ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าขอบคุณมากๆคับที่เข้ามาอ่าน ในเรื่องที่ผมอยากจะมาแบ่งปัน เรื่องมีอยู่ว่า
ผมอายุ21ปี คับ จิงๆขอท้าวความก่อนนะคับ เมื่อปีที่แล้ว วันเข้าพรรษา ผมได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่วัดที่ผมไปทำบุญถวายเทียนพรรษาซึ่งผมไปกับพี่ที่ทำงาน คือไม่ได้สนิทไรนักหรอกแต่ในออฟฟิตมีอยุ่2คนแค่ผมกับพี่เค้า พี่เค้าเป็นผญ. อยุ่ในคอนโดส่วนนิติบุคคล ซึ่งผมได้เค้าไปทำงานไม่ถึงอาทิต ปกติทุกๆเที่ยงเวลาพักทานข้าว ก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปหาไรกินของแต่ละคน แต่เผอิญวันนั้นเป็นวันเข้าพรรษา พี่เค้าก็ชวนผมไปทำบุญที่วัดๆนึง ผมก็ได้ไป แล้วก็ไปเจอกับเพื่อนของพี่ผมอีกนับเกือบ10คน และเพื่อนพี่คนนี้แหละที่ให้ผมถ่ายรูปให้พี่เค้า ที่จิงผมเป็นคนชอบทำบุญอยู้แล้วโดนนิสัยส่วนตัวผม หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ต่างคนต่างแยกย้าย แต่ด้วยผมไปกับพี่ก็ได้นัดกันไปกินสตาร์บัค กัน2คน รวมผมด้วยก็3คน แต่เพื่อนพี่ผมเค้าส่ั่งน้ำแร่ กับขนมปังที่ผมไม่เคยกิน เค้าก็บอกให้ผมลองชิมดู แต่ผมเป็นคนขี้เกรงใจ เลยบอกไม่เอากินไม่เป็น เค้าเลยบอกว่าพี่ไม่ใส่ยาเสน่ห์หรอก คือในใจผมคิดไว้นะว่า ไม่ต้องใส่ผมก็หลงละ (คิดในใจนะแล้วก็ยิ้มๆ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบคนน่ารัก คนหน้าตาดี มีเสน่ห์ แฟนทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตหน้าตาดีเกิอบทุกคน แต่สำหรับคนนี้ไม่เลย แต่ก็เพราะอะไรสาเหตุใดไม่รู้ ผมถึงมองเค้าสวยในมุมของผม ผมห่างกับพี่เค้า13ปี เค้าเกิด23 ผมเกิด36 หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรวันรุ่งขึ้นผมก็ได้ถามพี่เค้าว่าเค้ามีแฟนรึยัง พี่ที่คอนโดบอกยัง แต่มีลูกแล้วหย่ากับสามี ผมเลยขอลายเค้า และก็คุยกันในลาย บ้านเค้ากับบ้านผมอยู่ใกล้กัน แต่ก็ไม่ได้ใกล้มาก แล้วในทุกๆเย็นช่วงนั้นที่เพิ่งรู้จักกันคุยลายกัน ก็ชอบไปนั่งกินเบียร์ทุกๆเย็น ตามร้านบ้าง ในรถบ้าง รถพี่เค้าบ้าง รถพี่เค้าจะเปิดซันลูปได้ ก็ไปแถวชายหาด ภูเขา แล้วเราก็เริ่มสนิทกัน จนกระทั่งไม่ถึงเดือนเราได้ลึกซึ้งแต่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ คือมีเซ็กกันแล้ว แล้วก็เป็นแฟนกันมา ต้องยอมรับว่าตอนนั้นเป็นความหลงรักพี่เค้าแบบไม่รู้ว่าเพราะอะไร ห่างกัน13ปี จิงๆผมชอบคนอายุเดียวกันหรือโตกว่าเด็กกว่าบวกลบปี-2ปี แต่นี่13ปีแต่ทำไงได้ผมหลงเค้าไปแล้วก็เหมือนกับทุกๆคนที่มีแฟน ต้องมีทั้งทุกข์และสุขปนๆกันไป ทะเลาะกันบ้าง แต่สำหรับผมเวลาทะเลาะกันต่างฝ่ายต่างเงียบ ฐิฐิดใส่กัน ไม่คุยกันหายไปเป็นวันๆ จนพี่ที่คอนโดบอก เราเป็นผู้ชายเราง้อแฟนเรา ไม่น่าอายหรอก (คือตอนนั้นอีโก้เยอะมั้ง) แล้วก็กลายเป็นเวลาทะเลาะกันผมเป็นคนง้อทุกครั้งไม่ว่าจะผิดหรือไม่ ก็เป็นปกติ แต่เราไม่ค่อยเข้าใจกัน ผมเป็นเด็กผมคิดกับสิ่งที่อยากได้ไม่เหมือนกันในมุมมองของพี่เค้าคิอโตมาครึ่งชีวิต เคยแต่งงาน และมีลูกแล้ว ลูกเค้าอายุ9ขวบแล้ว ป.4 ซึ่งบ้านพี่เค้าค่อนข้างมีฐานะร่ำรวย แล้วเรื่องหรือความเข้าใจเราไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ แต่ก่อนในอดีต ผมโดนผญ สปอย อยากได้ไรก็มีคนซื้อให้ อยากกินไรก็เลี้ยง หรือดีที่สุดคือต่างคนต่างออก คือ(ในอดีตผมเห็นแก่ตัวมากๆ)แต่แฟนเก่าพี่เค้าให้เงินให้เดิอนละแสน เลี้ยงข้าว ไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน3เดือน แต่ผมเองไม่เคยเลี้ยงพี่เค้าเลย และพี่เค้าชอบกินอาหารแพงๆ แต่สำหรับผมไม่ค่อยสักเท่าไหร ทุกๆอาทิตเค้าจะชอบกินอาหารญี่ปุ่น Fujiบ้าง zenบ้าง และทุกครั้งที่ไปกินก็จะชวนผมไป ผมรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขเลย เพราะไม่ค่อยมีตังค์ เลยต้องหาเหตุผลไปว่าไม่หิวบ้างกินมาแล้วบ้างก็มนอดีตเพราะกินแต่ข้าวจานละ25-50บาท พอมากินของแพงๆเราเลยรู้สึกเสียดาย เพราะกินบ้อยด้วยมั้ง อีกอย่างไม่ได้มีฐานะทางบ้านร่ำรวย (ผมจะโดนสอนตลอดว่าใช้เงินให้ประหยัด เพราะผมเห็นแม่ผมมาตั้งแต่ผมยังเด็กแม่ผมเองใช้ประหยัด แม่รับราชการ) มีครั้งหนึ่งไปกินข้าวกับเพื่อนผมด้วยกันคือแล้วเพื่อนก็แบบเล้าๆ แบบแซวว่าให้เลี้ยง พี่เค้าเลยพูดว่าเบ้นไม่เลี้ยงหรอก แค่70บาทยังต้องมานั่งหารกัน เพื่อนผมก็อึ้งๆนะ คือในมุมมองผมเค้าทำงานเดือนนึงได้3-4หมื่น ผมไม่ได้ให้เค้ามาเลี้ยงนะ แต่ก็ไม่เข้าใจผมเงินไม่ถึงหมื่นเลย มันเลยทำให้ผมแอคถีบตัวเองมั้ง (แต่กับเรื่องเสื้อผ้าแฟชั่น ผมซื้อได้ไม่ว่าจะกี่บาทแพงแค่ไหนก็ตาม)เพราะผมชอบมั้ง อีกอย่างผมทำแล้วมีความสุขมันคือสิ่งที่ผมชอบ แต่พี่เค้าไม่ได้มองแบบนี้ เค้ากลับมองว่าผมไม่มีน้ำใจ (แต่มันก็จิงหละ)เค้ามักจะบอกผมซื้อนั่นนี่ได้ตลอดแต่กะเค้าบอกไม่มีตัง ซึ่งก็จิงเค้าให้ความสำคัญกับเรื่องกินแต่ผมให้ความสำคัญกับเรื่องเสื้อผ้า ทีนี้พี่เค้าเองใส่Rolex คือผมเองก็ไม่รู้ว่ามันแพงแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเล่นพวกนาฬิกาเป็นไฮเอ็น ผมซื้อใส่แต่Mido เรือนละ2-3หมื่นต้องยอมรับเลยว่า ผมอยากมี คือเหมือนผมพยายามจะถีบตัวเองให้เทียบเท่าพี่เค้าในความคิดผมตอนนั้นนะคับจนกระทั่งมีงานหมาที่ห้าง ผมก็ได้พาหมาผมไป พี่เค้าก็ไป แล้วผมขึ้นไปโชวหมาแล้วได้รางวัลเป็นกิฟว้อยเช่อ คือถ่ายรูปPrewedding ผมก็ไม่รู้ว่ามันคือไร ณ.\ตอนนั้นแต่ก็รู้ว่าเป็นร้านถ่ายรูป ผมก็คิดว่าถ่ายรูปครอบครัวรึป่าว แล้วผมก็เช้าใจว่าถ่ายรุปแต่งงาน ผมก็ได้ไปถ่ายกับพี่เค้า จนกระทั่งที่ร้านให้รูปออกมา1รูปใหญ่ๆ ผมก็เอาไปใส่กรอบและติดที่ฝาผนังคิอต้องบอกเลยว่า(ผมเวลามีแฟนผมจะไม่มีคนอื่น แต่แค่มองเท่านั้น ผมจซื้อสัตย์กับแฟนผมแบบนี้ทุกคน ไม่คบซ้อนคนไม่มีกิ๊ก) แต่ตลอดเวลาเหมือนผมหลอกตัวเองว่ามีความสุข หลายๆคนบอกทำไมต้องคบรุ่นป้า แก่กว่าด้วย แต่ผมเองกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าอายจิงๆพี่เค้าเป็นคนดี แต่ข้อเสียก็มีกันบ้าง จนกระทั่งมีเหตุการณ์นึงคิอเราทะเลาะกันแรง แล้วผมก็ทำร้ายพี่เค้า เพราะว่า อารมณ์ขอแต่ละคนแรง แล้วอีกอย่างผมขอโทดเค้าแต่เหมือนเค้ามีฐิดฐิเราทะเลาะกันตอนกลางคืน อีกวันผมต้องไปมาเลเซียกับสิงโปรเกือบอาทิต เค้าไม่รับสายผม หรือรับแต่ก็ไม่คุย ผมก็พยายามง้อเค้าจนสำเร็จก็กลับมาคุยกันปกติเหมือนเดิมและเวลาทะเลาะกันก็เป็นแบบเดิมเค้าก็ไม่ยอมผมขอโทษเค้าก็ไม่ยอม
จนจุดตัดของเรื่องนี้เลยคือ พี่เค้าท้องกับผม คือตอนตรวจเด็ก4สัปดาห์ ผมทำไรก็กลายเป็นผิดในสายตาเค้าตลอด ไม่ดูแลเค้า้ ผมก็ไม่รู้จะทำไงผมก็บอกแม่ผม แต่ด้วยที่บ้านเข้าใจ (คือที่ผ่านมาไม่ได้ป้องกันรู้ว่าผิด แต่เดี๋ยวจะพูดให้ฟังทีหลังว่าทำไมถึงเกิดขึ้นได้)
ตอนนั้นเราเลยเลิกกัน คิดว่าคงจิงหละ(เราเลิกกันมาเกือบ100รอบได้) ผมก็ได้มีแฟนใหม่แต่ในใจยังติดตังอะไรกับพี่เค้าอยู่ืเพราะลูกไง ลูกอยู่ในท้องเค้า ผมไม่อยากให้เด็กเกิดมามีปันหา
และนี่ก็เป็นอีกเรื่อง(เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนตัวนะคับ) ตอนคบกับพี่เค้าผมได้มีโอกาสรู้จักกับป้าคนนึง เปิดร้านตัดเสื้อแถวๆบ้านพี่เค้า แล้วทีวันนึงผมไปเอาเสื้อให้พี่เค้า เลยคุยถูกคอกัน แต่ไม่รู้มาก่อนว่าเค้าดูดวงได้ด้วยแต่ไม่ดูให้คนทั่วไป (ต้องบอกก่อนเลยว่าผมเองไม่เชื่อเรื่องหมอดูหรือเรื่องไรพวกนี้หรอก แต่ชอบไปดูไผ่ยอปซี เพราะอยากรู้แต่ไม่เชื่อ ) แต่ป้าที่ร้านตัดเสื้อผมทักเค้าให้เค้าดูให้ เค้าทักผมมาว่า เดี๋ยวพี่เค้าจะโทรมาหาผม มันจะมีเรื่องบังเอิญ ผมก็บอกไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้คุยกันเป็นเดือนแล้วหลังจากนั้นอีก2วัน พี่เค้าโทรมาหาผมจิง ทีเรื่องให้ช่วยคือพี่เค้าขับรถไม่ไหว ผมก็ไปขับรถให้ แล้วเค้าก็เลี้ยงข้าวผม ก็เสร็จไปหนึ่งวันไม่มีไร แล้ววันรุ่งขึ้นก็เลยบอกให้ผมไปกินข้าวเป็นเพื่อน (แต่ผมยังคุยกับอีกคนอยู่)แต่ด้วยเรื่องราวมันบังเอิญ คนที่ผมคุยอีกคนเค้าไม่ว่างทั้งๆที่เรานัดกินข้าวกันแต่เค้าไม่รับสาย ผมเลยต้องไปกับพี่เค้า แล้วเราก็ไม่คุยกันแต่ก็กินข้าวด้วยกัน (ผมลืมบอกลูกของผมที่มีกับพี่เค้าต้องเอาออกเพราะ พี่เค้าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง ตอนนั้นตัดสินใจอยุ่ว่ายังไง เพราะยาที่เค้ากินมัผลต่อเด็ก เค้าทดลองกับสัตว์ลูกออกมาพิการ ก็เลยต้องเอาออก แต่โดยมีหมอ เซ็นยินยอม และมีหมอควบคุมเอาออกที่รพ. ) และด้วยความที่ผมไม่เชื่อไรใครง่ายๆ เป็นคนหัวดื่อ รั่น ไม่เจอกับตัวไม่รู้ ป้าร้านเสื้อนั่นละบอกให้ผมบวช ผมอายุครบ20ตอนนั้นนะ แต่ก็ได้แต่คิด จนกระทั่งมีเรื่องนี้เข้ามา ถึงได้บวช ก็เลยบอกพี่เค้าว่าจะบวช แล้วก็ปรับความเข้าใจกันร้องไห้ กอดกัน ผมก็รู้สึกว่าผมเลือกอีกคน แต่มากอดกันคนเก่าอยู่ เลยคิดว่ามันไม่เหมาะ แต่ถามใจลึกๆแล้วเราใจเราก็ยังอยู่กับคนเก่าอยู่
(คือต้องบอกว่าที่ผมเชื่อป้าเค้าเพราะทุกๆครั้งไปหาเค้าบอกให้ผมทำบุญเสมอ ตอนนี้ผมกลายเป็นเชื่อเรื่องนี้ไปเลย แต่กับแค่ป้าคนเดียวนะ แต่ก่อนเชื่อว่าผมสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้ เพราะผมเคยอ่านหนังสือของบัณทิต ชื่อ 30วิธีเอาชนะโชคชะตา มันคงเป็น1ในล้านแหละ และเรื่องลูกผมเองที่บอกว่าจะบอกตอนท้ายคือป้าบอกว่าเด็กไม่ได้ตั้งใจมาเกิด เป็นกรรมของเด็ก พยายามทำบุญให้เค้า )
