สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เราสนับสนุนความคิดนี้มาตลอด
เราคิดว่า ผู้หญิงเราควรมีทางเลือก จะเก้บ หรือ จะทำแท้ง
เพราะมันคืออนสคตทั้งชีวิตของเขา
ใครพร้อมใครที่คิดจะเก็บ ก็เก้บ
ใครไม่พร้อม ก็ทำแท้ง โดยถ้าเป้นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่
การให้คนที่ไม่พร้อมในหลายๆด้าน ทั้ง อารมย์ วุฒิภาวะ การเงิน ให้เด้กคนหนึ่งมาเลี้ยงเด็กอีกคนหนึ่ง หรือต่อให้โตแล้วแต่ EQ ยังมีไม่พอจะเป็นแม่คน คิดว่าเด้กที่เกิดมาจะเป็นยังไง
แต่ทั้งนี้ ต้องมีการกำหนด อายุครรภ์ที่เหมาะสมไว้ด้วย ไม่ใช่ 8 เดือนแล้วถึงคิดทำ อันนี้ก้เกินไป
ซึ่งอายุครรภ์ที่เหมาะสมมันก้คือไม่เกิน 12 weeks หรือ 3 เดือนนะแหละ
และเราคิดว่า ไม่มีใครอยากทำแท้งแล้วทำแท้งอีกไม่จบไม่สิ้นหรอก
ทั้งนี้ ก้ต้องทำควบคู่กับเรื่องอื่นๆด้วยเช่น
สร้างระบบ พ่อแม่อุปถัมภ์ อย่างเป้นเรื่องเป็นราว แบบของฝรั่ง
หรือ
สอนเรื่องการคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง แบบ จริงจังกันสักที่ อย่า อย่ามาบอกว่าเป้นการชี้โพรงให้กระรอก กระรอกสมัยนี้มันกระดดลงโพรงกันโครมๆแบบไม่ต้องให่ใครมาชี้ แต่มันลงแบบผิดๆ ประเทศไทยถึงติดอันดับเด้กวัยรุ่นท้องกันโครมๆ
และอย่ามาบอกว่าต้องสอนให่รักนวลสงวนตัว ยั้บยั้งชั่งใจ เพราะมันชัดเจนแล้วว่า สอนมาสิบปี ปัญหาไม่เคยลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น
ในเมื่อวิธีเก่าๆไม่ได้ผล ก้ควรหาวิธืใหม่ๆบ้างไหม
มันอาจจะเป้นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เมื่อปํญหามันเกิดขึ้นแล้ว มันก็ต้องหาทางแก้ สักวิธี จริงมั้ย
เราคิดว่า ผู้หญิงเราควรมีทางเลือก จะเก้บ หรือ จะทำแท้ง
เพราะมันคืออนสคตทั้งชีวิตของเขา
ใครพร้อมใครที่คิดจะเก็บ ก็เก้บ
ใครไม่พร้อม ก็ทำแท้ง โดยถ้าเป้นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่
การให้คนที่ไม่พร้อมในหลายๆด้าน ทั้ง อารมย์ วุฒิภาวะ การเงิน ให้เด้กคนหนึ่งมาเลี้ยงเด็กอีกคนหนึ่ง หรือต่อให้โตแล้วแต่ EQ ยังมีไม่พอจะเป็นแม่คน คิดว่าเด้กที่เกิดมาจะเป็นยังไง
แต่ทั้งนี้ ต้องมีการกำหนด อายุครรภ์ที่เหมาะสมไว้ด้วย ไม่ใช่ 8 เดือนแล้วถึงคิดทำ อันนี้ก้เกินไป
ซึ่งอายุครรภ์ที่เหมาะสมมันก้คือไม่เกิน 12 weeks หรือ 3 เดือนนะแหละ
และเราคิดว่า ไม่มีใครอยากทำแท้งแล้วทำแท้งอีกไม่จบไม่สิ้นหรอก
ทั้งนี้ ก้ต้องทำควบคู่กับเรื่องอื่นๆด้วยเช่น
สร้างระบบ พ่อแม่อุปถัมภ์ อย่างเป้นเรื่องเป็นราว แบบของฝรั่ง
หรือ
สอนเรื่องการคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง แบบ จริงจังกันสักที่ อย่า อย่ามาบอกว่าเป้นการชี้โพรงให้กระรอก กระรอกสมัยนี้มันกระดดลงโพรงกันโครมๆแบบไม่ต้องให่ใครมาชี้ แต่มันลงแบบผิดๆ ประเทศไทยถึงติดอันดับเด้กวัยรุ่นท้องกันโครมๆ
และอย่ามาบอกว่าต้องสอนให่รักนวลสงวนตัว ยั้บยั้งชั่งใจ เพราะมันชัดเจนแล้วว่า สอนมาสิบปี ปัญหาไม่เคยลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น
ในเมื่อวิธีเก่าๆไม่ได้ผล ก้ควรหาวิธืใหม่ๆบ้างไหม
มันอาจจะเป้นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เมื่อปํญหามันเกิดขึ้นแล้ว มันก็ต้องหาทางแก้ สักวิธี จริงมั้ย
แสดงความคิดเห็น
กรณีฮอร์โมน: ถึงเวลาหรือยังครับที่เราควรจะเปิดให้มีการทำแท้งเสรี
ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนนะครับว่าตัวผมเองนั้นไม่ได้ติดตามเรื่องฮอร์โมนนะครับ แต่ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำแท้งในเพจจ่าตามลิงค์ด้านล่างครับซึ่งผมมองว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจครับ
