จขกท. แต่งนิยายเรื่องหนึ่งค่ะ ตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว ยังแต่งไม่จบเพราะความขี้เกียจบ้าง คิดไม่ออกบ้าง และอื่นๆอีกหลายข้ออ้างที่ทำให้นิยายไม่จบเสียที
ว่างเมื่อไหร่ มีอารมณ์แต่งเมื่อไหร่ก็ค่อยอัพแบบไม่ซีเรียส แล้วบอกคนอ่านตลอดว่าจะมาอัพช่วงไหน สุดท้ายตอนอัพก็อัพได้นิดเดียว สรุปแล้วได้เดือนละตอน แล้วหายไปนานค่อยมาอัพต่อ (แต่ก่อนจะหายก็บอกตลอดว่าจะมาอัพช่วงไหน) เราเป็นแบบนี้ตลอดเลยค่ะ
เราขี้เกียจมากยอมรับเลย แล้วยิ่งช่วงนี้ขึ้นปีสี่ มันมีวิชาสัมมนา เราเครียดมากกับวิชานี้ อ่านนิยายแก้เครียดมันก็ช่วยได้ไม่มาก เพราะเราอ่านนิยายไปแปลเปเปอร์สัมมนาไป
ด้วยเหตุนี้จึงขอเลื่อนการอัพไปเดือนพฤศจิกายน เพราะเราจะได้พรีเซ้นสัมมนาให้เสร็จก่อนจะได้มาแต่งนิยายเต็มที่
แต่รีดเดอร์หลายคนก็ทนไม่ไหวมาเม้นบอกให้เราเลิกแต่งนิยายไปเลย (ซึ่งคนเหล่านี้ไม่เคยที่จะเม้นให้กำลังใจเราเลยในตอนที่เราอัพ หรือเรามีเรื่องเครียด)
คห.2889 เขาบอกว่า : อีก10ปี จะเข้ามาอ่านใหม่ล่ะกัน แต่คาดว่า... คงยังแต่งไม่จบแบบเดิม
เค้าใจแหละว่าเขียนมาให้อ่านฟรีๆ
มาลงก็มาทีล่ะนิด ย้ำว่านิดมากจริงๆ เทียบกับนักเขียนท่าน อื่นถ้าหายไปนานกลับมาเค้าเขียนให้อ่านมากกว่านี้อีก
แต่ถ้าจะผลัดไปเรื่อยๆ ปีที่แล้วบอกปีนี้จะกลับมาอัพ พอมาปีนี้ เลื่อนเเล้วเลื่อนอีก เราว่าคุณควรเปลี่ยนชื่อเรื่องหรือเขียนเพิ่มไปว่าหยุดพัก เพราะเวลาแจ้งเตือนคนอ่านเค้าคาดหวังค่ะ
การเป็นนักเขียนควรจะมีความรับผิดชอบต่อผู้อ่านด้วยนะคะ ให้คนอ่านเฝ้ารอ สุดท้ายกลับมาลง2-3บรรทัด ???
ถ้าเครียดขนาดนั้นปิดนิยายไปก็ดีนะ พร้อมแล้วค่อยกลับมา ไม่ต้องไล่ให้ไปอ่านนิยายเรื่องอื่นนะคะ เพราะไปแน่
คห.2888 : เลิกเขียนเถอะ จบชาติไหนเนี่ย
คห.2885 : เลิกแต่งไปเลยดีกว่ามั๊ย
ใจนึงเราก็อยากปล่อยวาง เฉย ไม่ตอบโต้ เพราะคนเหล่านี้ไม่เคยเม้นอะไรให้นิยายเราเลยตอนเราอัพ
ใจนึงก็อยากตอบโต้นะ
เราก็อยากบอกเขาว่า
" บางคนคอมเม้นให้กำลังใจเราน่ะ ไม่มีหรอกจ้า แต่พอเราทำเขารอนานก็ว่าเราเลย (แล้วจะให้เราฝืนหรือ) เขาคิดแต่ว่าเราทำเขาไม่พอใจแต่เขาไม่นึกถึงเราบ้างล่ะ ที่เราทำให้น่ะ ถ้าเราทำแล้วเราโดนด่า เราจะทำไปเพื่อ...(ก็เพื่อคนที่เขารออ่านได้ไง)
เขาซีเรียสไปไหมกับนิยายอ่านที่ลงให้อ่านกันฟรี แบบชิลล์ๆ
เราอัพเมื่อตอนเราพร้อม มีอารมณ์แต่ง แต่ถ้าเราขี้เกียจ ไม่มีอารมณ์เราก็ไม่แต่ง เราผิดมากหรือ ผิดจนคุณต้องมายอกให้เราเลิกแต่งนิยาย
เขาบอกว่าเราควรมีความรับผิดชอบต่อผู้อ่าน (จะให้เราฝืนแต่งหรือ เรายังไม่เก่งขนาดนั้น และไม่อยากจะกดดันตัวเองขนาดนั้น แค่อยากจะแต่งนิยายตามสบายๆแบบเรา อารมณ์ต่างกันก็แต่งออกมาต่างกัน) เขานึกถึงแต่ตัวเอง แต่เขาไม่นึกถึงเราบ้างเนอะ ว่าเราพร้อมมั้ย ว่าที่เราแต่งๆมาเราก็อยากได้กำลังใจ แล้วเขาอ่ะมีให้เรารึยัง เขาเสียอะไนบ้างล่ะนอกจากอารมณ์(ที่รอนาน)และเวลา(ที่เข้ามาแต่พบว่านิยายไม่อัพ) ความรู้สึก(ที่เราตอบแบบนี้) แต่เราเสียมากกว่าอีกนะ แบ่งเวลามาแต่ง แบ่งเวลามานั่งพิมพ์ เข็ดนิ้ว เข็ดคอ เจ็บตา บางทีก็ตันคิดไม่ออก บางทีก็เครียดคิดไม่ออก กลัวแต่งแล้วถูกด่า ถ้าถูกด่าก็จะเสียอารมณ์ เสียความรู้สึก(แต่เราก็มีความสุขที่ได้แต่งนิยายค่ะ) ถ้าคนที่มาว่าเราเป็นคนที่เคยให้กำลังใจเรามาแล้วเราคงจะไม่มาตอบกลับแบบนี้แน่ เราคงจะขยันได้กว่านี้ แต่พอคนที่มาว่าเราคือคนที่ไม่เคยให้กำลังใจเราเลย ก็แค่เสียความรู้สึก แต่ความขี้เกียจก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม (ยังไงก็ขอโทษคนที่รออ่านด้วยนะคะ)
แล้วคุณถามตัวเองสิคะว่าคุณมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้เราเลิกแต่ง ทั้งๆที่คุณไม่เคยทำให้เราได้ยิ้มกับคอมเม้นคุณเลย เราจะอัพตอนไหนก็สิทธิ์ของเรา
ปล.เราไม่เคยคิดจะไล่ใครไปอ่านนิยายเรื่องอื่นค่ะ เพราะเราคิดว่าเราอยากให้นักอ่านได้มาอ่านเรื่องนี้ "----เราเจ็บที่สุดตรงที่เขาคิดว่าเราจะไล่เขาไปอ่านนิยายเรื่องอื่นกับบอกให้เราเลิกแต่งเนี่ยแหละ
แต่เราก็กลัวว่ามันจะบานปลายหากเราเอาข้อความนี้ไปแปะในหน้านิยาย เพราะคนที่เม้นให้เราดีๆก็ยังมี ก็ไม่อยากให้เขามาร่วมกันมาม่าไปกับเรา
เลยเอามาระบายลงในพันทิปค่ะ คิดว่าคนอ่านนิยายเราไม่น่าจะบังเอิญมาอ่านสักเท่าไหร่ มันดีกว่าเอาลงในหน้านิยายแน่ๆค่ะ
----เพิ่มเติม
เราแต่งไปโพสต์ไปมันมีข้อดีที่เราพบมาด้วยตัวเอง คือตอนปีสองปีแรก ยังไม่ค่อยมีคนอ่านเท่าไหร่ พอผ่านไปนานๆสักห้าปีก็มีคนอ่านเพิ่มขึ้น คนที่มีความรู้เขาก็มาบอกเราว่า สิ่งที่เราหาข้อมูลมาตรงตอนนั้น มันไม่ใช่นะ มันไม่มีนะ ถ้าสมมุติเาแต่งจบไปเมื่อสองปีแรก เราก็จะพลาดคอมเม้นนี้เลยนะคะ ซึ่งก็ต้องโทษตัวเองละระที่หาข้อมูลมาไม่ดี ซึ่งก็ได้รีดเดอร์ท่านนั้นมาช่วย และอีกหลายๆท่านที่มาช่วยวิจารณ์ค่ะ ซึ่งแต่งนาน แต่งไปอัพไป ก็จะมีคนช่วยวิจารณ์งานเราเยอะกว่าแต่งจบเร็วนะคะ ซึ่งจะทำให้เราได้อ่านความคิดที่หลากหลายมากขึ้น ที่คนอ่านมาวิจารณ์ตัวละคร และเนื้อเรื่องค่ะ
[ขอระบาย]จากใจคนเขียนนิยายจอมขี้เกียจคนหนึ่ง
ว่างเมื่อไหร่ มีอารมณ์แต่งเมื่อไหร่ก็ค่อยอัพแบบไม่ซีเรียส แล้วบอกคนอ่านตลอดว่าจะมาอัพช่วงไหน สุดท้ายตอนอัพก็อัพได้นิดเดียว สรุปแล้วได้เดือนละตอน แล้วหายไปนานค่อยมาอัพต่อ (แต่ก่อนจะหายก็บอกตลอดว่าจะมาอัพช่วงไหน) เราเป็นแบบนี้ตลอดเลยค่ะ
เราขี้เกียจมากยอมรับเลย แล้วยิ่งช่วงนี้ขึ้นปีสี่ มันมีวิชาสัมมนา เราเครียดมากกับวิชานี้ อ่านนิยายแก้เครียดมันก็ช่วยได้ไม่มาก เพราะเราอ่านนิยายไปแปลเปเปอร์สัมมนาไป
ด้วยเหตุนี้จึงขอเลื่อนการอัพไปเดือนพฤศจิกายน เพราะเราจะได้พรีเซ้นสัมมนาให้เสร็จก่อนจะได้มาแต่งนิยายเต็มที่
แต่รีดเดอร์หลายคนก็ทนไม่ไหวมาเม้นบอกให้เราเลิกแต่งนิยายไปเลย (ซึ่งคนเหล่านี้ไม่เคยที่จะเม้นให้กำลังใจเราเลยในตอนที่เราอัพ หรือเรามีเรื่องเครียด)
คห.2889 เขาบอกว่า : อีก10ปี จะเข้ามาอ่านใหม่ล่ะกัน แต่คาดว่า... คงยังแต่งไม่จบแบบเดิม
เค้าใจแหละว่าเขียนมาให้อ่านฟรีๆ
มาลงก็มาทีล่ะนิด ย้ำว่านิดมากจริงๆ เทียบกับนักเขียนท่าน อื่นถ้าหายไปนานกลับมาเค้าเขียนให้อ่านมากกว่านี้อีก
แต่ถ้าจะผลัดไปเรื่อยๆ ปีที่แล้วบอกปีนี้จะกลับมาอัพ พอมาปีนี้ เลื่อนเเล้วเลื่อนอีก เราว่าคุณควรเปลี่ยนชื่อเรื่องหรือเขียนเพิ่มไปว่าหยุดพัก เพราะเวลาแจ้งเตือนคนอ่านเค้าคาดหวังค่ะ
การเป็นนักเขียนควรจะมีความรับผิดชอบต่อผู้อ่านด้วยนะคะ ให้คนอ่านเฝ้ารอ สุดท้ายกลับมาลง2-3บรรทัด ???
ถ้าเครียดขนาดนั้นปิดนิยายไปก็ดีนะ พร้อมแล้วค่อยกลับมา ไม่ต้องไล่ให้ไปอ่านนิยายเรื่องอื่นนะคะ เพราะไปแน่
คห.2888 : เลิกเขียนเถอะ จบชาติไหนเนี่ย
คห.2885 : เลิกแต่งไปเลยดีกว่ามั๊ย
ใจนึงเราก็อยากปล่อยวาง เฉย ไม่ตอบโต้ เพราะคนเหล่านี้ไม่เคยเม้นอะไรให้นิยายเราเลยตอนเราอัพ
ใจนึงก็อยากตอบโต้นะ
เราก็อยากบอกเขาว่า
" บางคนคอมเม้นให้กำลังใจเราน่ะ ไม่มีหรอกจ้า แต่พอเราทำเขารอนานก็ว่าเราเลย (แล้วจะให้เราฝืนหรือ) เขาคิดแต่ว่าเราทำเขาไม่พอใจแต่เขาไม่นึกถึงเราบ้างล่ะ ที่เราทำให้น่ะ ถ้าเราทำแล้วเราโดนด่า เราจะทำไปเพื่อ...(ก็เพื่อคนที่เขารออ่านได้ไง)
เขาซีเรียสไปไหมกับนิยายอ่านที่ลงให้อ่านกันฟรี แบบชิลล์ๆ
เราอัพเมื่อตอนเราพร้อม มีอารมณ์แต่ง แต่ถ้าเราขี้เกียจ ไม่มีอารมณ์เราก็ไม่แต่ง เราผิดมากหรือ ผิดจนคุณต้องมายอกให้เราเลิกแต่งนิยาย