แล้วที่คุยกันอีกวันผมต้องไปอยู่วัดเพื่อสงบสติและท่องบทบวช ณ.ตอนนั้นตรงกับวันสงกรานพอดี(คือต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกผมคิดว่าใครๆก็บวชได้ แต่พอผมอยู่วัดกลับเข้าใจว่า จิงๆมันต้องเป็นคนที่มีบุญด้วย ผมบวชได้14วัน) แล้วก็คุยกับพี่เค้าทุกวัน แล้วคนที่ผมคุยด้วยคนใหม่ ผมบอกเค้าแล้วผมจะบวช แล้ววันที่ไปหาพี่เค้าผมก็โทรไปหาเค้าแต่เค้าไม่รับกลับไปกับน้องสาว แต่ผมเข้าใจและก็คิดว่าผมจะเข้าวัดถ้าเข้าแล้วก็อยู่วัดเป็นเดือน เลยทำให้ผมกลับมาเลือกพี่เค้า (แต่จิงๆแล้วก็คือข่ออ้าง) พี่เค้าก็ทาช่วยงานบวชพับเหรียญ แต่ผมก็บอกชวนแฟนเก่าและเฉพาะคนที่สนิทจิงๆ เพราะผมคิดว่าผมบวชให้พ่อแม่ และลูก ไม่ใช้คนอื่น ผมเห็นเพื่อนชวนบางคนมาบ้างไม่มาบ้าง ก็เลยไม่ค่อยอยากชวน แต่สำคัญคือพ่อแม่ต้องมา แค่นั้น หลังจากบวชเสร็จศึกออกมา ผมก็คบกับพี่เค้าเป็นปกติ ต่อไปประมาน2อาทิต ไม่เคยทะเลาะกันเลย จนทะเลาะกันก็แรง เป็นครั้งแรกๆเลยก็ว่าได้ที่เค้าง้อผม เพราะรักมั้งแต่เค้าเป็นคนขี้น้อยใจ เริ่องของแต่งตัวเสื้อผ้าผม (จนกระทั้งผมมีนาฬิกาAudemars Piuget หรือAp ราคา520,000 เพราะความที่ผมอยากได้และอยากเอาชนะมั้งตอนนั้นนะ ไม่รู้เพราะไร แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ใส่ได้เกิอบเดือนก็ขาย และไปซื้อ Patek Phillipe 5711 ราคา750,000 ก็มห้พี่เค้าดู (จิงๆผมมารู้ตอนหลังว่าผมทำไม่ถูกหรอก)ผมบอกไม่มีตัง แต่พอเป็นสิ่งของเครื่องแต่งตัว กลับซื้อได้ไม่เคยคิดว่าแพง เพราะไร เพราะผมชอบ ผมอยากได้
และรอบล่าสุด ที่ผ่านมาทะเลาะกันแรงมาก เหมือนๆทุกๆครั้ง ผมเองก็ได้ทำร้ายเค้าเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้คุยกันไม่รู้เรื่องด้วยหละ เลิกกัน จิงๆแล้ว แต่สิ่งที่ผมได้คือ ผมได้ไปหาหมอดูคนหนึ่งซึ่งตอนบวช มีคนมาบวชเพราะดูหมอบอกว่าบวชแล้วแม่จะอาการดีขึ้น จิงๆตอนนั้นขอเบอหมอแล้วมีอยุ่ในเครื่องแต่ไม่โทรไป จนเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมเลยได้ไปหาหมอดูคนนี้ แต่เค้าทักผมว่า ผมบวชไม่ครบ ผมบอกใช่ เพราะตั้งใจ15วัน แต่บวช14วันศึกก่อนวันนึง เพราะที่ผมดูเป็นไพ่ยิปซี หมอบอกว่าเค้ากำลังมาทวงสัญญา ผมต้องไปอยุ่วัดห่มขาว3วัน ผมก็เอะใจ แต่ก็ตามเคยคับ ผมไม่เชื่อหมอดู แต่ผมก็ไตร่ตรองเรื่องนี้ไม่อยากเล่นกับเรื่องพวกนี้ ตอนเช้าประมานตี4ผมฝนตกหนัก มาก ฟ้าผ่า ผมเลยบอกกับตัวเองว่าจะเข้าวัด ผมเองเป็นคนใจร้อน ไม่ยอมคน ก็ลองคิดดูว่า ตอนคุณวัยรุ่น คุณเองคะนองใช้ชีวิตยอมใครที่ไหน ณ.วันที่ผมไปถึงวัดผมไปวัดเขาแตงอ่อน ศรีราชา ผมถามพี่ที่อยุ่ที่คอนโดเพื่อนพี่เค้าแหละ ว่าวัดไหนผมกลัวผี ตอนเข้าไปถึงแม่ชี พูดจาไม่ดีกับผม คือคิดไว้นะ(ถ้าเป็นแต่ก่อนผมกลับละ ผมเป็นคนไม่ทนไร ความอดทนน้อยมั้ง ผมไม่ชอบคนพูดไม่ดี แต่ลืมไปว่าคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน) ผมตั้งใจอยุ่3คืน ไปพุธบ่ายๆ ออกวันเสาร์เที่ยง แล้วผมก็ทำได้ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาจากแค่ไปบวชให้ครบ แต่ผมกลับได้เรื่องที่ผมตามหามาตลอดชีวิต
มีเรื่องไรบ้างนะหรอ
1.อารมผมเย็นขึ้น (เวลาขับรถผมจะชอบแกล้งพวกขับรถไม่ดีใส่พวกเตาะไฟใส่ ยดไฟสูง ป่ดหน้า ผมชอบขับรถไปข้างหน้าแล้วขับช้าๆ ผมอ่านเกมส์ในการขับรถได้ดีแต่ใช้ผิดวิธี
2.ผมเข้าใจว่าเพื่อนแท้ จิงๆแล้วมันไม่มีเลย(ป้าร้านเสื้อเคยบอกผมแต่ไม่เชื่อ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นจิง เพราะไรนะหรอ แต่ก่อนผมคิดว่าเวลามีเรื่อง เพื่อนแท้คือเพื่อนที่ยื่นมือหรือมาณ.จุดเกิดเหตุเลย แต้ในความเป็นจิงไม่ใช่แบบนั้น จิงๆวัดจากความอิจฉาริษยาต่างหาก ทุกคนมีมันอยุ่ในตัวเสมอ เพื่อนแท้คือไม่อิจฉาริษยากัน ย้อนดูตัวเราเองสิ ก็จิงนะ
จุดเปลี่ยนความรัก
ผมอายุ21ปี คับ จิงๆขอท้าวความก่อนนะคับ เมื่อปีที่แล้ว วันเข้าพรรษา ผมได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่วัดที่ผมไปทำบุญถวายเทียนพรรษาซึ่งผมไปกับพี่ที่ทำงาน คือไม่ได้สนิทไรนักหรอกแต่ในออฟฟิตมีอยุ่2คนแค่ผมกับพี่เค้า พี่เค้าเป็นผญ. อยุ่ในคอนโดส่วนนิติบุคคล ซึ่งผมได้เค้าไปทำงานไม่ถึงอาทิต ปกติทุกๆเที่ยงเวลาพักทานข้าว ก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปหาไรกินของแต่ละคน แต่เผอิญวันนั้นเป็นวันเข้าพรรษา พี่เค้าก็ชวนผมไปทำบุญที่วัดๆนึง ผมก็ได้ไป แล้วก็ไปเจอกับเพื่อนของพี่ผมอีกนับเกือบ10คน และเพื่อนพี่คนนี้แหละที่ให้ผมถ่ายรูปให้พี่เค้า ที่จิงผมเป็นคนชอบทำบุญอยู้แล้วโดนนิสัยส่วนตัวผม หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ต่างคนต่างแยกย้าย แต่ด้วยผมไปกับพี่ก็ได้นัดกันไปกินสตาร์บัค กัน2คน รวมผมด้วยก็3คน แต่เพื่อนพี่ผมเค้าส่ั่งน้ำแร่ กับขนมปังที่ผมไม่เคยกิน เค้าก็บอกให้ผมลองชิมดู แต่ผมเป็นคนขี้เกรงใจ เลยบอกไม่เอากินไม่เป็น เค้าเลยบอกว่าพี่ไม่ใส่ยาเสน่ห์หรอก คือในใจผมคิดไว้นะว่า ไม่ต้องใส่ผมก็หลงละ (คิดในใจนะแล้วก็ยิ้มๆ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบคนน่ารัก คนหน้าตาดี มีเสน่ห์ แฟนทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตหน้าตาดีเกิอบทุกคน แต่สำหรับคนนี้ไม่เลย แต่ก็เพราะอะไรสาเหตุใดไม่รู้ ผมถึงมองเค้าสวยในมุมของผม ผมห่างกับพี่เค้า13ปี เค้าเกิด23 ผมเกิด36 หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรวันรุ่งขึ้นผมก็ได้ถามพี่เค้าว่าเค้ามีแฟนรึยัง พี่ที่คอนโดบอกยัง แต่มีลูกแล้วหย่ากับสามี ผมเลยขอลายเค้า และก็คุยกันในลาย บ้านเค้ากับบ้านผมอยู่ใกล้กัน แต่ก็ไม่ได้ใกล้มาก แล้วในทุกๆเย็นช่วงนั้นที่เพิ่งรู้จักกันคุยลายกัน ก็ชอบไปนั่งกินเบียร์ทุกๆเย็น ตามร้านบ้าง ในรถบ้าง รถพี่เค้าบ้าง รถพี่เค้าจะเปิดซันลูปได้ ก็ไปแถวชายหาด ภูเขา แล้วเราก็เริ่มสนิทกัน จนกระทั่งไม่ถึงเดือนเราได้ลึกซึ้งแต่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ คือมีเซ็กกันแล้ว แล้วก็เป็นแฟนกันมา ต้องยอมรับว่าตอนนั้นเป็นความหลงรักพี่เค้าแบบไม่รู้ว่าเพราะอะไร ห่างกัน13ปี จิงๆผมชอบคนอายุเดียวกันหรือโตกว่าเด็กกว่าบวกลบปี-2ปี แต่นี่13ปีแต่ทำไงได้ผมหลงเค้าไปแล้วก็เหมือนกับทุกๆคนที่มีแฟน ต้องมีทั้งทุกข์และสุขปนๆกันไป ทะเลาะกันบ้าง แต่สำหรับผมเวลาทะเลาะกันต่างฝ่ายต่างเงียบ ฐิฐิดใส่กัน ไม่คุยกันหายไปเป็นวันๆ จนพี่ที่คอนโดบอก เราเป็นผู้ชายเราง้อแฟนเรา ไม่น่าอายหรอก (คือตอนนั้นอีโก้เยอะมั้ง) แล้วก็กลายเป็นเวลาทะเลาะกันผมเป็นคนง้อทุกครั้งไม่ว่าจะผิดหรือไม่ ก็เป็นปกติ แต่เราไม่ค่อยเข้าใจกัน ผมเป็นเด็กผมคิดกับสิ่งที่อยากได้ไม่เหมือนกันในมุมมองของพี่เค้าคิอโตมาครึ่งชีวิต เคยแต่งงาน และมีลูกแล้ว ลูกเค้าอายุ9ขวบแล้ว ป.4 ซึ่งบ้านพี่เค้าค่อนข้างมีฐานะร่ำรวย แล้วเรื่องหรือความเข้าใจเราไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ แต่ก่อนในอดีต ผมโดนผญ สปอย อยากได้ไรก็มีคนซื้อให้ อยากกินไรก็เลี้ยง