ควรศึกษาความเสี่ยงก่อนครับ
หากความคิดของคุณคือ ดาวน์รถมา ผ่อน4ปี  ระหว่าง 4 ปี เอารถมาหาเงินผ่อนตัวมันเอง
คุณจะต้องแบกรับความเสี่ยง ว่า มันจะหาเงินมาเลี้ยงตัวมันเองได้จริงหรือปล่าว

ถ้าบริษัทที่คุณเอารถเข้าไปร่วม บอกคุณว่า รายได้ต่อเที่ยว หลังหักค่าเชื้อเพลิงแล้ว ได้เที่ยวละ 1000
คุณต้องแน่ใจว่า ใน 1 เดือน เค้าจะมีงานให้คุณวิ่งกี่เที่ยว พอกินพอใช้ พอสำรองค่าบำรุงรักษารึปล่าว
และนอกจาก ประกันรถยนต์ที่คุณต้องทำแล้ว ยังจะมีประกันสินค้าที่บริษัทจะบังคับให้คุณทำด้วยรึปล่าว ปีละเท่าไหร่

สำคัญที่สุดคือ ความแน่นอน ว่าจะมีงานให้คุณวิ่ง
และงานนั้นๆ คุ้มค่าที่เราจะเหนื่อยกับมันแล้วรึปล่าว

สำหรับผม
ช่วงแรกผมขับเองได้ประมาณ 6 เดือน รายได้กระท่อนกระแท่น เกินบ้าง ขาดบ้าง
จึงเริ่มจ้างคนมาขับ แล้วผมก็ไปทำงานบริษัท เพื่อหารายได้เพิ่ม
ตอนนี้ เวลาผ่านไป 2.5 ปี แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา เปลี่ยนคนขับมาประมาณ 5-6 คน
มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนหลายอย่าง เช่น ฉี่ม่วง ไม่ตรงเวลา ขับรถประมาท และเหตุสุดท้าย
ที่ทำให้ผมคิดจะเอารถออกมาจากการวิ่งร่วมก็คือ งานที่ไม่แน่นอน
คนขับที่ผมจ้าง ผมจ้างเป็นเที่ยว เมื่องานไม่มี เค้าก็อยู่ไม่ได้
แต่ถ้าจะให้จ้างเป็นเงินเดือน ผมก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน

ณ ตอนนี้ รถจอดอยุ่เฉยๆ มาประมาณ 1 เดือนแล้ว
กำลังคิดอยู่ว่า จะรับของมาขายหลังเวลาทำงานดีไหม เพื่อหารายได้จากรถที่มี

เงินเดือนผมรับจริง 15k ผ่อนรถ 10k เหลืออีก 1.5 ปี