อยากเรียนกีต้าร์ให้เก่งและเป็นเร็ว "ต้องเปิดโรงแรมที่มีห้องแอร์เย็น ๆ เงียบ ๆ แล้วกระดกเบียร์เยอะ ๆ " มันใช่เหรอออ !!!!!

ต้องบอกว่า จขกท เป็นคนที่ชอบฟังเพลงและร้องเพลงมาก ๆ มีความคิดว่าอยากจะเรียนกีต้าร์มานานแล้ว และเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอยู่เฉย ๆ เพราะมันเบื่อ ก็จะชอบออกไปหาอะไรทำ เรียนภาษาอังกฤษ เรียนว่ายน้ำบ้าง แล้วแต่จะมีเวลา แต่พอหลัง ๆ มา เลิกงานแล้ว เรียนภาษาเสร็จแล้ว มันก็ยังว่างอยู่ ก็เลยมีความคิดว่า เอออ ... " เรียนกีต้าร์ดีกว่า" น่าสนุก
จากนั้นก็เลยจัดแจงหาที่เรียน ก็โทรไปตามโรงเรียนสอนดนตรี ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 15,0000 ต่อเดือน ก็ตกลงปลงใจว่าจะเรียน

จากนั้น ...
เรามีพี่ที่ทำงานเดียวกัน ก็รู้จักกัน พี่แกก็เล่นกีต้าร์เก่งมากกกก ประมาณว่า อยากร้องเพลงอะไร พี่แกเล่นได้หมด แล้วเราก็มีโอกาศได้ร้องเพลงด้วยกันบ่อย ๆ ตามงานต่าง ๆ เป็นบางครั้ง ก็รู้จักกันดีในระดับหนึ่ง

วันนึง เราเดินไปเบิกชุด uniform ที่ทำงาน ก็เจอพี่แกก็ทักทายกันปกติ เราก็เล่าว่า เออ .. กำลังจะไปเรียนกีต้าร์ พี่แกก็อาสาสอนให้ แต่เราปฎิเสธเพราะว่าเราเกรงใจทั้งตัวพี่แกแล้วก็แฟนพี่เขาด้วย แต่พี่เขาก็ (จะเป็นแนว ๆ แบบ พูดห้าว ๆ ห้วน ติสๆ)
" เฮ้ยย มาเหอะ เดี๋ยวพี่สอนให้ ไม่ต้องเกรงใจ พี่ชอบคนตั้งใจชอบเรียนรู้"
เราก็บอกว่า เกรงใจ ไม่เป็นไรหรอก แล้วพี่แกก็บอกว่า " โอ้ยย พี่อ่ะสอนหลายคน มีลูกศิษย์เยอะ แฟนพี่เขาไม่ว่าหรอก"

ส่วนเราก็หวานหมูเลยดิ .. ไม่ต้องจ่าย 15,0000 ด้วย แถมพี่คนนี้เราก็รู้จักกัน น่าจะสอนสบาย ๆ ง่าย ๆ นะ แล้วประจวบเหมาะกับที่ว่า แฟนพี่ผู้ชายเขาอนุญาติ เขาไม่ได้คิดอะไรเราก็เลย ตกลง

หลังจากนั้น ...
พี่เขาก็ขอไลน์ เราก็ให้ไป เอาไว้นัดเวลาเรียน ส่วนมากที่คุยก็เรื่องดนตรี ต้องเริ่มตรงไหน อะไรยังไง เราก็คุยกันแต่เรื่องดนตรีล้วน ๆ แล้วพี่แกก็จัดการหาที่เรียน แกบอกว่า มันเป็นสวนสาธารณแห่งหนึ่ง เงียบดี เวลาเรียนจะได้มีสมาธิ เราก็โอเค

เรา " มันอยู่ตรงไหนล่ะพี่ เดี๋ยวจะนั่งวินมอเตอร์ไซต์ไป"
พี่แก " เอออ มันไกล เดี๋ยวพี่ไปรับ พี่เลิกงานเอารถยนต์มาพอดี"
เรา " เดี๋ยวไปเองดีกว่าพี่ เกรงใจ เดี๋ยวแฟนพี่ด่าด้วย"
พี่แก " แฟนรู้แล้ว ไปได้ ไม่เป็นไร"

เราก็โอเค ตกลง ก็ไปกัน ... พี่แกก็พาขับรถไปไกลมากกกกกก ไปเจอเป็นสวนสาธารณะ เป็นอ่างเก็บน้ำ อากาศดี สวยมาก

