หลายคนมีความฝันที่อยากจะไปหาประสบการณ์ใหม่ๆในต่างแดนอยากไปเที่ยวดูวัฒนธรรมของเพื่อนมนุษย์และฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความความฝันเช่นนั้นเคยอยากจะเขียนเรื่องราวดีๆระหว่างตัวเองและเพื่อนต่างแดนตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นสักทีวันนี้มีโอกาสดีหลังจากที่คิดงานงานเขียนเล่มวิทยานิพนธ์ไม่ออกเลยมาเขียนเรื่องราวดีๆซะงั้น 555 บ้าจริงเรางานหลักไม่เอาชอบเอางานรอง อิอิ
เรื่องราวดีๆของฉันและเพื่อนต่างแดนเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 ตอนนั้นโลก social network ยังไม่บูมเท่าตอนนี้นะคะคือตอนนั้นฉันเริ่มที่จะใช้อีเมลล์สมัครฮอตเมลล์ไว้เพื่อใช้ติดต่อกับเพื่อนๆซึ่งในตอนนั้นเรียกได้ว่าการแชทผ่าน MSN ฮิตมากในหมู่วัยรุ่น ตอนนั้นฉันก็ใช้อีเมลล์รับส่งข่าวสารกับเพื่อนๆและติดต่องานกับเจ้านาย อยู่มาวันหนึ่งก็มีชาวต่างชาติคนนึงมาแชทกับฉันซึ่งฉันก็ไม่รู้นะว่าเขาเข้ามาได้อย่างไรเราก็คุยกันภาษาอังกฤษแบบ งูงู ปลาปลา 555 คุยกันไม่มากไม่มายและหลังจากนั้นไม่นานก็มีโซเชียวเน็ตเวิคอื่นๆเกิดขึ้นมาซึ่งฉันคิดว่าทุกคนคงจะรู้จัก Hi5 ตอนนั้น Hi5 ฮิตมากในหมู่วัยรุ่นซึ่งทุกคนต้องมีแอคเค้าเป็นตัวเองตอนนั้นเองฉันก็ได้สมัคร Hi5 เช่นกันจำได้ว่าตอนนั้นสมัคร Hi5และใช้รูปพั้นซ์แทนรูปตัวเองในรูปโปรไฟล์ อิอิ ก็พั้นซ์น่ารักนิเราก็ชอบพั้นซ์ ด้วยและเขาคนนั้นก็ตามมาแอดเพื่อนกับฉันตอนที่เล่น Hi5ไม่แน่ใจว่าเราเล่นกันยังไงตอนนี้ลืมไปแล้วว่าใน Hi5 มีช่องสำหรับแชทหรือไม่และเราก็ได้เป็นเพื่อนกันใน Hi5 เล่นไปสักพักประมาณ 1 ปี หลังจากนั้น Hi5 เริ่มไม่ค่อยฮิตแล้วช่วงนั้นประมาณปี2008คะ ทุกคนใน Hi5 ต่างหันมาเล่น face book กันไปหมดตอนนั้นในความคิดของฉันฉันไม่ชอบเฟสบุกเอาซะเลยหน้าตามันแปลกๆยังไงไม่รู้ชอบกลไม่สนุกเลยแต่แล้วไม่นานฉันก็เปลี่ยนใจมาใช้เฟสบุค ฮ่าๆๆๆ เฟสบุคชนะใจฉันคะ ตอนนั้นเริ่มเล่นเปลี่ยนไปมาระหว่างเฟสบุกและ Hi5 ตอนฉันเล่นเฟสบุคใหม่ๆมีเพื่อนแค่ 15 คนเห็นจะได้
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนต่างชาติคนนั้นด้วยคำแรกที่เขาทักทายฉันในเฟสบุคที่ฉันได้รับจากเขาเข้าในช่องข้อความคือ "Hi love I found you" ฮ่าๆฉันก็งง งง อยู่ๆก็มา Hi love 555 งงนิดนึงตอนนั้นก็ไม่ได้คุย ไรมากฉันมาถามเขาทีหลังว่าในช่วงนั้นชีวิตเขาเกิดอะไรขึ้นบ้างซึ่งเขาก็บอกว่าช่วงนั้นเขารู้สึกตัดสินใจผิดพลาดมากในชีวิตเขาตัดสินใจหยุดเรียนและเขาต้องออกจากบ้านมาอยู่กับเพื่อนเพราะทางบ้านของเขามีปัญหาพ่อกับแม่แยกทางกันฟังแล้วเศร้าจัง และยังมีเรื่องราวอื่นๆอีกที่เกิดขึ้นมากมายฉันจะเล่าให้ฟังตอนหลังคะ ตอนนั้นที่ฉันเล่นเฟสบุคก็มีแต่การเล่นเกมส์ Farmville คือหน้าโปรไฟล์ของฉันเต็มไปด้วยการแชร์เกมส์ ฮ่าๆๆๆ ต่อมาในปี 2009 ฉันก็ได้เห็นว่าเขาคนนั้นแต่งงาน อุ้ย อยู่ๆก็แต่งงาน ไรว้า....... ฉันคิดในใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจไรเพราะเราเป็นเพื่อนกันแค่ในโลกโซเชียวก็ยินดีกับเขาในใจ เราขาดการติดต่อกันประมาณ 4 ปีคะ แต่เราก็ยังเล่นเฟสบุคกันอยู่ซึ่งการขาดการติดต่อในที่นี้คือฉันแชทไปหาเขาเขาไม่ตอบกลับมาเลยคะฉันย้อนไปดูในช่อง see friendship ระหว่างฉันกับเขาก็พบว่าในช่วงเวลาที่เราไม่ได้แชทกัน4ปีนั้นฉันเขาไปคอมเม้นหน้าวอลของเขาทุกปีในวันเกิดของเขา (7 ธันวาคม) ซึ่งเป็นเรื่องที่หน้าเขินและอาย 55 เพราะเขาไม่เคยมาโพสหน้าวอลของฉันเลยคะ แต่ในคอมเม้นของฉันเขาจะเม้นตอบ Thanks ทุกครั้งยกเว้นเม้นในปี 2009 เขาไม่ตอบเม้นของฉันเลย
แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นคนเริ่มต้นมาโพสที่หน้าวอลของฉันก่อนคะขอโทษคะก่อนหน้านี้ฉันบอกว่าเขาไม่เคยมาโพสที่หน้าวอลของฉันแต่ที่จริงแล้วเขาโพสคะเขาโพสว่า "I will love you forever baby" และฉันก็ตอบว่า "me too ^^" 555 ฉันเป็นบ้าอะไรไม่รู้รู้แค่ว่าตอนนั้นตอบไปแบบขำขำ คงจะไม่อะไรมากมาย ในระหว่างนั้นช่วงปี 2009-2013 เราคุยกันน้อยมาก อาจเป็นเพราะเขาไปแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่ฉันก็จำไม่ได้ว่าเราคุยกันเกี่ยวกับการฟังดนตรีกันตอนไหนหรืออาจจะเป็นช่วงที่เราคุยกันผ่านทางMSN ซึ่งฉันและเขาก็ฟังเพลงได้ทุกแนวและชอบแนวเดียวกันชอบอะไรคล้ายๆกันฉันจำได้ขึ้นใจว่าเขาชอบวง P.O.D. ซึ่งฉันก็ชอบเช่นกันเราคุยกันถูกคอ อิอิและเรื่องมันก็เริ่มมีมากขึ้นคะเริ่มที่เขามาทักฉันก่อนเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2014 ตอนนั้นฉันจะไปงานประชุมวิชาการที่ ขอนแก่นพอดีอยู่ดีๆเขาก็มาทักฉันในช่องข้อ ความแชทตอนนั้นก็คุยกันนิดเดียวฉันบอกเขาว่าตอนนี้ฉันอยู่ กทม. พรุ่งนี้จะไปพรีเซ้นงานที่ ขอนแก่น และฉันก็บอกเขาว่าเดี๋ยวจะถ่ายรูปบรรยากาศมาให้ดูโอเคฉัน say good bye กับเขาแล้วเข้านอน เอ่อลืมบอกไปว่าเวลาของเราต่างกัน 11 ชม. คือที่ไทยเวลาจะนำหน้าเขา 11 ชม. เหมือนอย่างตอนนี้ที่ฉันเขียนเรื่องราวอยู่นี้เขาก็กำลังหลับสบายอยู่ อิอิ ถึงไหนแล้วละ อ๋อ หลังจากที่ฉันบอกว่าจะถ่ายรูปให้ดูบรรยากาศที่ไปงานฉันก็ถ่ายให้เขาดูแล้วก็ส่งรูปไปทางข้อความแชทในเฟสบุค เราคุยกันไม่มากในช่วงนั้น
และหลังจากกลับมาจากขอนแก่นฉันเพิ่งสังเกตว่าเขาจะเริ่มมาทักฉันก่อนทุกครั้ง คือทุกครั้งที่ตื่นนอนขึ้นมาฉันจะเห็นมีข้อความสีแดงอยู่ในกล่องข้อความทางเฟสบุค ฉันก็ตอบแชทเขาไปตามประสาเพื่อนเฟส หลังจากนั้นก็คุยมาเรื่อยๆเขาก็เล่าเรื่องชีวิตประจำวันของเขาให้ฉันฟังในตอนนั้นทุกเช้าของเขาเขาจะตื่นมาตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะไปเดินออกกำลังแถวบ้านหลังจากเดินออกกำลังกายก็จะกลับมาปลุกลูกชายไปอาบน้ำและไป โรงเรียน เป็นแดดดี้ที่น่ารักมากคะทำทุกอย่างให้ลูกและเมื่อเสร็จจากไปส่งลูกที่โรงเรียนเขาก็จะมาแชทกับฉันจนกว่าฉันจะเข้านอนและในตอนบ่ายของเขาประมาณสี่โมงเย็นเขาก็จะไปทำงานเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กๆเสร็จงานก็ประมาณ หกโมงเย็นก็กลับบ้าน ชีวิตของเขาก็เป็นแบบนี้ในทุกๆวันจันทร์-ศุกร์ และในทุกบ่ายของวันเสาร์เขาจะมีเรียนที่มหาวิทยาลัย คือตอนนี้เขากลับมาเรียนต่อเพื่อให้จบปริญาตรี เมื่อก่อนฉันเห็นเขาโพสรูปในเฟสและไฮไฟว์เขาจะเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬาเอ็กตรีม เล่นอินไลน์สะเก็ต ขี่จักรยาน เล่นเพ้นบอล ฉันก็ชอบนะคะคนเล่นกีฬา