เล่าสู่กันฟัง # ขยะญี่ปุ่น

กระทู้สนทนา
หลายครั้งที่ผมขี่รถไปพบปะคนรู้จัก หรือไม่รู้จัก หรือเพื่อนฝูง(บางคน) นอกจากคำถามเบสิคแล้ว จะเจอคำถามยอดฮิตอีกประเภทหนึ่งคือ
“ทำไมไม่ออกรถใหม่ “
ซึ่งรุ่นรถที่แนะนำผม ไม่เคยพ้น ER Ninja  Z ทั้งสิ้น(เพราะส่วนใหญ่รู้จักกันอยู่แค่นี้) หรือถ้าจะไฮโซก็แนะนำไป 795(นับเป็นไอดอลเลยนะ ผมเคยตอบกลับไปว่าเออถ้าดูคาตี้ กูชอบไดเวลว่ะ พวกตอบกลับมา ไดเวลคืออะไรวะ ผ่างงงง)

บ่อยครั้งผมเลยถามกลับไปว่า ทำไมวะ รถเก่าไม่ดียังไง
คำตอบที่ได้คือ กินน้ำมัน พัง เน่า ไม่กล้าขี่ไกล ไม่มีอะไหล่ ซ่อมแพง โดนฟัน เนี่ยเพื่อน-คนรู้จัก-พี่ในกลุ่ม โดนมาแล้ว สุดท้ายขายขาดทุนออกรถใหม่ สบายใจเล้ยยยยย เนี่ยออกนี่สิๆๆ เหมาะกับนะ…
และความเชื่อที่ฟังต่อๆกันมาแบบนี้ มักขยายในวงกว้าง จนคนที่มาพูดเนี่ย ไม่รู้ว่าฟังมากี่ทอดแล้ว ข้อมูลบิดเบือนไปเรื่อยๆ มีส่วนจริงบ้างและไม่จริงบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รถเก่า(ขยะญี่ปุ่น-รถเน่า-รถบึ้ม-รถซาก ตามแต่จะเรียก)น่ากลัวจริงไหม รถใหม่ดีที่สุดจริงหรือเปล่า ผมสรุปได้ดังนี้

ข้อดี
-ราคาไม่แพง(เมื่อเทียบกับสมรรถนะและ Class ของรถ)
ด้วยเงินเพียง 3 แสน คุณก็สามารถควบรถที่มีสมรรถนะสุดยอดเช่นพวก สปอร์ตพันทั้งหลาย  R1 ZX10 CBR1000 GSX-R1000 รวมถึงรถระดับตำนานอย่าง Hayabusa หรือถ้าชอบแนว Naked ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย CB1300 XJR1300 ซึ่งถ้าราคาเรตเดียวกัน จะเทียบขี่ได้เพียง ER6-n Ninja650 หรือตระกูล CB&CBR650F เท่านั้น ซึ่งสมรรถนะ ประสิทธิภาพ ทุกอย่าง ไม่สามมารถเทียบกันได้เลย เรียกว่าไม่ติดฝุ่น(เคยอ่านมีคนเคยบอกว่า ER อัตราเร่งระดับน้องๆตัวพัน…ใครที่ยังยืนยันแบบนี้ แนะนำให้ไปคุยกับขี้เถอะครับ)
-ราคาขายขาดทุนน้อย
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว Hayabusa ราคาประมาณ 300,000+ วันนี้มันก็ยังอยู่ในราคาแถวๆนั้น (เรียกว่าเป็นการเก็บเงินในรูปแบบหนึ่งก็ว่าได้) ถ้ารักษาสภาพดีเหมือนเดิม ถือว่าขี่ฟรีขายแทบไม่ขาดทุน และยังมีบางรุ่นที่นิยมกลับราคาขึ้นไปอีก เรียกว่าขี่ฟรีขายได้กำไรกันเลยทีเดียว(แต่ต้องรักษาสภาพให้ดีนะไม่ใช่เอาไปชนหรือคว่ำมา) หรือถ้าซื้อมาลองขี่แล้วไม่ชอบ ขายเปลี่ยนมือในระยะเวลาไม่นาน ก็อาจไม่ขาดทุนเลย ซึ่งถ้าเทียบกับรถใหม่ ดาวน์มาขี่ตามกระแส แล้วไม่ชอบ ไม่ใช่ ไม่โดน ระยะเวลาเพียงปีเดียวขายดาวน์ ขาดทุนร่วมแสน ถ้าซื้อสดขายสด ก็ยังนับว่าขาดทุนหลายหมื่น

