เรียกได้ว่าการพลิกมาเล่น “บทร้าย“ ของเหล่านางเอกสวยใสทั้งหลาย ไม่ใช่เรื่องแปลกเสียแล้วในปัจจุบันนี้ ด้วยความสวย ผสานกับความเผ็ด ความแซ่บของพวกเธอ แทบจะเรียกได้ว่า “สามารถแบกละครได้ทั้งเรื่องได้“ และบทเหล่านี้เองที่ทำให้ละครหลายต่อหลายเรื่อง ดังเป็นพลุแตกในชั่วข้ามคืน
และสำหรับช่อง 7 สี ผู้ขึ้นชื่อเรื่องต้นกำเนิด “นางเอกเจ้าน้ำตา“ แห่งวงการละครไทยก็ไม่น้อยหน้า เพราะหากลองย้อนรอยกันไปช่วง ปี 2553 - ปัจจุบัน จะพบว่าทั้งนักแสดงระดับนางเอก นางรอง หรือแม้กระทั่งนางเอกระดับแถวหน้าของช่องเอง ต่างก็พากันพลิกบทบาทตัวเองมาสู่ “บทร้าย“ ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้นางเอกช่องใด และนางเอกผู้ได้มีโอกาสพลิกร้ายเหล่านั้นมีใครบ้าง ? มาดูกันทีละคนเลย..
ปี พ.ศ. 2553
กบ - สุวนันท์ คงยิ่ง (ปุณณกันต์)
บทบาท : ม.ล ดารารุ่ง จากละคร “เรือนซ่อนรัก“
สร้างความแปลกตาแปลกใจไม่น้อยสำหรับนางเอกขึ้นหิ้งตลอดกาลจากช่อง 7 สี อย่าง กบ สุวนันท์ ที่ทิ้งทวนผลงานที่พลิกบทบาทสุดขั้วในชีวิตกับบท “ดารารุ่ง“ จากละคร “เรือนซ่อนรัก“ ที่มีความเก็บกดจากปมความรักในอดีต สู่ความแค้นภายในจิตใจที่เปลี่ยนให้เธอเป็นคนที่มีจิตใจอันโหดเหี้ยม ถึงแม้ละครเรื่องนี้จะไม่ได้เรตติ้งสูงอย่างที่หวัง แต่แฟนๆละครก็ร่วมกันการันตีว่า “สุวนันท์ตีบทได้แตกกระจุย“ เป็นการปิดท้ายก่อนหันไปใช้ชีวิตครอบครัวอย่างสวยงาม
กระติ๊บ - ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล
บทบาท : ชฎาฉัตร จากละคร “รักซ่อนรส“
ทำเอาผู้ชมทึ่งและแปลกใจในบท “ชฎาฉัตร“ ของกระติ๊บ ชวัลกร ไปตามๆกัน เพราะก่อนที่ละคร “รักซ่อนรส“ จะออกอากาศเพียงไม่กี่เดือน กระติ๊บเพิ่งผ่านบทนางเอกแสนน่ารักในละครค่ายเดียวกันอย่าง บ้านนาคาเฟ่ มาหยกๆ แต่กับบทชฎาฉัตรที่เธอได้รับ มีทั้งความร้าย ความเจ้าอารมณ์และความอิจฉาอยู่เต็มตัว แตกต่างกับละครเรื่องก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหลังจากบทร้ายในเรื่องนี้ทำให้เธอได้รับบท 'นางร้ายเจ้าบทบาท' อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับละคร “ล่ารักสุดขอบฟ้า“ ที่ลาจอไปเมื่อวันอังคารสดๆร้อนๆ
เอมี่ - เอมิกา กลิ่นประทุม (โชติชัยชรินทร์)
บทบาท : แกมแก้ว จากละคร “ด้วยแรงอธิษฐาน“
คงจะเป็นนักแสดงอีกคนที่เล่นร้ายสุดแค่ไหน คนดูก็ยังยกให้เป็นนางเอกแสนน่ารักได้เหมือนเดิม สำหรับ “เอมี่ กลิ่นประทุม“ ที่ผ่านการพลิกบทบาทจากนางเอกแก่นแก้ว มาเป็นหนึ่งในนักแสดงละครรีเมค “ด้วยแรงอธิษฐาน“ ในบทบาท 'แกมแก้ว' หญิงสาวผู้กุมความชั่วช้าที่รวมหัวกันทำไว้ในอดีตจนส่งผลยังปัจจุบัน ซึ่งเอมี่ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งบทแค้น เกลียด และกลัวความผิดในสิ่งที่ได้กระทำ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เอมี่สามารถกลับไปแสดงบทนางเอกรองแสนน่ารักได้ในละครอีกหลายต่อหลายเรื่องได้สบายๆ แบบนี้จะเรียกว่าร้ายก็รักได้หรือเปล่าน้อ ?