การเรียนวันแรก ....
พี่แกก็สอนเรื่องพื้นฐานทั่วไป การจับคอร์ด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ในใจเราก็คิด " เออ .. พี่แกก็สอนดีนะ ใจเย็น (เพราะเราโง่มาก เข้าใจอะไรยาก)  แถมให้กีต้าร์เรา 1 ตัวกลับมาซ้อมที่บ้านอีกด้วย (ดีเลย ไม่ต้องซื้อ 55)

แต่พักหลัง ๆ บางอย่างมันก็แปลกไป ....
ปกติคุยไลน์กันก็จะคุยแต่เรื่องเรียนใช่มั้ย แต่พักหลัง ๆ มาแกเริ่มคุยอะไรไม่เข้าท่า เช่น
" ทำอะไรอยู่ .. นอนหรือยัง .. ทำงานเหนื่อยไหมคะ "
สมมติเราบอกว่า " อ่อ เรียนอยู่พี่ " แกก็จะส่งมาว่า " ตั้งใจเรียนนะคะ ลูกศิษย์คนดีของครู " (อ่านแล้วแบบ มันยังไงไม่รู้อ่ะ) อมยิ้ม33

หลัง ๆ มาไม่คุยเรื่องดนตรีเราก็ไม่ค่อยอ่าน ไม่ค่อยตอบ พีแ่กก็ส่งมาไม่หยุดแบบว่า
" ทำไรอยู่ เงียบเลยนะ ทำไมไม่ตอบไลน์พี่ บลาๆๆๆๆๆ มาเป็นชุด
(เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ละ แต่พยายามคิดว่าคงไม่มีอะไร ไม่อยากคิดหลงตัวเองเพราะก็ใช่จะสวย)
เราเลยตัดบทโกหกไปว่า " อ่อ .. อยู่กับแฟนอ่ะพี่ แฟนมาหา นู่นนี่นั่น (จริง ๆ ไม่ได้ทำไรอ่ะ นั่งเก็บขี้กระต่าย ..เหม็นมากกกกก)กระต่าย
พี่แกเลยตอบมาว่า " อ่อ โอเค ไม่มีไรหรอก แค่จะถามว่าจะไปเรียนอีกทีตอนไหน "
แล้วหลัง ๆ มาแกก็กลับมาคุยแบบ ห้าว ๆ ติส ๆ เหมือนเดิม เราก็เริ่มสบายใจขึ้น ก็เลยไปเรียนกับพี่แกต่อ

วันนั้นแหละ ... !!!
เหมือนเดิม พี่แกมารับตอน 9 โมงเช้า ก็ขับรถไปเรื่อย ๆ แล้วแกก็ถามคำถามขึ้นมาว่า

" ด้าชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ ? (เราชื่อดาด้าพี่แกเลยเรียกด้า)
เราก็บอกว่า " อืมม ก็ทั่วไปอ่ะพี่ "
แล้วก็ถามต่อ " ปกติด้ากินเหล้ากินเบียร์ป่ะ ? "
เราก็บอกว่า " ก็ตามโอกาศอ่ะพี่ ปกติไม่จำเป็นก็ไม่กิน " ( คือเราอ่ะ เป็นคนเที่ยวนะ เป็นประเภท party girl อันนี้กล้าพูดเลย ว๊อดก้า เตอกิล่านี่ของโปรด ยืนได้ทั้งคืน เต็มที่ก็เดินเซ ๆ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะบอกใครก็เลยมีแต่คนที่เที่ยวด้วยกัน เพื่อน ๆ ผู้หญิงจะรู้ แต่ถ้าปกติก็ไม่กินนะ เช่นว่า นั่งดูทีวีแล้วนึกครึ้ม ๆ อยากกินแล้วเดินไปเซเว่นไปซื้อมากินมันก็ไม่ใช่ไง ก็เลยตอบว่า กินตามโอกาศ ไม่จำเป็นไม่กิน)

