วันนี้อยากพูดถึง พวกนักวิจารณ์ที่อยู่ดีๆก็สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็น นักวิจารณ์มืออาชีพครับ พวกเค้าทั้งคู่เป็นคนที่ผมบังเอิญได้เป็นเพื่อนในFacebook ครับ คนนึงเป็นพวกแฟนคลับเดนตายของค่ายหนังค่ายนึง(ต่อไปผมขอเรียกเค้าว่าคุณติ่ง) ส่วนอีกคนเป็นกะเทยแก่ที่เกลียดหนังเกย์กะเทยเป็นชิวิตจิตใจ(ต่อไปผมขอเรียกเค้าว่าคุณ ดอก) ทั้งสองคนนี้เป็นนักวิจารณ์ที่สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นมืออาชีพ ทั้งคู่เป็นแอดมินเพจวิจารณ์หนังที่มีคนกดLikeคุณติ่งหลักหมื่น ส่วนคุณดอกหลักเกือบหมื่น ครับ
เหตุการณ์ที่1
ไม่ให้บัตรฟรี ไม่เชิญกูไปดูรอบสื่อ เมิงคอยดู!!!!!
เหตูการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ของคุณติ่ง เนื่องจากมีค่ายหนังค่ายนึงไม่ยอมเชิญคุณติ่งไปดูหนังรอบสื่อไม่ยอมประเคนบัตรฟรีมาให้ คุณติ่งจึงด่าหนังเรื่องนี้ลงFBส่วนตัวแบบไม่ได้ผุดได้เกิด ทั้งที่คุณติ่งไม่ได้ถูกเชิญให้ไปดูด้วยซ้ำ แล้วคุณติ่งรู้เนื้อเรื่องได้ยังไง? ไม่พอถ้าหากใครถามถึงหนังเรื่องนี้ในเพจของตัวเอง คุณติ่งจะพูดแบบประชดประชันและพูดเป็นเชิงว่าหนังห่วยมาก(ทั้งที่ยังไม่ได้ดู)แล้วก็สะบัดตูดหนีไปโดยไม่ไยดี ซึ่งถามว่าคุณติ่งไม่อยากวิจารณ์หนังเรื่องนี้ ผิดมั๊ย? ไม่ผิด คุณติ่งเลือกได้ที่จะไม่พูดถึง แต่สิ่งที่แย่คือ คุณติ่งวิจารณ์โดยไม่ได้ดูหนังเรื่องนั้น และแน่นอนมีคนแชร์บทความของเค้าออกไป ทั้งในFBและ ทวิสเตอร์
อันนี้เรื่องแรกนะครับ เดี๊ยวมาต่ออีก แปบนึงพิมพ์ก่อน
ในวันที่ผมรู้สึกว่า คำวิจารณ์ของนักวิจารณ์ภาพยนตร์ บางคน ไร้ค่าเกินกว่าจะรับฟัง
เหตุการณ์ที่1 ไม่ให้บัตรฟรี ไม่เชิญกูไปดูรอบสื่อ เมิงคอยดู!!!!!
เหตูการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ของคุณติ่ง เนื่องจากมีค่ายหนังค่ายนึงไม่ยอมเชิญคุณติ่งไปดูหนังรอบสื่อไม่ยอมประเคนบัตรฟรีมาให้ คุณติ่งจึงด่าหนังเรื่องนี้ลงFBส่วนตัวแบบไม่ได้ผุดได้เกิด ทั้งที่คุณติ่งไม่ได้ถูกเชิญให้ไปดูด้วยซ้ำ แล้วคุณติ่งรู้เนื้อเรื่องได้ยังไง? ไม่พอถ้าหากใครถามถึงหนังเรื่องนี้ในเพจของตัวเอง คุณติ่งจะพูดแบบประชดประชันและพูดเป็นเชิงว่าหนังห่วยมาก(ทั้งที่ยังไม่ได้ดู)แล้วก็สะบัดตูดหนีไปโดยไม่ไยดี ซึ่งถามว่าคุณติ่งไม่อยากวิจารณ์หนังเรื่องนี้ ผิดมั๊ย? ไม่ผิด คุณติ่งเลือกได้ที่จะไม่พูดถึง แต่สิ่งที่แย่คือ คุณติ่งวิจารณ์โดยไม่ได้ดูหนังเรื่องนั้น และแน่นอนมีคนแชร์บทความของเค้าออกไป ทั้งในFBและ ทวิสเตอร์
อันนี้เรื่องแรกนะครับ เดี๊ยวมาต่ออีก แปบนึงพิมพ์ก่อน