พิภพจอมนาง (ตุ๊ดทะลุมิติ) ตอนที่ ๒ สัตว์พันปี : บทที่ ๓ ท่านหญิงฮุ่ยเสียน

กระทู้สนทนา
ตอนที่ผ่านมา

บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/32585189
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/32602706

สัตว์พันปี : บทที่ ๓ ท่านหญิงฮุ่ยเสียน

องค์ชายห้าเฝ้ามองเหตุการณ์ที่มีคนรุกล้ำเข้ามาในเขตพลับพลาที่ประทับจากระยะไกล จากจุดนี้หากไม่สายตาดีจริงคงยากที่จะมองเห็นใบหน้าของผู้บุกรุกตลอดจนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ชัด กระนั้นองค์ชายเหวินหรงก็ยังสู้อุตส่าห์เห็นสีหน้าของกุ้ยฮวา

ขณะนี้ดวงหน้าของนางไม่มีรอยยิ้มแต่งแต้มแต่ก็ไม่บึ้งตึง ดวงตาเป็นประกายมีชีวิตชีวาดี ไม่บ่งบอกว่าป่วยหรือกำลังเสียขวัญ ทางด้านลี่จูเองก็ดูสดใสอย่างที่เคยเป็น แสดงว่าสภาพจิตใจของพวกนางไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่คิด

องค์ชายห้าคลายความเป็นห่วงลงแต่สมองก็ยังไม่หยุดครุ่นคิด นับจากวันที่เกิดเรื่องพลัดหลงออกนอกเส้นทางจนบัดนี้ก็สี่วันแล้ว ฮ่องเต้ก็ยังไม่มีรับสั่งให้องค์หญิงลี่จูกับกุ้ยฮวากลับไปยังที่พักของฝ่ายใน ทรงเก็บธิดาและหลานสาวเอาไว้ข้างพระวรกาย ราวกับหวั่นเกรงว่าจะเกิดเรื่องร้าย เมื่อลองวิเคราะห์ร่วมกันกับพระอุปนิสัยของเสด็จพ่อ องค์ชายห้าก็เดาได้ว่าขณะหลงป่ามีเหตุร้ายที่ทำให้ทรงวิตก

องค์ชายเหวินหรงไม่คิดจะสืบหาความจริง เขาคิดว่าความลับที่พระบิดาปิดบังเอาไว้เป็นสิ่งที่ไม่สมควรไปแตะต้อง ชายหนุ่มไม่ใส่ใจหรอกว่าภยันอันตรายที่อยู่เบื้องหน้าคืออะไร ตระหนักแค่ว่าตนเองจะต้องปกป้องเสด็จพ่อและกุ้ยฮวาด้วยชีวิต

ในขณะที่องค์ชายห้ากำลังลอบสังเกตกุ้ยฮวา ตัวเขาเองก็ถูกจับตามองโดยคนอื่น สตรีโฉมงามในชุดนางกำนัลชั้นสูงยิ้มกว้างเมื่อเห็นแผ่นหลังคนที่ตามหา แต่เมื่อมองตามสายตาสายหนุ่มไป แล้วเห็นว่าเขาจับจ้องสิ่งใด ใบหน้าของนางก็เจื่อนลง

หญิงสาวปรับอารมณ์อยู่อึดใจใหญ่ ก่อนจะตรงเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส

“เหวินหรง ข้ามารับเจ้าไปเฝ้าฮองเฮา”

องค์ชายห้าเอี้ยวตัวมามองคนเรียก แล้วใช้สายตาเป็นเชิงถามว่าเสด็จแม่มีธุระอะไร

“ฮองเฮาไม่ได้มีรับสั่งให้ตาม แค่ทรงถามหาน่ะ ข้าเลยมาดูเผื่อว่าเจ้าจะว่าง”

“ข้าต้องจัดการงานก่อน เสร็จแล้วจะตามไป”

องค์ชายห้ารับหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย แม้องค์ชายรองจะช่วยคุมตัวผู้บุกรุกไปแล้ว เขาก็ต้องออกคำสั่งให้จับตาดูผู้บุกรุก

“อีกนานไหม”

“ไม่แน่ใจ”

“ข้าจะรอจนกว่าจะเบื่อก็แล้วกัน”

ทั้งสองต่างก็พูดจาอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากเป็นทั้งญาติและเพื่อนสนิท นางกำนัลชั้นสูงคนนี้มีนามว่า ไท่สู ฮุ่ยเสียน บิดาของนางมีศักดิ์เป็นพระปิตุลาของฮ่องเต้ นับเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงไม่กี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ ทั้งยังสารคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมากมาย ฮ่องเต้จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นมหาอำมาตย์

ก่อนได้รับการแต่งตั้งอ๋องไท่สูดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองเริ่นเจิน เมืองนี้อยู่ทิศใต้ของเมืองหลวงและถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญมาก ปกติมักจะให้รัชทายาทไปดูแล แต่ขณะนั้นองค์รัชทายาทยังเด็กนัก ฮ่องเต้จึงมีพระบัญชาให้บุตรชายคนโตของอ๋องไท่สูขึ้นดำรงตำแหน่งแทน การกระทำในครั้งนี้ถือว่าเป็นการให้เกียรติตระกูลไท่สูเป็นอย่างมาก อ๋องไท่สูกับพระชายาจึงเดินทางมายังเมืองหลวงอย่างสบายใจ โดยไม่มีความคิดว่าฮ่องเต้แคลงใจในความภักดีหรือถูกยึดอำนาจ

ฮุ่ยเสียนซึ่งขณะนั้นอายุสี่ปีได้ติดตามบิดามารดามาด้วย ฮองเฮาเห็นนางแล้วก็เอ็นดู จึงรับตัวมาอยู่ในวังด้วยในฐานะนางกำนัลรุ่นเล็ก มีหน้าที่เป็นเพื่อนเล่นให้กับองค์หญิงเหวินหง ทว่าองค์หญิงเหวินหงชอบเล่นอย่างผู้ชายมากกว่า ตรงข้ามกับองค์ชายเหวินหรงที่เป็นคนเงียบๆ เก็บตัว ฮุ่ยเสียนจึงมาสนิทกับองค์ชายแทน

“คนติดตามเจ้าไปไหน” องค์ชายห้าถามเมื่อเห็นว่านางมาลำพัง

ธรรมเนียมปฏิบัติระบุชัดว่าสตรีสูงศักดิ์ไม่ควรจะออกไปไหนมาไหนตามลำพัง อย่างน้อยก็ควรจะมีผู้ติดตามหนึ่งคน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและเป็นการรักษาเกียรติแห่งตน เผื่อเอาไว้ในกรณีมีเหตุต้องสนทนากับบุรุษจะได้ไม่ถูกครหา สุ่ยเสียนเป็นคนระมัดระวังตัวทั้งยังวางตัวดีมาตลอด องค์ชายห้าจึงเห็นเป็นเรื่องแปลกที่นางหลงลืมกฎพื้นฐาน

“ฝ่ายในมีงานยุ่ง ข้าเลยให้พวกนางอยู่ช่วย”

การตามเสด็จในครั้งนี้มิได้มีคนมากมายเหมือนอย่างอยู่ในวัง ข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่สะดวกมือ เหล่านางกำนัลจึงต้องเหนื่อยกว่าปกติ เพื่อถวายการรับใช้ให้ดีที่สุด

“ข้าจะไปส่ง” องค์ชายห้าเอ่ยอย่างเข้าใจสถานการณ์

“แล้วงานเจ้าเล่า”

องค์ชายห้าไม่ตอบคำถาม เขาผายมือให้กับท่านหญิงคนงามเป็นเชิงบอกให้นางยอมกลับให้ไปส่งแต่โดยดี พฤติกรรมอย่างนี้คือความดื้อเงียบและเผด็จการขององค์ชายเหวินหรง แต่ถึงจะถูกบังคับฮุ่ยเสียนก็มิได้ขัดเคืองใจ ซ้ำยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกลั้นยิ้ม

องค์ชายเหวินหรงยอมทิ้งงานก็เพราะเห็นว่านางสำคัญกว่า รู้อย่างนี้แล้วฮุ่ยเสียนจะเคืองเขาได้อย่างไรกัน นางหวังเอาไว้แต่แรกแล้วว่าองค์ชายต้องมาส่ง จึงจงใจไม่พาผู้ติดตามมา

สุ่ยเสียนพยายามเดินให้ช้าเพื่อที่จะได้อยู่กับองค์ชายห้าให้นานที่สุด ส่วนอีกฝ่ายนั้นถึงไม่รู้เจตนาก็ยังสู้อุตส่าห์เดินช้าลงตาม โดยไม่คิดที่จะเร่งนางเลย ทั้งที่ระยะทางจากที่ประทับของฮ่องเต้มายังที่พักของฝ่ายในค่อนข้างไกล มัวโอ้เอ้อยู่อย่างนี้เมื่อไรจะถึงก็ไม่รู้

