เป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรครับ
ระบบราชการไทยนั้น ร่ำไร ซ้ำซ้อน ขั้นตอนหยุมหยิม อืดอาดยืดยาด มากเรื่อง
เพราะเน้นที่รูปแบบ ไม่เน้นเนื้อหา
(แต่แปลก ถ้ามีจ่ายใต้โต๊ะ ขั้นตอนมันหายไปหมด รวดเร็วทันใจขี้นมาทันที)
แต่ละเรื่อง ต้องเน้นที่ว่า จากใครไปหาใคร ตามลำดับเล็กไปเรื่อยจนกว่าจะถึงผู้มีอำนาจสูงสุด
นี่ืคือรูปแบบเพื่อบอกว่า รู้ซะว่าใครใหญ่
ใหญ่ใส่กันเองในระบบราชการนั่นแหละครับ แต่ผู้ได้รับผลกระทบคือประชาชน
ยกตัวอย่าง
เมื่อก่อนนั้น แค่ทำบัตรประชาชน ก็ต้องผู้ยิ่งใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยเป็นคนลงนามรับรองในบัตร
ก็จากที่ว่าการอำเภอ ไปจังหวัด จังหวัดไปกรม กรมไปกระทรวง กระทรวงกลับมากรม กรมมาจังหวัด กลับมาถึงอำเภอ
ก็ไม่นานครับ แค่หกเดือน
พอมีคนมาปฏิรูประบบราชการ ราชการกระฉับกระเฉงขึ้น บริหารประชาชนดีขึ้น
กลับบอกว่าปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องกำจัด ยัดข้อหาล้มเจ้าให้ซะเลย
เรื่องนี้พูดมากไม่ได้ เด๋วโดนข้อหาผิดศีลธรรมอันดีงามและกฎหมาย
วันนี้ ประเทศไทยก็กลับสู่ยุคข้าราชการเป็นใหญ่เต็มตัว
กรณีเรื่องอื้อฉาวงบปรับปรุงทำเนียบเกือบเจ็ดสิบล้านบาท ที่แพงเกินจริง
นี่ก็เน้นให้เห็นเรื่องรูปแบบครับ
ไมค์ ไฟ โต๊ะ เก้าอี้ ทีวี ฯลฯ
สุดหะรูหะรา
ไม่รู้มีความจำเป็นอะไร
อย่างที่มีภาพแปะเยอะแยะนั่นแหละครับ ครม.อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เขานั่งประชุมกันง่าย ๆ
เพราะเขาเน้นที่เนื้อหา ไม่ได้เน้นรูปแบบ
ของเรานั้น ต่อให้ไมค์อันละแสนล้าน แต่มาพูดว่าใต้ถุนต่ำใต้ถุนสูงอยู่นี่ มันจะมีค่าอะไร
เรือกสวนไร่นา มันมีเสาเหมือนบ้านซะที่ไหน คนวันนี้ใช้รถ ไม่ได้ใช้เรือ
ความเป็นไทยนั้น แทนที่จะเป็นความคิด ความสามารถ
กลับเป็นเรื่องชุดไทย แต่ขอโทษที มีแต่เทคโนโลยีทำเนียบขาวเต็มตึก
แถมนั่งเบนซ์ นั่งบีเอ็มมาประชุม
อยากหัวเราะให้หน้าขี้เหร่ (แต่จนใจ ฝึกทะไรก็ทำมะเปง)
ก็บ่นไปงั้นล่ะครับ ประสาราษฎรเต็มขั้นตาดำ ๆ หน้าหล่อ ๆ
เมื่อย จบ
เขียนเรื่องระบบราชการไทยแล้ว ทำให้นึกถึงเต่า
ราชการไทย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไทย ๆ คือ รูปแบบหรูหรา เนื้อหารุ่งริ่ง
ระบบราชการไทยนั้น ร่ำไร ซ้ำซ้อน ขั้นตอนหยุมหยิม อืดอาดยืดยาด มากเรื่อง
เพราะเน้นที่รูปแบบ ไม่เน้นเนื้อหา
(แต่แปลก ถ้ามีจ่ายใต้โต๊ะ ขั้นตอนมันหายไปหมด รวดเร็วทันใจขี้นมาทันที)
แต่ละเรื่อง ต้องเน้นที่ว่า จากใครไปหาใคร ตามลำดับเล็กไปเรื่อยจนกว่าจะถึงผู้มีอำนาจสูงสุด
นี่ืคือรูปแบบเพื่อบอกว่า รู้ซะว่าใครใหญ่
ใหญ่ใส่กันเองในระบบราชการนั่นแหละครับ แต่ผู้ได้รับผลกระทบคือประชาชน
ยกตัวอย่าง
เมื่อก่อนนั้น แค่ทำบัตรประชาชน ก็ต้องผู้ยิ่งใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยเป็นคนลงนามรับรองในบัตร
ก็จากที่ว่าการอำเภอ ไปจังหวัด จังหวัดไปกรม กรมไปกระทรวง กระทรวงกลับมากรม กรมมาจังหวัด กลับมาถึงอำเภอ
ก็ไม่นานครับ แค่หกเดือน
พอมีคนมาปฏิรูประบบราชการ ราชการกระฉับกระเฉงขึ้น บริหารประชาชนดีขึ้น
กลับบอกว่าปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องกำจัด ยัดข้อหาล้มเจ้าให้ซะเลย
เรื่องนี้พูดมากไม่ได้ เด๋วโดนข้อหาผิดศีลธรรมอันดีงามและกฎหมาย
วันนี้ ประเทศไทยก็กลับสู่ยุคข้าราชการเป็นใหญ่เต็มตัว
กรณีเรื่องอื้อฉาวงบปรับปรุงทำเนียบเกือบเจ็ดสิบล้านบาท ที่แพงเกินจริง
นี่ก็เน้นให้เห็นเรื่องรูปแบบครับ
ไมค์ ไฟ โต๊ะ เก้าอี้ ทีวี ฯลฯ
สุดหะรูหะรา
ไม่รู้มีความจำเป็นอะไร
อย่างที่มีภาพแปะเยอะแยะนั่นแหละครับ ครม.อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เขานั่งประชุมกันง่าย ๆ
เพราะเขาเน้นที่เนื้อหา ไม่ได้เน้นรูปแบบ
ของเรานั้น ต่อให้ไมค์อันละแสนล้าน แต่มาพูดว่าใต้ถุนต่ำใต้ถุนสูงอยู่นี่ มันจะมีค่าอะไร
เรือกสวนไร่นา มันมีเสาเหมือนบ้านซะที่ไหน คนวันนี้ใช้รถ ไม่ได้ใช้เรือ
ความเป็นไทยนั้น แทนที่จะเป็นความคิด ความสามารถ
กลับเป็นเรื่องชุดไทย แต่ขอโทษที มีแต่เทคโนโลยีทำเนียบขาวเต็มตึก
แถมนั่งเบนซ์ นั่งบีเอ็มมาประชุม
อยากหัวเราะให้หน้าขี้เหร่ (แต่จนใจ ฝึกทะไรก็ทำมะเปง)
ก็บ่นไปงั้นล่ะครับ ประสาราษฎรเต็มขั้นตาดำ ๆ หน้าหล่อ ๆ
เมื่อย จบ
เขียนเรื่องระบบราชการไทยแล้ว ทำให้นึกถึงเต่า