หรือดีที่สุดคือต่างคนต่างออก คือ(ในอดีตผมเห็นแก่ตัวมากๆ)แต่แฟนเก่าพี่เค้าให้เงินให้เดิอนละแสน เลี้ยงข้าว ไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน3เดือน แต่ผมเองไม่เคยเลี้ยงพี่เค้าเลย และพี่เค้าชอบกินอาหารแพงๆ แต่สำหรับผมไม่ค่อยสักเท่าไหร ทุกๆอาทิตเค้าจะชอบกินอาหารญี่ปุ่น Fujiบ้าง zenบ้าง และทุกครั้งที่ไปกินก็จะชวนผมไป ผมรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขเลย เพราะไม่ค่อยมีตังค์ เลยต้องหาเหตุผลไปว่าไม่หิวบ้างกินมาแล้วบ้างก็มนอดีตเพราะกินแต่ข้าวจานละ25-50บาท พอมากินของแพงๆเราเลยรู้สึกเสียดาย เพราะกินบ้อยด้วยมั้ง อีกอย่างไม่ได้มีฐานะทางบ้านร่ำรวย (ผมจะโดนสอนตลอดว่าใช้เงินให้ประหยัด เพราะผมเห็นแม่ผมมาตั้งแต่ผมยังเด็กแม่ผมเองใช้ประหยัด แม่รับราชการ) มีครั้งหนึ่งไปกินข้าวกับเพื่อนผมด้วยกันคือแล้วเพื่อนก็แบบเล้าๆ แบบแซวว่าให้เลี้ยง พี่เค้าเลยพูดว่าเบ้นไม่เลี้ยงหรอก แค่70บาทยังต้องมานั่งหารกัน เพื่อนผมก็อึ้งๆนะ คือในมุมมองผมเค้าทำงานเดือนนึงได้3-4หมื่น ผมไม่ได้ให้เค้ามาเลี้ยงนะ แต่ก็ไม่เข้าใจผมเงินไม่ถึงหมื่นเลย มันเลยทำให้ผมแอคถีบตัวเองมั้ง (แต่กับเรื่องเสื้อผ้าแฟชั่น ผมซื้อได้ไม่ว่าจะกี่บาทแพงแค่ไหนก็ตาม)เพราะผมชอบมั้ง อีกอย่างผมทำแล้วมีความสุขมันคือสิ่งที่ผมชอบ แต่พี่เค้าไม่ได้มองแบบนี้ เค้ากลับมองว่าผมไม่มีน้ำใจ (แต่มันก็จิงหละ)เค้ามักจะบอกผมซื้อนั่นนี่ได้ตลอดแต่กะเค้าบอกไม่มีตัง ซึ่งก็จิงเค้าให้ความสำคัญกับเรื่องกินแต่ผมให้ความสำคัญกับเรื่องเสื้อผ้า ทีนี้พี่เค้าเองใส่Rolex คือผมเองก็ไม่รู้ว่ามันแพงแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเล่นพวกนาฬิกาเป็นไฮเอ็น ผมซื้อใส่แต่Mido เรือนละ2-3หมื่นต้องยอมรับเลยว่า ผมอยากมี คือเหมือนผมพยายามจะถีบตัวเองให้เทียบเท่าพี่เค้าในความคิดผมตอนนั้นนะคับจนกระทั่งมีงานหมาที่ห้าง ผมก็ได้พาหมาผมไป พี่เค้าก็ไป แล้วผมขึ้นไปโชวหมาแล้วได้รางวัลเป็นกิฟว้อยเช่อ คือถ่ายรูปPrewedding ผมก็ไม่รู้ว่ามันคือไร ณ.\ตอนนั้นแต่ก็รู้ว่าเป็นร้านถ่ายรูป ผมก็คิดว่าถ่ายรูปครอบครัวรึป่าว แล้วผมก็เช้าใจว่าถ่ายรุปแต่งงาน ผมก็ได้ไปถ่ายกับพี่เค้า จนกระทั่งที่ร้านให้รูปออกมา1รูปใหญ่ๆ ผมก็เอาไปใส่กรอบและติดที่ฝาผนังคิอต้องบอกเลยว่า(ผมเวลามีแฟนผมจะไม่มีคนอื่น แต่แค่มองเท่านั้น ผมจซื้อสัตย์กับแฟนผมแบบนี้ทุกคน ไม่คบซ้อนคนไม่มีกิ๊ก) แต่ตลอดเวลาเหมือนผมหลอกตัวเองว่ามีความสุข หลายๆคนบอกทำไมต้องคบรุ่นป้า แก่กว่าด้วย แต่ผมเองกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าอายจิงๆพี่เค้าเป็นคนดี แต่ข้อเสียก็มีกันบ้าง จนกระทั่งมีเหตุการณ์นึงคิอเราทะเลาะกันแรง แล้วผมก็ทำร้ายพี่เค้า เพราะว่า อารมณ์ขอแต่ละคนแรง แล้วอีกอย่างผมขอโทดเค้าแต่เหมือนเค้ามีฐิดฐิเราทะเลาะกันตอนกลางคืน อีกวันผมต้องไปมาเลเซียกับสิงโปรเกือบอาทิต เค้าไม่รับสายผม หรือรับแต่ก็ไม่คุย ผมก็พยายามง้อเค้าจนสำเร็จก็กลับมาคุยกันปกติเหมือนเดิมและเวลาทะเลาะกันก็เป็นแบบเดิมเค้าก็ไม่ยอมผมขอโทษเค้าก็ไม่ยอม
จนจุดตัดของเรื่องนี้เลยคือ พี่เค้าท้องกับผม คือตอนตรวจเด็ก4สัปดาห์ ผมทำไรก็กลายเป็นผิดในสายตาเค้าตลอด ไม่ดูแลเค้า้ ผมก็ไม่รู้จะทำไงผมก็บอกแม่ผม แต่ด้วยที่บ้านเข้าใจ (คือที่ผ่านมาไม่ได้ป้องกันรู้ว่าผิด แต่เดี๋ยวจะพูดให้ฟังทีหลังว่าทำไมถึงเกิดขึ้นได้)