แต่พี่แกเหมือนจะเข้าใจว่า " เราเป็นคนไม่กินเหล้ากินเบียร์ กินนิด ๆ หน่อย จิบนิด ๆ ตอนเข้าสังคม อะไรทำนองนั้น "
พี่แกก็พูดขึ้นมาเลยว่า " ด้าต้องหัดกินเยอะ ๆ นะ ยิ่งวันนี้เราจะไปเรียนดนตรีก็ต้องกิน มันจะได้มีฟีล เรียนอะไรก็จำง่าย ๆ "
นึกในใจ มันใช่เหรอวะ เพี้ยนทุบคอม
และ 9 โมงเช้าเนี่ยนะ !! เราก็ไม่อยากกินดิ เราก็เลยบอกว่า " ไม่เอาอ่ะพี่ ไม่อยากกิน กินเช้า ๆ เดี๋ยวไมเกรนขึ้นด้วย ไม่ดีกว่า "
พี่แกก็ไม่ยอมนะ บอกว่าต้องกิน ๆๆๆ แล้วจอดรถ ซื้อเบียร์มาเยอะแยะ มีไวน์มีนั่นมีนี่ เยอะ !! แล้วเปิดให้เราด้วยนะ ยื่นให้บอกว่า กินเดี๋ยวนี้ๆๆๆ

อ่ะ ... คุณขอมาเราจัดให้ ก็กินไปเรื่อย ๆ จนหมดขวด ก็ปกติ พี่แกถามอีกละ

" ด้าชอบผู้ชายเจ้าชู้ป่ะ ? "
เราก็บอกว่า " ไม่อ่ะพี่ "
ถามต่ออีก " ด้าชอบผู้ชายขี้เมาป่ะ ? "
เลยตอบไปว่า " โค ตะ ระ เกลียด "
พี่แกก็เงียบไปพักนึง แล้วเกริ่นขึ้นมาว่า ...
" ด้า พี่ว่าวันนี้แดดมันร้อนอ่ะ ไปหาที่เย็น ๆ เรียนดีกว่าป่ะ แบบ ห้องแอร์อะไรประมาณนี้ "
เราก็ตอบว่า " โอ้ยยย ด้าชอบร้อน ๆ พี่ ลมเย็น ๆ ที่เดิมมันก็โอเคนะ ไปที่เดิมแหละ "
พอพูดจบรู้ป่ะ พี่แกทำไง ... เลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรม !!!!!!  แล้วทำพูดหน้าตาเฉยว่า
" เดี๋ยวเราไปเปิดห้องเรียนในนั้นดีกว่าเนอะ ห้องแอร์เย็น ๆ จิบเบียร์ เรียนไปด้วย ด้าจะได้เป็นเร็ว ๆ "
เราก็แบบ ..... เต่าเอือม ไหวป่ะ มุกนี้ คิดนานป่ะ

เราเลยพูดออกไปเสียงแข็ง ๆ ว่า
" ไม่ดีม้างงง ด้าว่ามันไม่โอเคอ่ะ มันไม่ใช่ละ ไปที่อื่นดีกว่าป่ะ หรือจะกลับบ้านก็ดีนะ "
พี่แกก็ตอบว่า " แน่ใจหรอ ? "
เราก็เงียบ ส่วนพี่แกก็รู้ว่าเราไม่พอใจก็เลยขับพาไปที่เดิม ทำชวนคุยแบบเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น แล้วก็สอนดนตรีเราปกติ

แต่เผลอแปปเดียว.. มันเอาอีกละ !!!!
เราถามว่า คอร์ดนี้จับนิ้วไหน เวลาดีด ทำยังไง จังหวะยังไง

พี่แกก็ " เห้ยย พี่อธิบายไม่ถูกอ่ะ ต้องสอนเอง " แล้วแกก็เดินมาโอบด้านหลัง จับมือ จับบ่า หน้าพี่แกนี่แทบจะมาแนบหน้าเรา แบบ โอ้ยย มันคืออัลไล !!
แล้วระหว่างเรียนก็เปิดเบียร์ให้กินอยู่นั่น เอาเส่ ... ให้กินก็กิน

แล้วก็พูดขึ้นมาอีกว่า
" วันนี้ด้ามีเรียนรึปล่าว ช่วงเย็น ?"
เราก็บอกว่า " ไม่มีอ่ะพี่ "
" ถ้าอย่างงั้น เราก็อยู่ด้วยกันได้ทั้งวันเลยล่ะสิ "
เราเลยพูดไปว่า " อ่อ.. แฟนรอกินข้าวตอนเที่ยงอ่ะพี่ "
พี่แกต่อเลย " ทำไมต้องรอกินพร้อมกันล่ะ .. นึกว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันสะอีก "
เราเลยบอกว่า " ก็อยู่ด้วยกันแหละพี่ " เราก็โม้ไป

