เห็นธรรมวินัยไม่มีโทษ พระพุทธเจ้า ติเตียน ด่า เจ้าคนเสีย เจ้าจงไป เจ้าจง เสีย.
[๖๗๓] พระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้สงฆ์นาสนะ สามเณรกัณฑกะ ผู้มีความ- เห็นผิดว่าดังนี้... (สัปปาณกวรรคสิกขาบทที่ ๑๐) 4/732/5
พระพุทธเจ้าติเตียน ภิกษุที่ว่า อาบัติเล็กน้อย ไม่มีโทษอะไร แสดงแล้วก็พ้นได้.(ภิกษุว่ายาก) 43/209/7
[๒๘๖] ภิกษุพวกที่ห้ามอรรถและธรรมโดยสูตรซึ่งตนเรียนไว้ไม่ดี ด้วยพยัญชนะ ปฏิรูปนั้น ชื่อว่าปฏิบัติแล้วเพื่อความ
เพื่อทุกข์แก่เทวดา และมนุษย์ ทั้งหลาย ยังจะประสบบาปเป็นอันมาก ทำสัทธรรมนี้ให้อันตรธาน (สูตรที่ ๑๐) 33/398/6
[๙๕๔] คนพาล 2 จำพวก คือ ผู้ไม่เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ผู้ไม่รับตามสมควร แก่ธรรมเมื่อผู้อื่นแสดงโทษ. บัณฑิตมี 2 จำพวก คือ ผู้เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ผู้รับตามสมควรแก่ธรรมเมื่อผู้อื่นแสดงโทษ (อัจจยสูตร) 25/523/16
http://www.tripitaka91.com/
เห็นธรรมวินัยไม่มีโทษ พระพุทธเจ้า ติเตียน ด่า เจ้าคนเสีย เจ้าจงไป เจ้าจง:)เสีย.
เห็นธรรมวินัยไม่มีโทษ พระพุทธเจ้า ติเตียน ด่า เจ้าคนเสีย เจ้าจงไป เจ้าจง เสีย.
[๖๗๓] พระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้สงฆ์นาสนะ สามเณรกัณฑกะ ผู้มีความ- เห็นผิดว่าดังนี้... (สัปปาณกวรรคสิกขาบทที่ ๑๐) 4/732/5
พระพุทธเจ้าติเตียน ภิกษุที่ว่า อาบัติเล็กน้อย ไม่มีโทษอะไร แสดงแล้วก็พ้นได้.(ภิกษุว่ายาก) 43/209/7
[๒๘๖] ภิกษุพวกที่ห้ามอรรถและธรรมโดยสูตรซึ่งตนเรียนไว้ไม่ดี ด้วยพยัญชนะ ปฏิรูปนั้น ชื่อว่าปฏิบัติแล้วเพื่อความ เพื่อทุกข์แก่เทวดา และมนุษย์ ทั้งหลาย ยังจะประสบบาปเป็นอันมาก ทำสัทธรรมนี้ให้อันตรธาน (สูตรที่ ๑๐) 33/398/6
[๙๕๔] คนพาล 2 จำพวก คือ ผู้ไม่เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ผู้ไม่รับตามสมควร แก่ธรรมเมื่อผู้อื่นแสดงโทษ. บัณฑิตมี 2 จำพวก คือ ผู้เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ผู้รับตามสมควรแก่ธรรมเมื่อผู้อื่นแสดงโทษ (อัจจยสูตร) 25/523/16
http://www.tripitaka91.com/