ปี พ.ศ. 2554
ขวัญ - อุษามณี ไวทยานนท์
บทบาท : อินตรา (มนชญา) จากละคร “เพลิงพรหม“
ถึงจะเคยแสดงบทร้ายน่ารักๆมาแล้วกับละครเรื่องแรก 'สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2‘ แต่กับบทบาทของ “อินตรา“ ในละครเพลิงพรหม ผลักดันให้ขวัญได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ จากบทบาทการสลับร่างกับ 'เบนซ์ ปุณยาพร' ด้วยกรรมที่ทำมาในอดีต จากละคร 16 ตอน อุษามณีเธอทั้งตบ จิก ด่า และวางแผนฆ่าอย่างสะใจ กว่าจะเป็นมนชญาคนเดิมได้ก็เข้าไป 15 ตอน ครึ่ง! เรียกกระแสสูสีมากับบท 'เรยา' ของช่องตรงข้ามได้แบบชิวๆ
ตาล - กัญญา รัตนเพชร์
บทบาท : มธุรินทร์ (เดียร์) จากละคร “ในรอยรัก“
เป็นนางเอกรองผู้แสนดีมานาน แต่ถึงคราว 'ตาล กัญญา' ได้มีโอกาสตบนางเอกให้ร่วงคาจอกับเขาบ้าง กับการร่วมงามกับซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของเมืองไทย 'อั้ม - พัชราภา' อีกครั้ง คราวนี้ตาลรับบท “มธุรินทร์“ หรือ เดียร์ ผู้เกลียดชังพี่สาวที่แท้จริงตั้งแต่เห็นหน้า เพราะไม่อยากให้ใครมาแย่งแม่อันเป็นที่รักของเธอไป ซึ่งเรื่องนี้ถึงแม้จะไม่แรงทางด้านกระแส แต่ทางค่ายดาราวิดีโอก็ส่งเธอให้ได้ร้ายอีกครั้งในละคร 'มาหยารัศมี'
กี้ - รฐกร สถิรบุตร
บทบาท : เทเรซ่า จากละคร “นางฟ้ากับมาเฟีย“
นักแสดงสาวนักบู๊ขาประจำค่ายอาหลอง 'กี้ รฐกร' ขอพลิกบทมาวีนเหวี่ยงร้ายกับเขาบ้าง กับบทคุณหนูอารมณ์ร้ายผู้เอาแต่ใจอย่าง “เทเรซ่า“ ที่เป็นตัวคั่นกลางความรักของ พระ-นาง โดยไม่รู้ตัว ด้วยนิสัยคุณหนูเธอจึงไม่ยอมให้ใครขัดใจได้ง่ายๆ อารมณ์เหวี่ยงรอบทิศจึงทำให้กี้เอง ได้แสดงอีกหนึ่งความสามารถในละครเรื่องนี้
มะนาว - ศรศิลป์ มณีวรรณ์
บทบาท : ชาริณี จากละคร “เพลงรักบ้านนา“
บท 'ชาริณี' จากละคร 'เพลงรักบ้านนา' ค่ายดีด้า ได้ 'มะนาว ศรศิลป์' มาพลิกเป็นสาวเปรี้ยวลูกเศรษฐีเอาแต่ใจ ถึงแม้บทละครจะไม่ส่งความร้ายให้เธอมาก แต่การได้ร่วมประชันบทบาทกับพระร้ายรุ่นพี่ 'ไม้ นนทพันธ์' ก็ทำให้การเล่นบทร้ายน่าหยิกของมะนาวครั้งนี้ผ่านไปได้อย่างไหลลื่น พร้อมวลีเด็ดประจำตัวว่า “ก็มีตังค์อ่ะ!“
ปี พ.ศ. 2555
ทับทิม - อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์
บทบาท : ดารกา จากละคร “อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว“
เป็นละครแฟนตาซีดราม่าที่กระแสแรงที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับละคร 'อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว' จากค่ายดีด้า ที่ได้นักแสดงวัยรุ่นสาวหน้าใสทั้ง 2 คน ได้แก่ 'ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก' และ 'ทับทิม อัญรินทร์' มาประชันบทบาทกันครั้งแรก ความแรงตกอยู่ที่บท “ดารกา“ อสูรสาวผู้ปิดบังชาติกำเนิดที่แท้จริง โดยการตีสองหน้าเป็นพี่สาวผู้แสนดีที่ซ่อนความร้ายกาจไว้ในจิตใจ ซึ่งทับทิมสามารถตีบทได้แนบเนียนจนเป็นที่กล่าวขานเป็นอย่างมาก เรียกเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจนทำให้เธอได้รับโอกาสเล่นร้ายอีกครั้งในบท 'ทานตะวัน' ในละคร 'อาญารัก'
