Thee story เรื่องหลังจากฉากประตูกั้นในตำนาน( ต่อจนธีร์เข้ามหาลัยละรู้ยัง)

คือเรื่องราวนี้แต่งขึ้นนะครับ เพราะว่ายังคงงเจ็บปวดกับบทธีร์ นน ขอให้เรื่องมโนเรื่องเป็นยารักษาอาการจุกของส่าวกนนธีร์ละกันนะคั

หลังจากนนเดินจากไป

        "ผมเป็นลูกคนเดียวอ่ะพี่ ไม่เคยมีพี่น้องมาก่อน พี่ทำให้ผมรู้สึกว่า การที่มีพี่ชายคนนึงอ่ะ แมร่งดีมากๆเลยพี " ประโยคเหล่านี้ ยังกังวาลอยู่ในหูธีร์เหมือนกับว่ามันรีเพลย์ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า หลังจากที่นนกลับไป ธีร์กลับมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม นั่งคิดเรื่องราวที่ผ่านมาอยู่คนเดียวอย่างเหม่อลอย ทั้งเรื่องภู และเรื่องนน ธีร์นั่งนิ่งอยู่ซักพักก่อนจะปล่อยโฮออกมา อย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ...
        "เพราะของปลอมๆอย่างฉัน ใช้ทดแทนเท่านั้น แววตาของเธอบอกฉัน ว่าคนสำคัญที่สุดคือใคร" .......เสียงโทรศัพท์ของธีร์ดังขึ้น
  "ฮัลโหลธีร์ เป็นไงบ้างลูก"
  "ดีครับแม่" ธีร์พยายามใช้นำเสียงอย่างปกติที่สุด แต่ก็ยังคงสั่นเครือ
  "ไม่สบายหรอลูก เสียงไม่ค่อยดีเลย"
  "เจ็บคอนิดหน่อยคับแม่ แต่กินยาไปแล้วเมื่อกี้ ดีขึ้นละครับ"
   " อ่อ ไม่เป็นไรมากใช่มั้ย ใกล้สอบแล้วนะธีร์ อย่าอ่านหนังสือดึกมากนะลูก ไม่ต้องเครียดมาก ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย แม่เป็นห่วงนะลูก แม่มีลูกคนเดียว ถ้าลูกเป็นอะไรไปแม่คงอยู่ไม่ได้" ธีร์น้ำตาเอ่อ แต่กลั้นเสียงปกติ
   " ครับแม่ ผมก็รักแม่ครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้า ผมสอบเส็ดแล้ว ผมกลับบ้านเลยนะครับ"
   " จ้า แม่คิดถึงลูกนะ  " ครับ"
      หลังจากวางสายจากแม่ ธีร์โล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้ธีร์รู้สึกแล้วว่าคนที่ไม่เคยทำร้าย คนที่รักและเป็นห่วงเราอย่างจริงใจที่สุดคือใคร ธีร์เอารูปภูออกมาจากกล่องที่เก็บไว้ พร้อมกับเหลือบเห็นดิกส์ที่นนคืนมาอยู่ในกล่อง ธีร์ลังเลอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจ แล้วหยิบของพวกนั้นใส่ลงถุงดำ มัดปากถุงสนิดอย่างที่ไม่คิดจแกะมันออกมาอีก
      กรี้งงง...เสียงออด ของการสอบวิชาเคมี วิชาสุดท้ายดังขึ้น พร้อมกับการสอบที่เสร็จสิ้นลง นักเรียนชั้นม.6/2 ต่างพากันดีใจ หยิบปากกาสีสันสดใสของแต่ละคนขึ้นมาเขียนเสื้อเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน ธีร์กำลังเขียนให้เพื่อนอย่างอารมดี จนมีคนมาสกิดขอเขียนหลังให้ธีร์
   " กุขอเขียนหลังเมิงหน่อยนะ " ภูมองธีร์ด้วยรอยยิ้มจากปาก แต่ในตาของภูแสดงถึงความรู้สึกผิด " อืม " ธีร์ตอบ
