นักวิทย์แนะเก็บภาษีเนื้อสัตว์ ลดโลกร้อน
นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าบนโลกใบนี้ มีสัตว์เคี้ยวเอื้องราว 3,600 ตัว ส่วนมากเป็นแกะ วัวและแพะ เพิ่มขึ้นกว่า 50% จากจำนวนที่เคยมีในศตวรรษที่แล้ว ปัญหาคือระบบย่อยของสัตว์เหล่านี้คือแหล่งแพร่ก๊าซมีเทนที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์มากที่สุด และคิดเป็นสัดส่วน 14.5% จากก๊าซเรือนกระจก สาเหตุของภาวะโลกร้อนจากฝีมือมนุษย์ทั้งหมด
แม้มีเทน มีอายุสั้นกว่าเมื่อเทียบกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่มีศักยภาพทำให้โลกร้อนกว่าประมาณ 30 เท่า และหนึ่งในมาตรการที่จะลดมีเทนลงได้ที่พูดถึงกันมากคือ ต้องกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง แต่จะทำให้อย่างไรให้คนกินเนื้อน้อยลง จนมีผลต่อปริมาณก๊าซมีเทนที่ปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์อย่างกว้าง ยากจะเกิดขึ้นได้โดยสมัครใจปราศจากแรงจูงใจหรือแรงกระตุ้น ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่เสนอให้เก็บภาษีเนื้อสัตว์ หรือมีระบบซื้อขายโควตาก๊าซเรือนกระจกจากปศุสัตว์ เพื่อดันราคาให้สูงขึ้นจนมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมบริโภค
พีท สมิธ ศาสตราจารย์ด้านดินและการเปลี่ยนแปลงของโลก มหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน หนึ่งในทีมงานวิจัย ที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ ไคลเมท เชนจ์ ระบุว่า หนึ่งในหนทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่จะลดมีเทนลงได้คือ การลดจำนวนประชากรปศุสัตว์ และการจะลดมีเทนจากปศุสัตว์ลงได้ ก็ต้องจัดการความต้องการเนื้อสัตว์ในเวลาเดียวกันเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การรับมือกับก๊าซเรือนกระจก ยังให้ความสนใจเรื่องก๊าซมีเทนไม่มากพอ รวมถึงการประชุมเรื่องสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลงที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ที่ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมุ่งแต่การลดมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ หนทางเดียวที่โลกจะหลีกเลี่ยงไปถึงจุดที่อุณหภูมิโลกอยู่ในระดับอันตราย คือลดการปล่อยก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์จากแหล่งต่างๆ ควบคู่กัน
นอกจากนี้ ประโยชน์ที่ได้จากการลดจำนวนปศุสัตว์ยังอาจช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกทางหนึ่ง เพราะเป็นการรักษาผืนป่าไม่ให้ถูกแผ้วทางเพื่อทำปศุสัตว์
http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20131228/175693.html
งดเนื้อสัตว์ ลดโลกร้อน
นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าบนโลกใบนี้ มีสัตว์เคี้ยวเอื้องราว 3,600 ตัว ส่วนมากเป็นแกะ วัวและแพะ เพิ่มขึ้นกว่า 50% จากจำนวนที่เคยมีในศตวรรษที่แล้ว ปัญหาคือระบบย่อยของสัตว์เหล่านี้คือแหล่งแพร่ก๊าซมีเทนที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์มากที่สุด และคิดเป็นสัดส่วน 14.5% จากก๊าซเรือนกระจก สาเหตุของภาวะโลกร้อนจากฝีมือมนุษย์ทั้งหมด
แม้มีเทน มีอายุสั้นกว่าเมื่อเทียบกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่มีศักยภาพทำให้โลกร้อนกว่าประมาณ 30 เท่า และหนึ่งในมาตรการที่จะลดมีเทนลงได้ที่พูดถึงกันมากคือ ต้องกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง แต่จะทำให้อย่างไรให้คนกินเนื้อน้อยลง จนมีผลต่อปริมาณก๊าซมีเทนที่ปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์อย่างกว้าง ยากจะเกิดขึ้นได้โดยสมัครใจปราศจากแรงจูงใจหรือแรงกระตุ้น ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่เสนอให้เก็บภาษีเนื้อสัตว์ หรือมีระบบซื้อขายโควตาก๊าซเรือนกระจกจากปศุสัตว์ เพื่อดันราคาให้สูงขึ้นจนมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมบริโภค
พีท สมิธ ศาสตราจารย์ด้านดินและการเปลี่ยนแปลงของโลก มหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน หนึ่งในทีมงานวิจัย ที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ ไคลเมท เชนจ์ ระบุว่า หนึ่งในหนทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่จะลดมีเทนลงได้คือ การลดจำนวนประชากรปศุสัตว์ และการจะลดมีเทนจากปศุสัตว์ลงได้ ก็ต้องจัดการความต้องการเนื้อสัตว์ในเวลาเดียวกันเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การรับมือกับก๊าซเรือนกระจก ยังให้ความสนใจเรื่องก๊าซมีเทนไม่มากพอ รวมถึงการประชุมเรื่องสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลงที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ที่ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมุ่งแต่การลดมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ หนทางเดียวที่โลกจะหลีกเลี่ยงไปถึงจุดที่อุณหภูมิโลกอยู่ในระดับอันตราย คือลดการปล่อยก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์จากแหล่งต่างๆ ควบคู่กัน
นอกจากนี้ ประโยชน์ที่ได้จากการลดจำนวนปศุสัตว์ยังอาจช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกทางหนึ่ง เพราะเป็นการรักษาผืนป่าไม่ให้ถูกแผ้วทางเพื่อทำปศุสัตว์
http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20131228/175693.html