มันเป็นความสงสัยที่เกิดขึ้นกับผมครับ

ผมขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่กับธนาคารสีส้มไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางธนาคาร ก็แจ้งผลอนุมัติ

ซึ่งผมก็ได้ถามทางธนาคารว่า ผมต้องจ่ายค่างวด รถงวดละเท่าไหร่

ทางพนักงานธนาคาร แจ้งว่า เดี๋ญวทางเซลรถจะสรุปแจ้งคุณอีกที

โอเคครับ ผมรอเซลสรุป

จนกระทั่งถึงวันออกรถ

จารกรายการที่เซลเคยแจ้งว่า ต้องจ่ายค่างวดเดือนละเท่าไหร่ ผมสังเกตุว่า ทำไมยอดมันเพิ่มขึ้นจากที่เคยคุยกันในวันจองรถ

ก็เลยถามเซล

น้องเค้าก็บอกว่า เค้าก็ งง เหมือนกัน คิดคำนวนแล้วทำไมไม่ตรงกับครั้งก่อนในวันจองรถ

เค้าก็ส่งใบอนุมัติจากทางธนาคารยืนยันมาให้ผมอ่าน

แต่ สิ่งที่ผมเห็น มันคือ ยอดเงินต้นรถเงินหลังจากหักเงินดาวน์รถ มันถูกบวกด้วย PA อีก หมื่นกว่าบาท

ผมก็ถามว่า PA นี่คืออะไร

เซลเลย โทรถามพนักงานธนาคารที่ทำเรื่องรถคันนี้ เค้าแจ้งว่า เป็นค่าประกันชีวิต เค้าคิดรวมในต้นเงินค่ารถ แล้วคิดดอกเบี้ยลูกค้า 4 ปีให้แล้ว

ผม งง นะ

เข้าใจนะ ว่าถ้าเราซื้อบ้านแต่ละธนาคาร จะโดนพนักงานธนาคารพ่วงประกันชีวิต ที่โดนทางสำนักงานใหญ่ กำหนดเป้า กำหนดยอดมา ให้
บีบใส่สินเชื่อลูกค้าที่ขอกู้บ้านโดยปริยาย

แต่นี่ รถยนต์ ประกันมันลาม มาถึงด้วยแล้วเหรอ

ทำไมไม่แจ้งลูกค้าก่อน มาหมกเม็ดแบบนี้ในวันรับรถ ผมว่ามันไม่ค่อยแฟร์เลยนะ

คือถ้าจะขอยอดประกันลูกค้า คุณแจ้งลูกค้าเลยตั้งแต่วันที่คุณพิจารณาสินเชื่อ ว่าขอให้ลูกค้าทำประกันนะ ให้ทำอะไรก็คุยกัน

ทางธนาคารมีสิทธิยัดประกันลูกได้ได้ด้วยเหรอครับ อันนี้ผมถาม แบบไม่มีความรู้นะครับ มีใครเคยเจอแบบนี้บ้าง

พอพนักงานไฟแนนท์ มาที่โชว์รูม

ก็พูดอย่างเดียวเป็นนโยบายธนาคาร

บอกว่าลูกค้าต้องทำประกันกรณีลูกค้าเสียชีวิตได้ครอบคลุมวงเงินสินเชื่อ แต่ที่ผมเซ็นเอกสาร มันเป็นเอกสารสมัครประกันอุบัติเหตุเบี้ยประกัน 4 ปี

ตกลง นโยบายธนาคาร ให้ทำประกันอะไรกันแน่ครับ

ถาม ทางพนักงานธนาคาร ก็แจ้งว่า เอกสารถูกต้องแล้ว

มีใครเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกรณีผมบ้างไหมครับ