เรื่องหนีทหารของนายอภิสิทธิ์ ตอนนี้ไม่มีประเด็นว่าหนีหรือไม่หนีแล้วครับ แค่ดิ้นเรื่องไม่ได้ทุจริตเท่านั้นเอง

กระทู้สนทนา
วันนี้มีข่าวเกี่ยวกับคดีหนีทหารของไอ้แหลหลักลอย
ก็เลยขอเขียนทู้ถึงเรื่องนี้อีกสักครั้งครับ


ไอ้แหลหนีทหารหรือไม่  ชัดครับว่าหนี  
ที่เคยเถียง  เคยอ้างว่า  ผ่อนผัน หรือเข้ารับราชการ จึงไม่ต้องเกณฑ์ทหารนั้น
ถูกหลักฐานตีตกไปหมดแล้วครับ
ชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หนีทหาร   เพียงแต่ความผิดได้หมดอายุความแล้า  เอาผิดไม่ได้

เข้ารับราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่   ชัดครับ  ว่าเข้ารับราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เพราะไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหาร  ไม่มีเอกสารรับรองการเกณฑ์ทหาร  ส่งเอกสารต่อทางราชการไม่ครบ
แต่อาศัยเส้นในการเข้ารับราชการ  แบบว่า ขอเปิดตำแหน่ง  สมัคร  รับ  โดยที่เอกสารไม่สมบูรณ์
นี่ก็หมดอายุความ  เอาผิดไม่ได้   ได้แค่สั่งเพิกถอนการเข้ารับราชการ  ไม่เคยมีศักดิ์และมีสิทธิ์เป็นข้าราชการกลาโหม

เป็นนายร้อยตรเก๊หรือไม่   อันนี้ชัดยิ่งกว่าชัด   เพราะใช้เอกสาร สด.9 ปลอมในการแต่งตั้งประดับยศร้อยตรี
เรื่องนี้ก็หมดอายุความอีก  เอาผิดทางอาญาไม่ได้   ได้แค่ปลดออกจากราชการย้อนหลังข้อหาทุจริต


ตอนนี้   แหลหนีทหารจนมุมครับ  ไม่เถียง ไม่แถอ้างเรื่องผ่อนผัน หรือเรื่องอะไรอื่นอย่างที่เคยทำแล้ว
หันมาเถียงมาสู้เรื่องคำสั่งปลดออกจากราชการข้อหาทุจริตว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คือดิ้นเพื่อหนีข้อหาทุจริตครับ  เพื่อไม่ให้ขัดคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง
หากรัฐธรรมนูญฉบับ 50  ไม่ห้าม  มันเลิกสู้ไปแล้วครับ
ตอนนี้ รธน.50  สิ้นสภาพ   แต่ รธน.ใหม่  ไม่รู้จะห้ามคนเคยถูกปลดออกไล่ออกจากราชการข้อหาทุจริตหรือไม่
จึงต้องสู้ต่อไป   และเพราะได้สู้มาแล้วก็ต้องสู้ต่อเพื่อฟอกตัวให้ได้

ประเด็นที่สู้   ไม่ใช่สู้เรื่องไม่ได้หนีทหาร  ไม่ได้เข้ารับราชการโดยมิชอบ   เรื่องนายร้อยเก๊  นะครับ
แต่สู้ในประเด็นที่ว่า  เมื่อว่าเข้ารับราชการโดยมิชอบ  ก็แปลว่าไม่ได้เป็นข้าราชการมาแต่ต้น  จะมาปลดออกได้ยังไง
กับสู้ว่า  เอกสารที่ว่าปลอมในการใช้แต่งตั้งยศร้อยตรีนั้น  ไม่ได้ทุจริต  ทางราชการออกให้  ก็นำไปใช้  ไม่มีเจตนาทุจริต
แบบว่า  หากจะปลด  ก็ปลดไปในข้อหาอื่น  ไมใช่ปลดด้วยข้อหาทุจริต

คือสู้เพื่อรักษาคุณสมบัติการสมัคร ส.ส.   การเป็น ส.ส. เท่านั้นเอง


งานนี้  ต่อให้มีเส้นอุ้มแค่ไหน  ก็จำนนด้วยหลักฐานครับ  ว่าหนีทหาร  เป็นข้าราชการที่ผิดกฎหมาย  เป็นนายร้อยเก๊
อย่างมากก็อุ้มให้ไม่ขาดคุณสมบัติการลงเลือกตั้ง  ด้วยการช่วยว่าไม่ได้ทุจริต



เรื่องนี้   มันตั้งแต่ปี 2542  ครับ  ที่นายกมล  บันไดเพชร  พรรคความหวังใหม่ทำเรื่องร้องเรียน
ตอนนั้น  นายชวน  หลีกภัย  เป็นนายกฯ  เป็น รมว.กลาโหม
พล.อ.สุรยุทธ์  จุลานนท์  เป็น ผบ.ทบ.
ไอ้แหลหนีทหารเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ

เมื่อมีการร้องเรียน  ก็มีการตั้งกรรมการสอบ  ผลก็คือ  อย่างที่รู้กันว่าเจ้าหน้าที่ที่รับไอ้แหลเข้ารับราชการโดนลงโทษ
แล้วเรื่องก็หายเงียบไป    เรื่องไม่เดินต่อไปตามขั้นตอน   หายไปดื้อ ๆ
ไม่หายได้ไง  ก็ดูสิ  ใครเป็นนายกฯ  ใครเป็น รมว.กลาโหม   ใครเป็น ผบ.ทบ.  ในตอนนั้น

มาช่วงปี 51-53  เรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาอีก   จน พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ.ในขณะนั้นหงุดหงิด
หงุดหงิดจนเผลอปากพูดออกมาว่า  หมดอายุความแล้ว
กลายเป็นหลักฐานมัดไอ้แหลแบบฮากันไปทั้งเมือง



เรื่องนี้มันดีอย่างครับ  ดีตรงที่บอกว่า  ปชป.สิ้นไร้ไม้ตอก  ขนาดหาหัวหน้าพรรคดี ๆ ไม่ได้
ดีตรงที่บอกว่า  คนดีนั้น  ถ้าพวกเดียวกัน  ต่อให้ผิดแค่ไหนเขาก็ไม่ถามหาความรับผิดชอบหรือสำนึกทางจริยธรรมกัน

ถึงที่สุด  ไอ้แหลจะรอดหรือไม่รอดในเรื่องทุจริตใช้เอกสารปลอม   ก็ช่างหัวมัน
แค่ชัดว่าหนีทหาร  ข้าราชการปลอม  นายร้อยเก๊   มันก็หมดสภาพแล้วครับ
เถียงไม่ออกแล้ว  ยอมจำนนแล้ว

คดีนี้  จะเป็นเครื่องวัดกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยอีกคดีหนึ่งครับ

.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่