แต่เมื่อเขาตัดสินใจแต่งงานนั้นเขาเล่าให้ฉันฟังว่าหลังจากที่เขาแต่งงานเขาก็มีลูกชายและชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป ขาดการติดต่อกับเพื่อน ๆขาดการฝึกซ้อมและเล่นกีฬาเอ็กตรีมเขาบอกกับฉันว่าภรรยาของเขาไม่ชอบสะเก็ต ฟังแล้วน่าสะเทือนใจคะ เขาก็ยอมภรรยาทุกอย่างขายรองเท้ากีฬาและเลิกติดต่อกับเพื่อนฝูง และต่อมาความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาเริ่มแย่ลง บลา บลา บลา เขาเล่าให้ฉันฟังแต่ไม่ขอเล่าในที่นี้นะคะอิอิ
ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้ตัดสินใจแยกทางกับภรรยาและภรรยาก็เอาลูกชายไปอยู่กับหล่อนซึ่งเขาจะเจอกับลูกชายได้ทุกเมื่อและต้องดูแลลูกด้วยเช่นกัน เขาจะไปเจอลูกชายในทุกๆวันอาทิตย์คะ ไปรับลูกชายและพาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ จากนั้นก็จะกลับไปส่งที่บ้าน เรื่องราวมันซับซ้อนกว่าที่คิดช่วงระหว่างที่เขาระหองระแหงกับภรรยาเขาก็เริ่มคุยกับฉันมากขึ้นมากขึ้นทุกวันคือคุยกันทุกวันเช้าเย็นไม่รู้เหมือนกันว่าคุยอะไรกันหนักหนาแต่ก็คุยจนมาถึงวันนี้วันที่ 13 มีนาคม นับดูวันที่เราเริ่มคุยกันเยอะๆก็ราวๆ สองเดือนกว่าๆคะ ตอนนี้มีเพลนกันเยอะมากมายระหว่างฉันกับเขา ตอนนี้เขาย้ายออกมาอยู่กับแม่ของเขาที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งมีความอิสระและสบายมากกว่าเก่า บ้านหลังนี้อยู่ในเมือง ใกล้กับทุกอย่างทั้ง ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านทำผม ตลาด การขนส่งคมนาคม ก่อนหน้านี้เขาก็เริ่มคุยกับฉันในแบบภาษาสเปนบ้างเขาชอบบอกกับฉันตลอดเลยว่า te quiero เขาบอกว่าเขาชอบคำนี้มากเลย ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจว่าคำนี้มันหมายความว่าไงก็เข้าไปเปิดดูความหมายใน google translate 555 แปลว่า"ฉันรักคุณ" คะ ฉันก็คิดว่าจะมารักอะไรกับฉันตอนนี้นะทั้งๆที่เธอก็มีลูกแล้ว 555
และมีอยู่ครั้งหนึ่งเขาบอกกับฉันว่า i want to win your heart ฉันขำใส่เขาเลยคะตอนนั้น เขาก็แป่วไปอิอิ เขามาบอกฉันที่หลังว่าทำไมตอนที่เขาบอกว่า i want to win your heart แล้วฉันก็ขำ เขาบอกว่าเขาเสียใจ ไอ้เราก็นึกว่าเขาพูดเล่นตามประสาซะอีก ต่อมาเริ่มคุยกันมากขึ้นเพิ่มเวลาในการคุยมากขึ้นบางครั้งก็คุยกันผ่านทาง skype ครั้งแรกที่คุยผ่านทาง skype รู้สึกตื่นเต้นมากทั้งเขาและฉันเขาบอกฉันว่าเมื่อได้ยินเสียงฉันเขาคิดใจใจ นี่ฉันจริงๆหรือ ประมาณว่า “..... is real” อิอิ และเขาก็บอกว่าฉันมีเสียงที่หวานและเขาก็ชอบเสียงของฉันและคำแรกที่ฉันสอนเขาในภาษาไทยคือ น้ำมะนาว 555 ไม่แน่ใจเหมือนกันตอนนั้นว่าเราคุยกันถึงเรื่องอะไรแต่นี่เป็นคำแรกที่เขาได้เรียนรู้จากฉัน และคำต่อมาคือ สวัสดีครับ เขาเล่าให้ฟังว่าเมื่อเขาไปเจอเพื่อนๆคนที่โน้นเขาจะทักทายกันว่า Hola แต่เขากลับพูด สวัสดีครับ เพื่อนเขาก็เลยงง และคอยแต่ถามเขาว่า Que Que (อะไร)
