นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำนปช. และคณะ ร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากรู้เห็นเป็นใจให้สมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ไปขึ้นเวทีชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ว่า เราเตรียมการชี้แจงตามข้อเท็จจริงคือ 1. พรรคไม่ได้เป็นผู้จัดเวทีการชุมนุม แต่เป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม และแกนนำกปปส.ที่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว และไปชุมนุมเรียกร้อง 2. ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่าเป็นสิทธิที่สามารถชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกระทำของอดีตส.ส.นั้น ไม่ใช่มติของพรรค ดังนั้นจึงต้องแยกแยะ ซึ่งการชุมนุมของกปปส.ก็มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญรองรับว่าสามารถกระทำได้ตามสิทธิ
อีกทั้งไม่ได้กระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางตามรัฐธรรมนูญในระบบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นใครทำผิดอะไรก็ว่าไปตามฐานความผิดของแต่ละบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค ส่วนการกระทำใดๆ ที่ผู้ร่วมชุมนุมได้กระทำผิดในกฎหมายอื่นๆอาทิ ปิดถนน ผิดพ.ร.บ.ความสะอาดก็ว่ากันไปตามกฎหมายแล้วแต่กรณี
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะฝ่ายกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีที่ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีรู้เห็นเป็นใจให้สมาชิกและกรรมการบริหารพรรคไปขึ้นเวทีชุมนุมของกลุ่ม กปปส. หลังจากได้ทำหนังสือชี้แจงมายัง กกต. แล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ และ นายวิรัตน์ ได้เตรียมประเด็นชี้แจงคือ พรรคไม่ได้เป็นผู้จัดเวทีการชุมนุม แต่เป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม และแกนนำ กปปส. ที่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว และไปตั้งเวทีเรียกร้องและต่อสู้เพื่อความถูกต้องตามแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งสังคมรู้แล้วว่าจุดยืนของพรรคสู้ในเรื่องนี้มาตลอด และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่าการชุมนุมของ กปปส. เป็นสิทธิชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในครั้งนี้จะใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
...............................................................................................................................................................................
ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว
แต่บิดเบือน เบี่ยงเบน ไร้ความเป็นธรรม เอนเอียง เข้าข้าง ลุแก่อำนาจ ทำงานไม่เป็น เก่งแต่พูด ใส่ร้ายป้ายสี
อันนี้เกี่ยวข้องกับประชาธิปัตย์แน่นอนครับ
ปชป.ยันไม่เกี่ยวข้องกับกปปส. จริงเหรอ
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำนปช. และคณะ ร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากรู้เห็นเป็นใจให้สมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ไปขึ้นเวทีชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ว่า เราเตรียมการชี้แจงตามข้อเท็จจริงคือ 1. พรรคไม่ได้เป็นผู้จัดเวทีการชุมนุม แต่เป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม และแกนนำกปปส.ที่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว และไปชุมนุมเรียกร้อง 2. ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่าเป็นสิทธิที่สามารถชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกระทำของอดีตส.ส.นั้น ไม่ใช่มติของพรรค ดังนั้นจึงต้องแยกแยะ ซึ่งการชุมนุมของกปปส.ก็มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญรองรับว่าสามารถกระทำได้ตามสิทธิ
อีกทั้งไม่ได้กระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางตามรัฐธรรมนูญในระบบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นใครทำผิดอะไรก็ว่าไปตามฐานความผิดของแต่ละบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค ส่วนการกระทำใดๆ ที่ผู้ร่วมชุมนุมได้กระทำผิดในกฎหมายอื่นๆอาทิ ปิดถนน ผิดพ.ร.บ.ความสะอาดก็ว่ากันไปตามกฎหมายแล้วแต่กรณี
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะฝ่ายกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีที่ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีรู้เห็นเป็นใจให้สมาชิกและกรรมการบริหารพรรคไปขึ้นเวทีชุมนุมของกลุ่ม กปปส. หลังจากได้ทำหนังสือชี้แจงมายัง กกต. แล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ และ นายวิรัตน์ ได้เตรียมประเด็นชี้แจงคือ พรรคไม่ได้เป็นผู้จัดเวทีการชุมนุม แต่เป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม และแกนนำ กปปส. ที่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว และไปตั้งเวทีเรียกร้องและต่อสู้เพื่อความถูกต้องตามแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งสังคมรู้แล้วว่าจุดยืนของพรรคสู้ในเรื่องนี้มาตลอด และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่าการชุมนุมของ กปปส. เป็นสิทธิชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในครั้งนี้จะใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
...............................................................................................................................................................................
ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว
แต่บิดเบือน เบี่ยงเบน ไร้ความเป็นธรรม เอนเอียง เข้าข้าง ลุแก่อำนาจ ทำงานไม่เป็น เก่งแต่พูด ใส่ร้ายป้ายสี
อันนี้เกี่ยวข้องกับประชาธิปัตย์แน่นอนครับ