สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 43
ต้นตอของปัญหาระบบการศึกษาของประเทศด้อยพัฒนานี้มันมาจากรากเหง้าระบบศักดินาครับ เพราะเราให้ความสำคัญกับคนมีความรู้(ไม่ได้ดูที่รากเหง้าว่ารู้ก็เพราะลอกองค์ความรู้จากชาติตะวันตกมาทั้งนั้น) ว่าเป็นคนมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เรียนสูงในสมัยก่อนจะได้เป็นเจ้าคนนายคน(พวกที่ได้เรียนสูงๆสมัยก่อนก็คือลูกหลานพระยาทั้งหลาย) ความคิดนั้นถูกปลูกฝังกันมานมนานเพราะเราไม่ได้ให้ค่ากับความสามารถหรือ Skill กาลเวลาผ่านพ้นมาจนวันนี้ระบบคิดเราก็ยังดักดานอยู่กับค่าของวุฒิการศึกษา ตีค่ามันสูงส่งเกินไปจนไม่เคยให้ค่าและราคากับ skill ของคนๆนั้นซึ่งตรงข้ามกับชาติพัฒนาแล้วทั้งหลาย ระบบการศึกษาเราและสภาพสังคมเราไม่ได้มุ่งเน้นให้คนเก่งเฉพาะด้าน(Specialist)เหมือนดั่งชาติพัฒนาแล้วหลายๆประเทศ เรียนกันแบบเป็ดง่อยรู้นั่นนิดนี่หน่อย ผนวกกับระบบเศรษฐกิจที่อ่อนด้อยทางเทคโนโลยีทำให้เราเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตสินค้าเทคโนโลยีต่างๆซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เราต้องดึงดูดประเทศเจ้าของเทคโนโลยีทั้งหลายให้มาตั้งแหล่งผลิตที่นี่ด้วย..แรงจูงใจจากแรงงานราคาถูกๆ จบป.ตรีเราถึงได้เงินเดือนกันน้อยและไม่เป็นธรรมไง ส่วนประดาชนชั้นนำเค้าไม่เดือดร้อนหรอก ก็เก็บภาษีกินกันไปจากแรงงานราคาถูกๆนี่ล่ะ พวกตระกูลใหญ่เจ้าของธุรกิจใหญ่ๆในประเทศนี้เค้าก็ชอบเพราะต้นทุนด้านค่าแรงและสวัสดิการต่างๆเค้าไม่ต้องจ่ายเยอะ ยกตัวอย่าง..แค่กฏหมายแรงงานเรื่องการทำงาน48ชั่วโมง/สัปดาห์ ลูกจ้างก็ถือว่าโดนเอาเปรียบเยอะแล้วครับ จริงๆมันควรจะเป็นแค่ 40ชม./สัปดาห์ ทำมากกว่านั้นคือเป็นโอเวอร์ไทม์
ดังนั้นในอนาคตเรามีปัญหาแน่นอนครับกับเรื่องตลาดแรงงาน วันนี้ก็เริ่มส่อแนวโน้มแล้วกับตลาดแรงงานที่จบปวส.ซึ่งมีแนวโน้มจะขาดแคลนแน่นอนในอนาคต(เปิดเออีซีเมื่อไหร่ ถูกแย่งงานส่วนนี้อีกจากเรื่องความได้เปรียบทางภาษา) ก็เตรียมตัวและทำใจกับระบบต่างๆในบ้านเราไว้ได้เลยก่อนจบออกมาลุยงาน
ดังนั้นในอนาคตเรามีปัญหาแน่นอนครับกับเรื่องตลาดแรงงาน วันนี้ก็เริ่มส่อแนวโน้มแล้วกับตลาดแรงงานที่จบปวส.ซึ่งมีแนวโน้มจะขาดแคลนแน่นอนในอนาคต(เปิดเออีซีเมื่อไหร่ ถูกแย่งงานส่วนนี้อีกจากเรื่องความได้เปรียบทางภาษา) ก็เตรียมตัวและทำใจกับระบบต่างๆในบ้านเราไว้ได้เลยก่อนจบออกมาลุยงาน
ความคิดเห็นที่ 11
แก้ง่ายนิดเดียว
ยุบม.ราชภัฐ ม.เอกชน ฯลฯ ให้หมด
ส่วนม.ราม ถ้าใครไม่ได้ทำงาน ก็ห้ามเข้ามาเรียน จะเข้ามาเรียนต้องมีใบประกันสังคมว่าทำงานจริง
ให้เหลือแต่ม.รัฐ ที่รับนักศึกษาตามตลาดแรงงานที่ต้องการจริงๆๆ
พอจบมาจะได้ไม่ตกงานเพราะเป็นจำนวนที่ตลาดแรงงานต้องการจริงๆๆ
ใครสอบไม่ติด จะได้ไปเรียนสายวิชาชีพอย่างอื่น หรือเปิดร้าน ทำธุรกิจไปเลย ไม่ต้องมาเรียน
ยุบม.ราชภัฐ ม.เอกชน ฯลฯ ให้หมด
ส่วนม.ราม ถ้าใครไม่ได้ทำงาน ก็ห้ามเข้ามาเรียน จะเข้ามาเรียนต้องมีใบประกันสังคมว่าทำงานจริง
ให้เหลือแต่ม.รัฐ ที่รับนักศึกษาตามตลาดแรงงานที่ต้องการจริงๆๆ
พอจบมาจะได้ไม่ตกงานเพราะเป็นจำนวนที่ตลาดแรงงานต้องการจริงๆๆ
ใครสอบไม่ติด จะได้ไปเรียนสายวิชาชีพอย่างอื่น หรือเปิดร้าน ทำธุรกิจไปเลย ไม่ต้องมาเรียน
แสดงความคิดเห็น
ฟองสบู่การศึกษาแตก บัณฑิต ป.ตรี ล้นตลาด ค่าตอบแทนระหว่าง ม.3 และป.ตรี ต่างกันเพียง 2.4 เท่า-นายจ้างเมินขึ้นเงินเดือน
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นักวิจัยอาวุโส มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา ระบุปัจจุบันผลตอบแทนของแรงงานที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีของไทยได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโดยผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีจะได้รับเงินค่าตอบแทนต่างจากผู้ที่เรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้นถึง 3 เท่า แต่ปัจจุบันนี้ช่องว่างดังกล่าวได้ลดลงเหลือเพียง 2.4 เท่า
แสดงให้เห็นว่า การจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีไม่ได้ช่วยให้ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ซึ่งมีเหตุผลหลักมาจากค่านิยมของคนไทยที่เน้นเรียนปริญญาตรีมากเกินไปจนล้นตลาด ทำให้นายจ้างไม่มีแรงจูงใจที่จะเพิ่มค่าตอบแทนให้มากพอตามวุฒิการศึกษาของลูกจ้างที่จบระดับปริญญาตรี
ทั้งนี้ ภาครัฐต้องสนับสนุนอย่างจริงจัง สร้างแรงจูงใจให้เด็กสนใจเข้ามาเรียนสายอาชีพให้ตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปปัญหาจะตามมาอีกหลายประการแน่นอน
ที่มา
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
บัณฑิตป.ตรีล้นตลาด ค่าตอบแทนระหว่าง ม.3 และป.ตรี ต่างกันเพียง 2.4 เท่า-นายจ้างเมินขึ้นเงินเดือน - Sanook.com