Reference:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมขอเกริ่นก่อนว่าผมเห็นด้วยนะครับกับแนวทางการแก้ปัญหาที่ทำๆกันมา เช่นการให้ปรึกษาพ่อแม่ รณรงค์ให้เด็กเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา ฯลฯ อันที่จริงแล้ว ผมยังเป็นพวกอนุรักษ์นิยมในประเด็นนี้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงเห็นด้วยกับการเปิดทำแท้งเสรีอยู่ดี ไม่ใช่เพราะผมเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องในความคิดผม แต่ผมมองว่าคนที่เขาเลือกที่จะทำแท้งแล้วควรจะมีโอกาสได้รับการรักษาที่ถูกวิธีจากแพทย์ครับ
อย่างในกรณีที่จ่าพิชิตได้ยกมานั้นบอกให้ไปปรึกษาพ่อแม่ แล้วสมมุติว่าพ่อแม่นั้นบอกให้ทำแท้งละ จะยังไงต่อ ในเมื่อทำแท้งอย่างถูกกฏหมายไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการทำแท้งเถื่อน ถึงจะบอกว่าไทยเราเมืองพุทธ ดังนั้นเราจึงไม่ควรที่จะอนุญาตให้มีการทำแท้ง แล้วคนที่เขาเชื่อต่างจากเราละ เขาจะมีทางออกอย่างไรละครับ สุดท้ายมันก็กลายเป็นกรณีของซากเด็ก 2000 ศพที่วัดนั่นละครับ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผมจะเห็นด้วยกับการทำแท้งเสรี แต่ผมมองว่าเราควรจะให้สิทธิหมอและพยาบาลในการเลือกที่จะทำหรือไม่ทำแท้งด้วยเช่นกันครับ เพราะผมคิดว่าหมอหลายท่านนั้นก็มีความเชื่อว่าการทำแท้งนั้นเป็นสิ่งที่ผิดและไม่สมควร เราก็ไม่ควรจะไปฝืนเขา แต่สำหรับหมอที่มองว่าในเมื่อมันเป็นทางเลือกของคนไข้ ดังนั้นจึงควรที่จะให้เขาได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ก็ปล่อยให้เขาทำไปครับ
ข้อดีอีกอย่างจากการเปิดทำแท้งเสรีนั้นก็คือ เราจะสามารถหาตัวเลขได้ครับว่าแต่ละปีมีการทำแท้งกี่ครั้ง และนำตัวเลขเหล่านั้นมาวัดผลสำเร็จสิ่งที่เราได้ทำไปเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรครับและจะได้รู้ว่าเรานั้นได้ดำเนินการมาถูกทางหรือไม่ แต่ตราบใดที่เรายังคงให้การทำแท้งนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายอยู่อย่างทุกวันนี้ เราก็จะไม่มีดรรชนีใดๆที่จะใช้ชีวัดความสำเร็จของสิ่งที่เราทำได้เลยครับ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงการซุกปัญหาไว้ใต้พรมและเอางบไปละลายทิ้งก็เท่านั้นเองครับ
ไม่ทราบทุกท่านคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้ครับ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
เพิ่มเติมครับ:
หลังจากที่ได้โต้แย้งกับหลายๆท่านไป ทำให้ผมนึกถึงอีกประเด็นหนึ่งขึ้นมาได้ หลายๆสิ่งที่ผมพูดมานั้นผมมองในจุดยืนของคนที่มองว่าการทำแท้งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร อย่าไรก็ตาม สมมุติผมเชื่อว่าการทำแท้งเป็นสิ่งที่สมควรละ หลายๆคนอาจจะบอกว่า "ก็คุณไม่ได้เป็นผู้ที่ถูกทำแท้งนิเลยพูดได้" ผมก็ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า "ใช่ครับ แต่ถ้าผมโดนทำแท้งไปตั้งแต่ตอนที่อยู่ในท้องก็คงไม่โกรธเคืองอ่ะครับเพราะมันโกรธไม่ได้ ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันไม่ผิดครับ" และผมมองว่าต่อให้เรามีการปลูกจิตสำนึกขนาดไหน มันก็ยังมีคนคิดต่างอยู่ดีครับ และการทำแท้งเสรีก็เป็นทางออกให้คนเหล่านี้นี่ละครับ
ถ้าคุณคิดว่าการทำแท้งมันไม่ดีจริง ก็ convert ให้คนเหล่านี้เชื่อเหมือนคุณสิครับ ไม่ใช่ใช้กฏหมายมาปิดกั้นหนทางพวกเขา เพราะสิ่งที่พวกเขามองก็คือพวกคุณนั้นไม่สามารถชี้แจงเหตุผลที่สมควรได้จึงเลือกที่จะใช้กฏหมายมาปิดกั้นและเขาก็ไม่ได้สำนึกว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นผิดแม้แต่น้อยครับ