สวัสดีคะ เพื่อนๆ
หายหน้าหายตาไปนานเลยพอดีเพิ่งสอบเสร็จแหม่กว่าจะผ่านมาได้การเขียนวิทยานิพนธ์และการแก้เล่มนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยคะ
แก้กันจนเบื่อกว่าจะได้ตรงตามกำหนดแพทเทิ้นตามที่บัณฑิตกำหนด
ตอนนี้ก็มีเวลาว่างเลยมาอัพเดทเรื่องราวของเราให้เพื่อนได้ฟังกันหน่อย
ใครที่เคยอ่านเรื่องราวของเรามาก่อนหน้านี้บางคนอาจจะคิดว่าเป็นไปได้จริงหรอ
คือว่าตอนนี้เราก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้จริงๆแล้วคะ ตอนนี้เขากำลังวางแผนจะมาไทยแล้ว
ในช่วงปลายปีนี้เราดีใจมากๆเลยจะได้เจอกันแล้วและก็ตื่นเต้นเช่นกัน
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากแค่อยากจะมาอัพเดทว่าเรื่องราวของเรายังคงดำเนินต่อไป
ตอนนี้เริ่มมีการพัฒนาคุยกันแบบ video call กันแล้วคะ 555 วันแรกที่คุยกัน
เราเขินมากๆเลยคุยกันแบบว่าเขินอะไม่กล้ามองจอเลย แล้วเขาก็แอบแคปหน้าจอเอาไว้ด้วย ฮ่าๆ
คือหน้าเราบ้ามากเลยละตอนนั้น วันแรกที่คุยกันผ่านวีดีโอก็คุยกันได้ไม่มากหรอกคะ
มัวแต่เขินกันอยู่
เขาบอกว่าชอบมองฉันผ่านทางวีดีโอเสมือนกับว่าได้เห็นฉันอย่างจริงๆจังๆ เห็นการเคลื่อนไหว
เขาชอบบอกว่าลักษณะหางตาของคนไทยนี้เป็นเอกลักษณ์มากเลยประมาณว่าหางตาชี้
ตอนแรกฉันก็เข้าใจว่าตาเส้นเดียวเหมือนกับตาคนจีนอะไรแบบนี้ เพราะตาของฉันนี้โตมากแล้วนะ
เขายังจะเรียกฉันว่า mi china อีกคะ mi china คือ ประมาณว่า คนจีนของฉัน คือเขาจะเหมารวมหมด
ทั้งเอเชียเลยคะว่า china (ผู้หญิง) chino (ผู้ชาย) ตอนแรกๆก็รู้สึกไม่พอใจฮ่าๆๆที่เรียกเราแบบนี้
แต่นานๆเข้าก็น่ารักดีคะเวลาได้ยินเขาเรียกผ่านเสียง ฉันก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันคะก็เรียกเขากลับไปว่า mi latino ฮ่าๆ
ประมาณว่า ลาตินของฉัน อิอิ
เวลาได้ยินเขาพูดภาษาสเปนมานี้แบบเหมือนหัวใจจะละลายเลยคะ
คือต้องยอมรับจริงๆว่าภาษาสเปนนี้เป็นภาษาที่โรเมนติกมากๆตอนนี้ฉันหลงรักภาษาสเปนอย่างเอาจังเลยคะ
หลงเสน่ห์เอาซะมากๆ
มีอยู่วันนึงเขางอนฉัน คือว่าเขาเป็นผู้ชายที่โรแมนติกและเซนซิทีฟมากในเรื่องของความรักคือวันนั้นเราคุยกันอยู่ดีๆ
แล้วฉันก็บอกว่ารู้สึกง่วงนอนขอไปนอนก่อนนะเขาก็บอกว่าโอเคแล้วก็พูดบอกลากันปกติ
อยู่ดีๆข้อความก็เด้งขึ้นมาอีกพิมพ์ในข้อความบอกฉันประมาณว่าเขารอให้ฉันบอกคำว่า te amo และ adios คะ
ซึ่งมันแปลว่า ฉันรักเธอ ลาก่อนนะ ประมาณนั้น ฉันก็ตกใจอะไรเธอจะเครียดขนาดนี้เลยหรอ
พอวันรุ่งขึ้นวันต่อมาเขาก็มาทักฉันปกติฉันแต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นเหมือนวันที่ผ่านมาคือ
เวลาฉันฉันถามเขา เขาก็จะตอบคำ คือ ถามคำตอบคำคะ ฉันถามว่าทำไมเหรอมีอะไรหรือเปล่า
