กระทู้นี้ แค่ต้องการจะชื่นชมรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งน้องสาวของผมเพิ่งได้เข้าเรียน และเพิ่งจะลาออก และเพิ่งจะไปเรียนที่ใหม่ ในเวลาไม่ถึง 4 เดือน
เริ่มต้นด้วยน้องสาวของผมเรียนจบ ปวส. และได้เข้าเรียนต่อในหลักสูตร 2 ปีต่อเนื่องของมหาวิทยาลัยนี้ แรก ๆ ก็ไม่มีอะไร แค่เข้าเรียน จ่ายค่าเทอม และมหาวิทยาลัยบังคับให้อยู่หอในย่านมหาวิทยาลัย ซึ่งมีการจัดหอและเลือกห้องให้เสร็จสรรพ ทั้ง ๆ ที่น้องสาวของผมบ้านอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่ถึง 10 กม. แต่ก็ต้องอยู่ตามกฎของมหาวิทยาลัย เมื่อเข้าสู่ช่วงรับน้อง 7 วันของมหาวิทยาลัย ก็เหนื่อยก็เมื่อยกันตามปกติ เพราะเขาก็ขึ้นชื่อเรื่องรับน้องหนักหนาอยู่แล้ว ไม่ได้บ่นอะไรมากมายครับ อาจเพราะอยู่หอ ไม่ได้คุยอะไรกับพ่อแม่มากมายด้วย แต่หลัง 7 วันยังไม่หมดโปรโมชั่นนะครับ มีแถมมาให้อีกยาว ด้วยการที่ต้องถึงมหาวิทยาลัย ให้รุ่นพี่เช็คชื่อก่อน 7 โมงเช้า ใครสายปรับ 50 บาท ต้องพกร่มด้วยใครไม่เอามาโดนยกคณะ ห้ามพกทิชชู่ นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ พอเลิกเรียนเสร็จก็ไปทำกิจกรรมรับน้องที่แสนสุขกันต่อจนถึง 3-4 ทุ่ม จะทำอะไรกันก็ไม่รู้ล่ะครับ แต่มันทำให้น้องสาวของผมต้องเจ็บป่วยเรื้อรัง ทั้งเป็นหวัด เป็นไข้ ไม่หายซักทีกว่า 2-3 เดือน มีอาการชาที่แขนขาซีกเดียว ต่อมาก็เริ่มชาที่หลัง ซีกเดียวเหมือนกัน แทบไม่รู้สึกอะไรเลย ข้อเข่าอักเสบเดินแทบไม่ไหว ต้องพาไปหาหมอและฉีดยา
เพื่อน ๆ น้องที่รู้จักกันก็พากันทะยอยลาออก คุณแม่ของเพื่อนน้องก็แจ้งร้องทุกข์เข้าไปที่ TPBS จากนั้นทางทีมงานเลยโทรเข้ามาประสานเรื่องที่มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ส่งรุ่นพี่มาข่มขู่คุกคามน้องอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จนในที่สุดแล้ว น้องสาวของผมก็ทนไม่ไหวต้องลาออกจนได้มาเรียนที่ใหม่นี่ล่ะครับ ทางมหาวิทยาลัยก็ยังมีการตามให้กลับเข้าไปเรียนอยู่นะ โดยเรียกน้อง ๆ ที่มีปัญหาเรื่องนี้ไปคุย และเหมือนจะพักการเรียนรุ่นพี่เหล่านั้น (มั้ง) หลังจากการคุยกับทางมหาวิทยาลัยก็ได้เจอรุ่นพี่ ก็ยังไหว้และทักทายรุ่นพี่ตามปกติ แต่รุ่นพี่ไม่รับไหว้ ไม่มองหน้า และทุกวันนี้ก็ยังมีรุ่นพี่โทรมาข่มขู่คุกคาม และพยายามบังคับให้น้องของผมไปสาบาน ว่าจะไม่เอาเรื่องเหล่านี้ไปพูดกับใคร
ผมจึงอยากมาตั้งกระทู้นี้ เพื่อชื่นชมรุ่นพี่ในคณะนั้นของมหาวิทยาลัยนั้น
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่รับน้องอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง กักขังหน่วงเหนี่ยวและคุกคามทำให้ได้รับความเสียหายทั้งจิตใจและร่างกายแก่น้องสาวผมและน้อง ๆ อีกหลายคน จนตอนนี้น้องสาวผมสุขภาพร่างกายก็ยังไม่ปกติ 100%
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่ทำให้ผู้หญิงคนเปลี่ยนไปจากที่เคยร่าเริงกลายเป็นเงียบขรึม
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่พยายามข่มขู่คุกคามให้น้องสาวผมกลับไปสาบานว่าจะไม่พูด
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่ทำให้พ่อแม่ของน้องผมต้องรู้สึกเจ็บปวดจากการที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้
ขอชื่นชมมหาวิทยาลัย ที่พอรู้ว่าเรื่องถึงสื่อมวลชนก็ไม่ได้ละเลย รีบส่งรุ่นพี่มาเคลียร์ให้น้อง ๆ ปิดปากเพื่อเรื่องเงียบ
และสุดท้าย ขอแสดงความยินดีกับรุ่นพี่บางคน ที่มหาวิทยาลัยบอกว่าสั่งพักการเรียน (ซึ่งจะจริงหรือหลอกก็ไม่รู้ ยากจะเชื่อ)
