บทความนี้ไม่ใช่โฆษณาขายของแต่อย่างใด แต่เพราะแรงบันดาลใจจากการเข้าไปซื้อกางเกงที่ร้านเสือผ้าแห่งหนึ่ง
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกคนหนึ่งที่เคยต้องแบกน้ำหนักเกือบ 90 กิโลกรัม เอวเคยหนาสุด 38 นิ้ว ผมสูง 175 เซนติเมตร ซึ่งความอ้วนที่ได้มานั้นเป็นผลมาจากพฤติกรรมการกินล้วน ๆ เช่น บุฟเฟ่ แอลกอฮอล์ แต่ทุก ๆ รอบข้างก็จะบอกว่า “ไม่อ้วนหรอกกำลังดี” หรือ “ดูล่ำดี” เป็นต้น แต่ความล่ำนั้นส่วนใหญ่มันมาเกาะที่รอบเอวนี่สิถึงลำบากใจ ซึ่งเมื่อต้นปีน้ำหนักผมอยู่ประมาณ 85-87 กิโลกรัม
สมัยเรียนผมชอบออกกำลังกายมาก (สิบกว่าปีแล้วสินะ) แต่พอเริ่มทำงานนี่สิพฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เช่น บางทีต้องออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้างล่ะ, บางครั้งมีปาร์ตี้ที่ออฟฟิศบ้างล่ะ, วันหยุดไปห้างดูหนัง, กินติมบ้างล่ะ ฯลฯ ซึ่งผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ บางคนก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกับผมเช่นกัน
เทคนิคของผมง่าย ๆ คือ “เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน” เช่น การกิน, การเดิน, การพักผ่อน, การออกกำลังกาย
กิน = กินให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียด เลือกทานแต่พอดี
เดิน = เดินให้เร็วขึ้น เปลี่ยนจากนั่งวินเข้าซอยมาเดินแทน
พักผ่อน = พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกาย = ตามความเหมาะสมแก่เพศและอายุ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากลดน้ำหนักคือ ตอนผมไปเลือกซื้อกางเกงที่ร้านแห่งหนึ่ง ผมดู Size Guide ของทางร้านมันมีขนาดรอบเอวถึง 40 นิ้ว ผมคิดในใจว่า “มันต้องมีไซส์ตูอยู่แล้วนะเฟ้ย เราแค่ 36 นิ้วเอง”
ภาพ ต.ย. Size Guide จาก bonobos.desk.com
พอสอดส่ายสายตาไปยังสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ที่กางเกงที่ทางร้านพับไว้อย่างดีโดยเค้าจะเรียงไซส์เล็กสุดไว้ด้านบนไปหาใหญ่สุด ผมก็เจอกับกองแรก
21 29 30 31 32
เออไม่มีสีที่อยากได้ไม่เป็นไร เอาสีใกล้เคียงก็ได้วะ แล้วผมก็เหลือบไปดูไซส์กางเกงกองข้าง ๆ
30 31 32 33 34
ผมสำรวจทุกสีแต่ไม่มีไซส์ 36 ให้ข้าน้อยแต่อย่างใด!
มีสีเดียวที่มีเอว 36 คือ “สีขาว”
คำที่ผุดขึ้นในใจคือ “ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วโว้ย”
เป้าหมายของผมคือ “ต้องลดเอวให้ได้”
แต่ความเป็นจริงคือ “ลดเฉพาะส่วนคงเป็นไปได้ยาก คงต้องลดน้ำหนักโดยรวมทั้งตัว”
เท่าที่รู้ว่าเค้าว่าต้องแบ่งอาหารย่อย ๆ เป็น 5-6 ใช่ไหม?
ต้องกินอาหารเสริม โน้นนี่หรือเปล่า?
ต้องเข้าฟิตเนส ซื้อคอร์ส จ้างเทรนเนอร์ไหม?
ผมตอบตัวเองว่า “การลดน้ำหนักต้องใช้เงินให้น้อยที่สุด เพราะน้ำหนักที่ได้มาเราเสียเงินยัดมันเข้าไป แล้วเหตุใดเราต้องเสียเงินเพื่อนำมันออก?”
