ดิฉันอยากแบ่งปันประสบการณ์ การถือของขึ้นเครื่องกับ เพื่อนสมาชิกค่ะ
เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ดิฉันกลับจากไทย หอบสัมภาระมาเยอะ
พริกสด ของกินต่างๆ กะปิเนื้อดี ห้ากระปุกได้
พอเก็บของลงกระเป๋า มีความคิดว่า พริกสดพอแพ็คนานๆ ต่อให้แพ็คดีขนาดไหน
ก็จะมีกลิ่นฉุนๆลอดออกมา ความคิดเดิมว่าจะเอาใส่กระเป๋าลากขึ้นเครื่อง
อย่าเลย เอาใส่กระเป๋าโหลดดีกว่า แล้วเอากะปิที่แพ็คสูญญากาศอย่างดี มาใส่
กระเป๋าลากแทน
พอมาเช็คอินเรียบร้อย คุณสามีดิฉันแยกไปผ่าน ตม. อีกเส้นทางเพระเธอขาเจ็บ
ใช้ไม้เท้าช่วยเดิน ดิฉันกับเพื่อนก็เดินไปอีกทาง พอผ่านกระบวนการตรวจข้าวของ
ต้องรื้อของออกมาโชว์ เพราะมีพวงกุญแจบ้านสองพวง เงินเหรียญไว้หยอดรถ
เหงื่อตกซิก ลงบันไดมาจะมาผ่าน ตม เห็นสามียืนหน้ามุ่ย รออยู่กับ จนท.
สอบถามว่า เพราะกะปิเป็นเหตุ จนท.ไม่ยอมให้ผ่าน ถือว่าเป็นของเหลว เงิบค่ะ
ดิฉันให้สามีผ่าน ตม.ไปก่อน แล้วมารับของเจรจาสอบถาม รู้สึก งงๆ เพราะ
ของเหลวมันต้องไหล เมื่อคว่ำวัสดุที่บรรจุ แต่นี่กะปิ แข็งโป๊ก จนท.ยืนยัน
เอาขึ้นไม่ได้ ให้ทิ้งไป หรือยังไงก็ได้ ตามสะดวก แต่ไม่ให้นำไปขึ้นเครื่อง
ดิฉันลากกระเป๋า กลับออกมา จะส่งพัสดุก็ยัง งงๆ จะทิ้งก็เสียดาย ราคาไม่เท่าไร
แต่หอบมาแล้ว เห็นแก่กินมากกว่า เลยตัดสินใจไปต่อคิวขอโหลดใหม่กับสายการบิน
คนแน่นมาก เพราะเป็นเวลาเช็คอินของไฟลท์ยุโรป ยืนรอกระสับกระส่าย
พอถึงคิวเจรจาขอโหลดเพิ่ม เอาใส่ถุงผ้ามีซิปรูดอย่างดี จนท.รับไปพร้อมกับ
หัวเราะขำๆ ว่าเมืองนอก ไม่มีกะปิขายหรือคะ ดิฉันตอบมีค่ะ แต่มันไม่อร่อย ฮ่าๆๆ
กลับมาผ่านกระบวนการใหม่หมด วิ่งหน้าตั้งถึงเก็ท หิวน้ำก็ไม่กล้าซื้อกลัวตกเครื่อง
เลยมาตั้งกระทู้ บอกเพื่อนสมาชิก ถ้าเอากะปิมาด้วย โหลดเธอนะคะ จะได้ไม่ยุ่ง
เหมือนที่ดิฉันเจอค่ะ .
กะปิถือว่าเป็นของเหลว
เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ดิฉันกลับจากไทย หอบสัมภาระมาเยอะ
พริกสด ของกินต่างๆ กะปิเนื้อดี ห้ากระปุกได้
พอเก็บของลงกระเป๋า มีความคิดว่า พริกสดพอแพ็คนานๆ ต่อให้แพ็คดีขนาดไหน
ก็จะมีกลิ่นฉุนๆลอดออกมา ความคิดเดิมว่าจะเอาใส่กระเป๋าลากขึ้นเครื่อง
อย่าเลย เอาใส่กระเป๋าโหลดดีกว่า แล้วเอากะปิที่แพ็คสูญญากาศอย่างดี มาใส่
กระเป๋าลากแทน
พอมาเช็คอินเรียบร้อย คุณสามีดิฉันแยกไปผ่าน ตม. อีกเส้นทางเพระเธอขาเจ็บ
ใช้ไม้เท้าช่วยเดิน ดิฉันกับเพื่อนก็เดินไปอีกทาง พอผ่านกระบวนการตรวจข้าวของ
ต้องรื้อของออกมาโชว์ เพราะมีพวงกุญแจบ้านสองพวง เงินเหรียญไว้หยอดรถ
เหงื่อตกซิก ลงบันไดมาจะมาผ่าน ตม เห็นสามียืนหน้ามุ่ย รออยู่กับ จนท.
สอบถามว่า เพราะกะปิเป็นเหตุ จนท.ไม่ยอมให้ผ่าน ถือว่าเป็นของเหลว เงิบค่ะ
ดิฉันให้สามีผ่าน ตม.ไปก่อน แล้วมารับของเจรจาสอบถาม รู้สึก งงๆ เพราะ
ของเหลวมันต้องไหล เมื่อคว่ำวัสดุที่บรรจุ แต่นี่กะปิ แข็งโป๊ก จนท.ยืนยัน
เอาขึ้นไม่ได้ ให้ทิ้งไป หรือยังไงก็ได้ ตามสะดวก แต่ไม่ให้นำไปขึ้นเครื่อง
ดิฉันลากกระเป๋า กลับออกมา จะส่งพัสดุก็ยัง งงๆ จะทิ้งก็เสียดาย ราคาไม่เท่าไร
แต่หอบมาแล้ว เห็นแก่กินมากกว่า เลยตัดสินใจไปต่อคิวขอโหลดใหม่กับสายการบิน
คนแน่นมาก เพราะเป็นเวลาเช็คอินของไฟลท์ยุโรป ยืนรอกระสับกระส่าย
พอถึงคิวเจรจาขอโหลดเพิ่ม เอาใส่ถุงผ้ามีซิปรูดอย่างดี จนท.รับไปพร้อมกับ
หัวเราะขำๆ ว่าเมืองนอก ไม่มีกะปิขายหรือคะ ดิฉันตอบมีค่ะ แต่มันไม่อร่อย ฮ่าๆๆ
กลับมาผ่านกระบวนการใหม่หมด วิ่งหน้าตั้งถึงเก็ท หิวน้ำก็ไม่กล้าซื้อกลัวตกเครื่อง
เลยมาตั้งกระทู้ บอกเพื่อนสมาชิก ถ้าเอากะปิมาด้วย โหลดเธอนะคะ จะได้ไม่ยุ่ง
เหมือนที่ดิฉันเจอค่ะ .