จากมติชนออนไลน์

วันที่ 28 กันยายน 2557 นายหัสนัย แก้วกุล ประธานสภาหอการค้าจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า แนวคิดเรื่องการผลักดันให้ อ.ภูซาง จ.พะเยา เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ นับว่าเป็นแนวคิดที่ดีที่จะช่วยส่งเสริมและผลักดันเขตเศรษฐกิจชายแดน แต่ความเป็นไปได้ตนยังมองไม่เห็นทาง เนื่องจากด้วยบริบทของอ.ภูซาง เป็นพื้นที่แห่งอารยธรรมชาติพันธุ์ของประชาชนที่มีความหลากหลาย เช่น ไทลื้อ ไทพื้นเมือง ไทภูเขาชาวม้ง ฯลฯ ที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนเองที่งดงาม ซึ่งทำให้ภูซางเหมาะสมเป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ที่มีความสงบเงียบ ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างมีความสุข แตกต่างจากเมืองใหญ่ที่มีสิ่งก่อสร้างมากมายและผู้คนต้องแข่งขันกับเวลาที่ถูกกระตุ้นด้วยวิถีเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งยอมรับภูซางเหมาะสมเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมอันร่มเย็น พร้อมเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและธรรมชาติที่จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวในประเทศลุ่มน้ำโขง

ปธ.หอการค้า ฯ กล่าวต่อว่า การที่จะผลักดันให้ภูซางเป็นเมืองเศรษฐกิจและเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนนั้น จึงมีความเป็นไปได้ยาก เพราะต้องมีการกำหนดพื้นที่เขตอุตสาหกรรม การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน มีคณะทำงานที่ผลักดันอย่างเต็มที่ทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ซึ่งเมื่อเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้ว คนภูซาง จะมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป อาจจะไม่อยู่อย่างสงบเงียบดังเช่นทุกวันนี้ ดังนั้นหากจะมีนโยบายผลักดันหรือส่งเสริมให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจริง จะต้องทำการศึกษาทั้งระบบ ประชาชนจะต้องมีข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเท่าทัน ขณะนี้ด่านบ้านฮวกก็ยังไม่ได้ดำเนินการมีความพร้อมสำหรับการเป็นด่านถาวรอย่างเต็มตัว

"ดังนั้นในเวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการผลักดันด่านบ้านฮวกให้เป็นด่านถาวรอย่างเต็มศักยภาพ มีการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมเรื่องโครงสร้างพื้นฐานมารองรับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องควบคู่กัน หากกการเข้า-ออก ด่านบ้านฮวกสะดวกแล้ว จะสามารถรองรับประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปี 2558 นี้ด้วย ซึ่งเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองภูซาง ต้องศึกษากันให้รอบคอบก่อน" นายหัสนัย กล่าว