วันที่ 9 ส.ค. เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 803 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.2317/2553 คดีแดง อ.4930/54 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.บัณฑิต สิทธิทุม อายุ 44 ปี อดีตตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันกระทำผิดฐานก่อการร้าย, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินผู้อื่น, ร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกายจนเป็นให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดในที่ชุมนุม, ร่วมกันมีเครื่องยิงระเบิดไว้ในครอบครอง ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้, ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้, ร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1,221, 222 , 258, 265,295,358,371,376 ประกอบมาตรา 80 และ 83 และพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดไปในเมือง ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ตามความผิดพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พ.ศ.2490
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.53 จำเลยกับพวกอีก 1 คน ร่วมกันใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 2 ลูกไปยังอาคารกระทรวงกลาโหม เขตพระนคร ทำให้นายศักดิ์ หาญสงคราม ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ สายเคเบิลโทรศัพท์ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เสียหายเป็นเงินจำนวน 39,421 บาท จำเลยกับพวกมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญ บังคับ รัฐบาลไทยให้ยุบสภา ทั้งยังสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน การกระทำของจำเลยกับพวกดังกล่าวเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือการก่อการร้ายของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยมีเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 2 จำนวน 1 กระบอก ลูกระเบิดแบบสังหาร เอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก ปืนกลมือ (เอ็ม 3) ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืน .45 จำนวน 48 นัดเหตุเกิดที่แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงพระนคร เขตพระนคร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. เกี่ยวพันกัน
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2554 เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม รวมจำคุกทั้งสิ้น 38 ปีบของกลาง จำเลยยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปีระชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า คดีนี้พยานโจทก์หลายปาก ซึ่งเห็นคนร้ายในช่วงเวลาต่างกัน โดยเบิกความว่าเห็นคนร้ายขับรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตศ 9818 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดทางด้านหลังกระทรวงกลาโหม พยานระบุว่าเห็นจำเลยอยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย แต่คำเบิกความของพยานถึงสาระสำคัญตำแหน่งที่นั่งภายในรถยนต์ของคนร้ายไม่ตรงกัน พยานบางรายระบุเห็นจำเลยเป็นคนขับ แต่พยานบางรายระบุว่าจำเลยนั่งข้างคนขับ พยานบางคนระบุว่าจำเลยใส่หมวกแก๊ป ขณะที่พยานบางคนบอกว่าไม่ใส่หมวก ภายหลังเกิดเหตุเจ้าพนักงานได้พาพยานไปสเกตซ์ภาพ พยานให้การขัดแย้งกันเองไม่มีน้ำหนัก ไม่มั่นคงน่าเชื่อถือ ทั้งยังขัดแย้งกับคำให้การของตนเองที่เคยให้การไว้ในชั้นสอบสวน จึงยังไม่แน่ใจใช่จำเลยหรือไม่ ที่นั่งอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว และขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืนแสงไฟมีน้อย แม้ว่าผลตรวจลายนิ้วมือแฝงจะพบว่ามีสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ) จำเลยปะปนอยู่ แต่ก็มีของบุคคลอื่นรวมอยู่ด้วย ส่วนที่พยานให้การว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวกับรถยนต์คันก่อเหตุที่มีการซื้อขายต่อกันมาหลายทอด แต่พยานโจทก์ไม่ได้เบิกความยืนยันว่าจำเลยอยู่ในรถยนต์คันเกิดเหตุด้วยและเป็นคนร้ายจริงหรือไม่ มีเหตุสมควรสงสัยยกประโยชน์ให้กับจำเลย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา
http://www.dailynews.co.th/Content/crime/31437/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87+%26quot%3B%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B8%B5%26quot%3B+%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A1
ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง เสื้อแดงที่ยิงRPGใส่กลาโหม ตัวอย่างจับแพะ
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.53 จำเลยกับพวกอีก 1 คน ร่วมกันใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 2 ลูกไปยังอาคารกระทรวงกลาโหม เขตพระนคร ทำให้นายศักดิ์ หาญสงคราม ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ สายเคเบิลโทรศัพท์ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เสียหายเป็นเงินจำนวน 39,421 บาท จำเลยกับพวกมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญ บังคับ รัฐบาลไทยให้ยุบสภา ทั้งยังสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน การกระทำของจำเลยกับพวกดังกล่าวเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือการก่อการร้ายของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยมีเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 2 จำนวน 1 กระบอก ลูกระเบิดแบบสังหาร เอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก ปืนกลมือ (เอ็ม 3) ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืน .45 จำนวน 48 นัดเหตุเกิดที่แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงพระนคร เขตพระนคร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. เกี่ยวพันกัน
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2554 เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม รวมจำคุกทั้งสิ้น 38 ปีบของกลาง จำเลยยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปีระชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า คดีนี้พยานโจทก์หลายปาก ซึ่งเห็นคนร้ายในช่วงเวลาต่างกัน โดยเบิกความว่าเห็นคนร้ายขับรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตศ 9818 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดทางด้านหลังกระทรวงกลาโหม พยานระบุว่าเห็นจำเลยอยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย แต่คำเบิกความของพยานถึงสาระสำคัญตำแหน่งที่นั่งภายในรถยนต์ของคนร้ายไม่ตรงกัน พยานบางรายระบุเห็นจำเลยเป็นคนขับ แต่พยานบางรายระบุว่าจำเลยนั่งข้างคนขับ พยานบางคนระบุว่าจำเลยใส่หมวกแก๊ป ขณะที่พยานบางคนบอกว่าไม่ใส่หมวก ภายหลังเกิดเหตุเจ้าพนักงานได้พาพยานไปสเกตซ์ภาพ พยานให้การขัดแย้งกันเองไม่มีน้ำหนัก ไม่มั่นคงน่าเชื่อถือ ทั้งยังขัดแย้งกับคำให้การของตนเองที่เคยให้การไว้ในชั้นสอบสวน จึงยังไม่แน่ใจใช่จำเลยหรือไม่ ที่นั่งอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว และขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืนแสงไฟมีน้อย แม้ว่าผลตรวจลายนิ้วมือแฝงจะพบว่ามีสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ) จำเลยปะปนอยู่ แต่ก็มีของบุคคลอื่นรวมอยู่ด้วย ส่วนที่พยานให้การว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวกับรถยนต์คันก่อเหตุที่มีการซื้อขายต่อกันมาหลายทอด แต่พยานโจทก์ไม่ได้เบิกความยืนยันว่าจำเลยอยู่ในรถยนต์คันเกิดเหตุด้วยและเป็นคนร้ายจริงหรือไม่ มีเหตุสมควรสงสัยยกประโยชน์ให้กับจำเลย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา
http://www.dailynews.co.th/Content/crime/31437/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87+%26quot%3B%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B8%B5%26quot%3B+%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A1