นอกจากจะไม่รำคาญแล้วชายหนุ่มยังเป็นห่วงเสียอีกว่าฮุ่ยเสียนจะเหนื่อย ถึงเขาจะไม่ถามแต่ก็คอยสังเกตการของนางตลอด ถ้าเริ่มคุยแล้วหอบเขาก็จะหยุดฝีเท้าเพื่อให้ได้พัก เขาห่วงใยนางแต่กลับไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเพื่อนคนนี้

‘ช่างเป็นคนอ่อนโยนที่โง่เขลาเสียจริง’


แว่นเป็นกังวลที่ไป๋อวี้ถูกองค์ชายรองคุมตัวไป ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอฟังข่าว หน่อมเห็นเพื่อนร้อนใจจึงปลอบว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง องค์ชายรองเป็นพี่ชายที่น่าเคารพไม่เคยทำอะไรเกินกว่าเหตุ แว่นอยากจะบอกว่าเนื้อแท้ของผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไรก็พูดไม่ออก ตัวเขาได้ยินก็แต่เรื่องร้ายๆ ขององค์ชายรองผ่านกุ้ยอี้ กระนั้นก็ไม่เคยเจอกับตัวสักหน อีกทั้งองค์หญิงลี่จูกับองค์ชายรองก็เป็นพี่น้องกัน ไม่มีน้องคนไหนอยากฟังพี่ชายถูกว่าร้ายหรอก

ทางด้านพี่สาวแท้ๆ อย่างโบ้ไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับเรื่องนี้เท่าไร ส่วนหยางเจี้ยนซึ่งจำเป็นต้องอยู่ต่ออย่างเลี่ยงไม่ได้ก็ดูไม่เป็นกังวล ชายหนุ่มแสดงออกว่าเป็นห่วงไป๋หลินมากกว่าไป๋อวี้หลายเท่า

ทั้งสองยังสบายใจได้เพราะรู้จักไป๋อวี้เป็นอย่างดี ไป๋อวี้หรือที่ไป๋หลินเรียกติดปากว่า ‘หยกน้อย’ เป็นพวกขี้เกียจและขี้ขลาด เวลาถูกฝึกหนักก็มักจะหนีไปซ่อนเสมอ แต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้งไป ท่านพ่อเป็นคนเข้มงวดเลยลงโทษด้วยการโบยบ้าง สั่งขังบ้าง ไม่ก็ให้อดอาหารเป็นเวลาหลายวัน แทนที่จะเข็ดหลาบไป๋อวี้กลับหัดแก้มัดให้ตัวเอง คิดค้นวิธีสะเดาะกุญแจ ทำไปทำมาเลยกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะมัดแน่นหนาแค่ไหนหรือใช้กุญแจชนิดใดก็ขังไป๋อวี้เอาไว้ไม่ได้นาน

ท่านพ่อเห็นว่าวิธีเดิมๆ ไม่ได้ผลจึงเพิ่มการสกัดจุดเข้าไปด้วย แต่ไป๋อวี้ก็หาวิธีคลายจุดให้ตัวเองได้ทุกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยเรียนศาสตร์ด้านนี้เลย เรียกว่าที่เอาตัวรอดมาได้เพราะพรสวรรค์ล้วนๆ ท่านพ่อเห็นอย่างนี้ก็เลยยิ่งเคี่ยวเข็ญหนัก ไป๋อวี้แกล้งทำเป็นตั้งใจเรียน โดยเริ่มจากการลบจิต พรางตัวและสะกดรอยก่อน พอเก่งในระดับหนึ่งแล้วเจ้าตัวแสบก็หนีออกนอกหุบเขาหิมะไปเที่ยวข้างนอกทันที ไม่ยอมทนลำบากฝึกวิชาต่อ

โบ้จำได้ดีทีเดียวว่าตอนนั้นท่านพ่อโกรธมาก พอน้องชายกลับมาก็ซัดฝ่ามือใส่จนสลบ แล้วโยนเข้าไปในถ้ำที่ใช้ฝึกวิชา ถ้ำนี้มีค่ายกลซ่อนอยู่มากมาย ทั้งยังมีเส้นทางลึกลับซับซ้อน ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ยากที่จะฝ่าออกมา ยิ่งทางออกถูกปิดด้วยแล้วก็เท่ากับถูกขังลืม