สองสิ่งนี้คือพระเอกที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป ลงทุนแค่หลักร้อย เอวหาย พุงหาย สุขภาพดีขึ้น
ผมเปลี่ยนพฤติกรรมไป 10 เดือน เอวผมเหลือเพียง 33 นิ้ว น้ำหนักเหลือเพียง 75 กิโลกรัม
นี่คือเหล่าเสื้อผ้ากางเกงที่เคยอยู่ในตู้ต้องโละทิ้งเกือบหมด ส่วนใหญ่จะเอว 36 นิ้ว
อันนี้คือกางเกงบางส่วนที่ซื้อมาใหม่ ซึ่งผมสามารถใส่กางเกงที่เรียกว่า Slim Fit เป็นครั้งแรกและเอวเหลือ 33 นิ้ว เย้ ๆ
อันนี้รูปบางส่วนสมัยก่อน (พลีชีพ) ประมาณ 85-87 กิโลกรัม
อันนี้ช่วง 83-85 กิโลกรัม
รูปช่วงเปลี่ยนพฤติกรรมได้ประมาณ 1 เดือนแรกคับ
รูปช่วงเอวระหว่าง 33-34 คับ ซึ่งเป็นรูปเมื่อ 1-2 เดือนก่อน
แผนของผมต่อไปคือ “เพิ่มน้ำหนัก” งงไหมคับ?
เพราะผมอยากเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้ตัวใหญ่ขึ้นแต่ให้เอวอยู่ใน 33-34 นิ้วเท่านั้น
สุดท้ายนี้หากคุณอยากเปลี่ยนตัวเอง คุณต้องเปลี่ยนพฤติกรรมและเลิกอ้างว่า “เหนื่อย หรือ ไม่มีเวลา” แล้วคุณจะพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ลองแบ่งเวลาเพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง หากมีอะไรที่ผมพอจะแนะนำได้ สอบถามมาได้เลยคับ
อ่านบทความนี้และดูภาพอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ >>>
http://goo.gl/bXivPy
Instagram >>>
http://instagram.com/creativeshooter
แชร์แรงบันดาลใจ ลดเอว 5 นิ้วเพราะกางเกงตัวเดียว
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกคนหนึ่งที่เคยต้องแบกน้ำหนักเกือบ 90 กิโลกรัม เอวเคยหนาสุด 38 นิ้ว ผมสูง 175 เซนติเมตร ซึ่งความอ้วนที่ได้มานั้นเป็นผลมาจากพฤติกรรมการกินล้วน ๆ เช่น บุฟเฟ่ แอลกอฮอล์ แต่ทุก ๆ รอบข้างก็จะบอกว่า “ไม่อ้วนหรอกกำลังดี” หรือ “ดูล่ำดี” เป็นต้น แต่ความล่ำนั้นส่วนใหญ่มันมาเกาะที่รอบเอวนี่สิถึงลำบากใจ ซึ่งเมื่อต้นปีน้ำหนักผมอยู่ประมาณ 85-87 กิโลกรัม
สมัยเรียนผมชอบออกกำลังกายมาก (สิบกว่าปีแล้วสินะ) แต่พอเริ่มทำงานนี่สิพฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เช่น บางทีต้องออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้างล่ะ, บางครั้งมีปาร์ตี้ที่ออฟฟิศบ้างล่ะ, วันหยุดไปห้างดูหนัง, กินติมบ้างล่ะ ฯลฯ ซึ่งผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ บางคนก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกับผมเช่นกัน
เทคนิคของผมง่าย ๆ คือ “เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน” เช่น การกิน, การเดิน, การพักผ่อน, การออกกำลังกาย
กิน = กินให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียด เลือกทานแต่พอดี
เดิน = เดินให้เร็วขึ้น เปลี่ยนจากนั่งวินเข้าซอยมาเดินแทน
พักผ่อน = พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกาย = ตามความเหมาะสมแก่เพศและอายุ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากลดน้ำหนักคือ ตอนผมไปเลือกซื้อกางเกงที่ร้านแห่งหนึ่ง ผมดู Size Guide ของทางร้านมันมีขนาดรอบเอวถึง 40 นิ้ว ผมคิดในใจว่า “มันต้องมีไซส์ตูอยู่แล้วนะเฟ้ย เราแค่ 36 นิ้วเอง”
ภาพ ต.ย. Size Guide จาก bonobos.desk.com
พอสอดส่ายสายตาไปยังสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ที่กางเกงที่ทางร้านพับไว้อย่างดีโดยเค้าจะเรียงไซส์เล็กสุดไว้ด้านบนไปหาใหญ่สุด ผมก็เจอกับกองแรก
21 29 30 31 32
เออไม่มีสีที่อยากได้ไม่เป็นไร เอาสีใกล้เคียงก็ได้วะ แล้วผมก็เหลือบไปดูไซส์กางเกงกองข้าง ๆ
30 31 32 33 34
ผมสำรวจทุกสีแต่ไม่มีไซส์ 36 ให้ข้าน้อยแต่อย่างใด!