เขาบอกว่าเราควรมีความรับผิดชอบต่อผู้อ่าน (จะให้เราฝืนแต่งหรือ เรายังไม่เก่งขนาดนั้น และไม่อยากจะกดดันตัวเองขนาดนั้น แค่อยากจะแต่งนิยายตามสบายๆแบบเรา อารมณ์ต่างกันก็แต่งออกมาต่างกัน) เขานึกถึงแต่ตัวเอง แต่เขาไม่นึกถึงเราบ้างเนอะ ว่าเราพร้อมมั้ย ว่าที่เราแต่งๆมาเราก็อยากได้กำลังใจ แล้วเขาอ่ะมีให้เรารึยัง เขาเสียอะไนบ้างล่ะนอกจากอารมณ์(ที่รอนาน)และเวลา(ที่เข้ามาแต่พบว่านิยายไม่อัพ) ความรู้สึก(ที่เราตอบแบบนี้) แต่เราเสียมากกว่าอีกนะ แบ่งเวลามาแต่ง แบ่งเวลามานั่งพิมพ์ เข็ดนิ้ว เข็ดคอ เจ็บตา บางทีก็ตันคิดไม่ออก บางทีก็เครียดคิดไม่ออก กลัวแต่งแล้วถูกด่า ถ้าถูกด่าก็จะเสียอารมณ์ เสียความรู้สึก(แต่เราก็มีความสุขที่ได้แต่งนิยายค่ะ) ถ้าคนที่มาว่าเราเป็นคนที่เคยให้กำลังใจเรามาแล้วเราคงจะไม่มาตอบกลับแบบนี้แน่ เราคงจะขยันได้กว่านี้ แต่พอคนที่มาว่าเราคือคนที่ไม่เคยให้กำลังใจเราเลย ก็แค่เสียความรู้สึก แต่ความขี้เกียจก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม (ยังไงก็ขอโทษคนที่รออ่านด้วยนะคะ)
แล้วคุณถามตัวเองสิคะว่าคุณมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้เราเลิกแต่ง ทั้งๆที่คุณไม่เคยทำให้เราได้ยิ้มกับคอมเม้นคุณเลย เราจะอัพตอนไหนก็สิทธิ์ของเรา
ปล.เราไม่เคยคิดจะไล่ใครไปอ่านนิยายเรื่องอื่นค่ะ เพราะเราคิดว่าเราอยากให้นักอ่านได้มาอ่านเรื่องนี้ "----เราเจ็บที่สุดตรงที่เขาคิดว่าเราจะไล่เขาไปอ่านนิยายเรื่องอื่นกับบอกให้เราเลิกแต่งเนี่ยแหละ
แต่เราก็กลัวว่ามันจะบานปลายหากเราเอาข้อความนี้ไปแปะในหน้านิยาย เพราะคนที่เม้นให้เราดีๆก็ยังมี ก็ไม่อยากให้เขามาร่วมกันมาม่าไปกับเรา
เลยเอามาระบายลงในพันทิปค่ะ คิดว่าคนอ่านนิยายเราไม่น่าจะบังเอิญมาอ่านสักเท่าไหร่ มันดีกว่าเอาลงในหน้านิยายแน่ๆค่ะ
----เพิ่มเติม
เราแต่งไปโพสต์ไปมันมีข้อดีที่เราพบมาด้วยตัวเอง คือตอนปีสองปีแรก ยังไม่ค่อยมีคนอ่านเท่าไหร่ พอผ่านไปนานๆสักห้าปีก็มีคนอ่านเพิ่มขึ้น คนที่มีความรู้เขาก็มาบอกเราว่า สิ่งที่เราหาข้อมูลมาตรงตอนนั้น มันไม่ใช่นะ มันไม่มีนะ ถ้าสมมุติเาแต่งจบไปเมื่อสองปีแรก เราก็จะพลาดคอมเม้นนี้เลยนะคะ ซึ่งก็ต้องโทษตัวเองละระที่หาข้อมูลมาไม่ดี ซึ่งก็ได้รีดเดอร์ท่านนั้นมาช่วย และอีกหลายๆท่านที่มาช่วยวิจารณ์ค่ะ ซึ่งแต่งนาน แต่งไปอัพไป ก็จะมีคนช่วยวิจารณ์งานเราเยอะกว่าแต่งจบเร็วนะคะ ซึ่งจะทำให้เราได้อ่านความคิดที่หลากหลายมากขึ้น ที่คนอ่านมาวิจารณ์ตัวละคร และเนื้อเรื่องค่ะ