    "กุไม่คิดให้เมิงให้อภัยกุหรอก แต่กุแค่อยากจะขอโทษในทุกสิ่งที่กุทำกับ กุไม่อยากค้างคาใจโดยที่กุไม่ได้ขอโทษเมิง กุขอโทษเมิงนะ"  ธีร์เงียบ
    ........
   " อ่ะเส็ดละ " ภูพูดพร้อมกับความรู้สึกเสียใจที่ธีร์ไม่พูดอะไร ทั้งๆที่บอกไม่ได้หวังให้ธีร์ยกโทษ
    .........
   " เดี๋ยว " ธีร์หันมาจับไหล่ภูที่กำลังจะเดินไป ภูหันมาพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความหวัง
   " กุยังไม่ได้เขียนให้เมิงเลย " ธีร์บอกภู ปนรอยยิ้มนิดๆ แต่ตายังเศร้าอยู่   " อ่ะ เส็ดละ "
   ภูหันหน้ามา " ขอบใจเมิงนะ " ภูยิ้ม
       วันรุ่งขึ้นวันปัจฉิม เด็กม. 6 ทุกคนต่างสนุกสนานกับการแสดงที่เด็ก ม.4 และ ม.5 ได้จัดเตรียมไว้ให้ ทุกคนต่างรื่นเริงอยู่กับดนตรี และการแสดงอย่างสนุกสนาน นนและเพื่อนๆเดินถือดอกกุหลาบ เข้ามาในงานเพื่อแสดงความยินดีกับพี่ๆ ม.6 นนให้พี่ๆ คนละดอก คนละดอก จนเหลือดอกสุดท้าย ทั้งที่รุ่นพี่ยังเหลืออีกมากมาย แต่นน ยังเก็บดอกไม้ที่เหลือเอาไว้ไม่ให้ใคร คนๆเดียวที่นน อยากจะเจอ อยากแสดงความยินดี และอยากจะพูดกับเค้าคนนั้นที่สุดคนคนนั้นคือ...นนกวาดสายตาไปทั่วหอประชุม ไม่เจอ นนพยายามหา จนในที่สุดนนเจอภู
   " พี่ภู " นนเดินเข้าไปสกิดหลังภูอย่างดีใจ ภูมองดูนนสีหน้าเหมือนตอนเจอนน เดินตามธีร์
   " พี่ธีร์อยู่ไหนอ่ะพี่ ผมหามานานละเนี่ย ไม่เห็นเจอพี่ธีร์เลย"
   ภูก้มหน้ามองดอกไม้ที่นนถือ  "  ธีร์มันไปไหนวะ น้องเค้าถามหามันเนี่ย " ภูถามเพื่อนข้างๆ
   "ไอ้ธีร์อ่ะหรอ กุเห็นมันบอกว่ามันจะกลับบ้านที่หาดใหญ่เลยว่ะ ตั้งแต่วันสอบเส็ดนั่นแหละ มันไม่ได้มาหรอก"
    นน มองดอกไม้ที่ถืออย่างหมดหวัง ภูมองนนอย่างเห็นใจ  พร้อมกับตบไหล่  "ไปหามันที่หาดใหญ่ดิ คนบ้านเดียวกันไม่ใช่อ่อ"
    นน ก้มหน้าก้มตาเดินออกมาจากหอประชุม ด้วยคำพูดของภู "คนบ้านเดียวกันไม่ใช่อ่อ" ทำให้นนนึกถึงภาพเก่าๆ ตอนที่นนเพิ่งรู้จักว่าธีร์ว่าเป็นคนหาดใหญ่เหมือนกับนน นนเดินมาจนถึงสนามบาส เห็นลูกบาสวางอยู่ไม่มีใครเล่น เพราะไปที่หอประชุมกันหมด นนนึกถึงตอนที่เล่นบาสกับธีร์แล้วให้กำลังใจธีร์เรื่องภู นนเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าห้องธีร์ที่หอ โดยไม่รู้ตัว นนนึกถึงตอนที่นนพูดกับธีร์  "ผมเป็นลูกคนเดียวอ่ะพี่ ไม่เคยมีพี่น้องมาก่อน พี่ทำให้ผมรู้สึกว่า การที่มีพี่ชายคนนึงอ่ะ แมร่งดีมากๆเลยพี " นนวางดอกไม้ไว้หน้าห้องธีร์ พร้อมกับยืนพิงกำแพงร้องให้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ "เดี๋ยวพอเมิงอกหัก เมิงก็รู้เองแหละ" ประโยคนี้ขึ้นมาในหัวของนนทันที นนรู้สึกแล้วว่าการอกหักเป็นอย่างไร จากคนที่เคยพูดประโยคนี้กับนน นนรวบรวมสติ วิ่งขึ้นไปเก็บของที่ห้องอย่างเร่งรีบวิ่งลงมาที่ใต้หอ
    "พี่ๆ สายใต้ครับ ด่วนเลยนะ" นนบอกแท๊กซี่

