www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410853318

วันนี้....เห็นข่าวท่านนายกฯ ประยุทธ มีคำสังให้ระงับการใช้ห้องประชุม
ถอด"ไมค์ไฮโซ" และเครื่องเสียงออกทั้งหมด...เพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง

แล้วชื่นใจ......

โครงการนี้มันชักจะไม่ชอบมาพากลซะแล้ว
ถึงขนาดท่านนายกฯ ประยุทธ ไม่สามารถทนกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูได้
เลยตัดสินใจออกคำสั่งให้ระงับ...การใช้ห้องประชุมที่มีไมโครโฟนฉาวติดตั้งอยู่ไปก่อน
...เพื่อรอการสอบสวนข้อเท็จจริง
ที่สำคัญ...ท่านไม่ถูลู่ถูกัง...ให้สัมภาษณ์แก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ หรือปัดความรับผิดชอบ...เหมือนใครบางคน

จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...งานติดตั้งเครื่องเสียงและไมค์ทองคำ...ในทำเนียบรัฐบาล
มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่โปร่งใสในเรื่องราคา...มาตั้งแต่แรก
อาทิ...ราคาที่สูงเกินจริงกว่าราคาท้องตลาด...การปรับเปลี่ยนการแจ้งราคาหน้าเวปอย่างน่าสงสัย  
ติดตั้งโดยยังไม่ผ่านการพิจารณาราคา...แต่อ้างว่า...สามารถต่อรองภายหลังได้ ...ฯ

ตั้งแต่ช่วงแรกๆที่มีข่าวครึกโครม...จนส่งกลิ่นเหม็นฉาวโฉ่
กลับมีผู้บริหารทั้งระดับบน (มล.ปนัดดา ดิสกุล ปลัดสำนักนายกฯ) และระดับปฏิบัติการ (นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธา)
ออกมาแก้ข่าวเป็นพัลวันว่า...ไม่แพง...เพราะใช้เทคโนโลยี่ชั้นสูงเทียบเท่าทำเนียบขาว...
เป็นอุปกรณ์ไม่เคยติดตั้งที่ไหนมาก่อน...ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลได้ ฯ...

...สารพันความไฮเทคที่สาธยายออกมา

พอลงลึกเข้าไปในรายละเอียดยังพบว่า..นอกจากราคาไมโครโฟนที่แสนแพงแล้ว
โครงการนี้ยังมีความไม่ชอบมาพากลอีกหลายจุด
เช่น ทีวีจอพลาสม่า รางผ้าม่าน ฯ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีราคาสูงกว่าท้องตลาด
...และอีกหลายรายการอย่างที่ทราบๆกัน

ในเมื่อเรื่องราวของไมค์ฉาวเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว
จะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไป...โดยไม่มีใครรับผิดชอบ...ไม่ได้

ถึงเวลาแล้วที่ควรจะเรียกร้องถึง "ความรับผิดชอบ" "ธรรมาภิบาลของผู้นำ"
ในสิ่งที่ให้ข่าวมาโดยตลอดว่า...ไม่แพง ไม่โกง

รัฐบาลชุดนี้...คนไทยทุกคนตั้งความหวังว่า...จะเข้ามาสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคมไทย
ที่กล่าวหากันว่า...มันเละเทะมาอย่างยาวนาน
เป็นรัฐบาลที่ขอทำเป็นตัวอย่างการบริหารที่มีธรรมาภิบาล...อย่างที่ท่านผู้นำประเทศลั่นวาจา
ว่าใครทำผิด...จะไม่เอาไว้

โครงการนี้จัดว่าเป็นเรื่องที่หมิ่นเหม่...ต่อการคอรัปชั่น...หรือไม่
เรื่องราวอาจจะเงียบหายไปกับสายลมแล้ว
หากไม่มีคนไทยช่วยกัน...ตีปี๊บส่งเสียงดังให้สังคมได้รับรู้

เลยขอถามหาความรับผิดชอบ...ของผู้ที่ดูแลโครงการนี้
คนแรกท่าน...ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล
ท่านจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...ท่านไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบงานนี้
เพราะหัวโขนที่ท่านสวมอยู่ คือ ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ท่านที่สอง ท่านมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการฯ
ผู้รับผิดชอบงานจัดซื้อจัดจ้าง และให้สัมภาษณ์มาโดยตลอดว่า...ไม่แพง

หากประเทศเราต้องการบรรทัดฐาน...ความรับผิดชอบจากผู้นำ
อย่างที่ปากเราพร่ำบ่นว่า...อยากเห็นนักการเมือง ผู้บริหาร ข้าราชการไทย
ดูตัวอย่างของนักการเมืองหรือผู้บริหารในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯ
ที่แค่ถูกกล่าวหา พาดพิงเรื่องทุจริต...เรื่องคอรัปชั่น ...
ทั้งๆยังไม่ได้มีการไตร่สวนด้วยซ้ำ

...คนเหล่านี้ก็พิจารณาตนเองด้วยการขอโทษ ลาออก...หรือยอมรับความผิดพลาดแล้ว

หวังว่าท่านทั้งสอง....คงเข้าใจกระแสสังคมดี
เพราะในวันนี้...เรื่องมันฉาวโฉ่...บานปลายมาจนถึงขนาดท่านนายกฯ ประยุทธ สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
แสดงว่าเรื่องนี้...ยังมีข้อพิรุธสงสัย

ท่านทั้งสอง...ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว