คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ภาษาคือแบบแผนและจารีต
แต่ละคำก็มีรากศัพท์ที่สะท้อนความหมายที่ต่างกันจึงเขียนต่างกัน
ไม่ใช่แค่ภาษาไทย ภาษาอื่นก็เหมือนกัน
เช่น " C " กับ " Z " ก็ออกเสียงคล้ายกัน
หรือแม้แต่ภาษาอังกฤษบางคำก็เขียนอะไรไม่รู้ยาวๆ แต่อ่านออกเสียงสั้นจิ๊ดนิด
และไม่ใช่แค่ภาษาไทย แต่ในภาษาอื่นๆ ก็มี "ระดับ" ของภาษา
หรือ "ลูกเล่น" ของภาษา เพื่อความบันเทิง สุนทรียะ
หากอยากจะสื่อสารได้ถูกต้อง ก็ต้องศึกษา "แบบแผน" นั้นๆ
แต่ถ้าสงสัยใคร่รู้ ลงลึกถึงระดับ "ทำไม" ก็ต้องใช้เวลาเพื่อศึกษาลงลึกเช่นกัน
แล้วจะพบเหตุผล แต่ก็ต้องถามว่า การศึกษาในระดับเช่นว่านั้น "จำเป็น" สำหรับตัวเองหรือไม่
พิมพ์ไปก็ให้คิดถึง คุณชายคึกฤทธิ์ อย่างจับใจ
ไม่รู้คนสมัยนี้จะเคยได้ยิน บทสนทนานี้จาก "สี่แผ่นดิน" หรือไม่
"...เสด็จ ให้มาทูลถามเสด็จ ว่าเสด็จ จะเสด็จ หรือไม่เสด็จ ถ้าเสด็จจะเสด็จ เสด็จจะเสด็จด้วย.."
ยุคนี้คงไม่มีวรรณกรรมหรือกวีนิพนธ์ที่งามด้วยการใช้ภาษาเช่นนั้นอีกแล้ว
ก็ดีนะ จะได้ไม่เปลืองเงินซื้อหนังสือเก็บ เต็มบ้านแล้วง่ะ
แต่ละคำก็มีรากศัพท์ที่สะท้อนความหมายที่ต่างกันจึงเขียนต่างกัน
ไม่ใช่แค่ภาษาไทย ภาษาอื่นก็เหมือนกัน
เช่น " C " กับ " Z " ก็ออกเสียงคล้ายกัน
หรือแม้แต่ภาษาอังกฤษบางคำก็เขียนอะไรไม่รู้ยาวๆ แต่อ่านออกเสียงสั้นจิ๊ดนิด
และไม่ใช่แค่ภาษาไทย แต่ในภาษาอื่นๆ ก็มี "ระดับ" ของภาษา
หรือ "ลูกเล่น" ของภาษา เพื่อความบันเทิง สุนทรียะ
หากอยากจะสื่อสารได้ถูกต้อง ก็ต้องศึกษา "แบบแผน" นั้นๆ
แต่ถ้าสงสัยใคร่รู้ ลงลึกถึงระดับ "ทำไม" ก็ต้องใช้เวลาเพื่อศึกษาลงลึกเช่นกัน
แล้วจะพบเหตุผล แต่ก็ต้องถามว่า การศึกษาในระดับเช่นว่านั้น "จำเป็น" สำหรับตัวเองหรือไม่
พิมพ์ไปก็ให้คิดถึง คุณชายคึกฤทธิ์ อย่างจับใจ
ไม่รู้คนสมัยนี้จะเคยได้ยิน บทสนทนานี้จาก "สี่แผ่นดิน" หรือไม่
"...เสด็จ ให้มาทูลถามเสด็จ ว่าเสด็จ จะเสด็จ หรือไม่เสด็จ ถ้าเสด็จจะเสด็จ เสด็จจะเสด็จด้วย.."