กุญแจซอล - ป่านทอง บุญทอง
บทบาท : ชุติมา จากละคร “มาหยารัศมี“
นางเอกจอมแก่นเซี้ยวอีกคนที่ขยับมารับบทร้ายน่าหมั่นไส้ได้อย่างดีอีกคน “กุญแจซอล ป่านทอง“ เคยออกปากไว้ตั้งแต่ละคร 'มาหยารัศมี' ยังไม่ออนแอร์เลยทีเดียวว่าบทยากและท้าทายสุดๆ ทั้งต้องใช้คำพูดเหยียดหยาม จิกหัวและด่าทอนางเอกอย่าง 'ใหม่ ดาวิกา' เกือบทั้งเรื่อง แต่ซอลเองก็สามารถถ่ายทอดบทชุติมาได้ดีพอสมควร ถึงแม้จะร้ายแค่ครึ่งเรื่องก็ตาม
นุส - นุสบา ปุณณกันต์
บทบาท : ภาพิศ จากละคร “ไฟมาร“
หวนคืนจอช่อง 7 สีได้อย่างแสบทรวงเลยทีเดียวสำหรับนางเอกรุ่นใหญ่มากความสามารถ 'นุสบา ปุณณกันต์' กับละครจานด่วนจานร้อน 'ไฟมาร' ในบท 'ภาพิศ' หญิงกลางคนผู้รักในความสุขสบายจนต้องแลกด้วยการยอมเป็นภรรยาน้อยของคนอื่น บทนี้ต้องร้ายและฉะกับเมียหลวงตลอดทั้งเรื่อง แต่นุสบาก็พลิกตัวเองให้ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม จนผู้จัดละครทั้งหลายยื่นละครให้เล่นไม่ขาดมือตลอดมา
ปี พ.ศ. 2556
สเต็ป - สเตฟานี่ แลร์ช
บทบาท : นิกกี้ จากละคร “ลูกไม้หลากสี“
โดดมารับงานนอกสังกัดโพลีพลัสเป็นครั้งแรก “สเต็ป สเตฟานี่“ เลยถือโอกาสเล่นร้ายสักครั้งในชีวิต ในละครรีเมค ลูกไม้หลากสี จากค่ายพอดีคำ กับบท 'นิกกี้' เด็กสาวผู้ไม่รับภรรยาใหม่คนใดของพ่อเธอเลยตลอดชีวิต เมื่อพ่อของเธอยืนยันที่จะนำภรรยาใหม่เข้ามา เธอจึงต่อต้านด้วยการทำลายสุดฤทธิ์ ชนิดที่ว่า 'ร้ายขนาดนี้ตบสักทียังไม่คุ้ม' และในบทบาทนี้เองทำให้สเต็ปได้รับการผลักดัน และมีผลงานกับช่อง 7 สีอย่างต่อเนื่อง
ป๊อก - ปิยธิดา วรมุสิก (มิตรธีรโรจน์)
บทบาท : คุณหญิงมณี จากละคร “ไฟหวน“
ถือเป็นนักแสดงฝีมือระดับแนวหน้าของเมืองไทย “ป๊อก ปิยธิดา“ เล่นละครมานาน แต่บทบาท คุณหญิงมณี ในละครพีเรียดเข้มข้น 'ไฟหวน' ได้ชื่ิอเป็นการรับบทร้ายเต็มตัวเรื่องแรก ด้วยความเชื่ิอและศรัทธาในคำทำนายเป็นที่สุด คุณหญิงมณีจึงต้องทำทุกวิถีทางให้อนาคตไม่เป็นตามคำทัก ป๊อกสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรัก ความเกลียดชัง และความหึงหวงได้สุดความสามารถ จนมีผู้อยากให้เธอได้รับรางวัลหลายเวทีกันเลยทีเดียว
แตงโม - ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์
บทบาท : เหม่ยอิง จากละคร “วันนี้ที่รอคอย“
