เมื่อเช้าตั้งกระทู้ที่ ดร.นทีได้อธิบายสาเหตุของเหตุการณ์วันศุกร์ อ่านได้ที่... http://ppantip.com/topic/32545981
ช่วงค่ำที่ผ่านมา คุณสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. ก็ได้ทวิตผ่าน @supinya บนทวิตเตอร์ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ดังนี้...



เพิ่งกลับถึงบ้านและได้อ่านทวิตของท่านประธาน กสท. @DrNateeDigital  แบบละเอียด คิดว่ามีข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ
วันอังคารที่ผ่านมาเรามีการนัดประชุมวาระพิเศษโดยไม่มีเอกสารที่ห้องท่านประธาน
เช่นเดียวกับวันพุธที่มีการเรียกประชุมแบบกะทันหันทั้งที่มีแค่3คน
การประชุม กสท. วันศุกร์เวลา4โมงเย็นเป็นนัดด่วนเหมือนวันพุธบ่ายโมงก่อนหารือกับตัวแทนช่อง3+24ช่อง
นัดแบบวันศุกร์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก
การประชุมนัดพิเศษวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา เป็นการประชุมด่วนที่ไม่มีการส่งวาระล่วงหน้า
แต่มีผลเป็นมติทางการที่ กสท.รับรองรายงานการประชุม
การประชุมวันอังคารนัดพิเศษที่ผ่านมามี กสท.เข้า4คน ส่วนวันพุธที่นัดด่วนมากเช่นกันมี กสท.เข้า3คน
วันศุกร์ที่ผ่านมาตอนแรกนัดได้ทั้ง5คนรับทราบ
การประชุมนัดปรกติต้องมีการส่งวาระเป็นเอกสารล่วงหน้า แต่การประชุมแบบเร่งด่วน ไม่ต้องมีเอกสารก่อน
แต่จากนั้นต้องรับรองมติและรายงานการประชุม
มติจากการประชุมนัดพิเศษวันอังคารที่ห้องท่านประธาน กับมติประชุมด่วนวันพุธ (ไม่มีเอกสารส่งก่อนทั้งคู่+กสท. อยู่ไม่ครบ5)
จะรับรองวันจันทร์นี้
มีข้อเท็จจริงหนึ่งตรงกันคือ การนัดประชุมเมื่อวันศุกร์เป็นความเห็นร่วมและริเริ่มโดย กสท.อย่างน้อย3คนที่เสนอไปยังประธาน
และประธานนัด4โมงเย็น
อย่างไรก็ตามดิฉันเคารพการตัดสินใจของท่านประธาน กสท.ที่ไม่อยู่ร่วมประชุม (หรือที่ท่านยืนยันว่าเป็นการหารือนอกรอบ) ด้วยเหตุผลที่ท่านทวิตมา
เพียงแต่ยืนยันว่าที่ กสท.3คนเสนอให้มีการประชุมเมื่อวันศุกร์เพราะเราเห็นว่าเป็นปัญหาเร่งด่วน อยู่ภายใต้แรงกดดันจากสังคม ที่เราไม่ควรเพิกเฉย
ดิฉันได้รับคำเตือนจากที่ปรึกษากฏหมายว่าถ้า กสท. ไม่เร่งลงมติให้เกิดความชัดเจน เราอาจโดนแจ้งข้อหาอาญาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
กลับมาโฟกัสการประชุม กสท.นัดปรกติวันจันทร์ที่8 ดิฉันได้อ่านตัววาระแล้ว
มีเรื่องช่อง3 แต่ สนง.ยังไม่เสนอแนวทางมาตรการทางปกครองมาเลย ทำไม?
เดาว่า สนง. อาจทำเป็นเอกสารประกอบการประชุมเพิ่มเติมว่าด้วยแนวทางมาตรการทางปกครองต่างๆ
มาแนบให้บอร์ดเช้าวันจันทร์เลย ขอให้เป็นเช่นนั้น
วันจันทร์ที่8กันยายนนี้ ไม่ว่ามติจะออกมาอย่างไร ดิฉันอาจเป็นเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อยก็ตาม
แต่ขอให้ กสท. มีมติชัดเจน อย่ายืดเยื้ออีก
เมื่อ 100 กว่าวันก่อน เรามีมติให้ผ่อนผันกฏกติกานี้ไปแล้ว มีเวลาเหลือเฟือในการแก้ปัญหาและเจรจา
ถ้ามันไม่มีทางออกอื่นแล้วก็ขอให้ยึดกฏกติกา
ปรกติดิฉันไม่อยากจะอ้าง คสช. @armypr_news เพราะขัดจุดยืนส่วนตัวทางการเมือง
แต่เมื่อคืนท่านหัวหน้า คสช.ย้ำให้เราเร่งแก้ปัญหา+ยึดกฏ+ปย.ปชช.
ยอมรับว่าวันนี้ใน กสท./กสทช.มองต่างมุมกัน แต่ดิฉันเชื่อว่าเรายังมีเป้าหมายตรงกันในเรื่องทีวีดิจิตอล
เพราะมันคือพันธกิจร่วมที่ทำงานมาด้วยกัน
เราทำงานหนักในช่วงเวลา2-3ปี ผลักดันทีวีดิจิตอลในระบบใบอนุญาตเต็มรูปแบบ
ผ่านความขัดแย้งทั้งรักทั้งชังมานับครั้งไม่ถ้วน ถึงงานนี้ต้องตัดสินใจ
ไม่ว่าไปทางไหนเราก็เจอแรงกดดันจนอาจตกงานได้ ทั้งปล่อยยืดเยื้อหรือปล่อยจอดำ
ดังนั้นเราควรเลือกทางเดินที่สอดคล้องหลักการที่เราวางกติกามาเอง
ทำงานใหญ่ย่อมเสี่ยง แต่การเสี่ยงของเรามีชอบธรรม (Ligitimacy) อยู่บนฐานของความเป็นธรรม (Fairness)
ในฐานะคนกลางกำกับ(Regulator)ตามกติการ่วม
การใช้อำนาจของ กสท./กสทช.ไม่ได้ที่สุด สุดท้ายคือกระบวนการยุติธรรม
ถ้าคู่กรณีเห็นว่าการใช้อำนาจนั้นไม่ชอบด้วยกฏหมาย แต่เราต้องทำหน้าที่ก่อน

ข้อมูลจาก https://twitter.com/supinya
#ล่าสุด 21.15น.