เขาบอกว่าไม่มีอะไรปกติ แล้วฉันก็บอกว่า ฉันรักเธอนะ ปกติเวลาบอกแบบนี้เขาก็จะตอบกลับมาทันที
แต่วันนี้ไม่คะเงียบกริบไม่แชทอะไรมาเลยพูดแต่ว่าโอเค ฉันถามเขาต่อ(อยากรู้ตลอด) ว่าทำไมเธอไม่บอกรักฉันเลยวันนี้
เขาบอกทันทีว่า ไม่อยากบอกเพราะเมื่อคืนเธอไม่เห็นบอกฉันเลย
ฉันอึ้งไปน้ำตาไหลมาโดยอัตโนมัติ ฉันก็ตอบกลับไปว่า ok ok if you don't want to tell me
ok i understand you ทันใดนั้นเขาก็อึ้งไปเหมือนกันเขาบอกว่าก็เมื่อคืนเธอไม่เห็นจะบอกว่ารักผมเลย
แต่ผมก็ยังมีความรู้สึกรักนะ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ผิดที่คิดอย่างนั้น ฉันบอกกลับไปว่าเธอรับรู้เอาไว้นะฉันรักเธอเสมอแม้ว่าไม่ได้พิมพ์ว่า te amo ก็ตาม
หลังจากนั้นเขาพิมพ์รัวคำวว่า ฉันรักเธอ ๆๆๆๆๆๆ ซ้ำๆ มาเต็มเลยคะ เขาบอกว่าขอโทษต่อไปนี้จะไปทำตัวงี่เง่าอย่างนี้อีกแล้ว
หลังจากนั้นฉันก็ถามเขาต่อว่าทำไมเธอรู้สึกไม่ดีจริงๆหรอแค่ไม่ได้บอกรักก่อนนอน เขาบอกว่าอาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมมากกวว่า
ทีหลังเขาจะปรับตัวให้เข้ากับฉันคะ แล้ววันนั้นฉันก็ทำให้เขาหายโกรธได้
คือฉันบอกเขาเอาไว้แล้วว่าถ้าเราโกรธกันห้ามโกรธเกิน 24 ชม.นะ สัญญา แล้วเราก็ไม่เคยโกรธกันเกิน 24 ชม.เลยคะ
ตั้งแต่วันทที่ 6 มกราคม 2014 จนมาถึงวันนี้ วันที่ 10 กันยายน 2014 เราทะเลาะกันก็หลายครั้งนะ
แต่ไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่ได้แชทหรือพูดคุยกัน คือจะพูดกันทุกวันเลยจนบางครั้งเล่าให้ใครเขาก็ยังไม่เชื่อเลย
และมีอยู่วันนึงเรื่องเขาหึงฉันคะตลกมากเลยคือวันนั้นฉันแคปหน้าจอหน้าข้อความในโทรศัพท์ให้เขาดู คือต้องบอกก่อนว่าตอนนี้
เขาเริ่มที่จะรู้ภาษาไทยมากขึ้นกว่าเก่าฉันก็เคยสอนคำว่า ที่รัก ให้เขาฟังว่ามันหมายถึงอะไร
ในวันนั้นข้อความของฉันมีคำว่า ขอบคุณที่.... แล้วมันโชว์ไม่หมดในหน้าจอ
เขาเห็นปุ๊บเงียบทันทีเลยประมาณใครนะมาเรียกคนรักของเขาว่า ที่รัก อะไรประมาณนั้น
เขาก็มโนไป etc จากนั้นเขาก็ถามฉันทันทีแคปหน้าจอขยายใหญ่ส่งกลับมาแล้วถามฉันว่า
แล้วนี่อะไรใครมาเรียกเธอว่า ที่รัก ใคร ฉันถึงกับขำกลิ้งเลยคะแล้วฉันก็อธิบายเขาไปว่า
มันเป็นการตอบรับข้อความที่ร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการทีวีคะ 555 แล้วฉันก็
เปิดข้อความเต็มให้เขาดู คือเขาบอกฉันว่าเขาละอายใจมาก ฮ่าๆ ที่คิดอย่างนั้น
คือตลกดีคะ เขาเป็นคนช่างสังเกตุที่ส่งสกรีนแคปชั่นให้เขาดูนั้นให้ดูข้อความอื่นหรอก
แต่เขาดันมาเห็น สังเกตไปทั่วเลยคะยิ่งกว่านักวิทยาศาสตร์ เสียอีก อิอิอิ
วันนี้ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้คะ ^_^