ละครหลังข่าวเรื่องสุดท้ายในฐานะนักแสดงสังกัดช่อง 7 สี ของ แตงโม ทั้งที เป็นการพลิกบทบาทอีกครั้งในบทร้าย หลังจากที่เคยวาดฝีมือไว้ใน'กาษานาคา' การจะกลับมาเล่นร้ายทั้งทีบทบาทต้องท้าทายความสามารถอย่างมาก กับตัวละคร 'เหม่ยอิง' สตรีเชื้อสายฮ่องกงที่มีไหวพริบเป็นเลิศ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการจะต้องช่วงชิงมาจนสำเร็จ และแตงโมเองก็ถ่ายทอดบทร้ายได้อย่างไม่ผิดหวัง ปิดท้ายละครกับต้นสังกัดได้อย่างอลังการ
ปี พ.ศ. 2557
เปรี้ยว - ทัศนียา การสมนุช
บทบาท : เปีย (จรรยา) จากละคร “คมพยาบาท“
จากละครที่เคยโด่งดังในอดีต ถูกนำกลับมาถ่ายทอดทางหน้าจอทีวีอีกครั้ง “เปรี้ยว ทัศนียา“ ขอชิมลางนางร้ายเต็มตัวเป็นครั้งแรก กับบท 'เปีย' เด็กสาวที่มีจิตใจโหดเหี้ยม มีแต่ความอิจฉาริษยาต่อคนรอบตัว ซึ่งเปรี้ยวสามารถถ่ายทอดตัวละครเปียในแบบฉบับของตนได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำความเป็นนักแสดงรุ่นใหม่มากความสามารถให้เธอได้เต็มขั้น
จั๊กจั่น - อคัมย์สิริ สุวรรณศุข
บทบาท : รสสุคนธ์ จากละคร “สุสานคนเป็น“
เป็นนางเอกหน้าสวยอีกคนที่เพิ่งต่อสัญญากับช่อง 7 สี ไปเมื่อปีก่อน ก็ได้รับโอกาสรับบท 'รสสุคนธ์' ในละครรีเมคฟอร์มยักษ์เรื่อง 'สุสานคนเป็น' ผู้มักใหญ่ใฝ่สูงและเต็มไปด้วยความมัวเมาในกิเลส และด้วยความสามารถและทุ่มเทของจั๊กจั่นเอง ทำให้ถ่ายทอดบทรสสุคนธ์ออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ ลบคำปรามาสนานับประการได้อย่างไม่มีข้อกังขา นอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัลการันตีบทบาทจากหลายๆเวทีอีกด้วย
แพนเค้ก - เขมนิจ จามิกรณ์
บทบาท : ตรีอัปสร พัชรกานต์กุล จากละคร “ปีกมงกุฏ“
อีกหนึ่งนางเอกมากประสบการณ์ของช่อง 7 สี “แพนเค้ก เขมนิจ“ ที่ได้โอกาสจากผู้จัดละครสุดแซบ 'ต้อ มารุต' มอบบทบาทที่พิสูจน์ฝีมือในบทร้ายครั้งแรกในชีวิต “ตรีอัปสร“ ผู้เก็บความแค้นในอดีตมาเป็นแรงผลักดัน ก่อเกิดเป็นความทะเยอทะยานในจิตใจ เปรียบดั่งไฟเผาให้เวทีนางสาว ณ สยาม ต้องลุกเป็นไฟ แพนเค้กสลัดคราบนางเอกในลุคส์คุณหนูได้แบบจัดเต็ม บทบาทร้ายลึกในครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม กระแส “ตรีอัปสร“ มาพร้อมการเจิดจรัสต่อไปได้อย่างงดงาม
ฝึกเขียนคอลัมน์ครับ ผิดพลาดจุดใดขออภัย
>:: ย้อนรอย การพลิกบทบาท จาก “นางเอก“ สู่ “บทร้าย“ ของนักแสดงช่อง 7 สี ในรอบ 5 ปี ใครร้าย ใครรุ่ง มาดูกัน!!! ::<
และสำหรับช่อง 7 สี ผู้ขึ้นชื่อเรื่องต้นกำเนิด “นางเอกเจ้าน้ำตา“ แห่งวงการละครไทยก็ไม่น้อยหน้า เพราะหากลองย้อนรอยกันไปช่วง ปี 2553 - ปัจจุบัน จะพบว่าทั้งนักแสดงระดับนางเอก นางรอง หรือแม้กระทั่งนางเอกระดับแถวหน้าของช่องเอง ต่างก็พากันพลิกบทบาทตัวเองมาสู่ “บทร้าย“ ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้นางเอกช่องใด และนางเอกผู้ได้มีโอกาสพลิกร้ายเหล่านั้นมีใครบ้าง ? มาดูกันทีละคนเลย..