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อแต่มันเกิดขึ้นแล้วกับฉันในตอนนี้เขาสอนภาษาสเปนให้กับฉันสอนไม่มากหรอกส่วนใหญ่ก็จะพูดเรื่องอื่นกันมากกว่า ช่วงแรกๆเขาจะชอบเอาเพลงมาโพสบน Facebook ของฉันแต่จะตั้งค่าเป็นแบบส่วนตัวมีแค่ฉันกับเขาเท่านั้นที่เห็นโพส ฉันเรียนรู้ภาษาสเปนจากเพลงในวีดีโอที่เขาส่งมาให้ได้ตั้งหลายคำซึ่งฉันก็แฮปปี้และชอบมาก เขาเป็นคนที่โรเมนติกก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมภรรยาของเขาจึงเลิกกันเขา อาจจะเป็นเหตุผลของเขา เขาเริ่มที่จะหาคำหวานๆมาสอนฉันและวันหนึ่งฉันถามเขาว่า ระหว่าง te quiero กับ te amo ต่างกันอย่างไรเขาก็อึงไปสักแปบแต่ชั้นก็ยังอยากรู้นะไปหาข้อมูลใน google ก็ได้ความว่า te quiero เป็นการบอกรักในหมู่เพื่อนฝูงประมาณว่า เอ่อเพื่อนกูรักว่ะ อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าเป็น te amo นั้น เป็นการบอกรักของหนุ่มสาวคะ ฮ่าๆ เขาก็บอกว่าตอนนี้เขาสามารถบอกว่า te amo กับฉันได้เต็มปากเต็มคำ ฉันคิดในใจว่าทำไมเขารักฉันได้เร็วขนาดนี้ ,ทีนี้เขาก็พิมพ์ te amo มาและทำเป็นสอนฉัน ก่อนหน้านี้เวลาเขาพิมพ์ te quiero มานั้นฉันไม่เคยตอบ me too หรืออะไรก็แค่ส่ง emoticals กลับไปเป็นรูป ^_^ อย่างนี้ตลอด และเขาก็บอกว่าสักวันหรือไม่นานฉันอาจจะตอบ me too กลับไปเวลาเขาส่ง te quiero ทีนี้เขาสอนฉันคำว่า te amo และฉันพิมพ์กลับไป te amo เช่นกัน แล้วฉันไม่ได้คิดอะไรนะในตอนนั้น และฉันก็บอกเขาไปว่าพิมพ์ง่ายจังนะ te amo te amo แล้วฉันก็พิมพ์ซ้ำๆส่งกลับไปให้เข้า อุต๊ะ! เกิดอะไรขึ้น เขาน้อยใจคะเขาหาว่าฉันว่าเขาเป็นหลอกลวงเป็นคนแบบง่ายที่จะพูดคำว่า รัก อะไรประมาณนี้ ฉันรู้สึกได้ว่าเขาเศร้ามากที่ฉันพิมพ์ คำว่า easy to type “te amo”
เรื่องมันก็เริ่มตึงเครียดฉันก็เศร้าไปด้วยเมื่อรู้ว่าเขารู้สึกแบบนั้นและเขาก็บอกกับฉันว่าต่อไปนี้เขาจะไม่สอนคำที่ sensitive กับฉันอีกแล้ว เขาบอก no more sensitive word ฉันรู้สึกแปร้บ!! มากเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจและรู้สึกเหมือนหน้าชาและน้ำตาคลอ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะคิดมากถึงขนาดนี้ และฉันก็ไปต่อไม่ถูกวันนั้นฉันก็เลยบอกเขาไปว่าอาจจะเป็นเพราะฉันรักคุณมาก เอ่อก็มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆนี่น่า เขาตกใจที่ฉันบอกรักเขาครั้งแรกและเขาก็ให้ฉันบอกอีกครั้งถ้าฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงซึ่งฉันก็บอกไปอีกครั้งดูเหมือนเขาจะดีใจมากนะใช่เขาดีใจมาก หลังจากวันนั้นฉันก็รู้สึกได้ว่าเขารักฉันจริงๆเมื่อย้อนกลับไปดูคือเขาจะตาม follow ฉันในทุก social network ทั้งหมดที่มีคือฉันจะเห็นเขามาติดตามฉันตลอดถ้าจะให้ list ตอนนี้ก็มีอยู่หลายนะแต่จะบอกตั้งแต่เริ่มก็ได้เริ่มจาก MSN, HI5, Face book, Skype, Google, Hangout, twitter, Deezer อาจจะมีมากกว่านี้เขาบอกว่าจะตามหาฉันตลอดใน social network 555 สุดยอดจริงๆเลยค่ะ นี่ก็เป็นความเสมอต้นเสมอปลายของเขาที่มีต่อฉันเขาบอกกับฉันว่าเขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเขาสามารถพูดกับฉันได้ทุกเรื่องทั้ง เรื่องดนตรี กีฬาเอ็กตรีม การเจาะ การสัก การ์ตูน ซึ่งเขาก็บอกกับฉันอีกว่าฉันเป็นผู้หญิงในฝันของเขาเขาให้ฉันดูว่ามีอะไรบ้างเขาก็ร่ายยาวเลยบอกว่า ฉันเป็นคนที่ฉลาด สวยและเซ็กซี่ ฉันไม่รู้เหมือนกันนะว่าฉันเซ็กซี่ตรงไหน 555 และเขาก็ถามฉันว่าทำไม Thai girls มีลักษณะที่คล้ายการผสมกันระหว่าสาวลาตินอเมริกันกับสาวเอเชียเขาก็ยังคงสงสัยอยู่ก็สาวไทยสวยเข้มสะขนาดนี้ใช่ไหมเขาตกหลุมรักประเทศไทยและตกหลุมรักสาวไทยเข้าอย่างจัง
