....พาคุณเที่ยวเทศกาลสุดหรรษา ลั้นลารอบโลก

Rio Carnival
ที่ไหน : ริโอ เดอ จาเนโร, บราซิล

....แม้งานคาร์นิวัลจะจัดกันหลายที่ทั่วโลก
แต่ที่ ริโอ เดอ จาเนโร แห่งบราซิล ถือว่าเป็นเพชรยอดมงกุฎของความมันส์ระดับจักรวาล
ใหญ่ที่สุด มีสีสันที่สุด และเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของมนุษย์
ผู้คนจากทั่วโลกหยอดกระปุกซื้อตั๋วเครื่องบินมางานคาร์นิวัลที่ริโอปีละกว่า 5 แสนคน
ก่อนตายต้องไปเห็นสักครั้ง!

....เทศกาลคาร์นิวัล แท้จริงแล้วก็คือการทิ้งทวน
ก่อนเข้าสู่ช่วงจำศีลทางเนื้อหนังมังสาในศาสนาคริสต์
กำหนดจัดขึ้นก่อนอีสเตอร์ 40 วัน (เริ่มวันเสาร์ ไปสิ้นสุดเอาในวันอังคาร)
ตลอด 4 คืนแห่งความหฤหรรษ์เป็นไปแบบสนุกสุดพี้ก
ช่วงไพรม์ไทม์คือตั้งแต่สามทุ่ม เรื่อยไปจนถึงหกโมงเช้า
ถนนสายหลักของการจัดการจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นสรวงสวรรค์แห่งความบันเทิง
ขบวนพาเหรดของโรงเรียนสอนเต้นแซมบ้าขบวนแล้วขบวนเล่า
เข้าแถวกันลงสู่ถนนด้วยความอลังการ ทั้งรถแห่สุดงามงด
พร้อมความสวยหมดจดของเสื้อผ้าหลากสีสัน
แห่กันอวดโฉมพร้อมเนื้อหนังมังสาของสาวละติน

แท้บ้างเทียมบ้าง แต่ไม่ว่าจะยังไงก็บังเกิดเป็นความฉูดฉาด
ที่มาพร้อมดนตรีเร้าใจ กับการโยกส่ายแบบไม่กลัวเอวเคล็ด
ต่างคนต่างก็รีดฟอร์มเก่งของตัวเองมาประชันกับโรงเรียนอื่นๆ
ให้รู้กันเลยว่าโรงเรียนฉันเลิศเลอไม่มีใครเกิน

....นั่นแค่ภาพบนท้องถนน
นี่ยังไม่นับความพี้กของเหล่าผู้คนจากทั่วสารทิศในบาร์ข้างทาง
ทุกคนตั้งใจมาสนุก
และเมื่อถึงเวลาพวกเขาก็ปลดปล่อยมันออกมาแบบไม่ยั้ง
นี่จึงเป็นสรวงสวรรค์ของชายโสดอย่างเรา
มันคือโอกาสดีที่จะได้รู้จักกับสาวละตินผมบลอนด์สักคน
เป็นเพื่อนกับเธอ เต้นรำกับเธอ
แล้วหลังจากนั้นก็แล้วแต่เธอว่าจะพาไปเราไปต่อที่ไหน
.หรือนายไม่สนใจล่ะเพื่อน?

Download Festival
ที่ไหน : โดนิงตันปาร์ก เมืองดาร์บี้, สหราชอาณาจักร

....เทศกาลดนตรีประจำปีที่กินเวลา 3 วัน 3 คืนติดต่อกัน
ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Billboard
ให้เป็นสุดยอดเทศกาลแห่งปี 2007
มันกำลังจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งในกลางปีหน้า

...หนุ่มสาวที่ทั้งรักดนตรีร็อกและรักการเข้าสังคมแบบสนุกสุดเหวี่ยง
หลั่งไหลมารวมตัวกันที่สวนสาธารณะในเมืองดาร์บี้ประเทศอังกฤษ
หอบที่นอนหมอนเสื่อมากางเต็นท์กันกลางทุ่ง
ดูคอนเสิร์ตไปจิบแอลกอฮอล์ไป
ใครเมาครองตัวไม่ไหวก็วิ่งไปล้วงคออ้วก
หรือใครหนักหน่อยก็ฟุบลงบนเสื่อ
หลับให้สบายแล้วค่อยลุกขึ้นมาสะใจกันต่อได้อีกหลายยก