ปี พ.ศ. 2553
กบ - สุวนันท์ คงยิ่ง (ปุณณกันต์)
บทบาท : ม.ล ดารารุ่ง จากละคร “เรือนซ่อนรัก“
สร้างความแปลกตาแปลกใจไม่น้อยสำหรับนางเอกขึ้นหิ้งตลอดกาลจากช่อง 7 สี อย่าง กบ สุวนันท์ ที่ทิ้งทวนผลงานที่พลิกบทบาทสุดขั้วในชีวิตกับบท “ดารารุ่ง“ จากละคร “เรือนซ่อนรัก“ ที่มีความเก็บกดจากปมความรักในอดีต สู่ความแค้นภายในจิตใจที่เปลี่ยนให้เธอเป็นคนที่มีจิตใจอันโหดเหี้ยม ถึงแม้ละครเรื่องนี้จะไม่ได้เรตติ้งสูงอย่างที่หวัง แต่แฟนๆละครก็ร่วมกันการันตีว่า “สุวนันท์ตีบทได้แตกกระจุย“ เป็นการปิดท้ายก่อนหันไปใช้ชีวิตครอบครัวอย่างสวยงาม
กระติ๊บ - ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล
บทบาท : ชฎาฉัตร จากละคร “รักซ่อนรส“
ทำเอาผู้ชมทึ่งและแปลกใจในบท “ชฎาฉัตร“ ของกระติ๊บ ชวัลกร ไปตามๆกัน เพราะก่อนที่ละคร “รักซ่อนรส“ จะออกอากาศเพียงไม่กี่เดือน กระติ๊บเพิ่งผ่านบทนางเอกแสนน่ารักในละครค่ายเดียวกันอย่าง บ้านนาคาเฟ่ มาหยกๆ แต่กับบทชฎาฉัตรที่เธอได้รับ มีทั้งความร้าย ความเจ้าอารมณ์และความอิจฉาอยู่เต็มตัว แตกต่างกับละครเรื่องก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหลังจากบทร้ายในเรื่องนี้ทำให้เธอได้รับบท 'นางร้ายเจ้าบทบาท' อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับละคร “ล่ารักสุดขอบฟ้า“ ที่ลาจอไปเมื่อวันอังคารสดๆร้อนๆ
เอมี่ - เอมิกา กลิ่นประทุม (โชติชัยชรินทร์)
บทบาท : แกมแก้ว จากละคร “ด้วยแรงอธิษฐาน“
คงจะเป็นนักแสดงอีกคนที่เล่นร้ายสุดแค่ไหน คนดูก็ยังยกให้เป็นนางเอกแสนน่ารักได้เหมือนเดิม สำหรับ “เอมี่ กลิ่นประทุม“ ที่ผ่านการพลิกบทบาทจากนางเอกแก่นแก้ว มาเป็นหนึ่งในนักแสดงละครรีเมค “ด้วยแรงอธิษฐาน“ ในบทบาท 'แกมแก้ว' หญิงสาวผู้กุมความชั่วช้าที่รวมหัวกันทำไว้ในอดีตจนส่งผลยังปัจจุบัน ซึ่งเอมี่ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งบทแค้น เกลียด และกลัวความผิดในสิ่งที่ได้กระทำ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เอมี่สามารถกลับไปแสดงบทนางเอกรองแสนน่ารักได้ในละครอีกหลายต่อหลายเรื่องได้สบายๆ แบบนี้จะเรียกว่าร้ายก็รักได้หรือเปล่าน้อ ?