มีสีเดียวที่มีเอว 36 คือ “สีขาว”
คำที่ผุดขึ้นในใจคือ “ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วโว้ย”
เป้าหมายของผมคือ “ต้องลดเอวให้ได้”
แต่ความเป็นจริงคือ “ลดเฉพาะส่วนคงเป็นไปได้ยาก คงต้องลดน้ำหนักโดยรวมทั้งตัว”
เท่าที่รู้ว่าเค้าว่าต้องแบ่งอาหารย่อย ๆ เป็น 5-6 ใช่ไหม?
ต้องกินอาหารเสริม โน้นนี่หรือเปล่า?
ต้องเข้าฟิตเนส ซื้อคอร์ส จ้างเทรนเนอร์ไหม?
ผมตอบตัวเองว่า “การลดน้ำหนักต้องใช้เงินให้น้อยที่สุด เพราะน้ำหนักที่ได้มาเราเสียเงินยัดมันเข้าไป แล้วเหตุใดเราต้องเสียเงินเพื่อนำมันออก?”
สองสิ่งนี้คือพระเอกที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป ลงทุนแค่หลักร้อย เอวหาย พุงหาย สุขภาพดีขึ้น
ผมเปลี่ยนพฤติกรรมไป 10 เดือน เอวผมเหลือเพียง 33 นิ้ว น้ำหนักเหลือเพียง 75 กิโลกรัม
นี่คือเหล่าเสื้อผ้ากางเกงที่เคยอยู่ในตู้ต้องโละทิ้งเกือบหมด ส่วนใหญ่จะเอว 36 นิ้ว
อันนี้คือกางเกงบางส่วนที่ซื้อมาใหม่ ซึ่งผมสามารถใส่กางเกงที่เรียกว่า Slim Fit เป็นครั้งแรกและเอวเหลือ 33 นิ้ว เย้ ๆ
อันนี้รูปบางส่วนสมัยก่อน (พลีชีพ) ประมาณ 85-87 กิโลกรัม
อันนี้ช่วง 83-85 กิโลกรัม
รูปช่วงเปลี่ยนพฤติกรรมได้ประมาณ 1 เดือนแรกคับ
รูปช่วงเอวระหว่าง 33-34 คับ ซึ่งเป็นรูปเมื่อ 1-2 เดือนก่อน
แผนของผมต่อไปคือ “เพิ่มน้ำหนัก” งงไหมคับ?
เพราะผมอยากเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้ตัวใหญ่ขึ้นแต่ให้เอวอยู่ใน 33-34 นิ้วเท่านั้น
สุดท้ายนี้หากคุณอยากเปลี่ยนตัวเอง คุณต้องเปลี่ยนพฤติกรรมและเลิกอ้างว่า “เหนื่อย หรือ ไม่มีเวลา” แล้วคุณจะพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ลองแบ่งเวลาเพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง หากมีอะไรที่ผมพอจะแนะนำได้ สอบถามมาได้เลยคับ
อ่านบทความนี้และดูภาพอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ >>> http://goo.gl/bXivPy
Instagram >>> http://instagram.com/creativeshooter