ยุคนี้คงไม่มีวรรณกรรมหรือกวีนิพนธ์ที่งามด้วยการใช้ภาษาเช่นนั้นอีกแล้ว
ก็ดีนะ จะได้ไม่เปลืองเงินซื้อหนังสือเก็บ เต็มบ้านแล้วง่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
คำที่มีตัวสะกดแปลก ๆ แบบนี้ ส่วนมากเป็นคำที่ไทยรับมาจากภาษาบาลีสันสกฤต ซึ่งภาษาไทยพยายามคงรูปเดิมเอาไว้ เพื่อให้ทราบที่มาว่าคำเดิมมาจากไหน
อาจจะดูว่ายาก แต่จะบอกว่า ถ้าเขียนแบบง่าย ก็ไม่แน่ว่าจะง่ายขึ้น เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ คำพ้องรูปพ้องเสียงจะเยอะขึ้นพอสมควรเลย ซึ่งอาจจะทำให้คนอ่านต้องเดาเพิ่มอีกว่าคนเขียนต้องการจะสื่อถึงคำไหนกันแน่
อาจจะดูว่ายาก แต่จะบอกว่า ถ้าเขียนแบบง่าย ก็ไม่แน่ว่าจะง่ายขึ้น เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ คำพ้องรูปพ้องเสียงจะเยอะขึ้นพอสมควรเลย ซึ่งอาจจะทำให้คนอ่านต้องเดาเพิ่มอีกว่าคนเขียนต้องการจะสื่อถึงคำไหนกันแน่
ความคิดเห็นที่ 13
จอมพลแปลกก็เคยเปลี่ยนนี่ แต่ไปไม่ไหว คนไม่ยอมรับกัน
ทำไมต้องยาก เพราะภาษาไทยส่วนมากเป็นคำยืม พอยืมมาก็ต้องคงรูปไว้เพื่อรักษาความหมาย
ยล ยนต์ ยน อ่านว่ายนเหมือนกัน แต่ความหมายไม่เหมือนกัน
จะเอาง่ายแต่ตื้นเขิน หรือปล่อยให้มันสะท้อนรากของภาษาออกมา
จริงๆภาษาตอนนี้ก็กร่อนจนง่ายขึ้นตั้งเยอะแล้ว ง่ายกว่านี้ก็คงเป็นภาษาสก๊อยล่ะ
คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เยอะๆ
ทำไมต้องยาก เพราะภาษาไทยส่วนมากเป็นคำยืม พอยืมมาก็ต้องคงรูปไว้เพื่อรักษาความหมาย
ยล ยนต์ ยน อ่านว่ายนเหมือนกัน แต่ความหมายไม่เหมือนกัน
จะเอาง่ายแต่ตื้นเขิน หรือปล่อยให้มันสะท้อนรากของภาษาออกมา
จริงๆภาษาตอนนี้ก็กร่อนจนง่ายขึ้นตั้งเยอะแล้ว ง่ายกว่านี้ก็คงเป็นภาษาสก๊อยล่ะ
คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เยอะๆ
ความคิดเห็นที่ 27
ภาษาไทยยากจริงๆค่ะ ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนไทย พูดภาษาไทยมาแต่เกิด
นอกจากที่จขกท.ยกตัวอย่างมาแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างค่ะ ที่ยาก เช่น พวกคำลักษณะนาม เอาจริงๆแล้วมีมากกว่า 300 คำ นะคะ
คิดดูว่าคนต่างชาติเรียนภาษาไทยต้องจำอะไรตั้งมากมาย เช่น คนใช้กับคน รูปใช้กับพระ ตนใช้กับยักษ์ องค์ใช้กับเทพ ตัวใช้กับสัตว์ ฯลฯ
แล้วก็พวกคำสร้อยต่างๆที่ไม่มีคำแปลในภาษาอังกฤษเช่น อะไรนะ อะไรวะ ไรยะ เอาสิ ตอบซิ กินเลย ไปดิ นอนเถอะ หิวอ่ะ เมริงเอ้ย ถามจริงเหอะ ฯลฯ
ถ้าภาษาเขียนก็มีพวกคำเป็น คำตาย และไตรยางค์ หรือ อักษรสามหมู่ รวมถึง กฎการผันวรรณยุกต์ที่เด็กไทยไม่
ต้องลำบากจำ แต่คนต่างชาติเรียนภาษาไทยต้องจำทุกอย่างให้แม่น คือมันยากและซับซ้อนมากค่ะ
ลองดูในคลิปนี้ มีฝรั่งบอกว่า ภาษาไทย เป็นภาษาเขียนที่ซับซ้อนที่สุดในโลก