....Download Festival จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2003
และมันก็ดังเป็นพลุแตกเมื่อศิลปินแถวหน้าของวงการเพลงร็อกตอบรับคำเชิญกันให้พรึ่บ
โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ Iron Maiden กับ Limp Bizkit
เรียกร้องให้สาวกทั่วโลกมารวมตัวกันจนแน่นพื้นที่
ต่อด้วย Download 2004 ที่มีวงดนตรีขึ้นโชว์ถึง 72 วง
ไฮไลต์คือ Metallica กับ Slayer ที่ขึ้นมาสั่งให้ชาวร็อกเขย่าหัวกันจนคอเคล็ด
ข้ามมาที่ Download 2007 ที่มันส์ถึงขีดสุด
เพราะหัวแถวอย่าง Korn, Linkin Park และ Iron Maiden ต่างก็ท็อปฟอร์มพร้อมกัน
ท่ามกลางสายตาผู้ชมนับหมื่นนับแสนจากทั่วโลก

Oktoberfest
ที่ไหน : แคว้นบาวาเรีย เมืองมิวนิก, เยอรมนี

....งานเทศกาลเบียร์ประจำปีของเมืองมิวนิกที่กินเวลาถึง 2 สัปดาห์เต็มๆ
ระหว่างช่วงปลาย ก.ย.-ต้น ต.ค. ของทุกปี

คุณจะได้พบกับสารพันความบันเทิง ทั้งขบวนพาเหรดตระการตา
การแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ที่หมุนเวียนกันมาไม่ขาดสาย
อาหารเลิศรสมากมายที่ขนกันมาตั้งบูธเป็นแถวยาวสุดสายตา
สาวๆ ชาวเยอรมันที่พูดสำเนียงดุๆ แต่เซ็กซี่ชะมัด
มนุษย์จากทั่วโลกที่ไหลมาเทมาปีละไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เบียร์เลิศรสหลากยี่ห้อ
ที่เหล่าผู้ผลิตขนกันมาเสิร์ฟแล้วเสิร์ฟอีก
เติมแล้วเติมอีก แบบไม่มีทีท่าว่าจะหมด
ยังกับว่า โลกนี้มีแม่น้ำแห่งเบียร์ทอดตัวอยู่ตรงหน้างั้นแหละ!

....Oktoberfest จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 17 ต.ค.1810
เพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสของเจ้าชายลุดวิก กับเจ้าหญิงเธอริเซ่
แต่ด้วยรูปแบบงานที่น่าสนใจมันก็เลยขยายใหญ่โตสู่นอกรั้ววัง
เพราะช่วงนี้เหมาะสำหรับเกษตรกรที่จะเสนอขายผลผลิต
ส่วนเจ้าของโรงกลั่นก็ได้โอกาสเอาเบียร์ล็อตเก่าออกเทขาย
ก่อนจะหมักล็อตใหม่ของปีถัดไป
ด้วยเหตุผลนี้เอง เบียร์ในงาน Oktoberfest
จึงเป็นเบียร์เก่าที่มีดีกรีแรงกว่าที่ขายตามท้องตลาด

....ลองนึกภาพดูสิ ท้ามกลางอากาศเย็นสบาย ได้เบียร์สดๆ เปิดจากถัง

นั่งจิบท่ามกลางผู้คนนับหมื่นในหลังคาเดียวกัน
เสียงดนตรีไพเราะและกับแกล้มอร่อยๆ เพียบ
ทั้งไก่ หมูอบ ปลารมควัน ไส้กรอก ขาหมูเยอรมัน ฯลฯ
แบบนี้ก็ยิ่งถูกใจคอเบียร์ล่ะสิ!