โบ้กับท่านแม่ต้องอ้อนวอนท่านพ่ออยู่นานกว่าท่านจะใจอ่อนยอมปล่อยตัวไป๋อวี้ออกมา ทว่าพอเปิดประตูกลออกไป๋อวี้กลับไม่อยู่ในนั้นแล้ว น้องชายตัวดีแหกค่ายกลหนีไปตั้งแต่คืนแรกที่โดนจับขัง แถมยังเขียนข้อความเย้ยเสียอีกว่าค่ายกลแค่นี้ขังหยกน้อยไม่ได้หรอก ท่านพ่อหมดปัญญาจะจัดการจึงปล่อยให้ใช้ชีวิตตามใจตั้งแต่บัดนั้น เป็นเหตุให้วรยุทธด้านการต่อสู้ของไป๋อวี้เลยไม่เอาไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องหนีต่อให้เป็นคุกหลวงก็แหกได้

“เจ้าไม่ต้องห่วงน้องชายข้าหรอก เห็นอย่างนี้แต่ฝีมือพอตัวนะ” โบ้บอกกับแว่น

ถึงจะดูซื่อบื้ออยู่บ้างแต่โบ้ก็ยังจับอารมณ์ของเพื่อนผ่านสีหน้าได้

“ข้าสังหรณ์ใจไม่ดีเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม” แว่นตอบ

ขณะนี้หยางเจี้ยนอยู่ในวงสนทนาด้วยก็เลยต้องพูดภาษาเจียงเฉียงกัน บอกตามตรงว่าไม่ถนัดปากเท่าไร ถึงอย่างนั้นก็ต้องฝึกเอาไว้ให้ชิน ผู้คนจะได้ไม่สงสัยและจะได้ไม่ต้องอธิบายที่มาที่ไปของภาษาไทยที่ไม่มีใครรู้จัก

“รอสักพักเถอะนะ พี่รองพูดเองว่าแค่คุมตัวไปสอบสวนตามกฏเท่านั้น ถ้าเรื่องไม่คืบหน้า ค่อยขอให้พี่หกช่วยก็ได้” หน่อมเสนอทางออก

“ไม่ได้!” หยางเจี้ยนเผลอหลุดปากออกมา ทุกคนเลยหันมาจ้องเป็นตาเดียว

“ขออภัยพะยะค่ะ ข้าพระองค์หมายถึงว่าไม่อยากรบกวนองค์หญิงไปมากกว่านี้แล้ว ไป๋อวี้ผิดที่แอบตามเข้ามาในเขตที่ประทับ ก็สมควรจะถูกลงโทษ อย่าให้องค์หญิงกับท่านหญิงต้องเดือดร้อนไปด้วยเลย”

ชายหนุ่มอ้างอย่างมีเหตุผล ทั้งที่ความจริงมองว่าองค์ชายหกเป็นตัวอันตราย อุปนิสัยขององค์ชายองค์นี้ดีเยี่ยม มีน้ำใจไม่ถือตัวทั้งยังสง่างาม ไป๋หลินจึงแสดงออกว่าหลงใหลได้ปลื้มไม่น้อย ถ้าองค์ชายออกหน้าช่วยก็จะยิ่งสร้างความประทับใจให้นาง

“อย่าเกรงใจไปเลย พวกท่านมีบุญคุณกับเรา ตอบแทนแค่นี้ถือว่าเล็กน้อย จริงไหมกุ้ยฮวา”

“ถูกขององค์หญิง ท่านจอมยุทธ์อย่างได้เกรงใจ” แว่นนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงพูดต่อ “ถ้าตกเย็นแล้วองค์ชายรองยังไม่ปล่อยตัวกุ้ยอี้ ค่อยไปขอให้องค์รัชทายาทช่วยก็แล้วกัน”

ที่เปลี่ยนตัวคนช่วยเพราะเห็นว่าองค์ชายหกอาจจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมองค์ชายรอง ส่วนองค์ชายสามนั้นเป็นประเภทกวนประสาท ต้องได้แกล้งก่อนถึงจะยอมขยับตัวทำอะไร สู้ขอร้ององค์รัชทายาทไปเลยง่ายกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่