มันเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ในที่สุด คนที่คิดดี ทำดี ทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ย่อมต้องมีคนเห็นและยกย่องเชิดชู พร้อมนำความคิดดีๆนั้นไปเป็นแนวทางปฏิบัติ เพื่อประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ..ทองแท้ไม่แพ้ไฟ
30 บาทรักษาทุกโรค เป็นนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศใช้เมื่อเริ่มเข้ามาเป็นรัฐบาล โดยได้แนวคิดมาจากหมอชนบทท่านหนึ่ง คือนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ จากวันนั้นถึงวันนี้ ทำให้คนไทยจำนวนหลายล้านคน เข้าถึงการรักษาพยาบาล..ชนิดไม่เคยมีมาก่อน
ในทางตรงกันข้าม การที่รัฐบาลทักษิณ เดินหน้าโครงการนี้ ทำให้แพทย์บางกลุ่มสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล จึงเป็นเหตุให้ตัวพ.ต.ท.ทักษิณเองได้รับความชิงชังรังเกียจจากกลุ่มผลประโยชน์ดังกล่าว จนสุดท้าย กลับกลายไปร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม หาทางทำลายล้างในทางการเมืองอย่างชั่วช้า ..กลายเป็นเกมการเมือง !
ในความคิดของคนมีการศึกษา แต่ขาดการพัฒนาทางจิต มุ่งแต่ผลทางการเมือง มักจะคิดว่า “เมื่อพูดถึง 30 บาทรักษาทุกโรค คนจะคิดถึงแต่นายกฯทักษิณ หากทำลายโครงการนี้ได้ ภาพของทักษิณก็จะถูกลบเลือนจากความทรงจำของประชาชนไปด้วย”..ช่างเลวร้ายแท้ๆ
ล่าสุด เมื่อเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจของ คสช. นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณะสุข ได้ชงเรื่องนี้ไปยัง คสช. หวังอาศัยอำนาจ คสช.สั่งยกเลิกโครงการ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากแพทย์ ร.พ.ศิริราช อุดม คชินทร แต่ปรากฏว่าถูกกระแสต่อต้านจากทั่วสาระทิศ จึงทำให้ต้องเลิกล้มความคิดไป..รอดหวุดหวิด
ย้อนไปเมื่อปี 2556 องค์การอนามัยโลก(WHO) ยกย่องโครงการนี้ ให้เป็นต้นแบบของการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชากรผู้ขาดโอกาส จึงสนับสนุนและรณรงค์ให้ทุกประเทศในโลกหันมาใช้นโยบายนี้..เพราะมันได้ผล
วันนี้ ที่ทำให้ต้องพูดเรื่องนี้อีก เพราะมีการประชุมสหประชาชาติเกิดขึ้น และกระทรวงการต่างประเทศของไทยแถลงว่า จะนำเรื่อง นโยบาย 30 บาท เป็นวาระสำคัญที่จะนำไปแถลงในที่ประชุม พูดถึงความสำเร็จของโครงการนี้ แต่เป้าหมายก็คือเพื่อจะกลบเกลื่อนบางอย่าง..ชาวบ้านรู้ !
แน่นอนว่านับตั้งแต่วันที่ 22 พค.เป็นต้นมา ประเทศไทยตกต่ำในสายตาชาวโลก ถูกนานาชาติจับตามอง และถูกคาดโทษจะเล่นงานในด้านต่างๆ ที่สำคัญคือทางด้านเศรษฐกิจอันเป็นหัวใจของประเทศ จึงทำให้กระทรวงการต่างประเทศ จำเป็นต้อง “หยิบยกเอาสิ่งที่ดีที่สุด ที่เรามีอยู่และเขากำลังสนใจ ออกมาพูดกับชาวโลก เพื่อให้เขาลืมที่จะถามในบางสิ่ง”..ชั่วขณะ
30 บาทรักษาทุกโรค ที่ผ่านมา ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ประชานิยม”เพื่อหาเสียงของนักการเมือง แต่วันนี้กลายเป็นหัวใจสำคัญของประเทศไปแล้ว และกำลังจะยกฐานะกลายเป็นหัวใจสำคัญของโลกในอนาคตอันไม่ไกล ด้วยคุณค่าในตัวมันเอง จาก “ประชานิยม” กำลังจะเข้าสู่โหมด “โลกนิยม” ..ในไม่ช้า
เพราะโครงการนี้เอง ประเทศไทยกำลังจะได้รับการกล่าวขานในทางที่ดีไปอีกนานแสนนาน ขอบคุณนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ เจ้าของแนวคิด ขอบคุณรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ..เจ้าของนโยบาย !!!
