือเป็นการปฏิรูปตัวเองเช่นกัน ปฏิรูปเพื่อให้เป็นผู้แพ้ที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเรื่องยาก
มากๆสำหรับคนไทย
รวมความแล้ว ก่อนลงมือปฏิรูปประเทศผมก็อยากเห็นท่านสมาชิกสภาปฏิรูป ปฏิรูปตัวเอง
เสียก่อน ก่อนที่จะเข้าทำหน้าที่
ส่วนท่านที่พลาดหวังไม่ได้เป็นสมาชิก หากจะปฏิรูปให้รู้จักกับคำว่า รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
ควบคู่ไปด้วยก็จะขอบคุณยิ่ง
จากนี้ไป กระบวนการปฏิรูปจะเริ่มต้นขึ้น...ผมขอให้กำลังใจและขอให้การปฏิรูปประเทศ
บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ทุกฝ่ายในประเทศไทยฝากความหวังไว้
อนาคตของชาติอยู่ในกำมือของท่านแล้วครับ โปรดอย่าทำหล่นมือไปเสียก็แล้วกัน.
“ซูม”
http://www.thairath.co.th/content/455590
ปฏิรูป “สมาชิก” สภาปฏิรูป ก่อนปฏิรูป “ประเทศไทย”โดย ซูม ...... ไทยรัฐออนไลน์
อย่างเป็นทางการเลยครับ
วันนี้ ขออนุญาตเขียนถึงแบบเต็มๆคอลัมน์สักวันก็แล้วกัน
ผมลองนับรายชื่อคนที่ผมรู้จักและเคยทำงานด้วย ทั้งทำงานอย่างใกล้ชิดพอสมควร
และทำงานห่างๆ แต่ก็อยู่ในแวดวงเดียวกัน น่าจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของรายชื่อทั้งหมด
ถ้านับคนที่ผมไม่เคยทำงานด้วย หรือไม่เคยรู้จักพูดคุยด้วย แต่ได้ยินกิตติศัพท์ในการ
ทำงาน และอ่านหรือติดตามผลงานของแต่ละท่านมาบ้างทั้งในอดีตและปัจจุบัน ก็อาจ
จะกล่าวได้ว่า ผมคุ้นเคยกับชื่อที่ประกาศออกมาเกินร้อยละ 50 เลยทีเดียว
ในแง่ความรู้ ความสามารถของผู้ที่ผมรู้จัก ทั้งโดยตรง และเคยได้ยินกิตติศัพท์เหล่านี้
ต้องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และอยู่ในระดับแถวหน้าของหัวข้อที่ท่านจะรับผิดชอบ
ในการปฏิรูปเป็นส่วนใหญ่
แต่ที่ผมยังเป็นห่วงกังวลอยู่บ้าง ก็ตรงที่หลายๆท่านที่ผมเคยรู้จัก หรือเคยได้ยินกิตติศัพท์เป็น
คนที่เชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง จนเป็นเหตุให้ไม่ค่อยเชื่อมั่นในคนอื่นๆ
ไม่เกรงใจใคร ไม่ประนีประนอม และไม่ยอมใครง่ายๆ แม้ตัวเองจะเป็นเสียงส่วนน้อยในกลุ่มนั้นๆ
ความจริงเท่าที่ผมนั่งสำรวจชื่ออย่างคร่าวๆ มิได้ละเอียดอะไรนัก พบว่ามีสมาชิกสภาปฏิรูปที่มี
คุณสมบัติเช่นนี้ไม่กี่ท่าน
แต่เนื่องจากท่านเหล่านี้ แม้มีน้อยคนแต่ก็สามารถส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ราวกับมีเป็นร้อยๆคน
ได้ตลอดเวลา อาจจะเป็นสาเหตุให้การประชุมสภาปฏิรูปไม่ราบรื่นอย่างที่หวังไว้
อีกเรื่องที่เป็นห่วงก็คือ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันของนักวิชาการกับนักปฏิบัติ ที่อาจจะมอง
คนละมุมอยู่เสมอ และในสภาปฏิรูปชุดนี้ก็มีอยู่ฝ่ายละหลายๆท่าน
คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆนักที่จะตะล่อมความคิดเห็นในแต่ละเรื่องให้เข้ามาเป็นความเห็นร่วมเพื่อ
ที่จะเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
ผมก็ฝากความห่วงใย ฝากความกังวลเอาไว้พอเป็นสังเขป ตามวิสัยคนไทยที่ยังอดห่วงใย
หรืออดระแวงโน่นนี่เสียมิได้
เมื่อฝากข้อสังเกตเสร็จสรรพ ก็ขอให้กำลังใจบ้างละ...ขอให้ทุกท่านจงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เพื่อให้เกิดการปฏิรูปสมดังที่ทุกๆฝ่ายตั้งความหวังไว้
ใครมีพฤติกรรมเดิมอย่างไร ก็ขอให้ละลายพฤติกรรมนั้นเสียให้หมดก่อนที่จะเดินเข้าไปสู่สภาปฏิรูป
ถือเป็นการปฏิรูปตัวเองของท่านสมาชิกด้วยเหมือนกัน และเป็นการปฏิรูปล่วงหน้าให้ประชาชน
ได้เห็นเป็นตัวอย่าง ซึ่งก็จะทำให้ประชาชนเชื่อถือและยอมรับมาตรการหรือข้อสรุปอันเป็นมติ
ต่างๆที่ท่านเสนอไว้
สำหรับท่านที่ไม่ได้รับการคัดเลือก หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า สปช.สอบตก ซึ่งแน่นอน
ย่อมจะมีมากกว่าผู้ที่สอบได้หลายเท่า
ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณที่ท่านได้กรุณามาร่วมสมัคร และก็อยากจะปลอบใจหากท่านรู้สึก
ผิดหวังหรือเสียใจที่มิได้รับการคัดเลือก
แม้ส่วนใหญ่จะยอมรับในผลการคัดเลือกและไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก แต่ก็มีไม่น้อยที่แสดง
ความไม่พอใจและยังปักใจว่ามีการล็อกสเปก มีการกำหนดตัวบุคคลล่วงหน้า
เรื่องนี้ผมคาดการณ์เอาไว้แล้ว และได้เคยเขียนปลอบใจล่วงหน้าเอาไว้แล้วว่าท่านจะต้อง
ทำใจและเตรียมตัวที่จะเป็นผู้สอบตกที่ดี ยอมรับการตัดสินใจของกรรมการคัดเลือก
นี่ก็ถือเป็นการปฏิรูปตัวเองเช่นกัน ปฏิรูปเพื่อให้เป็นผู้แพ้ที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเรื่องยาก
มากๆสำหรับคนไทย
รวมความแล้ว ก่อนลงมือปฏิรูปประเทศผมก็อยากเห็นท่านสมาชิกสภาปฏิรูป ปฏิรูปตัวเอง
เสียก่อน ก่อนที่จะเข้าทำหน้าที่
ส่วนท่านที่พลาดหวังไม่ได้เป็นสมาชิก หากจะปฏิรูปให้รู้จักกับคำว่า รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
ควบคู่ไปด้วยก็จะขอบคุณยิ่ง
จากนี้ไป กระบวนการปฏิรูปจะเริ่มต้นขึ้น...ผมขอให้กำลังใจและขอให้การปฏิรูปประเทศ
บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ทุกฝ่ายในประเทศไทยฝากความหวังไว้
อนาคตของชาติอยู่ในกำมือของท่านแล้วครับ โปรดอย่าทำหล่นมือไปเสียก็แล้วกัน.
“ซูม”
http://www.thairath.co.th/content/455590