ปี พ.ศ. 2554
ขวัญ - อุษามณี ไวทยานนท์
บทบาท : อินตรา (มนชญา) จากละคร “เพลิงพรหม“
ถึงจะเคยแสดงบทร้ายน่ารักๆมาแล้วกับละครเรื่องแรก 'สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2‘ แต่กับบทบาทของ “อินตรา“ ในละครเพลิงพรหม ผลักดันให้ขวัญได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ จากบทบาทการสลับร่างกับ 'เบนซ์ ปุณยาพร' ด้วยกรรมที่ทำมาในอดีต จากละคร 16 ตอน อุษามณีเธอทั้งตบ จิก ด่า และวางแผนฆ่าอย่างสะใจ กว่าจะเป็นมนชญาคนเดิมได้ก็เข้าไป 15 ตอน ครึ่ง! เรียกกระแสสูสีมากับบท 'เรยา' ของช่องตรงข้ามได้แบบชิวๆ
ตาล - กัญญา รัตนเพชร์
บทบาท : มธุรินทร์ (เดียร์) จากละคร “ในรอยรัก“
เป็นนางเอกรองผู้แสนดีมานาน แต่ถึงคราว 'ตาล กัญญา' ได้มีโอกาสตบนางเอกให้ร่วงคาจอกับเขาบ้าง กับการร่วมงามกับซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของเมืองไทย 'อั้ม - พัชราภา' อีกครั้ง คราวนี้ตาลรับบท “มธุรินทร์“ หรือ เดียร์ ผู้เกลียดชังพี่สาวที่แท้จริงตั้งแต่เห็นหน้า เพราะไม่อยากให้ใครมาแย่งแม่อันเป็นที่รักของเธอไป ซึ่งเรื่องนี้ถึงแม้จะไม่แรงทางด้านกระแส แต่ทางค่ายดาราวิดีโอก็ส่งเธอให้ได้ร้ายอีกครั้งในละคร 'มาหยารัศมี'
กี้ - รฐกร สถิรบุตร
บทบาท : เทเรซ่า จากละคร “นางฟ้ากับมาเฟีย“
นักแสดงสาวนักบู๊ขาประจำค่ายอาหลอง 'กี้ รฐกร' ขอพลิกบทมาวีนเหวี่ยงร้ายกับเขาบ้าง กับบทคุณหนูอารมณ์ร้ายผู้เอาแต่ใจอย่าง “เทเรซ่า“ ที่เป็นตัวคั่นกลางความรักของ พระ-นาง โดยไม่รู้ตัว ด้วยนิสัยคุณหนูเธอจึงไม่ยอมให้ใครขัดใจได้ง่ายๆ อารมณ์เหวี่ยงรอบทิศจึงทำให้กี้เอง ได้แสดงอีกหนึ่งความสามารถในละครเรื่องนี้
มะนาว - ศรศิลป์ มณีวรรณ์
บทบาท : ชาริณี จากละคร “เพลงรักบ้านนา“
บท 'ชาริณี' จากละคร 'เพลงรักบ้านนา' ค่ายดีด้า ได้ 'มะนาว ศรศิลป์' มาพลิกเป็นสาวเปรี้ยวลูกเศรษฐีเอาแต่ใจ ถึงแม้บทละครจะไม่ส่งความร้ายให้เธอมาก แต่การได้ร่วมประชันบทบาทกับพระร้ายรุ่นพี่ 'ไม้ นนทพันธ์' ก็ทำให้การเล่นบทร้ายน่าหยิกของมะนาวครั้งนี้ผ่านไปได้อย่างไหลลื่น พร้อมวลีเด็ดประจำตัวว่า “ก็มีตังค์อ่ะ!“
ปี พ.ศ. 2555
ทับทิม - อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์
บทบาท : ดารกา จากละคร “อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว“