Sapporo Snow Festival
ที่ไหน : เมืองซัปโปโร่ เกาะฮอกไกโด, ญี่ปุ่น

....เทศกาลหิมะที่โด่งดังที่สุดแห่งแดนปลาดิบ
ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ถึงขนาดที่บริษัททัวร์ต้องบรรจุรายการนี้ไว้ในตารางของทัวร์ฤดูหนาว
เจ้าไหนไม่มีถือว่าเชยระเบิดระเบ้อ

...เทศกาลหิมะแห่งเมืองซัปโปโร่จัดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
สิ่งที่คุณจะได้เห็นก็คือรูปปั้นหิมะใหญ่ตระการตากว่า 300 ชิ้น
ตั้งตระหง่านอยู่ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ โอโดริปาร์ก, ซาโตแลนด์ และซูซูกิโนะ
รวมความยาวกว่า 2 กิโลเมตร
เจ้าประติมากรรมหิมะพวกนี้แท้จริงแล้วมาจากฝีมือของผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลก
(ขนาดประเทศไทยยังส่งตัวแทนเข้าแข่ง)
แต่ละทีมก็ออกแบบผลงานของตัวเองมาให้บรรเจิดที่สุด
เสร็จแล้วก็เอามาปั้นให้อลังการ

บางชิ้นสูงขนาดตึก 2-3 ชั้น
จากนั้นก็มีคณะกรรมการตัดสินให้รางวัลกันเป็นเรื่องเป็นราว

....ที่มาของงานนี้เริ่มขึ้นในปี 1950
กลุ่มนักเรียนมัธยมปลาย 6 คนช่วยกันปั้นขนาดมหึมาหิมะขึ้นกลางสวนสาธารณะ
เรียกความสนใจจากผู้คนได้ล้นหลาม
แล้วในอีก 5 ปีต่อมา
ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองแห่งค่ายทหารมาโกมานาอิก็เกิดปิ๊งไอเดีย
ทีแรกก็แค่อยากให้ทหารหาญมีอะไรทำหลังเสร็จศึก
ด้วยการยกพลเข้าร่วมปั้นหิมะในพื้นที่นี้ด้วย
แต่ผลที่ได้กลับเกิดคาด
เพราะงานนี้ต้องใช้ทั้งฝีมือและความสามัคคี
กิจกรรมนี้ก็เลยแพร่หลายจนกลายเป็นเทศกาลโด่งดังไปทั่วโลกอย่างที่เห็น

....Sapporo Snow Festival 2009 จะเป็นการจัดครบรอบปีที่ 60
ทางเมืองซัปโปโร่เขาตั้งใจจะจัดให้ยิ่งใหญ่อลังการเป็นพิเศษ
ถ้าคุณอยากไปย่ำงานนี้คงต้องพึงสำนึกไว้ก่อนเลยว่า
ฮอกไกโดก็อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น
และในเดือนกุมภาพันธ์มันจะหนาวแบบสุดขั้ว
ดังนั้นจึงควรเตรียมเครื่องแต่งกายให้พร้อมรับความหนาว
ในอุณหภูมิ -10 ถึง -20 เซลเซียสให้ดี
ไม่งั้นมีหวังแข็งตายละงานนี้!

Pukkelpop
ที่ไหน : เมืองฮาสเซลต์, เบลเยียม

....นี่คือเทศกาลดนตรีและศิลปะ
ที่สื่ออังกฤษยกให้เป็นงานที่ดีที่สุด ติดอันดับ Top 3 ของโลก!

....Pukkelpop คือเทศกาลดนตรีประจำปี

ที่จัดในเมืองเมืองฮาสเซลต์ ประเทศเบลเยียม
ซึ่งถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะเมื่อปีที่ผ่านมา
มีผู้ชมทั่วโลกหลั่งไหลมารวมตัวกันกว่า 152,000 คน
นั่นก็เพราะศิลปินหัวแถวที่ขึ้นโชว์
มีทั้ง Metallica, Last Drag และ The Killers
งานนี้เขาเริ่มจัดกันครั้งแรกเมื่อปี 1985
ก่อนจะเป็นที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว
จากเดิมที่จัดกันวันเดียว เวทีเดียว การแสดงแค่ 7 โชว์
ในที่สุดก็ขยายเป็น 3 วัน 3 คืน
ศิลปินที่เข้าร่วมล้วนแต่เป็นศิลปินเบอร์ต้นๆ ของโลก
พร้อมการแสดงสดบนเวทีรวมกว่า 300 โชว์!