คุณเอาชนะใจฉันได้อย่างไร ^_^
หายหน้าหายตาไปนานเลยพอดีเพิ่งสอบเสร็จแหม่กว่าจะผ่านมาได้การเขียนวิทยานิพนธ์และการแก้เล่มนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยคะ
แก้กันจนเบื่อกว่าจะได้ตรงตามกำหนดแพทเทิ้นตามที่บัณฑิตกำหนด
ตอนนี้ก็มีเวลาว่างเลยมาอัพเดทเรื่องราวของเราให้เพื่อนได้ฟังกันหน่อย
ใครที่เคยอ่านเรื่องราวของเรามาก่อนหน้านี้บางคนอาจจะคิดว่าเป็นไปได้จริงหรอ
คือว่าตอนนี้เราก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้จริงๆแล้วคะ ตอนนี้เขากำลังวางแผนจะมาไทยแล้ว
ในช่วงปลายปีนี้เราดีใจมากๆเลยจะได้เจอกันแล้วและก็ตื่นเต้นเช่นกัน
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากแค่อยากจะมาอัพเดทว่าเรื่องราวของเรายังคงดำเนินต่อไป
ตอนนี้เริ่มมีการพัฒนาคุยกันแบบ video call กันแล้วคะ 555 วันแรกที่คุยกัน
เราเขินมากๆเลยคุยกันแบบว่าเขินอะไม่กล้ามองจอเลย แล้วเขาก็แอบแคปหน้าจอเอาไว้ด้วย ฮ่าๆ
คือหน้าเราบ้ามากเลยละตอนนั้น วันแรกที่คุยกันผ่านวีดีโอก็คุยกันได้ไม่มากหรอกคะ
มัวแต่เขินกันอยู่
เขาบอกว่าชอบมองฉันผ่านทางวีดีโอเสมือนกับว่าได้เห็นฉันอย่างจริงๆจังๆ เห็นการเคลื่อนไหว
เขาชอบบอกว่าลักษณะหางตาของคนไทยนี้เป็นเอกลักษณ์มากเลยประมาณว่าหางตาชี้
ตอนแรกฉันก็เข้าใจว่าตาเส้นเดียวเหมือนกับตาคนจีนอะไรแบบนี้ เพราะตาของฉันนี้โตมากแล้วนะ
เขายังจะเรียกฉันว่า mi china อีกคะ mi china คือ ประมาณว่า คนจีนของฉัน คือเขาจะเหมารวมหมด
ทั้งเอเชียเลยคะว่า china (ผู้หญิง) chino (ผู้ชาย) ตอนแรกๆก็รู้สึกไม่พอใจฮ่าๆๆที่เรียกเราแบบนี้
แต่นานๆเข้าก็น่ารักดีคะเวลาได้ยินเขาเรียกผ่านเสียง ฉันก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันคะก็เรียกเขากลับไปว่า mi latino ฮ่าๆ
ประมาณว่า ลาตินของฉัน อิอิ
เวลาได้ยินเขาพูดภาษาสเปนมานี้แบบเหมือนหัวใจจะละลายเลยคะ
คือต้องยอมรับจริงๆว่าภาษาสเปนนี้เป็นภาษาที่โรเมนติกมากๆตอนนี้ฉันหลงรักภาษาสเปนอย่างเอาจังเลยคะ
หลงเสน่ห์เอาซะมากๆ
มีอยู่วันนึงเขางอนฉัน คือว่าเขาเป็นผู้ชายที่โรแมนติกและเซนซิทีฟมากในเรื่องของความรักคือวันนั้นเราคุยกันอยู่ดีๆ
แล้วฉันก็บอกว่ารู้สึกง่วงนอนขอไปนอนก่อนนะเขาก็บอกว่าโอเคแล้วก็พูดบอกลากันปกติ
อยู่ดีๆข้อความก็เด้งขึ้นมาอีกพิมพ์ในข้อความบอกฉันประมาณว่าเขารอให้ฉันบอกคำว่า te amo และ adios คะ
ซึ่งมันแปลว่า ฉันรักเธอ ลาก่อนนะ ประมาณนั้น ฉันก็ตกใจอะไรเธอจะเครียดขนาดนี้เลยหรอ
พอวันรุ่งขึ้นวันต่อมาเขาก็มาทักฉันปกติฉันแต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นเหมือนวันที่ผ่านมาคือ
เวลาฉันฉันถามเขา เขาก็จะตอบคำ คือ ถามคำตอบคำคะ ฉันถามว่าทำไมเหรอมีอะไรหรือเปล่า