พอเที่ยงกว่าเราก็ชวนกลับ พี่แกก็โอเค

และระหว่างขับรถไปส่ง ก็พูดอีก !!!!!
" ด้าคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์ที่ตรงไหน ? "
เราก็บอกว่า " อ่อ น่าจะมีอยู่ที่บ้านนะพี่ เพราะพ่อด้าชื่อเสน่ห์ " (พยายามจะนอกเรื่อง)
พี่แกก็ยังคงไม่ละความพยายาม พูดต่ออีก " พี่คิดว่าดวงตาของด้ามีเสน่ห์"
เราก็ทำขำแล้วบอกว่า " อ่อ ตาด้าดุพี่ เอาไว้จิกแฟนเวลามันกลับดึก "
พี่แกก็ยังไม่หยุดนะ ก็พูดต่อว่า " ภายใต้ความดุพี่คิดว่ามันยังมีความหวานซ่อนอยู่นะ "
ณ จุด ๆ นั้นบอกเลยว่าอ้วกแทบพุ่ง เม่าในกองไฟ
เราก็พยายามเปลี่ยนเรื่องแล้วเปิดเพลงฟัง (นึกในใจ เมื่อไหร่ตรูจะถึงบ้านนนน)

พี่แกก็ยังคงมุมานะถามต่อไป
" แฟนเป็นคนที่ไหน หล่อไหม อายุเท่าไหร่ เจ้าชู้ไหม เที่ยวเก่งเหรอ อยู่ด้วยกันเหรอ  นู่น นี่ นั่น ถามไม่หยุด "

เราก็เลยตัดบทด้วยการร้องเพลงตามซีดีสะเลย เป็นเพลง lost star เราก็ร้องตามเพราะเราขี้เกียจตอบคำถามพี่แกละ
พอเราร้องไปเรื่อย ๆ พี่แกพูดอีก

" พี่ชอบเวลาดาร้องเพลงมาก ๆ เลย "  
เราก็เลยเปลี่ยนจากร้องเพลงไปอ่านป้ายประกาศข้างทาง จำได้ว่าเป็นป้ายงานประชาสัมพันธ์ วิ่งควายชลบุรี เราก็พูดไปเรื่อยประมาณว่า
เออ มันงานอะไร ไม่เคยเห็นเลย ก็พยายามเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย จนในที่สุด

" ก็ถึงบ้านแล้ววววว !!!!!!!!! "  รีบโบกมือลาอย่างด่วน

พอขึ้นไปบนห้อง นั่งไม่ถึง 10 นาที พี่แกส่งไลน์มาเลย
" พี่ขอเฟสบุคด้าหน่อยสิ " เราก็แกล้งไม่อ่าน ไม่ตอบ
ส่งมาอีก " พี่พาน้องหมาไปตัดขนมาด้วยแหละ ดูสิ ส่งรูปภาพมา 10 กว่ารูป
เราก็ไม่ตอบ ก็ส่งมาอีก " วันนี้พี่ดวงไม่ดีเลย โดนหมากัดด้วย "
ส่งรูปอาหารมาบอกว่า " อยากให้มากินด้วยกัน อยากให้มาอยู่ด้วยกัน"
และอื่น ๆ อีกมากมาย
เราก็ไม่ตอบ

แล้วเมื่อวานที่โรงแรมมีกิจกรรม เราต้องขึ้นไปเป็นพิธีกร เราไม่กล้ามองลงไปล่างเวทีเลย เพราะมองลงไปแล้วจะเจอรังสีอัมหิต
สายตาพี่แกแบบ มันไม่ใช่อ่ะ มันทำให้เราไม่สบายใจ

เราไม่อยากคิดไปเองนะ ก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้หน้าตาดีเด่อะไรที่จะแบบ คนมาเข้าใกล้แล้วตกหลุมรัก แต่การกระทำพี่แกมันก็ไม่ใช่อ่ะ
ปรึกษาพี่สาวกับพี่ ๆ ที่แผนกก็แนะนำว่า " เลิกเรียนเถอะน้องงง " Facepalm

เราคิดว่าเราจะบอกพี่แกว่า เรายุ่ง คงไม่ว่างเรียนอีกต่อไปแล้ว แล้วเอากีต้าร์ไปคืนแกสะ
นี่ถ้าแฟนพี่แกรู้ว่าแกมาทำแบบนี้นะ ไม่อยากจะคิด ดีไม่ดีเดี๋ยวหาว่าเราไปให้ท่าเขาอีกเพี้ยนทุบคอม

โทษทีนะคะ ยาวหน่อย ไม่ไหวจริง ๆ มันอัดอั้น
ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่