...30 บาทรักษาทุกโรค จากประชานิยม สู่ “โลกนิยม”...
30 บาทรักษาทุกโรค เป็นนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศใช้เมื่อเริ่มเข้ามาเป็นรัฐบาล โดยได้แนวคิดมาจากหมอชนบทท่านหนึ่ง คือนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ จากวันนั้นถึงวันนี้ ทำให้คนไทยจำนวนหลายล้านคน เข้าถึงการรักษาพยาบาล..ชนิดไม่เคยมีมาก่อน
ในทางตรงกันข้าม การที่รัฐบาลทักษิณ เดินหน้าโครงการนี้ ทำให้แพทย์บางกลุ่มสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล จึงเป็นเหตุให้ตัวพ.ต.ท.ทักษิณเองได้รับความชิงชังรังเกียจจากกลุ่มผลประโยชน์ดังกล่าว จนสุดท้าย กลับกลายไปร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม หาทางทำลายล้างในทางการเมืองอย่างชั่วช้า ..กลายเป็นเกมการเมือง !
ในความคิดของคนมีการศึกษา แต่ขาดการพัฒนาทางจิต มุ่งแต่ผลทางการเมือง มักจะคิดว่า “เมื่อพูดถึง 30 บาทรักษาทุกโรค คนจะคิดถึงแต่นายกฯทักษิณ หากทำลายโครงการนี้ได้ ภาพของทักษิณก็จะถูกลบเลือนจากความทรงจำของประชาชนไปด้วย”..ช่างเลวร้ายแท้ๆ
ล่าสุด เมื่อเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจของ คสช. นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณะสุข ได้ชงเรื่องนี้ไปยัง คสช. หวังอาศัยอำนาจ คสช.สั่งยกเลิกโครงการ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากแพทย์ ร.พ.ศิริราช อุดม คชินทร แต่ปรากฏว่าถูกกระแสต่อต้านจากทั่วสาระทิศ จึงทำให้ต้องเลิกล้มความคิดไป..รอดหวุดหวิด
ย้อนไปเมื่อปี 2556 องค์การอนามัยโลก(WHO) ยกย่องโครงการนี้ ให้เป็นต้นแบบของการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชากรผู้ขาดโอกาส จึงสนับสนุนและรณรงค์ให้ทุกประเทศในโลกหันมาใช้นโยบายนี้..เพราะมันได้ผล
วันนี้ ที่ทำให้ต้องพูดเรื่องนี้อีก เพราะมีการประชุมสหประชาชาติเกิดขึ้น และกระทรวงการต่างประเทศของไทยแถลงว่า จะนำเรื่อง นโยบาย 30 บาท เป็นวาระสำคัญที่จะนำไปแถลงในที่ประชุม พูดถึงความสำเร็จของโครงการนี้ แต่เป้าหมายก็คือเพื่อจะกลบเกลื่อนบางอย่าง..ชาวบ้านรู้ !
แน่นอนว่านับตั้งแต่วันที่ 22 พค.เป็นต้นมา ประเทศไทยตกต่ำในสายตาชาวโลก ถูกนานาชาติจับตามอง และถูกคาดโทษจะเล่นงานในด้านต่างๆ ที่สำคัญคือทางด้านเศรษฐกิจอันเป็นหัวใจของประเทศ จึงทำให้กระทรวงการต่างประเทศ จำเป็นต้อง “หยิบยกเอาสิ่งที่ดีที่สุด ที่เรามีอยู่และเขากำลังสนใจ ออกมาพูดกับชาวโลก เพื่อให้เขาลืมที่จะถามในบางสิ่ง”..ชั่วขณะ
30 บาทรักษาทุกโรค ที่ผ่านมา ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ประชานิยม”เพื่อหาเสียงของนักการเมือง แต่วันนี้กลายเป็นหัวใจสำคัญของประเทศไปแล้ว และกำลังจะยกฐานะกลายเป็นหัวใจสำคัญของโลกในอนาคตอันไม่ไกล ด้วยคุณค่าในตัวมันเอง จาก “ประชานิยม” กำลังจะเข้าสู่โหมด “โลกนิยม” ..ในไม่ช้า
เพราะโครงการนี้เอง ประเทศไทยกำลังจะได้รับการกล่าวขานในทางที่ดีไปอีกนานแสนนาน ขอบคุณนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ เจ้าของแนวคิด ขอบคุณรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ..เจ้าของนโยบาย !!!