"แม่เปิดประตูหน่อยครับ" นนตะโกนเรียกแม่ "เอ้าน้องนน กลับมาทำไมไม่บอกแม่ แม่จะได้ไปรับ อะไรเนี่ยลูกคนนี้ บลาๆ" นนไม่ได้สนใจกับคำบ่นของแม่ นนตรงไปที่รถเครื่องและรีบขี่ออกไป โดยที่มีแม่บ่นตามหลังมา นนขับตระเวนไปตามซอยรอบๆ วัดราษฎร์อุทิศ ที่นนรู้เท่านั้นว่าบ้านธีร์อยู่แถวนี้ แต่หาเท่าไร ก็หาไม่เจอ จนนนนึกออก จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาพิกัด" เจอละ" นนยื้มในใจ
นนขับรถไปยังบ้านธีร์ ภาพที่นนเห็นคือธีร์กำลังใส่บาตรกับแม่อยู่ในตอนเช้า เมื่อนนเจอธีร์นนขาอ่อนเหมือนหมดแรงจอดรถอยู่กลางถนน ธีร์หันกลับมาเห็นนนพอดี นนยิ้มให้อย่างดีใจ ธีร์นิ่ง "ใครน่ะลูก แม่ถามพร้อมกับสกิดธีร์ที่ยังคงงงอยู่ "อ่อ ไม่มีไรครับแม่ คงเป็นเด็กแถวนี้มั้ง เข้าบ้านเถอะครับ "ธีร์ตอบแม่ แต่แม่สังเกตถึงความไม่ปกติ"ธีร์ลูก ธีร์จำได้มั้ยแม่เคยสอนธีร์อยู่บ่อยๆว่ายังไง ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น มันมีไว้ให้เราแก้ ไม่ได้มีไว้ให้เราหนีนะลูก หากเรายังกนี ยังหลีกมันอยู่ มันก็จะไม่จบ มันจะคอยบั่นทอนความรู้สึกเราอยู่อย่างนั้นแหละ แม่ไม่รู้ว่าลูกเจอปัญหาอะไรมา แต่แม่เชื่อว่าลูกของแม่จะผ่านมันไปได้ลูก" แม่บอกธีร์ด้วยน้ำเสียงใจดี
"ไม่มีอะไรจริงๆครับแม่ " ธีร์พูดก่อนจะพาแม่เข้าบ้าน แม่ถอนหายใจ นนยังคงอึ้งอยู่กับสิ่งที่เจอ นั่งนิ่งอยู่บนมอเตอร์ไซด์อยู่กลางถนน "ผมไม่กล้ายอมรับตัวเองอ่ะพี่ ว่าผมเป็นอะไร มันช้าไปแล้วใช่มั้ยที่ผมเพิ่งจะกล้ายอมรับตัวเองตอนนี้"นน นึกในใจพร้อมน้ำตาที่ค่อยๆเอ่อออกมา นนก้มหน้ามองพื้นอย่างว่างเปล่า "จอดกลางถนน เดี๋ยวรถก็ชนตายหรอก" เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากประตูรั้ว

   นนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียง "ตายก็ยอมว่ะพี่" นนรีบตอบกลับ พร้อมกับเอารถมาจอดข้างรั้วบ้านธีร์อย่างรวดเร็ว "แล้วเมิงมาทำไรเนี่ย" ธีร์ถาม โดยที่อยู่ๆก็มีกลิ่นไก่ทอดลอยมา นนทำจมูกฟุดฟิด "กลิ่นไรอ่ะพี่ โคตรหอมเลยว่ะ" นนถามธีร์แบบหน้ากรุ้มกริ่ม       "อ่อ แม่กุทำกับข้าวอยู่อ่ะ" ธีร์ตอบอย่างซื่อๆ ไม่รู้ทันเล่เหลี่ยมนน "ผมกินด้วยดิพี่" นนเจ้าเล่
"เห้ยอะไรวะ เมิงเจอหน้ากุนี่ จะกินฟรีตลอดเลยนะ"ธีร์บอกนนทำนองด่าแบบเอ็นดู "โหยพี่ ก็ผมนั่งรถทัวร์มาตั้งแต่มะวาน ยังไม่ได้กินไรเลยเนี่ย พี่ก้อยิ้มใจร้ายว่ะ"นนแกล้งตอบแบบน้อยใจเล็กๆ "ธีร์มากินข้าวลูก แม่ทำกับข้าวไว้แล้ว เดี๋ยวแม่จะออกไปทำงานแล้วนะ เอ้าแล้วนั่นเพื่อนหรอ มามา มากินข้าวกันลูก เข้ามาเลยไม่ต้องเกรงใจแม่"แม่ธีร์ตะโกนเรียกธีร์พร้อมกับชวนนนอยู่หน้าบ้าน "ครับแม่ หวัดดีครับ งั้นผมไม่เกรงใจละนะครับ กลิ่นไก่แม่เนี่ยหอมจนผมหิวเลยครับ" นนตอบแม่ธีร์อย่างอารมดีพร้อมมองหน้าธีร์ที่ยังยืนงง แบบเยาะเย้ย
"มาๆ หิวก็มากินเลยลูก ธีร์เปิดประตูให้เพื่อนเข้ามาสิ"แม่ดุธีร์ "แม่พี่ชวนผมเองนะ 555" นนเยาะเย้ยธีร์อย่างหน้าระรื่น
ธีร์เปิดประตูบ้านให้นนเข้ามาที่หน้าบ้านก่อนหวัดดีแม่ธีร์อีกรอบ "หวัดดีครับแม่ ผมชื่อนนนะครับ เป็นรุ่นน้องพี่ธีร์ที่นาดาวอ่ะครับ"
"เอ้า แล้วมาไงละลูกอยู่ กทม นั่นเลยหรอ"แม่ธีร์ถามอย่างสงสัย "อ่อ ผมเป็นคนหาดใหญ่ที่นี่แหละครับ บ้านอยู่ตรงแถววัดฉิ่งฉางเนี่ยแหละ พอดีกลับบ้านมาเลยแวะมาหาพี่ธีร์น่ะครับ "นนตอบแม่ธีร์อย่างท่าทางสุภาพ ธีร์มองนนอย่างไม่เคยเห็นนนในแบบนี้มาก่อน "อ่อ งั้นเต็มที่เลยนะแม่ทำไก่ทอดไว้ให้ ไปกินกันเลย เดี๋ยวแม่ไปทำงานก่อน "   แม่ธีร์มองดูนนอย่างเอ็นดู พร้อมกับขึ้นรถออกไปทำงาน " แม่ไปแล้วนะลูก แล้วบ่อปลาคาร์ฟในสวนหน้าบ้านเดี๋ยวแม่ค่อยมาช่วยตอนเย็นนะลูก"แม่ธีร์เปิดกระจกมาบอกธีร์ก่อนจะขับรถออกไป

