“เล่ห์ร้ายเกมลวง” ละครที่ควรพีค แต่กลับพลาดโอกาสสำคัญ
หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตารอการออกอากาศของละคร “เล่ห์ร้ายเกมลวง” ซึ่งมีนักแสดงนำอย่าง
เปรี้ยว ทัศนียา และ ฐิสา วริฏฐิสา มาถ่ายทอดความดราม่าสุดเข้มข้น แต่เมื่อเดินเรื่องมาถึงตอนที่ 8 กลับพบว่าความคาดหวังนั้นไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร โดยเฉพาะในแง่ของบทละคร การพัฒนาตัวละคร และการดำเนินเรื่อง ที่ดูเหมือนจะขาดจุดพีคสำคัญและเสน่ห์อะไรสักอย่างที่ทำให้คนดูอยากติดตาม
บทนางเอก-นางร้าย ขาดพลัง
หนึ่งในจุดที่น่าผิดหวังคือ การเชือดเฉือนของสองตัวละครหญิงนำเรื่อง ที่ควรเป็นไฮไลต์ของละครแนวนี้ แต่กลับถูกนำเสนออย่างเบาบางจนน่าเสียดาย ตัวนางเอกถูกวางบทให้อ่อนแอในด้านสังคมเกินไป เหมือนเป็นพวกไม่ทันคน บางครั้งก็ดูเหมือนจะร้าย แต่ละครก็เหมือนตีความให้นางเอกอยู่ในอุดมคติมากเกินไป รู้ว่าใครเป็นศัตรู แต่ก็คิดอะไรไม่ได้สักอย่าง ส่วนมากจะพึ่งให้ชมพู่ เด็กเสริฟ์ร้านกาแฟที่บทจะเด่นอยู่ มีคนปองรองลอบฆ่าหลายครั้ง รู้ว่าสามีตัวเองมีชู้ แต่กว่าจะตามทัน ก็กลับเจออีกฝ่ายก้าวนำไปก่อน รู้สึกตัวนางเอกขาดความเฉลียวฉลาดหรือจุดยืนที่น่าสนใจ ส่วนนางร้ายที่ควรจะโดดเด่น กลับดูเหมือน “ร้ายไม่สุด” ไม่มีความลุ่มลึกหรือแรงจูงใจที่ชัดเจน ปมเกี่ยวกับการแท้งลูกและเรื่องเป็นรองนางเอก มันนานจนเกินไป 10 กว่าปี นางร้ายยังไม่ทำอะไรสักอย่าง ทำอยู่อย่างเดียว คือ ไปเป็นเมียน้อยของสามีนางเอก และหวังจะหุบสมบัติ โดยทำให้นางเอกหย่า ไม่ได้ร้ายแบบโกรธแค้นมากเกินไป หลายฉากยังนิ่ง ๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นบทร้ายนำเท่าที่คิด ทำให้ทั้งสองตัวละครดูจืดชืดไปพร้อมๆกัน
ตัวละครชายที่ไร้มิติ
บทบาทของตัวละครชายก็ไม่สามารถสร้างพลังดึงดูดได้อย่างที่ควรจะเป็น ตัวสามีของนางเอก ถูกปูให้ดูเหมือนจะน่ากลัวหรือมีความลึกลับบางอย่าง แต่พอถึงเวลาจริงกลับไม่มีน้ำหนักพอให้คนดูรู้สึกสะพรึง เหมือนเป็นแค่ผู้ชายกระจอก ๆ คนนึงที่เกาะผุ้หญิง ขณะที่ พระเอก ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้นที่พี่สาวตัวเองโดนสามีนางเอกหักอกเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนจะจมอยู่กับความอาฆาตโดยไม่มีมิติอื่นๆ หรือทำให้คนดูอยากเอาใจช่วยเลย
บทที่กระจัดกระจายและขาดจุดพีค
ถึงแม้พล็อตของละครจะดูน่าสนใจ เป็นโอกาสใหญ่ของฐิสาและเปรี้ยวมาประชันกัน แต่การเดินเรื่องกลับขาดจังหวะที่เข้มข้น ปมที่ควรจะพีคกลับถูกเล่าอย่างราบเรียบ หรือไม่ก็ปล่อยผ่านไปแบบไม่มีผลกระทบที่ทำให้คนดูรู้สึกอิน ตัวละครทุกตัวเหมือนกำลังวนเวียนอยู่ในวังวนของปัญหา แต่ไม่มีใครพัฒนาหรือมีเป้าหมายที่ชัดเจนพอ
“เล่ห์ร้ายเกมลวง” ควรจะต้องดึงคนดูให้อยู่หมัด แต่กลับกลายเป็นละครที่ไม่สุดในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาตัวละคร ปมเรื่อง และการนำเสนออารมณ์ของตัวละครที่ควรจะชัดเจนกว่านี้ ละครเรื่องนี้อาจจะมีโอกาสในการพลิกสถานการณ์ได้หากมีการปรับจังหวะการเล่าเรื่อง และเติมเสน่ห์ให้ตัวละครเด่นชัดขึ้น แต่นั่นอาจต้องขึ้นอยู่กับตอนต่อไป ว่าจะสามารถดึงคนดูให้กลับมาสนใจได้อีกหรือไม่