....การแสดงบนเวที Pukkelpop มีทั้งศิลปินที่เป็นวงแสดงสด

เรื่อยไปจนถึงดีเจ ละครเวที ฉายหนัง และโชว์ตลก
เรียกว่าครบเกือบทุกแขนงของศิลปะ
เพียบพร้อมของเครื่องดื่มและอาหารรสเลิศจากทั่วทุกสารทิศ
ผู้ชมต่างเตรียมเต็นท์เตรียมเครื่องนอนมาปักหลักเสพงานศิลป์
จากลานโล่งๆ จึงกลายเป็นหมู่บ้านคนรักศิลปะที่พร้อมจะสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ
และที่สำคัญสำหรับเราก็คือ มันเป็นงานที่มีสาวยุโรปผมบลอนด์แนวเซอร์มารวมกันอย่างคับคั่ง
พวกเธอรอให้คุณเข้ามาชวนคุยอยู่ที่นั่นแล้ว
ที่คุณต้องเตรียมมีแค่อย่างเดียวคือ...ภาษาอังกฤษ!

Burning Man
ที่ไหน : ทะเลทรายแบล็กร็อก มลรัฐเนวาด้า, สหรัฐอเมริกา

....เทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นในเขตทะเลทรายแบล็กร็อก มลรัฐเนวาด้าของอเมริกา
งานจะเริ่มในวันจันทร์ก่อนถึงวันหยุดแรงงานของอเมริกา 1 อาทิตย์
(วันหยุดแรงงานคือวันจันทร์แรกของเดือนกันยายน)
ตั้งชื่อตามพิธีเผาหุ่นไม้รูปคนขนาดยักษ์ที่จะเกิดขึ้นในเย็นวันเสาร์
คลื่นมหาชนจากทั่วสารทิศมารวมกลุ่มกันในลักษณะสังคมทดลอง
เพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวตนให้มากที่สุด
ซึ่งทางผู้จัดบอกว่า การจะอธิบายให้คนที่ไม่เคยมาเห็น
ได้เข้าใจว่า Burning Man คืออะไรนั้น มันยากพอๆ กับการพูดเรื่องเฉดสีให้คนตาบอดฟัง!

...แต่ถ้าจะลองอธิบายคร่าวๆ
Burning Man ก็คือเทศกาลศิลปะแบบหลุดโลกที่มีคนร่วมงานกว่าครึ่งแสน
เนรมิตรทะเลทรายให้กลายเป็น Street Art ขนาดยักษ์
สำหรับงานศิลปะที่ไร้ขอบเขต
ทุกคนจะแสดงออกถึงความเชื่อความฝันอะไรก็ได้ ด้วยวิธีการไหนก็ได้
ไม่ว่าจะเป็นละครข้างถนน เพอร์ฟอร์แมนซ์อาร์ต แคมป์แสดงงานศิลปะ ดนตรี
ข้อตกลงสำคัญของ Burning Man คือห้ามพูดเรื่องเงินเด็ดขาด
ทุกคนมาทำงานแบบ barter ไม่ต้องใช้เงินมาเป็นตัวกลาง
มีเพียงน้ำแข็งและกาแฟเท่านั้นที่อนุโลมให้ซื้อขายกันได้
มันเป็นกิจกรรมที่ต้องการปฏิสัมพันธ์ (อ่านดีๆ...ปฏิสัมพันธ์ ไม่ใช่เพศสัมพันธ์!)
ดังนั้นจึงไม่มีใครเป็นศิลปิน ไม่มีใครเป็นผู้ชม แต่ทุกคนที่เข้าร่วมคือสมาชิก

...ไฮไลต์ของงานอยู่ที่คืนวันเสาร์

ซึ่งจะเป็นพิธีเผาหุ่นไม้รูปคนสูง 40 เมตร
พร้อมเสียงสวด “Let him burn, let him burn!
Save the man,save the man”
เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่

...ใครสนใจอยากร่วมเป็นสมาชิกของเทศกาลศิลปะหลุดโลก
ก็เตรียมทำการบ้านไว้เลย ครั้งหน้าเขาจะจัดกันในธีม Evolution
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่