ขอชื่นชมรุ่นพี่เรื่องการรับน้องรุนแรง และการข่มขู่คุกคามทำร้ายจิตใจรุ่นน้อง รวมถึงแสดงความยินดีที่ถูกพักการเรียน(มั้ง)
เริ่มต้นด้วยน้องสาวของผมเรียนจบ ปวส. และได้เข้าเรียนต่อในหลักสูตร 2 ปีต่อเนื่องของมหาวิทยาลัยนี้ แรก ๆ ก็ไม่มีอะไร แค่เข้าเรียน จ่ายค่าเทอม และมหาวิทยาลัยบังคับให้อยู่หอในย่านมหาวิทยาลัย ซึ่งมีการจัดหอและเลือกห้องให้เสร็จสรรพ ทั้ง ๆ ที่น้องสาวของผมบ้านอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่ถึง 10 กม. แต่ก็ต้องอยู่ตามกฎของมหาวิทยาลัย เมื่อเข้าสู่ช่วงรับน้อง 7 วันของมหาวิทยาลัย ก็เหนื่อยก็เมื่อยกันตามปกติ เพราะเขาก็ขึ้นชื่อเรื่องรับน้องหนักหนาอยู่แล้ว ไม่ได้บ่นอะไรมากมายครับ อาจเพราะอยู่หอ ไม่ได้คุยอะไรกับพ่อแม่มากมายด้วย แต่หลัง 7 วันยังไม่หมดโปรโมชั่นนะครับ มีแถมมาให้อีกยาว ด้วยการที่ต้องถึงมหาวิทยาลัย ให้รุ่นพี่เช็คชื่อก่อน 7 โมงเช้า ใครสายปรับ 50 บาท ต้องพกร่มด้วยใครไม่เอามาโดนยกคณะ ห้ามพกทิชชู่ นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ พอเลิกเรียนเสร็จก็ไปทำกิจกรรมรับน้องที่แสนสุขกันต่อจนถึง 3-4 ทุ่ม จะทำอะไรกันก็ไม่รู้ล่ะครับ แต่มันทำให้น้องสาวของผมต้องเจ็บป่วยเรื้อรัง ทั้งเป็นหวัด เป็นไข้ ไม่หายซักทีกว่า 2-3 เดือน มีอาการชาที่แขนขาซีกเดียว ต่อมาก็เริ่มชาที่หลัง ซีกเดียวเหมือนกัน แทบไม่รู้สึกอะไรเลย ข้อเข่าอักเสบเดินแทบไม่ไหว ต้องพาไปหาหมอและฉีดยา
เพื่อน ๆ น้องที่รู้จักกันก็พากันทะยอยลาออก คุณแม่ของเพื่อนน้องก็แจ้งร้องทุกข์เข้าไปที่ TPBS จากนั้นทางทีมงานเลยโทรเข้ามาประสานเรื่องที่มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ส่งรุ่นพี่มาข่มขู่คุกคามน้องอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จนในที่สุดแล้ว น้องสาวของผมก็ทนไม่ไหวต้องลาออกจนได้มาเรียนที่ใหม่นี่ล่ะครับ ทางมหาวิทยาลัยก็ยังมีการตามให้กลับเข้าไปเรียนอยู่นะ โดยเรียกน้อง ๆ ที่มีปัญหาเรื่องนี้ไปคุย และเหมือนจะพักการเรียนรุ่นพี่เหล่านั้น (มั้ง) หลังจากการคุยกับทางมหาวิทยาลัยก็ได้เจอรุ่นพี่ ก็ยังไหว้และทักทายรุ่นพี่ตามปกติ แต่รุ่นพี่ไม่รับไหว้ ไม่มองหน้า และทุกวันนี้ก็ยังมีรุ่นพี่โทรมาข่มขู่คุกคาม และพยายามบังคับให้น้องของผมไปสาบาน ว่าจะไม่เอาเรื่องเหล่านี้ไปพูดกับใคร
ผมจึงอยากมาตั้งกระทู้นี้ เพื่อชื่นชมรุ่นพี่ในคณะนั้นของมหาวิทยาลัยนั้น
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่รับน้องอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง กักขังหน่วงเหนี่ยวและคุกคามทำให้ได้รับความเสียหายทั้งจิตใจและร่างกายแก่น้องสาวผมและน้อง ๆ อีกหลายคน จนตอนนี้น้องสาวผมสุขภาพร่างกายก็ยังไม่ปกติ 100%
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่ทำให้ผู้หญิงคนเปลี่ยนไปจากที่เคยร่าเริงกลายเป็นเงียบขรึม
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่พยายามข่มขู่คุกคามให้น้องสาวผมกลับไปสาบานว่าจะไม่พูด
ขอชื่นชมรุ่นพี่ที่ทำให้พ่อแม่ของน้องผมต้องรู้สึกเจ็บปวดจากการที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้
ขอชื่นชมมหาวิทยาลัย ที่พอรู้ว่าเรื่องถึงสื่อมวลชนก็ไม่ได้ละเลย รีบส่งรุ่นพี่มาเคลียร์ให้น้อง ๆ ปิดปากเพื่อเรื่องเงียบ
และสุดท้าย ขอแสดงความยินดีกับรุ่นพี่บางคน ที่มหาวิทยาลัยบอกว่าสั่งพักการเรียน (ซึ่งจะจริงหรือหลอกก็ไม่รู้ ยากจะเชื่อ)