โต๊ะอาหาร...
นนกำลังกินข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย "เห้ย เมิงไปอดอยากมาจากไหนวะเนี่ย" ธีร์ถามอย่างสงสัย "โหยพี่ ผมไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานนะ พอไปงานปัจฉิมแล้วหาพี่ไม่เจออ่ะ ผมก็นั่งรถมาเลย" นนพูดพร้อมกับดื่มน้ำจนหมดแก้ว ธีร์เริ่มนิ่งเหมือนนึกอะไรออกสักอย่าง "เมิงอิ่มยัง อิ่มก็กลับไปได้ละ เดี๋ยวกุมีอะไรต้องทำอีก" ธีร์พูดนิ่งๆ พร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไป
นนมองธีร์เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไป "พี่ไม่ถามผมหรอ ว่าผมตามพี่มาทำไม " นนถามธีร์อย่างจริงจัง "ไม่ว่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน กุอาจจะอยากรู้ แต่ตอนเนี้ยเมิงไม่ต้องบอกกุหรอกกุไม่อยากรู้ละ" นนฟังคำตอบธีร์อย่างหน้าเครียด "พี่เป็นไรอ่ะ มะกี้ยังดีๆอยู่เลย พี่รู้มั้ยผมไปรอพี่ที่งานปัจฉิมอ่ะ รอต้องนานสุดท้ายพี่ก็ไม่มา จนผมต้องตามมาหาพี่ที่นี่นี่แหละ "
........
"พี่รู้มะ ผมนั่งคิดมาทั้งคืนเรื่องผมพูดกับพี่ไป ผมยิ้มเชี่ยเองแหละที่ไม่กล้ายอมรับความรุสึกตัวเอง จนทำร้ายความรูสึกพี่อ่ะ พี่คือผม ....."
"เมิงกลับไปเหอะ ถ้าเมิงยังอยากเจอหน้ากุอีก เรื่องนั้นน่ะ มันจบไปแล้ว กุไม่อยากรื้อฟื้นมันอีกว่ะ"ธีร์ตอบ
"ใช่อ่อพี่ มันจบแล้วอ่อ มันยังไม่จบดิพี่ ผมยังไม่ได้บอกความจิงพี่เลยว่า..."
"เมิงคิดว่ากุทำไมถึงไม่ไปงานปัจฉิม เมิงรู้มะ ทำไมกุถึงต้องกลับบ้านตอนนี้  เมิงรู้มะ ว่ามันยากแค่ไหนกว่าที่กุจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิมอ่ะ ทั้งหมดอ่ะมันเป็นเพราะกุเองแหละ ที่ทำให้มันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้กุรู้แล้วล่ะว่า ถ้ากุไม่เริ่มที่จะก่อ กุก็จะไม่เจ็บ หากเมิงยังคิดว่ากุเป็นพี่เมิงอยู่ เมิงกลับไปเหอะ "
"ไม่ดิพี่ผม..."นนพูดยังไม่ทันจบ ธีร์พูดแทรก "ถือว่ากุขอเมิงครั้งสุดท้ายละกันนะ เพราะเดี๋ยวกุต้องไปเรียนเชียงใหม่ละ ขอให้กุจากกับเมิงแบบมีความทรงจำดีๆให้กันเหอะ" นนพูดอะไรไม่ออก น้ำตาเริ่มเอ่อออกมาสุดท้ายก็กลั้นไม่อยู่ "ถ้าพี่คิดดีแล้วผมก็ไม่มีอะไรจะพูดละ ผมขอให้พี่มีความสุขกับสิ่งที่พี่เลือกนะ ตลกว่ะพี่ก่อนหน้านี้ผมยังถามพี่อยู่เลยว่าอกหักมันเป็นไง ตอนนี้ ผมรู้ละ ไปก่อนนะพี่" นนยิ้มให้ธีร์ทั้งน้ำตา ก่อนจะเดินออกไป ธีร์รู้สึกอยากเข้าไปกอดนนจับใจ แต่ได้แต่กำมือแน่นอดกลั้นพร้อมกับคำมั่นที่ให้ไว้กับตัวเองว่าจะไม่มีความรักอีกแล้ว

วันเวลาผ่านไป นานเท่าไรไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ธีร์ใส่เน็คไทด์สีม่วง นั่งรวมอยู่ใต้ถุนของตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของ มหาลัยเชียงใหม่ ที่ธีร์เลือกมาที่นี่ธีร์ชอบบรรยากาศที่ไม่ต้องเร่งรีบของมหาลัยนี้ ชอบความสงบของที่นี่ และที่สำคัญที่นี่ห่างไกลจากความทรงจำที่ธีร์เคยมีทั้งดีและไม่ดี ธีร์เลือกที่จะปล่อยให้มันหยุดอยู่เพียงแค่ตรงนั้น ......
เสียงกลองเริ่มดังขึ้น พร้อมกับการรับน้องที่เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน บรรยากาศการรับน้องที่นี่เป็นไปอย่างอบอุ่น และสนุกสนาน มันทำให้ธีร์ ลืมเรื่องเก่าๆไปได้บ้าง
"เอ้า ปีหนึ่งวันนี้เราจะมาคัดตัวนักดนตรี และก็ตัวนักกีฬา ของคณะเราที่จะคัดไว้เพื่อกิจกรรม กีฬาเฟรชชี่ "นายกสโมสรนิสิต กล่าวเพื่อขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือในการร่วมกิจกรรม ทุกคนที่เล่นดนตรีเป็นต่างเสนอตัวเพื่อที่จะคัดเลือกเป็นตัวแทนคณะ จนสุดท้ายเหลือตำแหน้งสุดท้ายที่ยังไม่ได้นั่นก็คือ ฟรุ๊ต "เอ้าๆ ปีหนึ่งหยุดคุย ใครที่สามารถเล่นฟรุ๊ตเป็นบ้าง เสนอชื่อมาเลย" ปีหนึ่งทุกคนต่างเงียบเพราะไม่มีใครเล่นเป็น พร้อมกับเกี่ยงกันอย่างวุ่นวาย

"ธีร์ครับ"

มีเสียงปีหนึ่งคนนึงยกมือแล้วเสนอชื่อมา ธีร์รีบหันไปมองอย่างงุนงงว่าเป็นใคร ธีร์หันลงไปมองที่ป้ายชื่อ
"โน่"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่