“คุณเอาชนะใจฉันได้อย่างไรเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นกับหญิงไทยคนหนึ่งกับหนุ่มลาตินอเมริกัน”
เรื่องราวดีๆของฉันและเพื่อนต่างแดนเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 ตอนนั้นโลก social network ยังไม่บูมเท่าตอนนี้นะคะคือตอนนั้นฉันเริ่มที่จะใช้อีเมลล์สมัครฮอตเมลล์ไว้เพื่อใช้ติดต่อกับเพื่อนๆซึ่งในตอนนั้นเรียกได้ว่าการแชทผ่าน MSN ฮิตมากในหมู่วัยรุ่น ตอนนั้นฉันก็ใช้อีเมลล์รับส่งข่าวสารกับเพื่อนๆและติดต่องานกับเจ้านาย อยู่มาวันหนึ่งก็มีชาวต่างชาติคนนึงมาแชทกับฉันซึ่งฉันก็ไม่รู้นะว่าเขาเข้ามาได้อย่างไรเราก็คุยกันภาษาอังกฤษแบบ งูงู ปลาปลา 555 คุยกันไม่มากไม่มายและหลังจากนั้นไม่นานก็มีโซเชียวเน็ตเวิคอื่นๆเกิดขึ้นมาซึ่งฉันคิดว่าทุกคนคงจะรู้จัก Hi5 ตอนนั้น Hi5 ฮิตมากในหมู่วัยรุ่นซึ่งทุกคนต้องมีแอคเค้าเป็นตัวเองตอนนั้นเองฉันก็ได้สมัคร Hi5 เช่นกันจำได้ว่าตอนนั้นสมัคร Hi5และใช้รูปพั้นซ์แทนรูปตัวเองในรูปโปรไฟล์ อิอิ ก็พั้นซ์น่ารักนิเราก็ชอบพั้นซ์ ด้วยและเขาคนนั้นก็ตามมาแอดเพื่อนกับฉันตอนที่เล่น Hi5ไม่แน่ใจว่าเราเล่นกันยังไงตอนนี้ลืมไปแล้วว่าใน Hi5 มีช่องสำหรับแชทหรือไม่และเราก็ได้เป็นเพื่อนกันใน Hi5 เล่นไปสักพักประมาณ 1 ปี หลังจากนั้น Hi5 เริ่มไม่ค่อยฮิตแล้วช่วงนั้นประมาณปี2008คะ ทุกคนใน Hi5 ต่างหันมาเล่น face book กันไปหมดตอนนั้นในความคิดของฉันฉันไม่ชอบเฟสบุกเอาซะเลยหน้าตามันแปลกๆยังไงไม่รู้ชอบกลไม่สนุกเลยแต่แล้วไม่นานฉันก็เปลี่ยนใจมาใช้เฟสบุค ฮ่าๆๆๆ เฟสบุคชนะใจฉันคะ ตอนนั้นเริ่มเล่นเปลี่ยนไปมาระหว่างเฟสบุกและ Hi5 ตอนฉันเล่นเฟสบุคใหม่ๆมีเพื่อนแค่ 15 คนเห็นจะได้
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนต่างชาติคนนั้นด้วยคำแรกที่เขาทักทายฉันในเฟสบุคที่ฉันได้รับจากเขาเข้าในช่องข้อความคือ "Hi love I found you" ฮ่าๆฉันก็งง งง อยู่ๆก็มา Hi love 555 งงนิดนึงตอนนั้นก็ไม่ได้คุย ไรมากฉันมาถามเขาทีหลังว่าในช่วงนั้นชีวิตเขาเกิดอะไรขึ้นบ้างซึ่งเขาก็บอกว่าช่วงนั้นเขารู้สึกตัดสินใจผิดพลาดมากในชีวิตเขาตัดสินใจหยุดเรียนและเขาต้องออกจากบ้านมาอยู่กับเพื่อนเพราะทางบ้านของเขามีปัญหาพ่อกับแม่แยกทางกันฟังแล้วเศร้าจัง และยังมีเรื่องราวอื่นๆอีกที่เกิดขึ้นมากมายฉันจะเล่าให้ฟังตอนหลังคะ ตอนนั้นที่ฉันเล่นเฟสบุคก็มีแต่การเล่นเกมส์ Farmville คือหน้าโปรไฟล์ของฉันเต็มไปด้วยการแชร์เกมส์ ฮ่าๆๆๆ ต่อมาในปี 2009 ฉันก็ได้เห็นว่าเขาคนนั้นแต่งงาน อุ้ย อยู่ๆก็แต่งงาน ไรว้า....... ฉันคิดในใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจไรเพราะเราเป็นเพื่อนกันแค่ในโลกโซเชียวก็ยินดีกับเขาในใจ เราขาดการติดต่อกันประมาณ 4 ปีคะ แต่เราก็ยังเล่นเฟสบุคกันอยู่ซึ่งการขาดการติดต่อในที่นี้คือฉันแชทไปหาเขาเขาไม่ตอบกลับมาเลยคะฉันย้อนไปดูในช่อง see friendship ระหว่างฉันกับเขาก็พบว่าในช่วงเวลาที่เราไม่ได้แชทกัน4ปีนั้นฉันเขาไปคอมเม้นหน้าวอลของเขาทุกปีในวันเกิดของเขา (7 ธันวาคม) ซึ่งเป็นเรื่องที่หน้าเขินและอาย 55 เพราะเขาไม่เคยมาโพสหน้าวอลของฉันเลยคะ แต่ในคอมเม้นของฉันเขาจะเม้นตอบ Thanks ทุกครั้งยกเว้นเม้นในปี 2009 เขาไม่ตอบเม้นของฉันเลย
แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นคนเริ่มต้นมาโพสที่หน้าวอลของฉันก่อนคะขอโทษคะก่อนหน้านี้ฉันบอกว่าเขาไม่เคยมาโพสที่หน้าวอลของฉันแต่ที่จริงแล้วเขาโพสคะเขาโพสว่า "I will love you forever baby" และฉันก็ตอบว่า "me too ^^" 555 ฉันเป็นบ้าอะไรไม่รู้รู้แค่ว่าตอนนั้นตอบไปแบบขำขำ คงจะไม่อะไรมากมาย ในระหว่างนั้นช่วงปี 2009-2013 เราคุยกันน้อยมาก อาจเป็นเพราะเขาไปแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่ฉันก็จำไม่ได้ว่าเราคุยกันเกี่ยวกับการฟังดนตรีกันตอนไหนหรืออาจจะเป็นช่วงที่เราคุยกันผ่านทางMSN ซึ่งฉันและเขาก็ฟังเพลงได้ทุกแนวและชอบแนวเดียวกันชอบอะไรคล้ายๆกันฉันจำได้ขึ้นใจว่าเขาชอบวง P.O.D. ซึ่งฉันก็ชอบเช่นกันเราคุยกันถูกคอ อิอิและเรื่องมันก็เริ่มมีมากขึ้นคะเริ่มที่เขามาทักฉันก่อนเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2014 ตอนนั้นฉันจะไปงานประชุมวิชาการที่ ขอนแก่นพอดีอยู่ดีๆเขาก็มาทักฉันในช่องข้อ ความแชทตอนนั้นก็คุยกันนิดเดียวฉันบอกเขาว่าตอนนี้ฉันอยู่ กทม. พรุ่งนี้จะไปพรีเซ้นงานที่ ขอนแก่น และฉันก็บอกเขาว่าเดี๋ยวจะถ่ายรูปบรรยากาศมาให้ดูโอเคฉัน say good bye กับเขาแล้วเข้านอน เอ่อลืมบอกไปว่าเวลาของเราต่างกัน 11 ชม. คือที่ไทยเวลาจะนำหน้าเขา 11 ชม. เหมือนอย่างตอนนี้ที่ฉันเขียนเรื่องราวอยู่นี้เขาก็กำลังหลับสบายอยู่ อิอิ ถึงไหนแล้วละ อ๋อ หลังจากที่ฉันบอกว่าจะถ่ายรูปให้ดูบรรยากาศที่ไปงานฉันก็ถ่ายให้เขาดูแล้วก็ส่งรูปไปทางข้อความแชทในเฟสบุค เราคุยกันไม่มากในช่วงนั้น
และหลังจากกลับมาจากขอนแก่นฉันเพิ่งสังเกตว่าเขาจะเริ่มมาทักฉันก่อนทุกครั้ง คือทุกครั้งที่ตื่นนอนขึ้นมาฉันจะเห็นมีข้อความสีแดงอยู่ในกล่องข้อความทางเฟสบุค ฉันก็ตอบแชทเขาไปตามประสาเพื่อนเฟส หลังจากนั้นก็คุยมาเรื่อยๆเขาก็เล่าเรื่องชีวิตประจำวันของเขาให้ฉันฟังในตอนนั้นทุกเช้าของเขาเขาจะตื่นมาตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะไปเดินออกกำลังแถวบ้านหลังจากเดินออกกำลังกายก็จะกลับมาปลุกลูกชายไปอาบน้ำและไป โรงเรียน เป็นแดดดี้ที่น่ารักมากคะทำทุกอย่างให้ลูกและเมื่อเสร็จจากไปส่งลูกที่โรงเรียนเขาก็จะมาแชทกับฉันจนกว่าฉันจะเข้านอนและในตอนบ่ายของเขาประมาณสี่โมงเย็นเขาก็จะไปทำงานเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กๆเสร็จงานก็ประมาณ หกโมงเย็นก็กลับบ้าน ชีวิตของเขาก็เป็นแบบนี้ในทุกๆวันจันทร์-ศุกร์ และในทุกบ่ายของวันเสาร์เขาจะมีเรียนที่มหาวิทยาลัย คือตอนนี้เขากลับมาเรียนต่อเพื่อให้จบปริญาตรี เมื่อก่อนฉันเห็นเขาโพสรูปในเฟสและไฮไฟว์เขาจะเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬาเอ็กตรีม เล่นอินไลน์สะเก็ต ขี่จักรยาน เล่นเพ้นบอล ฉันก็ชอบนะคะคนเล่นกีฬา แต่เมื่อเขาตัดสินใจแต่งงานนั้นเขาเล่าให้ฉันฟังว่าหลังจากที่เขาแต่งงานเขาก็มีลูกชายและชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป ขาดการติดต่อกับเพื่อน ๆขาดการฝึกซ้อมและเล่นกีฬาเอ็กตรีมเขาบอกกับฉันว่าภรรยาของเขาไม่ชอบสะเก็ต ฟังแล้วน่าสะเทือนใจคะ เขาก็ยอมภรรยาทุกอย่างขายรองเท้ากีฬาและเลิกติดต่อกับเพื่อนฝูง และต่อมาความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาเริ่มแย่ลง บลา บลา บลา เขาเล่าให้ฉันฟังแต่ไม่ขอเล่าในที่นี้นะคะอิอิ
ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้ตัดสินใจแยกทางกับภรรยาและภรรยาก็เอาลูกชายไปอยู่กับหล่อนซึ่งเขาจะเจอกับลูกชายได้ทุกเมื่อและต้องดูแลลูกด้วยเช่นกัน เขาจะไปเจอลูกชายในทุกๆวันอาทิตย์คะ ไปรับลูกชายและพาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ จากนั้นก็จะกลับไปส่งที่บ้าน เรื่องราวมันซับซ้อนกว่าที่คิดช่วงระหว่างที่เขาระหองระแหงกับภรรยาเขาก็เริ่มคุยกับฉันมากขึ้นมากขึ้นทุกวันคือคุยกันทุกวันเช้าเย็นไม่รู้เหมือนกันว่าคุยอะไรกันหนักหนาแต่ก็คุยจนมาถึงวันนี้วันที่ 13 มีนาคม นับดูวันที่เราเริ่มคุยกันเยอะๆก็ราวๆ สองเดือนกว่าๆคะ ตอนนี้มีเพลนกันเยอะมากมายระหว่างฉันกับเขา ตอนนี้เขาย้ายออกมาอยู่กับแม่ของเขาที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งมีความอิสระและสบายมากกว่าเก่า บ้านหลังนี้อยู่ในเมือง ใกล้กับทุกอย่างทั้ง ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านทำผม ตลาด การขนส่งคมนาคม ก่อนหน้านี้เขาก็เริ่มคุยกับฉันในแบบภาษาสเปนบ้างเขาชอบบอกกับฉันตลอดเลยว่า te quiero เขาบอกว่าเขาชอบคำนี้มากเลย ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจว่าคำนี้มันหมายความว่าไงก็เข้าไปเปิดดูความหมายใน google translate 555 แปลว่า"ฉันรักคุณ" คะ ฉันก็คิดว่าจะมารักอะไรกับฉันตอนนี้นะทั้งๆที่เธอก็มีลูกแล้ว 555
และมีอยู่ครั้งหนึ่งเขาบอกกับฉันว่า i want to win your heart ฉันขำใส่เขาเลยคะตอนนั้น เขาก็แป่วไปอิอิ เขามาบอกฉันที่หลังว่าทำไมตอนที่เขาบอกว่า i want to win your heart แล้วฉันก็ขำ เขาบอกว่าเขาเสียใจ ไอ้เราก็นึกว่าเขาพูดเล่นตามประสาซะอีก ต่อมาเริ่มคุยกันมากขึ้นเพิ่มเวลาในการคุยมากขึ้นบางครั้งก็คุยกันผ่านทาง skype ครั้งแรกที่คุยผ่านทาง skype รู้สึกตื่นเต้นมากทั้งเขาและฉันเขาบอกฉันว่าเมื่อได้ยินเสียงฉันเขาคิดใจใจ นี่ฉันจริงๆหรือ ประมาณว่า “..... is real” อิอิ และเขาก็บอกว่าฉันมีเสียงที่หวานและเขาก็ชอบเสียงของฉันและคำแรกที่ฉันสอนเขาในภาษาไทยคือ น้ำมะนาว 555 ไม่แน่ใจเหมือนกันตอนนั้นว่าเราคุยกันถึงเรื่องอะไรแต่นี่เป็นคำแรกที่เขาได้เรียนรู้จากฉัน และคำต่อมาคือ สวัสดีครับ เขาเล่าให้ฟังว่าเมื่อเขาไปเจอเพื่อนๆคนที่โน้นเขาจะทักทายกันว่า Hola แต่เขากลับพูด สวัสดีครับ เพื่อนเขาก็เลยงง และคอยแต่ถามเขาว่า Que Que (อะไร)
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อแต่มันเกิดขึ้นแล้วกับฉันในตอนนี้เขาสอนภาษาสเปนให้กับฉันสอนไม่มากหรอกส่วนใหญ่ก็จะพูดเรื่องอื่นกันมากกว่า ช่วงแรกๆเขาจะชอบเอาเพลงมาโพสบน Facebook ของฉันแต่จะตั้งค่าเป็นแบบส่วนตัวมีแค่ฉันกับเขาเท่านั้นที่เห็นโพส ฉันเรียนรู้ภาษาสเปนจากเพลงในวีดีโอที่เขาส่งมาให้ได้ตั้งหลายคำซึ่งฉันก็แฮปปี้และชอบมาก เขาเป็นคนที่โรเมนติกก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมภรรยาของเขาจึงเลิกกันเขา