ตอนนั้นเราเลยเลิกกัน คิดว่าคงจิงหละ(เราเลิกกันมาเกือบ100รอบได้) ผมก็ได้มีแฟนใหม่แต่ในใจยังติดตังอะไรกับพี่เค้าอยู่ืเพราะลูกไง ลูกอยู่ในท้องเค้า ผมไม่อยากให้เด็กเกิดมามีปันหา
และนี่ก็เป็นอีกเรื่อง(เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนตัวนะคับ) ตอนคบกับพี่เค้าผมได้มีโอกาสรู้จักกับป้าคนนึง เปิดร้านตัดเสื้อแถวๆบ้านพี่เค้า แล้วทีวันนึงผมไปเอาเสื้อให้พี่เค้า เลยคุยถูกคอกัน แต่ไม่รู้มาก่อนว่าเค้าดูดวงได้ด้วยแต่ไม่ดูให้คนทั่วไป (ต้องบอกก่อนเลยว่าผมเองไม่เชื่อเรื่องหมอดูหรือเรื่องไรพวกนี้หรอก แต่ชอบไปดูไผ่ยอปซี เพราะอยากรู้แต่ไม่เชื่อ ) แต่ป้าที่ร้านตัดเสื้อผมทักเค้าให้เค้าดูให้ เค้าทักผมมาว่า เดี๋ยวพี่เค้าจะโทรมาหาผม มันจะมีเรื่องบังเอิญ ผมก็บอกไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้คุยกันเป็นเดือนแล้วหลังจากนั้นอีก2วัน พี่เค้าโทรมาหาผมจิง ทีเรื่องให้ช่วยคือพี่เค้าขับรถไม่ไหว ผมก็ไปขับรถให้ แล้วเค้าก็เลี้ยงข้าวผม ก็เสร็จไปหนึ่งวันไม่มีไร แล้ววันรุ่งขึ้นก็เลยบอกให้ผมไปกินข้าวเป็นเพื่อน (แต่ผมยังคุยกับอีกคนอยู่)แต่ด้วยเรื่องราวมันบังเอิญ คนที่ผมคุยอีกคนเค้าไม่ว่างทั้งๆที่เรานัดกินข้าวกันแต่เค้าไม่รับสาย ผมเลยต้องไปกับพี่เค้า แล้วเราก็ไม่คุยกันแต่ก็กินข้าวด้วยกัน (ผมลืมบอกลูกของผมที่มีกับพี่เค้าต้องเอาออกเพราะ พี่เค้าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง ตอนนั้นตัดสินใจอยุ่ว่ายังไง เพราะยาที่เค้ากินมัผลต่อเด็ก เค้าทดลองกับสัตว์ลูกออกมาพิการ ก็เลยต้องเอาออก แต่โดยมีหมอ เซ็นยินยอม และมีหมอควบคุมเอาออกที่รพ. ) และด้วยความที่ผมไม่เชื่อไรใครง่ายๆ เป็นคนหัวดื่อ รั่น ไม่เจอกับตัวไม่รู้ ป้าร้านเสื้อนั่นละบอกให้ผมบวช ผมอายุครบ20ตอนนั้นนะ แต่ก็ได้แต่คิด จนกระทั่งมีเรื่องนี้เข้ามา ถึงได้บวช ก็เลยบอกพี่เค้าว่าจะบวช แล้วก็ปรับความเข้าใจกันร้องไห้ กอดกัน ผมก็รู้สึกว่าผมเลือกอีกคน แต่มากอดกันคนเก่าอยู่ เลยคิดว่ามันไม่เหมาะ แต่ถามใจลึกๆแล้วเราใจเราก็ยังอยู่กับคนเก่าอยู่
(คือต้องบอกว่าที่ผมเชื่อป้าเค้าเพราะทุกๆครั้งไปหาเค้าบอกให้ผมทำบุญเสมอ ตอนนี้ผมกลายเป็นเชื่อเรื่องนี้ไปเลย แต่กับแค่ป้าคนเดียวนะ แต่ก่อนเชื่อว่าผมสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้ เพราะผมเคยอ่านหนังสือของบัณทิต ชื่อ 30วิธีเอาชนะโชคชะตา มันคงเป็น1ในล้านแหละ และเรื่องลูกผมเองที่บอกว่าจะบอกตอนท้ายคือป้าบอกว่าเด็กไม่ได้ตั้งใจมาเกิด เป็นกรรมของเด็ก พยายามทำบุญให้เค้า )
แล้วที่คุยกันอีกวันผมต้องไปอยู่วัดเพื่อสงบสติและท่องบทบวช ณ.