เขาบอกว่าไม่มีอะไรปกติ แล้วฉันก็บอกว่า ฉันรักเธอนะ ปกติเวลาบอกแบบนี้เขาก็จะตอบกลับมาทันที
แต่วันนี้ไม่คะเงียบกริบไม่แชทอะไรมาเลยพูดแต่ว่าโอเค ฉันถามเขาต่อ(อยากรู้ตลอด) ว่าทำไมเธอไม่บอกรักฉันเลยวันนี้
เขาบอกทันทีว่า ไม่อยากบอกเพราะเมื่อคืนเธอไม่เห็นบอกฉันเลย
ฉันอึ้งไปน้ำตาไหลมาโดยอัตโนมัติ ฉันก็ตอบกลับไปว่า ok ok if you don't want to tell me
ok i understand you ทันใดนั้นเขาก็อึ้งไปเหมือนกันเขาบอกว่าก็เมื่อคืนเธอไม่เห็นจะบอกว่ารักผมเลย
แต่ผมก็ยังมีความรู้สึกรักนะ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ผิดที่คิดอย่างนั้น ฉันบอกกลับไปว่าเธอรับรู้เอาไว้นะฉันรักเธอเสมอแม้ว่าไม่ได้พิมพ์ว่า te amo ก็ตาม
หลังจากนั้นเขาพิมพ์รัวคำวว่า ฉันรักเธอ ๆๆๆๆๆๆ ซ้ำๆ มาเต็มเลยคะ เขาบอกว่าขอโทษต่อไปนี้จะไปทำตัวงี่เง่าอย่างนี้อีกแล้ว
หลังจากนั้นฉันก็ถามเขาต่อว่าทำไมเธอรู้สึกไม่ดีจริงๆหรอแค่ไม่ได้บอกรักก่อนนอน เขาบอกว่าอาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมมากกวว่า
ทีหลังเขาจะปรับตัวให้เข้ากับฉันคะ แล้ววันนั้นฉันก็ทำให้เขาหายโกรธได้
คือฉันบอกเขาเอาไว้แล้วว่าถ้าเราโกรธกันห้ามโกรธเกิน 24 ชม.นะ สัญญา แล้วเราก็ไม่เคยโกรธกันเกิน 24 ชม.เลยคะ
ตั้งแต่วันทที่ 6 มกราคม 2014 จนมาถึงวันนี้ วันที่ 10 กันยายน 2014 เราทะเลาะกันก็หลายครั้งนะ
แต่ไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่ได้แชทหรือพูดคุยกัน คือจะพูดกันทุกวันเลยจนบางครั้งเล่าให้ใครเขาก็ยังไม่เชื่อเลย
และมีอยู่วันนึงเรื่องเขาหึงฉันคะตลกมากเลยคือวันนั้นฉันแคปหน้าจอหน้าข้อความในโทรศัพท์ให้เขาดู คือต้องบอกก่อนว่าตอนนี้
เขาเริ่มที่จะรู้ภาษาไทยมากขึ้นกว่าเก่าฉันก็เคยสอนคำว่า ที่รัก ให้เขาฟังว่ามันหมายถึงอะไร
ในวันนั้นข้อความของฉันมีคำว่า ขอบคุณที่.... แล้วมันโชว์ไม่หมดในหน้าจอ
เขาเห็นปุ๊บเงียบทันทีเลยประมาณใครนะมาเรียกคนรักของเขาว่า ที่รัก อะไรประมาณนั้น
เขาก็มโนไป etc จากนั้นเขาก็ถามฉันทันทีแคปหน้าจอขยายใหญ่ส่งกลับมาแล้วถามฉันว่า
แล้วนี่อะไรใครมาเรียกเธอว่า ที่รัก ใคร ฉันถึงกับขำกลิ้งเลยคะแล้วฉันก็อธิบายเขาไปว่า
มันเป็นการตอบรับข้อความที่ร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการทีวีคะ 555 แล้วฉันก็
เปิดข้อความเต็มให้เขาดู คือเขาบอกฉันว่าเขาละอายใจมาก ฮ่าๆ ที่คิดอย่างนั้น
คือตลกดีคะ เขาเป็นคนช่างสังเกตุที่ส่งสกรีนแคปชั่นให้เขาดูนั้นให้ดูข้อความอื่นหรอก
แต่เขาดันมาเห็น สังเกตไปทั่วเลยคะยิ่งกว่านักวิทยาศาสตร์ เสียอีก อิอิอิ
วันนี้ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้คะ ^_^