นอกจากที่จขกท.ยกตัวอย่างมาแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างค่ะ ที่ยาก เช่น พวกคำลักษณะนาม เอาจริงๆแล้วมีมากกว่า 300 คำ นะคะ
คิดดูว่าคนต่างชาติเรียนภาษาไทยต้องจำอะไรตั้งมากมาย เช่น คนใช้กับคน รูปใช้กับพระ ตนใช้กับยักษ์ องค์ใช้กับเทพ ตัวใช้กับสัตว์ ฯลฯ
แล้วก็พวกคำสร้อยต่างๆที่ไม่มีคำแปลในภาษาอังกฤษเช่น อะไรนะ อะไรวะ ไรยะ เอาสิ ตอบซิ กินเลย ไปดิ นอนเถอะ หิวอ่ะ เมริงเอ้ย ถามจริงเหอะ ฯลฯ
ถ้าภาษาเขียนก็มีพวกคำเป็น คำตาย และไตรยางค์ หรือ อักษรสามหมู่ รวมถึง กฎการผันวรรณยุกต์ที่เด็กไทยไม่
ต้องลำบากจำ แต่คนต่างชาติเรียนภาษาไทยต้องจำทุกอย่างให้แม่น คือมันยากและซับซ้อนมากค่ะ
ลองดูในคลิปนี้ มีฝรั่งบอกว่า ภาษาไทย เป็นภาษาเขียนที่ซับซ้อนที่สุดในโลก
แสดงความคิดเห็น
ทำไมภาษาไทย บางคำถึงทำให้ยากครับ / ในอนาคตภาษาไทยจะเปลี่ยนให้ง่ายกว่าเดิมไหมครับ <ขอถามแบบโง่ๆ เลยนะครับ>
ขอออกตัวก่อนนะครับ อย่าว่าผมขวางโลกเลยนะครับ ผมแค่รู้สึกไม่เข้าใจเฉยๆ ครับ
คือผมกำลังรู้สึกว่าภาษาไทยทำไมต้องทำให้ยาก และซับซ้อนด้วยหนะครับ
ที่มาของความรู้สึกนี้ก็เพิ่งมีได้ไม่นานครับ เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าภาษาไทยมันยากเลยครับ
ความรู้สึกที่รู้สึกว่า ภาษาไทยยาก ของผมเพิ่งเริ่มมีในสมัยพิมพ์ดีด รวมไปถึงยุคที่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันครับ เพราะต้องมีการพิมพ์ภาษาไทยผ่านคีย์บอร์ด รู้สึกเสียเวลาเมื่อต้องกด shift เพื่อที่จะพิมพ์ตัวหนังสือหรือพยัญชนะที่ต้องการ (นี่ยังดีนะที่ผมพิมพ์ระบบสัมผัส) สำหรับผมประโยคสั้นๆ ไม่เท่าไหร่ครับ แต่ถ้าเป็นประโยคยาวๆ หรือการที่ต้องพิมพ์เป็น 1000 หน้า ทำให้ผมรู้สึกชัดเจนมากครับ
และมาในยุคปัจจุบันที่มือถือเข้ามามีบทบาท ยิ่งทำให้รู้สึกว่าภาษาไทยนั้นยากเข้าไปกว่าเดิมอีก เพราะมือถือต้องใช้จิ้มเอา
ณ ตอนนี้ผมสงสัย ว่าพยัญชนะ ทำไมถึงมีจำนวนเยอะเกินจำเป็น ทำไมไม่ตัดออกบ้าง หรือเปลี่ยนให้ง่ายกว่าเดิม เช่น
- เสียง "สอ" มีทั้ง ส, ศ, ษ ซึ่ง ศ และ ษ ต้องกด shift (มีแค่ ส ตัวเดียวง่ายกว่า)
- ตัวการันต์มีทำไม เช่น พิมพ์ (ยาก) ---> พิม (ง่าย) , ประดิษฐ์ (ยาก) ---> ประดิด (ง่าย), รถยนต์ (ยาก) ---> รถยน (ง่าย)
- ก็ (ยาก) ---> ก่ (ง่าย)
- ภาษาไทย (ยาก) ---> ภาสาไท (ง่าย)
ฯลฯ
ทำไมบางคำที่ใช้บ่อยต้องเป็นคำยาว
ผมอยากให้ภาษาไทยมันสั้นๆ ง่ายๆ มากกว่าครับ
ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ ว่า
- ทำไมภาษาไทย บางคำถึงทำให้ยากครับ
- ในอนาคตภาษาไทยจะเปลี่ยนให้ง่ายกว่าเดิมไหมครับ
คือ ผมไม่ได้มองว่าเป็นการทำให้ภาษาวิบัตินะครับ เพราะผมมองว่า มนุษย์เป็นคนสร้างกฎของภาษาไทยขึ้นมาเพื่อบอกว่า ใช้แบบนี้ถูก และ ใช้แบบนี้ผิดมาตั้งแต่ต้น ทำไมเราไม่เปลี่ยนกฎของภาษาไทยให้มันง่ายขึ้น