เมื่อเคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อตีนผีของสิงห์ดวลความเร็วบนท้องถนน คุณเบียน ศรีสุข แม่ผู้เคราะห์ร้ายเล่าให้ฟังว่า “ดิฉันมีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตอายุ 14 ปี คนกลางอายุ 11 ปี ส่วนคนเล็กคือเด็กที่เคราะห์ร้ายลูกชายคนสุดท้องอายุ 7 ปี ชื่อน้องภูตะวัน วันที่เกิดเหตุแม่กำลังไปเข้าห้องน้ำที่โรงพยาบาลวันนั้นพาน้องภูตะวันไปหาหมอ เลยฝากลูกคนโตกับคนกลางให้ดูแลน้องและรอคุณหมอ ระหว่างนั้นน้องร้องเพราะหิว ลูกสองคนจะชอบเอานมกล่องใส่กระเป๋าแล้วเอามาให้น้องกิน ก่อนเกิดเหตุเมื่อดิฉันเสร็จธุระทุกอย่างแล้วจะพากันกลับบ้านต้องมาข้ามถนนสี่แยกเด็กสองคนข้ามถนนไปแล้ว ในขณะที่ดิฉันกับน้องภูตะวันกำลังจะข้ามถนนจู่ๆ มีรถกะบะคันนึงวิ่งมาอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงมาชนที่น้องภูตะวันเข้าอย่างจัง ร่างน้องภูตะวันปลิวไกลมากเกือบ 10 เมตร ในมือกำลังถือนมกล่องอยู่ นมแตกกระจายหมด สภาพน้องตอนแรกที่เห็นคือกะโหลกมีรอยร้าวเป็นรอยแยก คู่กรณีช่วยแค่ข้าแพมเพิร์สช่วงแรกๆ เท่านั้น ตอนนี้น้องเป็นเจ้าชายนิทรา ติดเชื้อในปิด ต้องเจาะคอเพื่อหายใจทางคอ เดินท่อระบายน้ำมาสู่ท้อง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตลอดเวลา รายได้ครอบครัวมีต่อเดือนตกเดือนละ
3,000 บาท กินกันวันละ 350 บาท ทั้งหมด 6 ชีวิต ส่วนตัวเองป่วยเป็นโรคไตอักเสบมาเกือบ 9 ปีแล้ว ทุกวันนี้ดิฉันยังเก็บกะโหลกแห้งๆ ของน้องภูตะวันไว้อยู่ คุณเบียน ฝากทิ้งท้ายว่า “อยากวอนขอผู้ใจบุญช่วยเหลือน้องภูตะวันและครอบครัวด้วยคะ อยากให้น้องกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้มากที่สุด และอยากฝากถึงคนที่ใช้รถใช้ถนน ภัยเกิดขึ้นได้เสมอ ระมัดระวังตัวเองและลูกหลานให้ดีที่สุดคะ”