เป็นละครแฟนตาซีดราม่าที่กระแสแรงที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับละคร 'อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว' จากค่ายดีด้า ที่ได้นักแสดงวัยรุ่นสาวหน้าใสทั้ง 2 คน ได้แก่ 'ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก' และ 'ทับทิม อัญรินทร์' มาประชันบทบาทกันครั้งแรก ความแรงตกอยู่ที่บท “ดารกา“ อสูรสาวผู้ปิดบังชาติกำเนิดที่แท้จริง โดยการตีสองหน้าเป็นพี่สาวผู้แสนดีที่ซ่อนความร้ายกาจไว้ในจิตใจ ซึ่งทับทิมสามารถตีบทได้แนบเนียนจนเป็นที่กล่าวขานเป็นอย่างมาก เรียกเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจนทำให้เธอได้รับโอกาสเล่นร้ายอีกครั้งในบท 'ทานตะวัน' ในละคร 'อาญารัก'
กุญแจซอล - ป่านทอง บุญทอง
บทบาท : ชุติมา จากละคร “มาหยารัศมี“
นางเอกจอมแก่นเซี้ยวอีกคนที่ขยับมารับบทร้ายน่าหมั่นไส้ได้อย่างดีอีกคน “กุญแจซอล ป่านทอง“ เคยออกปากไว้ตั้งแต่ละคร 'มาหยารัศมี' ยังไม่ออนแอร์เลยทีเดียวว่าบทยากและท้าทายสุดๆ ทั้งต้องใช้คำพูดเหยียดหยาม จิกหัวและด่าทอนางเอกอย่าง 'ใหม่ ดาวิกา' เกือบทั้งเรื่อง แต่ซอลเองก็สามารถถ่ายทอดบทชุติมาได้ดีพอสมควร ถึงแม้จะร้ายแค่ครึ่งเรื่องก็ตาม
นุส - นุสบา ปุณณกันต์
บทบาท : ภาพิศ จากละคร “ไฟมาร“
หวนคืนจอช่อง 7 สีได้อย่างแสบทรวงเลยทีเดียวสำหรับนางเอกรุ่นใหญ่มากความสามารถ 'นุสบา ปุณณกันต์' กับละครจานด่วนจานร้อน 'ไฟมาร' ในบท 'ภาพิศ' หญิงกลางคนผู้รักในความสุขสบายจนต้องแลกด้วยการยอมเป็นภรรยาน้อยของคนอื่น บทนี้ต้องร้ายและฉะกับเมียหลวงตลอดทั้งเรื่อง แต่นุสบาก็พลิกตัวเองให้ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม จนผู้จัดละครทั้งหลายยื่นละครให้เล่นไม่ขาดมือตลอดมา
ปี พ.ศ. 2556
สเต็ป - สเตฟานี่ แลร์ช
บทบาท : นิกกี้ จากละคร “ลูกไม้หลากสี“
โดดมารับงานนอกสังกัดโพลีพลัสเป็นครั้งแรก “สเต็ป สเตฟานี่“ เลยถือโอกาสเล่นร้ายสักครั้งในชีวิต ในละครรีเมค ลูกไม้หลากสี จากค่ายพอดีคำ กับบท 'นิกกี้' เด็กสาวผู้ไม่รับภรรยาใหม่คนใดของพ่อเธอเลยตลอดชีวิต เมื่อพ่อของเธอยืนยันที่จะนำภรรยาใหม่เข้ามา เธอจึงต่อต้านด้วยการทำลายสุดฤทธิ์ ชนิดที่ว่า 'ร้ายขนาดนี้ตบสักทียังไม่คุ้ม' และในบทบาทนี้เองทำให้สเต็ปได้รับการผลักดัน และมีผลงานกับช่อง 7 สีอย่างต่อเนื่อง
ป๊อก - ปิยธิดา วรมุสิก (มิตรธีรโรจน์)
บทบาท : คุณหญิงมณี จากละคร “ไฟหวน“
ถือเป็นนักแสดงฝีมือระดับแนวหน้าของเมืองไทย “ป๊อก ปิยธิดา“ เล่นละครมานาน แต่บทบาท คุณหญิงมณี ในละครพีเรียดเข้มข้น 'ไฟหวน' ได้ชื่ิอเป็นการรับบทร้ายเต็มตัวเรื่องแรก ด้วยความเชื่ิอและศรัทธาในคำทำนายเป็นที่สุด คุณหญิงมณีจึงต้องทำทุกวิถีทางให้อนาคตไม่เป็นตามคำทัก ป๊อกสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรัก ความเกลียดชัง และความหึงหวงได้สุดความสามารถ จนมีผู้อยากให้เธอได้รับรางวัลหลายเวทีกันเลยทีเดียว