ตอนนั้นตรงกับวันสงกรานพอดี(คือต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกผมคิดว่าใครๆก็บวชได้ แต่พอผมอยู่วัดกลับเข้าใจว่า จิงๆมันต้องเป็นคนที่มีบุญด้วย ผมบวชได้14วัน) แล้วก็คุยกับพี่เค้าทุกวัน แล้วคนที่ผมคุยด้วยคนใหม่ ผมบอกเค้าแล้วผมจะบวช แล้ววันที่ไปหาพี่เค้าผมก็โทรไปหาเค้าแต่เค้าไม่รับกลับไปกับน้องสาว แต่ผมเข้าใจและก็คิดว่าผมจะเข้าวัดถ้าเข้าแล้วก็อยู่วัดเป็นเดือน เลยทำให้ผมกลับมาเลือกพี่เค้า (แต่จิงๆแล้วก็คือข่ออ้าง) พี่เค้าก็ทาช่วยงานบวชพับเหรียญ แต่ผมก็บอกชวนแฟนเก่าและเฉพาะคนที่สนิทจิงๆ เพราะผมคิดว่าผมบวชให้พ่อแม่ และลูก ไม่ใช้คนอื่น ผมเห็นเพื่อนชวนบางคนมาบ้างไม่มาบ้าง ก็เลยไม่ค่อยอยากชวน แต่สำคัญคือพ่อแม่ต้องมา แค่นั้น หลังจากบวชเสร็จศึกออกมา ผมก็คบกับพี่เค้าเป็นปกติ ต่อไปประมาน2อาทิต ไม่เคยทะเลาะกันเลย จนทะเลาะกันก็แรง เป็นครั้งแรกๆเลยก็ว่าได้ที่เค้าง้อผม เพราะรักมั้งแต่เค้าเป็นคนขี้น้อยใจ เริ่องของแต่งตัวเสื้อผ้าผม (จนกระทั้งผมมีนาฬิกาAudemars Piuget หรือAp ราคา520,000 เพราะความที่ผมอยากได้และอยากเอาชนะมั้งตอนนั้นนะ ไม่รู้เพราะไร แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ใส่ได้เกิอบเดือนก็ขาย และไปซื้อ Patek Phillipe 5711 ราคา750,000 ก็มห้พี่เค้าดู (จิงๆผมมารู้ตอนหลังว่าผมทำไม่ถูกหรอก)ผมบอกไม่มีตัง แต่พอเป็นสิ่งของเครื่องแต่งตัว กลับซื้อได้ไม่เคยคิดว่าแพง เพราะไร เพราะผมชอบ ผมอยากได้
และรอบล่าสุด ที่ผ่านมาทะเลาะกันแรงมาก เหมือนๆทุกๆครั้ง ผมเองก็ได้ทำร้ายเค้าเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้คุยกันไม่รู้เรื่องด้วยหละ เลิกกัน จิงๆแล้ว แต่สิ่งที่ผมได้คือ ผมได้ไปหาหมอดูคนหนึ่งซึ่งตอนบวช มีคนมาบวชเพราะดูหมอบอกว่าบวชแล้วแม่จะอาการดีขึ้น จิงๆตอนนั้นขอเบอหมอแล้วมีอยุ่ในเครื่องแต่ไม่โทรไป จนเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมเลยได้ไปหาหมอดูคนนี้ แต่เค้าทักผมว่า ผมบวชไม่ครบ ผมบอกใช่ เพราะตั้งใจ15วัน แต่บวช14วันศึกก่อนวันนึง เพราะที่ผมดูเป็นไพ่ยิปซี หมอบอกว่าเค้ากำลังมาทวงสัญญา ผมต้องไปอยุ่วัดห่มขาว3วัน ผมก็เอะใจ แต่ก็ตามเคยคับ ผมไม่เชื่อหมอดู แต่ผมก็ไตร่ตรองเรื่องนี้ไม่อยากเล่นกับเรื่องพวกนี้ ตอนเช้าประมานตี4ผมฝนตกหนัก มาก ฟ้าผ่า ผมเลยบอกกับตัวเองว่าจะเข้าวัด ผมเองเป็นคนใจร้อน ไม่ยอมคน ก็ลองคิดดูว่า ตอนคุณวัยรุ่น คุณเองคะนองใช้ชีวิตยอมใครที่ไหน ณ.วันที่ผมไปถึงวัดผมไปวัดเขาแตงอ่อน ศรีราชา ผมถามพี่ที่อยุ่ที่คอนโดเพื่อนพี่เค้าแหละ ว่าวัดไหนผมกลัวผี ตอนเข้าไปถึงแม่ชี พูดจาไม่ดีกับผม คือคิดไว้นะ(ถ้าเป็นแต่ก่อนผมกลับละ ผมเป็นคนไม่ทนไร ความอดทนน้อยมั้ง ผมไม่ชอบคนพูดไม่ดี แต่ลืมไปว่าคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน) ผมตั้งใจอยุ่3คืน ไปพุธบ่ายๆ ออกวันเสาร์เที่ยง แล้วผมก็ทำได้ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาจากแค่ไปบวชให้ครบ แต่ผมกลับได้เรื่องที่ผมตามหามาตลอดชีวิต
มีเรื่องไรบ้างนะหรอ
1.อารมผมเย็นขึ้น (เวลาขับรถผมจะชอบแกล้งพวกขับรถไม่ดีใส่พวกเตาะไฟใส่ ยดไฟสูง ป่ดหน้า ผมชอบขับรถไปข้างหน้าแล้วขับช้าๆ ผมอ่านเกมส์ในการขับรถได้ดีแต่ใช้ผิดวิธี
2.ผมเข้าใจว่าเพื่อนแท้ จิงๆแล้วมันไม่มีเลย(ป้าร้านเสื้อเคยบอกผมแต่ไม่เชื่อ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นจิง เพราะไรนะหรอ แต่ก่อนผมคิดว่าเวลามีเรื่อง เพื่อนแท้คือเพื่อนที่ยื่นมือหรือมาณ.จุดเกิดเหตุเลย แต้ในความเป็นจิงไม่ใช่แบบนั้น จิงๆวัดจากความอิจฉาริษยาต่างหาก ทุกคนมีมันอยุ่ในตัวเสมอ เพื่อนแท้คือไม่อิจฉาริษยากัน ย้อนดูตัวเราเองสิ ก็จิงนะ