-อะไหล่ไม่แพง
รถพวกนี้คือรถเก่าญี่ปุ่น แน่นอนว่ามันคือรถที่ขายในญี่ปุ่น และมันย่อมมีอะไหล่เก่าเข้ามาจากญี่ปุ่น ซึ่งราคาอะไหล่เก่า ถูกมากๆ เครื่องทั้งลูกหมื่นกว่าบาทถึงสองหมื่นกว่าบาท สวิงอาร์มสองสามพันก็ยังมี ล้อหน้าหลังคู่ละสามสี่พันก็เห็นบ่อยไป มีแพงบ้างก็บางรุ่นที่นิยมเยอะๆแต่ก็ยังถูกกว่าอะไหล่ใหม่แน่นอน จะลำบากก็ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่นิยม พ่อค้าไม่ตัดเข้ามาขาย ก็อาจลำบากหน่อย แต่ก็ยังสามารถสั่งโกดังหรือสั่งจากนอกได้รอหน่อย ซึ่งถ้าเป้นรถใหม่ อะไหล่เก่าญี่ปุ่นยังไม่เคยเห็น อะไหล่เก่าในไทยก็ไม่รู้เอามาจากไหนกัน และอะไหล่เบิกใหม่ราคาสูงลิบลิ่ว ยกตัวอย่างน้องที่รู้จักรถล้มสไลด์ ตีราคาอะไหล่รวมแล้ว แสนกว่าบาทครับ

-คุณภาพรถ
ข้อนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ รถที่ขายในญี่ปุ่น มักจะมีคุณภาพและประสิทธิภาพดีกว่ารถที่ขายในบ้านเราเสมอ รถญี่ปุ่น20กว่าปีที่แล้วยังขี่ดีกว่ารถใหม่ในประเทศป้ายแดงสมัยนี้เลยถ้าสภาพไม่แย่จนเกินไป

-ไม่กลัวตกรุ่น
เพราะมันตกรุ่นตั้งแต่ซื้อแล้วครับ 555 แต่ถ้ารถใหม่จะแอบเซ็งนะถ้ารุ่นใหม่ออก เช่น Ninja250 ER6n ER6fตัวเก่า เมื่อก่อนเยอะแยะเลาย พอรุ่นใหม่ออกหายไปไหนหมดนะ

พูดถึงข้อดีไปแล้ว เรามาดูข้อเสียกันบ้างนะครับ

ข้อเสีย
-สภาพ
คนไทยมักเล่นไม่ซื่อ หมกนู่นหมกนี่มา เชียร์รถจนเกินไป ดีทุกอย่าง ขอให้ขายได้ ทำรถก็ทำแบบส่งๆ ให้พอมันขี่ได้จะได้ขายๆไปให้เจ้าของใหม่ไปรับกรรม การซื้อรถประเภทนี้ ต้องดูเป็นบ้าง หารถที่รู้ประวัติจะดีมาก และซื้อมาแล้วต้องเตรียมงบเก็บงานไว้ส่วนหนึ่ง ถึงแม้ผู้ขายจะบอกว่าดีทุกอย่างไม่ต้องทำอะไรแล้วก็ตาม
-อายุ
อย่างที่ทราบว่า รถพวกนี้คือรถ”เก่า” ญี่ปุ่น แน่นอนไม่ใช่รถใหม่ บางรุ่นเป้นรถในฝันที่ไม่มีผลิตขายแล้ว บางครั้งชอบตระกุลนี้แต่งบจำกัดก็ต้องมองในปีเก่าๆลงมา ทำให้อายุของชิ้นส่วนต่างๆมากตาม คนที่ครอบครองรถประเภทนี้ ควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องยนต์ระดับหนึ่ง ควรศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเอง ซ่อมบำรุงรถด้วยตัวเองได้ จับประแจเป็น มีชุดเครื่องมือเป็นของตัวเอง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลย กลไกพวกนี้ไม่ใช่ระบบซับซ้อน มันคือระบบพื้นฐานแทบทั้งนั้น การขี่รถประเภทนี้ควรซ่อมบำรุงเบื้องต้นด้วยตัวเองได้บ้าง ไม่ควรพึ่งแต่ช่างอย่างเดียว เชื่อผมเถอะ อู่บิ๊กไบค์ที่ผมเจอมา 10% เท่านั้นที่ทำรถดี

-ปัจจัย
รถประเภทนี้ส่วนใหญ่ต้องซื้อสด อาจเป็นปัญหาของผู้ที่ไม่มีเงินก้อน มีบ้างที่รับจัดไฟแนนซ์ แต่ก็ดาวน์แพงมาก และดอกเบี้ยก็สูง ดังนั้นการเก็บเงินซื้อสดเป็นทางออกที่ดีที่สุด และก็ทำได้ยากที่สุดเช่นกัน

สรุปนะครับ

ถ้าท่านเป็นคนที่
ไม่มีเงินก้อน
ทำรถไม่เป็น(และไม่คิดจะทำ)
ไม่มีเครื่องมือ
ขี่ตามกระแส
ชื่นชอบความเท่
ท่านเหมาะกับรถใหม่ออกห้างครับ แนะนำให้ท่านเลือกรถตามรุ่นที่จอดในโชว์รูมได้เลยครับ



แต่ถ้าท่าน
มีเงินก้อน
เป็นคนเสียดายเงิน
มีทักษะทางช่าง หรือขวนขวายหาความรู้
มีเครื่องมือเป็นของตัวเอง
รักในการล้วงแคะแกะเการถตัวเอง ไม่กลัวเลอะ ไม่กลัวเหนื่อย
ไม่เน้นรถตามกระแส
ชื่นชอบสมรรถนะของรถโดยแท้จริง
มาครับ มาขี่ ”ขยะญี่ปุ่น” กันครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่