แตงโม - ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์
บทบาท : เหม่ยอิง จากละคร “วันนี้ที่รอคอย“
ละครหลังข่าวเรื่องสุดท้ายในฐานะนักแสดงสังกัดช่อง 7 สี ของ แตงโม ทั้งที เป็นการพลิกบทบาทอีกครั้งในบทร้าย หลังจากที่เคยวาดฝีมือไว้ใน'กาษานาคา' การจะกลับมาเล่นร้ายทั้งทีบทบาทต้องท้าทายความสามารถอย่างมาก กับตัวละคร 'เหม่ยอิง' สตรีเชื้อสายฮ่องกงที่มีไหวพริบเป็นเลิศ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการจะต้องช่วงชิงมาจนสำเร็จ และแตงโมเองก็ถ่ายทอดบทร้ายได้อย่างไม่ผิดหวัง ปิดท้ายละครกับต้นสังกัดได้อย่างอลังการ
ปี พ.ศ. 2557
เปรี้ยว - ทัศนียา การสมนุช
บทบาท : เปีย (จรรยา) จากละคร “คมพยาบาท“
จากละครที่เคยโด่งดังในอดีต ถูกนำกลับมาถ่ายทอดทางหน้าจอทีวีอีกครั้ง “เปรี้ยว ทัศนียา“ ขอชิมลางนางร้ายเต็มตัวเป็นครั้งแรก กับบท 'เปีย' เด็กสาวที่มีจิตใจโหดเหี้ยม มีแต่ความอิจฉาริษยาต่อคนรอบตัว ซึ่งเปรี้ยวสามารถถ่ายทอดตัวละครเปียในแบบฉบับของตนได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำความเป็นนักแสดงรุ่นใหม่มากความสามารถให้เธอได้เต็มขั้น
จั๊กจั่น - อคัมย์สิริ สุวรรณศุข
บทบาท : รสสุคนธ์ จากละคร “สุสานคนเป็น“
เป็นนางเอกหน้าสวยอีกคนที่เพิ่งต่อสัญญากับช่อง 7 สี ไปเมื่อปีก่อน ก็ได้รับโอกาสรับบท 'รสสุคนธ์' ในละครรีเมคฟอร์มยักษ์เรื่อง 'สุสานคนเป็น' ผู้มักใหญ่ใฝ่สูงและเต็มไปด้วยความมัวเมาในกิเลส และด้วยความสามารถและทุ่มเทของจั๊กจั่นเอง ทำให้ถ่ายทอดบทรสสุคนธ์ออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ ลบคำปรามาสนานับประการได้อย่างไม่มีข้อกังขา นอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัลการันตีบทบาทจากหลายๆเวทีอีกด้วย
แพนเค้ก - เขมนิจ จามิกรณ์
บทบาท : ตรีอัปสร พัชรกานต์กุล จากละคร “ปีกมงกุฏ“
อีกหนึ่งนางเอกมากประสบการณ์ของช่อง 7 สี “แพนเค้ก เขมนิจ“ ที่ได้โอกาสจากผู้จัดละครสุดแซบ 'ต้อ มารุต' มอบบทบาทที่พิสูจน์ฝีมือในบทร้ายครั้งแรกในชีวิต “ตรีอัปสร“ ผู้เก็บความแค้นในอดีตมาเป็นแรงผลักดัน ก่อเกิดเป็นความทะเยอทะยานในจิตใจ เปรียบดั่งไฟเผาให้เวทีนางสาว ณ สยาม ต้องลุกเป็นไฟ แพนเค้กสลัดคราบนางเอกในลุคส์คุณหนูได้แบบจัดเต็ม บทบาทร้ายลึกในครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม กระแส “ตรีอัปสร“ มาพร้อมการเจิดจรัสต่อไปได้อย่างงดงาม