ท้ายที่สุดแล้ว “เล่ห์ร้ายเกมลวง” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของละครที่มีศักยภาพในพล็อตและนักแสดง แต่กลับไม่สามารถทำให้ถึงฝั่งฝันได้อย่างที่ควรจะเป็น
รีวิว 'เล่ห์ร้ายเกมลวง' เดินมาทั้งหมด 8 EP. ละครที่ควรพีค แต่กลับพลาดโอกาสสำคัญ
บทนางเอก-นางร้าย ขาดพลัง
หนึ่งในจุดที่น่าผิดหวังคือ การเชือดเฉือนของสองตัวละครหญิงนำเรื่อง ที่ควรเป็นไฮไลต์ของละครแนวนี้ แต่กลับถูกนำเสนออย่างเบาบางจนน่าเสียดาย ตัวนางเอกถูกวางบทให้อ่อนแอในด้านสังคมเกินไป เหมือนเป็นพวกไม่ทันคน บางครั้งก็ดูเหมือนจะร้าย แต่ละครก็เหมือนตีความให้นางเอกอยู่ในอุดมคติมากเกินไป รู้ว่าใครเป็นศัตรู แต่ก็คิดอะไรไม่ได้สักอย่าง ส่วนมากจะพึ่งให้ชมพู่ เด็กเสริฟ์ร้านกาแฟที่บทจะเด่นอยู่ มีคนปองรองลอบฆ่าหลายครั้ง รู้ว่าสามีตัวเองมีชู้ แต่กว่าจะตามทัน ก็กลับเจออีกฝ่ายก้าวนำไปก่อน รู้สึกตัวนางเอกขาดความเฉลียวฉลาดหรือจุดยืนที่น่าสนใจ ส่วนนางร้ายที่ควรจะโดดเด่น กลับดูเหมือน “ร้ายไม่สุด” ไม่มีความลุ่มลึกหรือแรงจูงใจที่ชัดเจน ปมเกี่ยวกับการแท้งลูกและเรื่องเป็นรองนางเอก มันนานจนเกินไป 10 กว่าปี นางร้ายยังไม่ทำอะไรสักอย่าง ทำอยู่อย่างเดียว คือ ไปเป็นเมียน้อยของสามีนางเอก และหวังจะหุบสมบัติ โดยทำให้นางเอกหย่า ไม่ได้ร้ายแบบโกรธแค้นมากเกินไป หลายฉากยังนิ่ง ๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นบทร้ายนำเท่าที่คิด ทำให้ทั้งสองตัวละครดูจืดชืดไปพร้อมๆกัน
ตัวละครชายที่ไร้มิติ
บทบาทของตัวละครชายก็ไม่สามารถสร้างพลังดึงดูดได้อย่างที่ควรจะเป็น ตัวสามีของนางเอก ถูกปูให้ดูเหมือนจะน่ากลัวหรือมีความลึกลับบางอย่าง แต่พอถึงเวลาจริงกลับไม่มีน้ำหนักพอให้คนดูรู้สึกสะพรึง เหมือนเป็นแค่ผู้ชายกระจอก ๆ คนนึงที่เกาะผุ้หญิง ขณะที่ พระเอก ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้นที่พี่สาวตัวเองโดนสามีนางเอกหักอกเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนจะจมอยู่กับความอาฆาตโดยไม่มีมิติอื่นๆ หรือทำให้คนดูอยากเอาใจช่วยเลย
บทที่กระจัดกระจายและขาดจุดพีค
ถึงแม้พล็อตของละครจะดูน่าสนใจ เป็นโอกาสใหญ่ของฐิสาและเปรี้ยวมาประชันกัน แต่การเดินเรื่องกลับขาดจังหวะที่เข้มข้น ปมที่ควรจะพีคกลับถูกเล่าอย่างราบเรียบ หรือไม่ก็ปล่อยผ่านไปแบบไม่มีผลกระทบที่ทำให้คนดูรู้สึกอิน ตัวละครทุกตัวเหมือนกำลังวนเวียนอยู่ในวังวนของปัญหา แต่ไม่มีใครพัฒนาหรือมีเป้าหมายที่ชัดเจนพอ
“เล่ห์ร้ายเกมลวง” ควรจะต้องดึงคนดูให้อยู่หมัด แต่กลับกลายเป็นละครที่ไม่สุดในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาตัวละคร ปมเรื่อง และการนำเสนออารมณ์ของตัวละครที่ควรจะชัดเจนกว่านี้ ละครเรื่องนี้อาจจะมีโอกาสในการพลิกสถานการณ์ได้หากมีการปรับจังหวะการเล่าเรื่อง และเติมเสน่ห์ให้ตัวละครเด่นชัดขึ้น แต่นั่นอาจต้องขึ้นอยู่กับตอนต่อไป ว่าจะสามารถดึงคนดูให้กลับมาสนใจได้อีกหรือไม่
ท้ายที่สุดแล้ว “เล่ห์ร้ายเกมลวง” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของละครที่มีศักยภาพในพล็อตและนักแสดง แต่กลับไม่สามารถทำให้ถึงฝั่งฝันได้อย่างที่ควรจะเป็น