อาจจะเป็นเหตุผลของเขา เขาเริ่มที่จะหาคำหวานๆมาสอนฉันและวันหนึ่งฉันถามเขาว่า ระหว่าง te quiero กับ te amo ต่างกันอย่างไรเขาก็อึงไปสักแปบแต่ชั้นก็ยังอยากรู้นะไปหาข้อมูลใน google ก็ได้ความว่า te quiero เป็นการบอกรักในหมู่เพื่อนฝูงประมาณว่า เอ่อเพื่อนกูรักว่ะ อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าเป็น te amo นั้น เป็นการบอกรักของหนุ่มสาวคะ ฮ่าๆ เขาก็บอกว่าตอนนี้เขาสามารถบอกว่า te amo กับฉันได้เต็มปากเต็มคำ ฉันคิดในใจว่าทำไมเขารักฉันได้เร็วขนาดนี้ ,ทีนี้เขาก็พิมพ์ te amo มาและทำเป็นสอนฉัน ก่อนหน้านี้เวลาเขาพิมพ์ te quiero มานั้นฉันไม่เคยตอบ me too หรืออะไรก็แค่ส่ง emoticals กลับไปเป็นรูป ^_^ อย่างนี้ตลอด และเขาก็บอกว่าสักวันหรือไม่นานฉันอาจจะตอบ me too กลับไปเวลาเขาส่ง te quiero ทีนี้เขาสอนฉันคำว่า te amo และฉันพิมพ์กลับไป te amo เช่นกัน แล้วฉันไม่ได้คิดอะไรนะในตอนนั้น และฉันก็บอกเขาไปว่าพิมพ์ง่ายจังนะ te amo te amo แล้วฉันก็พิมพ์ซ้ำๆส่งกลับไปให้เข้า อุต๊ะ! เกิดอะไรขึ้น เขาน้อยใจคะเขาหาว่าฉันว่าเขาเป็นหลอกลวงเป็นคนแบบง่ายที่จะพูดคำว่า รัก อะไรประมาณนี้ ฉันรู้สึกได้ว่าเขาเศร้ามากที่ฉันพิมพ์ คำว่า easy to type “te amo”
เรื่องมันก็เริ่มตึงเครียดฉันก็เศร้าไปด้วยเมื่อรู้ว่าเขารู้สึกแบบนั้นและเขาก็บอกกับฉันว่าต่อไปนี้เขาจะไม่สอนคำที่ sensitive กับฉันอีกแล้ว เขาบอก no more sensitive word ฉันรู้สึกแปร้บ!! มากเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจและรู้สึกเหมือนหน้าชาและน้ำตาคลอ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะคิดมากถึงขนาดนี้ และฉันก็ไปต่อไม่ถูกวันนั้นฉันก็เลยบอกเขาไปว่าอาจจะเป็นเพราะฉันรักคุณมาก เอ่อก็มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆนี่น่า เขาตกใจที่ฉันบอกรักเขาครั้งแรกและเขาก็ให้ฉันบอกอีกครั้งถ้าฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงซึ่งฉันก็บอกไปอีกครั้งดูเหมือนเขาจะดีใจมากนะใช่เขาดีใจมาก หลังจากวันนั้นฉันก็รู้สึกได้ว่าเขารักฉันจริงๆเมื่อย้อนกลับไปดูคือเขาจะตาม follow ฉันในทุก social network ทั้งหมดที่มีคือฉันจะเห็นเขามาติดตามฉันตลอดถ้าจะให้ list ตอนนี้ก็มีอยู่หลายนะแต่จะบอกตั้งแต่เริ่มก็ได้เริ่มจาก MSN, HI5, Face book, Skype, Google, Hangout, twitter, Deezer อาจจะมีมากกว่านี้เขาบอกว่าจะตามหาฉันตลอดใน social network 555 สุดยอดจริงๆเลยค่ะ นี่ก็เป็นความเสมอต้นเสมอปลายของเขาที่มีต่อฉันเขาบอกกับฉันว่าเขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเขาสามารถพูดกับฉันได้ทุกเรื่องทั้ง เรื่องดนตรี กีฬาเอ็กตรีม การเจาะ การสัก การ์ตูน ซึ่งเขาก็บอกกับฉันอีกว่าฉันเป็นผู้หญิงในฝันของเขาเขาให้ฉันดูว่ามีอะไรบ้างเขาก็ร่ายยาวเลยบอกว่า ฉันเป็นคนที่ฉลาด สวยและเซ็กซี่ ฉันไม่รู้เหมือนกันนะว่าฉันเซ็กซี่ตรงไหน 555 และเขาก็ถามฉันว่าทำไม Thai girls มีลักษณะที่คล้ายการผสมกันระหว่าสาวลาตินอเมริกันกับสาวเอเชียเขาก็ยังคงสงสัยอยู่ก็สาวไทยสวยเข้มสะขนาดนี้ใช่ไหมเขาตกหลุมรักประเทศไทยและตกหลุมรักสาวไทยเข้าอย่างจัง